หลังจากตื่นขึ้นมา เมลดาก็เอาแต่โวยวายเพราะถูกคนเจ้าเล่ห์ลักหลับ ทั้งที่ตนเมาจนไม่ได้สติ แต่มีหรอ ที่คนอย่างเขาจะสนใจ แถมเขายังอ้างว่าเธอเต็มใจเองแล้วตอนที่มีอะไรกันเธอเองก็มีสติแล้วด้วยเลยต้องทำต่อให้สำเร็จเสร็จสิ้นภาระกิจเร่าร้อนนั้น แล้วเมลดาก็ต้องก้มหน้ารับกรรมเพราะเธอเองเต็มใจจริงๆถึงเเม้ตอนเเรกเธอจะหลับอยู่ก็ตาม ไม่หน้าเผลอไปกับอารมณ์บ้าๆนั่นเลย เธอได้เเต่บ่นอุบอิบในใจ
"วันนี้ พร้อมหรือยัง"อคินถามหลังจากมาส่งเธอที่คอนโดฯ
"พร้อมอะไรของนาย?"
"พร้อมเซ็นต์สัญญาเรื่องบริษัท"
"ฉันมีทางเลือก?"
"ก็ดี...งั้นวันนี้ตอนบ่ายฉันจะไปหาที่บริษัทหวังว่าจะไม่ตุกติกอะไรนะ"
"ไม่ต้องห่วงหรอก ห่วงเเต่นายนั่นแหละ หวังว่าจะไม่เอาบริษัทฉันไปบริหารแย่หรือปล่อยให้คนอื่นเทคโอเวอร์ไปอีกต่อล่ะ"
"ฉันบอกเเล้วไง ว่าฉันจะดูแลเธอเอง"
"..."เธอไม่ตอบรับอะไรเจ้าของรถแต่กลับเดินตึงตังลงจากรถเขาไปอย่างหงุดหงิด ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจที่ต่อไปนี้เธอจะไม่ได้เป็นเจ้าของมันเเล้ว ทั้งที่เธอสร้างมันมากับมือโดยมีบิดาของเธอที่คอยซัพพอร์ตจนมันมาได้ไกลขนาดนี้
@ บริษัท M เฟอร์นิเจอร์ กรุ๊ป จำกัด
หลังจากเซ็นสัญญากับอคินเสร็จ เมลดาก็ถอนหายใจออกมายาวๆอย่างท้อใจ เธอก็ยังคงทำใจไม่ได้ ถึงแม้ว่าตามสัญญาจะระบุเอาไว้ว่าเธอมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างแต่ต้องได้รับการอนุมัติจากเขาเท่านั้น จากที่เคยอยู่เหนือคนอื่นกลับต้องมาอยู่ใต้อำนาจของเขาซะได้ ถึงอย่างไรบริษัทก็ยังคงอยู่ดี เเละลูกน้องทุกคนก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม แถมยังมีเบี้ยเลี้ยงพนักงานและสวัสดิการเอื้อให้แก่พนักงานซึ่งเธอไม่เคยมอบสวัสดิการเหล่านี้ให้พวกเขาเลย
"ต่อไปนี้ เธอจะได้เงินเดือนเหมือนทุกๆคน"
"แต่ฉันเป็นรองประธาน และก็ถือหุ้นรองจากนายด้วย ทำไมต้องรอเงินเดือน?"
"จะได้เข้าใจหัวอกพนักงานไง"
หลายวันต่อมา...
"แก...ฉันเหนื่อย...อีตาบ้านั่นใช้งานฉันอย่างกับทาส"เมลดาบ่นกับเพื่อนที่มาหาเธอที่คอนโด
"แกก็ทนหน่อย...ก็ดีกว่าแกไม่มีสิทธิ์ในบริษัทเลยสักอย่าง"ไอริสปลอบเพื่อน
"แกหรือว่าฉันควรจะถอนหุ้น แล้วเอาเงินที่เขาซื้อบริษัทฉันไปตั้งบริษัทใหม่ดี?"
"แกจะบ้าหรอเมล ตั้งบริษัทไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะ ไหนจะความน่าเชื่อถือ แกไม่มีแบล็คดีๆคอยหนุนหลังเลยด้วย แล้วตอนนี้เครดิตแกกำลังจะเสีย ฉันว่าบางทีที่เขาเข้ามาบริหารเองอาจจะมาช่วยแกจริงๆก็ได้"วิสกี้เสริมอีกคน
"แต่ฉันไม่ชอบให้ใครมาอยู่เหนือฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครมาสั่งฉัน แล้วรู้ไหมว่าเขาคอยมาจ่ำจี้จ่ำชัยให้ฉันไปญาติดีกับพวกพนักงาน แถมยังกำหนดเงินเดือนตามความสามารถ ไม่พอนะแกจำกัดการใช้เงินฉันด้วย นี่ฉันตกเป็นทาสเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"ขอโทษนะแก ฉันไม่น่าชวนแกมาเล่นเกมส์บ้าๆนั่นเลย กลายมาเป็นแบบนี้เฉยเลย แถมเขาดูชอบแกจริงๆแล้วด้วย"วิสกี้กล่าวอย่างสำนักผิดแต่ก็ไม่วายชงเพื่อนอีกยก
"ชอบกับผีน่ะสิ แกล้งฉันมากกว่า"
"อ่ะ...1ล้าน5แสน...ฉันให้แกชนะไปเลย"วิสกี้วางเช็คเงินสดลงที่โต๊ะหน้าโซฟา โดยมีสายตาของไอริสและอันอันพยักหน้าให้รับไป
"ไม่...เกมส์ยังไม่จบเลย"
"เอาไปเถอะ แกต้องใช้เงิน ช่วงนี้โดนจำกัดเรื่องเงินอยู่ไม่ใช่หรอ?"อันอันกล่าว
"เห้อ...ถ้าเป็นเมื่อก่อน...เงินแค่นี้คงบินออกจากกระเป๋าฉันง่ายๆแล้ว...แต่ตอนนี้คงคิดดีๆแล้ว...เงินนี่จะใช้ได้กี่วันกันเนี้ย"เมลดาบ่น
"เออ ฉันขอตัวก่อนนะ มีนัด!"อันอันปลีกตัวออกจากเพื่อน 3สาวได้แต่พยักหน้าตอบรับ
"เออ...ไปดีมาดีล่ะ"ไอริสตอบ จากนั้นประตูก็ถูกปิดลงทันที
อันอันเดินออกมาจากคอนโดไม่นานก็สังเกตเห็นว่าอคินกำลังขับรถเข้ามาจอดหน้าคอนโดเพื่อนรัก จึงแกล้งทำเป็นไปวิ่งตัดหน้ารถทำทีให้เจ้าตัวออกมารับผิดชอบ
เอี๊ยด! พลั๊ก!
