เจ้าสาวคนสวย

2028 Words
หลายอาทิตย์ต่อมา... "เมล วันนี้แกสวยมากเลยนะ เหมือนเจ้าหญิงเลย" ไอริสตาร์กล่าวชมเพื่อนตาลุกวาวในความสวยสับตลับเมตรของเธอ "ไม่สวย ไม่ชอบ เรียบร้อยไป ไม่เหมาะกับฉันเลย" เธอกล่าวตอบอย่างหงุดหงิดที่จำใจต้องใส่ชุดปกปิดทุกสัดส่วนแถมกระโปรงยังพองอย่างกับสุ่มไก่อีก อีตานั่นคิดยังไงเอาชุดนี้เนี้ย ประชดกันหรือไง "สวยสิแก ใส่เรียบร้อยก็สวย"ไอริสตาร์ยังคงชอบเพื่อนในลุคเรียบร้อยเพราะไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก "คุณอคินนี่ก็หวงแกเหมือนกันเนาะ ถึงได้เลือกชุดนี้มาให้แกเนี้ย ไม่เหมาะกับแกเท่าไหร่เลย แต่ฉันว่ามันสวยแปลกตาดีนะ" วิสากานดาเสริม "ยิ้มหน่อยเพื่อน วันนี้เป็นเจ้าสาว ต้องยิ้มเยอะๆอย่าให้แขกในงานสวยกว่า" วิสากานดาว่าพลางเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างมายกยิ้มมุมปากให้เพื่อนสาวคนสวย ยิ่งเธอยิ้มความสวยยิ่งออร่าเปร่งประกาย อย่างกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย "สวยมากเลย สวยที่สุด" วิสากานดายิ้มตาหยีกับเธอ "วันนี้อันอันมันไม่มางานฉันหรอ" ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเพื่อนจ้องจะเเย่งเจ้าบ่าวแต่หล่อนก็แอบหวังว่าเพื่อนจะสำนึกผิด ใจหายวูบวาบเมื่อคิดว่าคนที่หล่อนเองก็รักดันคิดไม่ดีกับเธอ "ถามหามันทำไม คนดีๆที่ไหนแย่งแฟนเพื่อน" วิสากานดาตอบน้ำเสียงขุ่นเคือง ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสาวมั่นดูกร้านโลกแต่เธอก็ไม่เคยแย่งของของใคร คู่ควงหล่อนถ้าสืบเเล้วมีเจ้าของหล่อนจะถอยห่าง ไม่ใช่ถ่าง...ใส่ "แต่มันก็เพื่อนนะเว้ยวิสกี้"เมลดาเถียง "แกเห็นมันเป็นเพื่อนก็เเล้วเเต่แกเหอะ ฉันขอบายนะ ไม่ชอบ! จริงๆก็ไม่ชอบตั้งแต่เเรกเเล้วไม่รู้จะลากเข้ากลุ่มมาด้วยทำไม" วิสากานดาเบ้ปากมองบน จนไอริสตาร์ต้องตีเเขนด้วยความหมั่นไส้ไปหนึ่งที เพี๊ยะ! "ไอแกตีฉันทำไมเนี้ย!"วิสากานดาขมวดคิ้วเป็นปม "แกก็เกินไป บางทีถ้าเราให้อภัยมัน มันอาจจะปรับปรุงตัวก็ได้นะ" ไอริสตาร์กล่าวเพราะลึกๆแล้วก็แอบสงสารเพื่อนสาวเพราะเธอไม่ค่อยมีเพื่อน แต่เดิม กลุ่มของเธอมีกันอยู่แค่3คนตอนเรียนมหาลัย แต่ต้องทำงานกลุ่มที่มี4คนเเล้วเหลืออัญรินทร์คนเดียวที่ยังไม่มีกลุ่ม เมลดาเลยรับเข้ามาทำงานด้วย ตอนแรกกะว่าทำงานเสร็จก็คงไม่ได้สานสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนต่อเพราะเธอขี้เกียจทำความรู้จักกับใครใหม่ด้วยทุนเดิมที่เข้าหาคนไม่เก่งนักเลยไม่อยากเริ่มต้นทำความรู้จักกับใคร แต่ก็หลายต่อหลายครั้งที่อัญรินทร์ทำดีด้วย