"โอ้ย...ซี๊ด..."สงสัยเธอจะกระแทกและล้มสมจริงเกินไปหน่อย เลยทำให้พลาดท่าเจ็บตัวจริงๆ
สักพักก็มีร่างสูงของเจ้าของรถเปิดประตูออกมาถามเธออย่างร้อนใจ
"คุณ! เป็นอะไรหรือเปล่า..."เมื่อเห็นร่างบางนั้นสลบไปเขาก็รีบอุ้มเธอขึ้นรถไปส่งที่โรงพยาบาลทันทีอย่างรู้สึกผิด แต่ยังไม่ถึงโรงพยาบาลเลยร่างบางก็ทำทีท่าว่าฟื้นขึ้นมาแล้วตกใจ
"เกิดอะไรขึ้นคะ แล้วอันมาอยู่บนรถคุณได้ยังไง?"เธอทำหน้าซื่อตาใสถามคนข้างๆที่กำลังขับรถมุ่งหน้าพาเธอไปโรงพยาบาล
"เอ่อ...ขอโทษ...ที่ขับรถชนเธอ...ฉันจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเอง"อคินเสนอ และเเสดงความรับผิดชอบ
"เอ่อ...ฉันไม่เป็นไรค่ะ...ฉันไม่ไปโรงพยาบาลนะคะ"เธอทำเสียงทำทีเป็นหวาดกลัว
"จะไม่ไปได้ไง เธอหัวแตกแถมตามตัวก็มีแผล"
"ไม่! ถ้าคุณพาฉันไปที่นั่นฉันจะกระโดดลงรถคุณ"เธอทำทีจะกระโดดลงไป แต่ก็ถูกมือหนาของอตินคว้าไว้ข้าหนึ่ง ทั้งที่อีกมือจับพวงมาลัยคุมรถอยู่
"ทำไมเพื่อนกันต้องดื้อเหมือนกันด้วย"เขาพรึมพรำอย่างหงุดหงิด "แล้วถ้าไม่ไปทำแผล จะไปไหน"
"เอ่อ...ไปส่งฉันที่บ้านก็ได้ค่ะ...เดี๋ยวฉันแวะซื้อยาไปทำแผลเอง"ถึงปากจะพูดไปแบบนั้น แต่ลึกๆแล้วสาวจ้องจะให้เขาแสดงความรับผิดชอบต่อหล่อนอยู่
"งั้นก็ตามใจ"เขาตอบกลับ "บอกทางมาสิ ว่าบ้านอยู่ไหน" เขาถามห้วนๆ แต่สาวก็ไม่ได้หวั่น เพราะอาจจะเป็นโอกาสเดียวที่ทำให้หล่อนได้คุยกับเขามากขึ้น ผู้ชายน่ะเขาชอบผู้หญิงอ่อนแอเรียบร้อย เธอคิด
@บ้านอัญรินทร์...
อัญรินทร์เปิดประตูรถออกมาแล้วทำเป็นเดินกระเพกๆทำทีว่าเจ็บข้อเท้าเดินต่อไปไม่ได้แล้วคุณขา อคินถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะวิ่งมาประคองร่างบางของเธอเอาไว้แล้วพาเธอไปส่งในบ้าน บ้านของอัญรินทร์เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังเล็กๆที่มีพื้นที่ตัวบ้านประมาณ40ตารางวา รอบนอกตกแต่งสวนเล็กสไตล์มินิมอล ในตัวบ้านมีห้องโถงกว้าง1ห้อง ห้องนอน1ครัว1ห้องน้ำ1 เพราะเธอเป็นแค่เจ้าของร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงระดับกลางๆ สืบทอดกิจการมาจากพ่อของเธออีกที ฐานะเธอเลยไม่ได้อู้ฟู่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ เลยทำให้หลายต่อหลายครั้งที่น้อยใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนเหล่านั้น แค่กระดิกนิ้วก็คือได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว แต่กับเธอ ต้องใช้ความสามารถ ความพยายามมากแค่ไหนกว่าจะได้มันมา และนี่แหละ ถ้าเธอจับอคินได้ เธอก็คงนั่งสบายๆใช้เงินโดยที่ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไป
"เอ่อ...ขอบคุณมากเลยนะคะ"เธอตอบเสียงหวาน
"ไม่ต้องขอบคุณหรอก ฉันทำเธอเจ็บ ก็ต้องรับผิดชอบ"
ถึงแม้ว่าคำตอบและน้ำเสียงจะห้วนๆไปบ้าง ทำเธอหน้าเจื่อนไปหลายหนแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอเลิกพยายามต่อ
อัญรินทร์หยิบยาแดงและสำลีออกมาจากห่อทำท่าเก้ๆกังๆทำแผลให้ตัวเองผ่านกระจก ก็ทำให้คนตัวโตพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งแต่ก็ยอมเดินมาทำแผลให้เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
"ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาทำเองให้ยุ่งยาก ไปหาหมอแล้วก็สิ้นเรื่อง"
"อันขอโทษจริงๆค่ะที่เป็นภาระ เอามานี่ค่ะเดี๋ยวอันทำเอง"เธอพยายามแย่งอุปกรณ์ทำแผลจากคนตัวสูง แต่คนตัวสูงกว่ายื้อเอาไว้ทำให้เธอมีโอกาสพลาดเซจนหน้าถลาไปซุกอกแกร่งของเขา "อุ้ย...อันขอโทษค่ะ"เมื่อเห็นว่าอคินไม่ได้เผลอไผไปกับหล่อนเลย จึงรีบระหน้าออกห่างจากเขาอย่างเสียหน้า อะไรกัน นี่อ่อยขนาดนี้เเล้วยังไม่สนใจเธออีก ทั้งที่หน้าตา ผิวพรรณ หุ่นแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นก็คงจะจับเธอกดลงไปแล้ว นายนี่กินก้อนหินเข้าไปหรอถึงได้แข็งทื่อเป็นสากกะเบือแบบนี้
"แล้วนี่ อยู่คนเดียวหรอ"เมื่อเห็นว่าสาวร่างบางตรงหน้าเงียบไปเลยทำลายความเงียบลงด้วยคำถามปลายเปิด จนคนตัวเล็กอย่างเธอได้ใจ
"ค่ะ ฉันอยู่คนเดียว...พ่อแม่เสียไปตั้งแต่เรียนอยู่ปี1 ยังไม่ทันที่พ่อกับแม่จะได้เห็นความสำเร็จของฉันเลย ท่านก็มาด่วนจากไปซะก่อน"เธอเล่าเรื่องราวด้วยแววตาเศร้าๆ จนอคินนิ่งไป
"เธอก็ดูมีความสุขดีนิเวลาอยู่กับเพื่อน"เขาก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ต่อ
"คงงั้นมั้งคะ บางอย่างเราก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครรู้นี่คะ อีกอย่างแค่เพื่อนๆยอมมาคบกับอันก็เพียงพอแล้วค่ะ"
"ทำไมพูดแบบนั้น"อัญรินทร์ได้ใจที่เห็นอคินเริ่มถามเธอกลับบ้าง จึงสร้างเรื่องราวต่อ
"ก็คนรวยๆยอมลดตัวลงมาคบกับฉัน ที่เทียบใครไม่ได้เลยด้วยซ้ำ"เธอตัดพ้อชีวิตตัวเอง และเรียกน้ำตาประดุจว่าสั่งได้
"เพื่อนก็คือเพื่อน ไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นหรอก"
"ค่ะ แล้วนี่คุณอคินไม่รีบไปหาเมลหรอกหรอคะ"เธอถามหยั่งเชิง
"อืม งั้นฉันไปก่อนนะ นี่เงินถือว่าทำขวัญเล็กๆน้อยๆ ส่วนนี่นามบัตรมีอะไรก็ติดต่อมาได้ ฉันไปล่ะ"ถึงแม้จะอยากรั้งเขาไว้แทบตายแต่ก็กลัวว่าไก่จะตื่นสะก่อน
"ขอบคุณนะคะ แต่จริงๆเรื่องเงิน..."
"รับไปเถอะ ฉันชนเธอก็ต้องรับผิดชอบน่ะถูกแล้ว"หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปขึ้นรถและขับออกไปทันที
อัญรินทร์มองไปที่เช็คที่เขาเขียนไว้เป็นจำนวนเงิน5แสนก็ถึงกับยิ้มออก แค่ยอมเจ็บตัวนิดๆหน่อยๆก็ได้เงินมา5แสนและ อ่อยอีกหน่อยคงจะได้เป็น อุ๊ย...แค่คิดก็เขินและ เธอคิดในใจ