ซื้อน้ำซื้อขนมมาฝากเพื่อนๆ ชวนทำกิจกรรมต่างๆในมหาลัย จนเเล้วจนรอดเธอก็เริ่มสนิทกับเมลดามากที่สุดในกลุ่ม อัญรินทร์ดูอ่อนหวานน่ารัก น่าทะนุถนอมเมลดาเลยเอ็นดูในความใสซื่อของหล่อน แล้วด้วยนิสัยส่วนตัวเมลเป็นคนขี้เกียจ ชอบใช้เงินแก้ปัญหา เลยทำให้อัญรินทร์ต้องทำงานให้เมลเพื่อเเลกกับเงิน แต่เมลดาไม่เคยคิดว่าอัญรินทร์เป็นทาสคิดว่าเป็นเพื่อนเเล้วก็รู้ว่าบ้านของอัญรินทร์จำกัดงบการใช้เงินต่างๆจนบางครั้งบางคราวก็ไม่เพียงพอ แต่พอเมลดารู้ก็ยื่นมือเข้าไปช่วยเสมอ ทุกครั้งก็จะถูกปฏิเสธเมลดาเลยต้องบอกให้ทำงานให้เพื่อที่จะได้เป็นข้ออ้างในการให้เงินแก่เธอ กระเป๋า เสื้อผ้า อะไรที่เธอซื้อมาเเล้วไม่ได้ใช้นางก็มักจะเอามาแบ่งปันให้หล่อนบ่อยๆ จนหลายต่อหลายครั้งอัญรินทร์เองก็รู้สึกว่าตัวเองต้องใช้แต่ของเหลือของเมลดา และกลายเป็นว่าความหวังดีของเมลดากลายเป็นข่มเธอให้ยิ่งรู้สึกต่ำต้อยมากกว่าที่จะมองว่าเธอแค่หวังดีเเล้วอยากให้มีเหมือนคนอื่นๆ "ทักไปบอกมันหน่อยดีไหม"เมลดายังคง คะยั้นคะยอให้ไอริสตาร์ทักบอกอัญรินทร์ "อย่า ไม่ต้องไปเรียกมา"วิสากานดาเปล่งวาจาประกาศิต รายนี้เกลียดใครก็คือเกลียดจริงๆไม่เอาไม่ยุ่งเลยด้วยซ้ำ แล้วเธอคิดไว้ว่าสักวันงูพิษก็ต้องแว้งกัดในวันที่แข็งแรงแน่ๆ "ฉันเตือนพวกแกไว้เลยนะ ถ้าขืนยังใจดีกับงูสักวันพวกแกจะตายเพราะงู"เธอยังคงแข็งกร้าว "ฉันไปรอในงานก่อนนะ ออกมาสวยๆล่ะ เดี๋ยวจะถ่ายรูปให้สวยๆเลย" จากนั้นหล่อนก็เดินออกไปจากห้องแต่งตัวทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการมีปากเสียงกับเพื่อนที่หัวรั้นเตือนไม่รู้จักฟัง ใจอ่อนอะไรกันขนาดนั้น ยังไม่เคยรู้สินะว่ายัยนี่เคยทำอะไรกับเธอไว้บ้าง แต่แค่ไม่พูดให้ใครฟังก็เท่านั้นเอง เพียงไม่นานนัก งานแต่งสุดแสนหรูหราอลังการอย่างสมเกียรติทั้งบ่าวสาวก็เริ่มขึ้น แขกผู้มีเกียรติเริ่มหลั่งไหลกันเข้ามาในงาน พ่อแม่ของอคินเเละแม่ของเมลดาไปต้อนรับแขกที่เข้ามาร่วมงานเพื่อเเสดงความยินดีกับลูกชายเเละลูกสาวตนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง พอเริ่มงานก็มีภาพวิดิทัศฉายขึ้นบนจอมอนิเตอร์ และเล่าเรื่องราวการพบเจอกันเป็นสตอรี่น่ารักๆ แต่เรื่องราวเหล่านั้นต่างก็เม็กมันขึ้นมา เพราะก็รู้อยู่เเล้วว่าทั้งคู่แต่งงานกันเพราะเรื่องธุรกิจ เจ้าบ่าวรูปหล่อในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเรียบหรูดูมีสไตล์ ใส่แล้วยิ่งผลักให้ความหล่อออร่าเปล่งปรั่งราวเทพบุตรจุติมาเกิดจนสาวๆน้อยใหญ่อ้าปากค้างในความหล่อเหลาของเขาเอามากๆ ส่วนเจ้าสาวคนสวยนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสวยแค่ไหนเพราะชุดนี้เขาเลือกให้เองกับมือ ถึงแม้ชุดนี้จะเรียบร้อยเเต่มันเข้ากับเธอเป็นที่สุด ผมสีน้ำตาลคาราเมลเกล้าขึ้นต่ำๆแบบหลวมๆประดับประดาไปด้วยดอกไม้เล็กๆยิ่งเพิ่มความหวานเหมือนรถน้ำตาลคว่ำ ผิวขาวดุจไข่มุกยิ่งมีเพชรระยิบระยับประดับทั่วกระโปรงพองๆต้องกับเเสงสีวอมไวท์ยิ่งทำให้ผิวขาวผุดผ่องออร่าจนตาแทบจะบอด "วันนี้เธอสวยมากเลยนะรู้ตัวไหม"เจ้าบ่าวกระซิบข้างหูเธอในขณะที่เดินมายังหน้าเวที เล่นเอาเจ้าสาวอายม้วนจนหน้าแดงไปถึงใบหู "ฉันก็สวยอยู่ทุกวัน"เธอตอบกลับเรียบข่มอารมณ์ความเขินเอาไว้ "แต่วันนี้เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด แล้วรู้ไหมคนสวยต้องโดนอะไร" พูดจบประโยคอคินก็ต้องหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดทันทีเพราะเมลดาแอบหยิกเเขนคนทะลึ่งไปอย่างเเรง "โอ้ย ใจร้าย...คืนนี้เจอ2เด้งแน่" "ทะลึ่ง ในหัวนายคิดเป็นเรื่องเดียวหรอ" เธอดุใส่ตาเขียวปั๊ด แปะๆๆๆๆๆๆ เสียงปรบมือเเสดงความยินดี เสียงไชโยโห่อยู่หน้าเวทีดังระงมทั่วทั้งโรงแรมที่หรูหราใหญ่โตตระการตา "จูบเลยๆๆๆๆๆๆ" เสียงเชียร์ดังขึ้น ยิ่งดังขึ้นกดดันให้ทั้งคู่ทำตาม แต่เมลดานั้นขวยเขินเกินกว่าจะยอมทำ และนั่นก็ทำให้อคินเองเลือกที่จะเป็นฝ่ายจู่โจมเธอแทน เขาประทับจูบมาที่ปากหยักสวยได้รูปสีชมพูอมแดงอย่างหวานซึ้ง แต่เธอตั้งรับแทบไม่ทันตาโตด้วยความตกใจที่อยู่ๆก็ถูกร่างสูงจู่โจมจนเธอแทบไม่ทันได้ตั้งตัว "เอาล่ะค่ะ เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวแล้ว แล้วเจ้าสาวล่ะคะยอมไม่ได้เลยน้า เชียร์ช่วยกันค่ะ จูบเลยๆๆๆๆๆ" เสียงเชียร์ดังขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้สร้างความกดดันให้เธอเป็นอย่างมาก จะบ้าหรอให้มาจูบคนที่ไม่ได้รักกันเนี้ยนะ หัวใจดวงน้อยๆเต้มโครมครามไม่เป็นจังหวะ ต่อหน้าคนเยอะๆแบบนี้ใครจะกล้าล่ะ ฉันไม่ได้หน้ามึนแบบอีตานี่นะ เธอคิดในใจ สุดท้ายก็ทนแรงกดดันไม่ไหว เธอจึงค่อยๆเอามือน้อยๆทั้ง2ข้างจับใบหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรรูปงามเเล้วใช้ใบหน้าสวยๆของเธอบังหน้าเขาไว้ให้เหมือนจูบ แต่คนเจ้าเล่ห์มีหรอจะยอมขาดทุน เขาใช้มือพยุงท้ายทอยของเธอเเล้วดันให้ปากจิ้มลิ้มนั่นประกบจูบกับเขาแทนทำเอาร่างเล็กตกใจรีบดันออกเเต่ก็ไร้ประโยชน์ ลิ้นร้อนนั้นสอดแทรกแรกลิ้นกับเธอจนเธอเผลอไผไปกับรสจูบอันแสนเร่าร้อนของเขา "แหม ยังหวานเหมือนเดิมเลย" อคินกล่าวขึ้นหลังปล่อยให้เธอเป็นอิสระเพราะกลัวว่าคนร่างเล็กนี่จะขาดอากาศหายใจไปซะก่อน ฮิ้วววววว วิ๊ด วี๊วววววว เสียงกรี๊ดกร๊าด เสียวผิวปากดังระงมจนเจ้าสาวคนสวยตัวบิดตัวงอ หน้าแดงก่ำเหมือนกินมะเขือเทศมาสิบลูก ร้ายใหญ่แล้วนะนายอคิน จ้องเอาเปรียบเธออยู่เรื่อยเลย เสร็จงาน หลังจากที่มีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เจ้าสาวก็เมามายเต้นอยู่หน้าเวทีอย่างปลดปล่อยกับเพื่อนสาว จนผู้เป็นเจ้าบ่าวอายจนอยากเอาหน้าไปแทรกแผ่นดินหนีไปซะ "ขี้เมาเอ้ย นี่จะทำให้ฉันขายหน้าไปถึงไหน" อคินเดินมาคว้าเเขนของเจ้าสาวที่ตอนนี้ตาหวานเยิ้มอย่างได้ที่พร้อมเก็บศพได้ในอีกไม่กี่นาที "ขออีกเพลง วู้วววววว"เมลดาสั่งนักดนตรีที่จ้างมาอย่างเอาแต่ใจ จนเจ้าบ่าวส่ายหน้าระอา "ป้าย ปาย ปาย ปาย ยาวปายเลยเพื่อน" เพื่อนสาวอย่างวิสากานดาชงอีกเเรง พร้อมกับโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างเอาเป็นเอาตาย "สู้เขาสิวะอีกญิง ขอแรงๆ วู้วๆๆๆๆ" ไอริสตาร์กล่าวอีกคนพร้อมกับยกขวดไวท์ชั้นดีขึ้นแล้วโยกไปมา "อะไรวะเนี้ย นี่มันแก๊งค์สาวขี้เมาหรือไง หัวจะปวด" อคินบ่นพรางขมวดคิ้มหนาจนเป็นปม "อุ้ยเจ้าบ่าวสุดหล่อของฉันมา" เมลดาเอ่ยปากบอกเพื่อนที่กำลังส่ายสะโพกกันอย่างเมามันส์ให้หันมามองเจ้าบ่าวที่หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนโกรธใครมา พร้อมกับค้องคอเจ้าบ่าวให้มาเต้นกับเธอด้วย "อุ๊ย คุณอคินสุดหล่อ ชนแก้วหน่อยค่าาาา"เสียงยานคางของวิสากานดาชักชวนให้ชนแก้วของตน "เมาแล้วนะเมล พอได้เเล้ว" เขายกแก้วไปชนกับเพื่อนสาวตัวเล็กของเมลดาจากนั้นก็กอดเอวภรรยาสาวสุดสวยอย่างหลวมๆเพื่อพยุงไม่ให้เธอล้ม สาวสวยในชุดราตรีสีครีมสายเดี่ยวสายโซ่สีทอง ด้านหลังแหวกลากลงมาเผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียน กระโปรงลากยาวแหวกข้างขึ้นมาเหนือเข่า (แหวกมากไม่ได้เดี๋ยวเจ้าบ่าวดุ) กว่าคนจอมบงการจะยอมให้เธอใส่ต้องเสียเหงื่อไปกี่รอบจัดไปกี่ยก เขาถึงได้ยอมเธอ ขอปากเปล่าอย่าหวังว่าจะได้ ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอกับคนแบบเขา แล้วดูท่าทางชุดนี้บวกกับสะโพกที่โยกไปมานั้นทำเอาหนุ่มๆในงานต่างจ้องตากันเป็นมัน ถึงเเม้จะรู้ว่าเจ้าสาวคนนี้มีเจ้าของไปแล้วแต่ก็อดมองในความสวยสะพรั่งของเธอไม่ได้ แล้วที่อคินเดินมาโอบเอวสาวร่างบางจอมยั่วเนี้ยก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาหวงเธอไม่อยากให้คนอื่นมองเลยนอกจากเขา คอยดูนะส่งตัวเข้าหอจะจัดหนักจัดเต็มจนเดินไม่ได้เลย เขาคิดในใจพร้อมกระตุกยิ้มร้าย ปล่อยให้กวางน้อยได้ใจได้ก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD