อย่าขัดใจฉัน!!

2991 Words
@สตอร์รี่ พรีเวดดิ้ง เมลดาก้าวเท้าเข้ามายังสตูดิโอถ่ายภาพ โดยมีอคินมารออยู่ก่อนแล้ว คนร่างสูงมองเมลดาที่ยอมมาตามนัดเขาแล้วกระตุกยิ้มร้ายเบาๆ สุดท้ายคนอวดดีอย่างเธอก็ต้องสยบที่เขา เมลดานั่งลงรอช่างแต่งหน้าในสตูดิโอเซตหน้าให้ เนื่องจากว่าเธอไม่ได้แต่งหน้ามาเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยโครงหน้ารูปไข่ ตากลมโตมีประกายสีน้ำตาลเข้ม ขนตาที่ยาวงอนเหมือนคนต่อขนตามาจับเป็นช่อสวยอย่างไม่ได้ตั้งใจ จมูกไม่โด่งมากรับกับ ปากกระจับเล็กหน้าจุ๊ปสีแดงระเรื่อ นั้นมันดันเข้ากัน เครื่องหน้าที่ครบจนไม่ต้องเติมแต่งใดๆก็สวย นี่มันหน้าฟ้าประทานมาชัดๆ "คุณเมลดาคะ เลือกเป็นชุดไหนคะ"พนักงานถามเมลดาขึ้น แต่มันเยอะจนเธอตัดสินใจไม่ถูกเลย จนแล้วจนรอดเธอก็มาสะดุดตากับชุดราตรี ค้องคอ โชว์แผ่นหลังยาวลากพื้นแต่แหวกขึ้นมาถึงโคนขา ประดับเพชรระยิบระยับรอบชุด "เอาชุดนี้ค่ะ"เมลดาหันไปบอกพนักงาน "ว้าว ตาถึงจังเลยนะคะ ชุดนี้ดีไซน์เก๋มากเลยค่ะ เรียบหรูดูแพง เหมาะกับคุณเมลดามากๆเลยค่ะ"พนักงานกล่าวยิ้มแย้มแจ่มใส ก่อนที่จะถือชุดเดินนำไปที่ห้องแต่งตัว ผ่านไป10นาที... "เจ้าบ่าวคะ เจ้าสาวพร้อมแล้วค่ะ"พนักงานในร้านเดินออกมาบอกอคินที่นั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าห้องรองชุด พรึ่บ! ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างเมลดาในชุดราตรียาว ใบหน้าสวยหวานซ่อนเปรี้ยวที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์โดยมืออาชีพ ทรงผมมวยต่ำๆประดับประดาด้วยดอกไม้เล็กๆ ปล่อยปลอยผมที่ดัดลอนอย่างสวยงาม ประหนึ่งเทพธิดา ชุดที่เข้ารูปพอดิบพอดีประหนึ่งว่าชุดนี้ตัดมาเพื่อเธอ อคินมองเมลดาตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตาว่านี่คือคนที่จะมาเป็นเจ้าสาวของเขาจริงๆหรอ แต่ก็ต้องขมวดคิ้วทันทีที่เมลดาจงใจที่จะแหวกกระโปรงจนเผยให้เห็นหน้าขาจนเกือบจะถึงโคนขาขาวๆนั่น ยังไม่พอแค่นั้น เมลดายังกวนประสาทเขาด้วยการหมุนตัวเบาๆให้เขาเห็นแผ่นหลังขาวๆของเจ้าหล่อนนั่นอีกอย่างจงใจ "ไม่เอาชุดนี้! ไปเปลี่ยน!"เขาพูดเสียงเข้ม "เอ่อ...ชุดนี้ไม่สวยหรอคะคุณอคิน ดิฉันคิดว่ามันเหมาะกับคุณเมลดามากๆอย่างกับชุดนี้ตัดมาเพื่อ..." "ไปเปลี่ยน!" "เอ่อ..."พนักงานได้แต่อ่ำๆอึ้งๆ ไปต่อไม่ถูก "ไม่...ชุดนี้สวยเเล้วก็เหมาะกับฉัน...จะให้ใส่ชุดเรียบร้อยๆ ฉันไม่ใส่นะ" "ฉันเป็นสามีเธอ ฉันรู้ว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับเธอ" "ไม่ ฉันจะใส่ชุดนี้"เมลดากอดอกยืนกรานเสียงเเข็ง "ออกไปก่อน"อคินหันไปบอกพนักงาน จากนั้นเธอก็ยอมเดินออกไปแต่โดยดี อคินลุกพรวดจากโซฟา ย่างเข้ามาเเล้วผลักเมลดาเข้าไปในห้องเเต่งตัวจนร่างบางที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเซถลาจนแผ่นหลังชนกับผนังหนาอันเย็นเฉียบ ให้ตายเถอะ เธอไม่น่ายั่วเขาเลย ซวยเลยไหมล่ะ เธอคิดในใจ "นะ...นี่...นายจะทำอะไร...ฉันบอกว่าฉัน...อุ๊บ!" อคินไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบปิดประตูห้องก่อนที่จะประทับรอยจูบอันวาบหวามนั้นลงมาที่ริมฝีปากของเจ้าคนหัวดื้อทันที พรึ่บ! เขานั่งคุกเข่าลงเเล้วแหวกกระโปรงของคนร่างเล็กออกไปด้านข้าง แล้วกดจูบลงไปจนเกิดรอย เขาดูดดันจนเมลดาเริ่มรู้สึกเเสบ มือเล็กปัดป้องให้เขาหยุดเเต่อคินดันใช้มือเพียงข้างเดียวรวบมันไว้เพื่อให้เธอหยุดขัดขืนกับเขา ไม่เพียงพอเเค่นั้น เขารุกขึ้นเเละจับเมลดาหันหน้าเข้าไปที่กำเเพงเเล้วประทับรอยมาร์กคิสเต็มแผ่นหลังขาวเนียนจนขึ้นสีแดงบางๆเป็นจ้ำๆ "ดูสิ ว่าทีนี้จะกล้าโชว์อีกไหม" "คนบ้า! มันจะมากเกินไปเเล้วนะ..." "ตรงไหนที่คิดจะโชว์ ฉันจะทำรอยให้หมด อย่าขัดคำสั่งฉัน...ขอชุดใหม่ด้วย..."อคินกล่าวกับเธอก่อนที่จะตะโกนบอกพนักงานให้เอาชุดที่เขาเลือกไว้ให้นำเข้ามาให้เมลดาเปลี่ยน "นี่ค่ะคุณอคิน..."สาวร่างเล็กยื่นชุดให้อคิน ร่างหนารับชุดที่ตนเลือกมาถือไว้ก่อนจะปิดประตูลง "เเล้ว...ทำไมไม่ออกไป...ฉันจะเปลี่ยนชุด"เมลดาถามเสียงสั่น เพราะเดาความคิดคนตรงหน้าไม่ได้เลยว่าเขาจะมาไม้ไหน "ฉันจะเปลี่ยนให้"เขาตอบเสียงเรียบนิ่ง "นายจะบ้าหรอ ฉันใส่เองได้ ออกไป!" เขายืนนิ่งจ้องหน้าเธอ แล้วค่อยๆถอดชุดรัดรูปนั่นออก มันก็สวยดีอยู่หรอก แต่มันยั่วซะขนาดนี้ใครจะยอมให้ใส่ ยิ่งงานแต่งเขาเพื่อนๆผู้ชายต้องมาเยอะอยู่แล้วมีแต่คนดีๆกันทั้งนั้น มีหรอเขาจะยอมปล่อยให้พวกนั้นมองเจ้าสาวของเขา "อยู่นิ่งๆเถอะน่า.." ใบหน้าขาวใสเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ เพราะพิษเขิน กลางวันเเสกๆมาถอดชุดเธอออกแบบนี้เธอก็อายเป็นนะ ใบหน้าหล่อจ้องร่างเมลดาที่เหลือแค่กางเกงในตัวจิ๋วและบราเกาะอกดันเนินอกให้โผล่ขึ้นมาอย่างพอดิบพอดีไม่ใหญ่จนเกินงาม ทำเอาคนร่างสูงถึงกับมีอารมณ์ขึ้นมาแต่ก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้เพราะนี่มันไม่ใช่บ้าน ขวับ! อคินอดใจไม่ไหวจึงรวบร่างเมลดาเข้ามากอดรัดเอาไว้แล้วซุกไซร้ซอกคอขาวๆที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆละมุนละไมจนชวนให้หลงไหล อยากจะกลืนกินมันซะตรงนี้แต่ก็ทำได้แค่... จุ๊ป! เขาฝากรอยเอาไว้ที่เนินอกอวบนั้น เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาจองเเล้ว "นี่นาย...เป็นบ้าไปแล้วหรอ ทำไมชอบมาสร้างรอยนักนะ" "ติดไว้ก่อน คืนนี้จะไปคิดบัญชีทีหลัง"อคินยื่นชุดให้เมลดา ก่อนจะเปิดประตูออกไปนั่งรอข้างนอก "คนบ้า...ไม่ใส่ให้เเล้วจะมาถอดชุดฉันออกทำไม...โรคจิตหรือไงถึงชอบอยากดูหุ่นคนอื่นโป๊เปลือยเนี้ย"เมลดาบ่นอุบอิบเบาๆ ครืดดดด! ประตูห้องรองชุดถูกเลื่อนออกพร้อมกับหญิงสาวในชุดราตรีสีขาวแขนตุ๊กตาพองๆ กระโปรงยาวลากพื้นประดับประดาด้วยมุกเล็กๆเเละเพชรน้ำงามเล็กๆทั้งชุด ถึงจะเรียบร้อยแต่ชุดนี้พอร่างเล็กใส่ออกมาอย่างกับเจ้าหญิงสวยหวาน น่ารัก น่ามองมากๆ เธอเดินออกมาด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะไม่ชอบความหวานแบบนี้ เเนวของเธอมันหวานไม่ได้ เธอคิดในใจเพราะรู้สึกขัดใจ "ทำหน้าให้มันเหมาะกับชุดราคาเป็นแสนนี่หน่อย" "ฉันไม่ได้อยากได้! ถ้าชุดแรกที่ฉันใส่เป็นล้านฉันก็จ่าย!"เธอตอบเสียงแข็ง "เป็นล้านก็จ่าย จะล้มละลายอยู่ลอมล่อยังจะใช้เงินฟุ่มเฟือยอีก เอาชุดนี้เตรียมเข้าฉากเลย ช่างภาพมารอเเล้ว"อคินรุกขึ้นเเละเดินนำเมลดาไปที่ฉากที่เซตรอเขาทั้งคู่ไว้ ทั้งคู่ใช้เวลาถ่ายรูปจนเกือบเย็น ทั้งชุดไทย ชุดคู่จนเพลีย ก่อนจะกลับเมลดาเลยขอตัวกลับห้องแต่อคินไม่ยอมให้กลับ "นายจะรั้งฉันไว้ทำไมอีก ถ่ายพรีเวดดิ้งก็ไปถ่ายให้แล้วไง ฉันเหนื่อย ฉันอยากออกไปดื่มกับเพื่อน" "เธอนี่มันขี้เมาจริงๆเลยนะ ยังไงก็ไม่ให้ไป เธอต้องไปทานข้าวกับครอบครัวฉัน" "โอ้ย...ฉันไม่อยากไป ฉันอยากกินเหล้า...นายเข้าใจไหม...ไม่อยากกินข้าว"เมลดาเริ่มงอแง "ไปกินข้าวก่อน แล้วจะไปไหนค่อยไป" "เฮ้อ..."เธอถอนหายใจยาวๆอย่างเหนื่อยหน่ายกับจอมบงการที่เอาเเต่สั่งๆเธอไปซะหมด จนไม่มีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองเลย ตั้งแต่นายนี่เข้ามาชีวิตทุกวันของเธอมีเเต่เรื่องวุ่นวาย [คฤหาสน์ อัครเดชาเลิศ] รถสปอร์ตคนหรูคู่ใจแล่นเข้ามาจอดในคฤหาสน์หลังงาม พร้อมกับสองร่างที่เปิดประตูรถลงมา โดยหน้าบ้านมีพ่อและแม่ของอคินยืนรอต้อนรับเขาทั้งสองอยู่ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ "สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า"เมลดายกมือไหว้เจ้าของบ้านด้วยความเคารพนับถือ "อุ้ย...อีกหน่อยก็มาเป็นสะใภ้บ้านนี้เเล้วเรียกพ่อกับแม่ก็ได้จ่ะหนูเมล"ทิพวรรณกล่าว "ค่ะ...คุณแม่"เมลดากล่าวอย่างเก้ๆกังๆเพราะไม่ชินปาก "อ้อ...ตาคินวันนี้พี่รินทร์ก็อยู่นะ เตรียมอาหารอยู่ในครัวกับจัสติน...เอ่อ...เดี๋ยวลูกพาน้องไปนั่งเล่นในสวนก่อนนะ...ไว้แม่จะเข้าไปช่วย2คนนั้นเตรียมอาหารก่อน เสร็จเเล้วแม่จะให้คนไปเรียกมาทานอาหารกัน"ทิพวรรณจัดแจงทุกอย่างให้อคินทำตาม ร่างสูงเดินนำเมลดามาที่สวนดอกไม้ รอบๆมีดอกไม้หลากหลายชนิดมาก จัดเป็นระเบียบเป็นโซนๆ ด้านหลังมีศาลาริมน้ำสีขาวมุก บรรยากาศดีมากๆ ทำเอาเมลดาที่กำลังสำรวจรอบๆบ้าน คลี่ยิ้มออกมาอย่างถูกใจ เธอชอบสวนดอกไม้แบบนี้ "สดชื่นจัง"เธอกล่าวกับตัวเองเบาพร้อมกับสูดเอาอากาศเข้าปอดให้มากที่สุดจนคนร่างสูงที่จ้องมองการกระทำน่าเอ็นดูนั้นถึงกับหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว "ชอบหรอ?" "ใช่...ฉันอยากมีสวนดอกไม้แบบนี้ มีศาลาริมน้ำแบบนี้...แต่ตั้งแต่พ่อฉันเสีย...บ้านที่เคยอยู่ก็แทบจะไม่ได้กลับ"แววตานั้นมันดูเศร้าซะจนคนร่างสูงต้องเดินมากุมมือเมลดาเอาไว้อย่างปลอบใจ จริงๆเเล้วเขาเองก็มีมุมอ่อนโยนเหมือนกันแต่เเค่ไม่เคยมีใครได้เห็นก็เท่านั้นเอง "แต่ฉันโอเคนะ...ไม่ได้แย่...แค่บางครั้งรู้สึกว่าถ้าพ่ออยู่...ฉันคง...อยากกลับบ้านมากกว่านี้" "เธอ...ดูรักพ่อเธอจังเลยเนาะ" "อื้อ...ใครจะไม่รักพ่อ...หรือนายไม่รัก?"คนตัวเล็กถามอย่างสงสัย ก็ดูครอบครัวเขาออกจะอบอุ่น "รักสิ ถึงได้ยอมทำทุกอย่างตามใจแบบนี้ไง" ทั้งคู่สนทนากันอยู่ไม่นานมากนักก็มีแม่บ้านเดินมาตามทั้งคู่ให้ไปรับประทานอาหารเย็น "สวัสดีจ่ะน้องเมล วันนี้เจอกันจริงๆจังๆซักทีนะจ๊ะ"นรินทร์ทิพย์กล่าวขึ้นเมื่อเมลดาเอาแต่เงียบก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารอย่างเกร็งๆ จะไม่เกร็งได้ยังไงก็มีสายตาของตฤณนภัทรจับจ้องอยู่อย่างไม่วางตา จนอคินจับสังเกตเห็น "เอ่อ...สวัสดีค่ะคุณนรินทร์ทิพย์" "คุณอะไรกันจ๊ะ เรียกพี่ก็ได้อีกหน่อยก็ต้องเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้เเล้ว...อย่าห่างเหินนักเลย"จะไม่ให้ห่างเหินได้ยังไง ในเมื่อเธอกำความลับของคนที่เอาเเต่จ้องเขาไว้แถมเพื่อนรักของเธอก็ดันมาเป็นชู้ของตฤณนภัทรอีก ตายๆ จะหลุดไหมเนี้ย เธอคิดในใจ "อ้อ...ค่ะพี่รินทร์" "เอ้อ...ไอ้จัสติน...วันนี้แกว่างหรอถึงได้มากินข้าวบ้านฉันเนี่ย"อคินแขวะเพื่อน เพราะร้อยวันพันปีจัสตินไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเลย ขลุกตัวอยู่แต่คอนโด "ก็เมียฉันอยู่นี่ จะให้ฉันไปไหนล่ะ"ชายร่างหนากล่าวกับเพื่อนรักที่เเขวะเขา แหมคงจะหึงเขาล่ะสิ "หรอ...ไม่ยักจะรู้ว่ารักเมียเป็นกับเขา..." "คิน...แกล้งพี่เขยอีกเเล้ว" "แหมเจ้...ก็มันน่าเเกล้ง...ดูหน้ามันดิเจ้...ตลกชะมัด"อคินหัวเราะอย่างพอใจ "เอาล่ะๆ ทานอาหารกันได้เเล้ว"พ่อของอคินกล่าว "หนูเมล ชอบที่นี่ไหมลูก"ทิพวรรณหันมาถามเมลดาที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จากับใคร "อ้อ...ชอบค่ะ..." "ถ้าชอบก็มาอยู่ด้วยกันสิ...ไว้แต่งงานกับลูกชายแม่เเล้วย้ายมาอยู่กับเเม่นะ แม่เหงา...เนี้ยยัยรินทร์กับตาคินก็หนีแม่กันหมด พ่อก็ไม่ค่อยอยู่บ้านบินไปดูงานต่างประเทศบ่อย" "เอ่อ...จะดีหรอคะแม่" "ได้ไงม้า เมียคินก็ต้องไปอยู่กับคินสิ...แล้วอีกอย่างนะเจ้น่ะ หัดกลับบ้านมาอยู่กับแม่บ้าง"อคินหันไปเอ็ดพี่สาว "แกนั่นแหละคิน กลับบ้านบ้าง ฉันมีงานมีการทำย่ะ ถ้ามาอยู่บ้านก็ต้องเดินทางไกล แกอยู่ใกล้ทำไมไม่กลับมาเองล่ะ"นรินทร์ทิพย์โวยวายกับน้องชาย "โธ่เจ้...คิดว่าคินไม่มีงานหรอ...คินก็มีงานเหมือนกัน" "เอ่อ...นายจะไปเถียงพี่รินทร์ทำไมเนี้ย...อ่าเนี้ย...กินเข้าไป"เมลดาตัดความรำคาญตักไข่พะโล้ยัดเข้าปากอคินเพื่ออุดปาก ทำเอาบนโต๊ะอาหารมีแต่เสียงหัวเราะประสานกันออกมาอย่างถูกใจ "เห้อ คนเย็นชาแบบแกน่าจะกลัวเมียว่ะคิน...เก่งมากน้องเมล"ตฤณนภัทรหันมาชื่นชมผลงานของคนตัวเล็กที่ยังเอาเเต่หลบหน้าเขาอยู่ "ค่ะพี่ติน"เธอระบายยิ้มออกมาเบาๆ หลังจากรับประทานอาหารอคินได้ขึ้นไปคุยงานกับพ่อแม่และพี่สาวอยู่ห้องทำงาน วางเเผนกันเรื่องการค้าระหว่างประเทศและสัญญาซื้อขายหุ้นที่มีนายทุนมาเสนอราคาดีว่าจะร่วมทำธุรกิจด้วยหรือไม่ เมลดาเดินไปนั่งเล่นอยู่ศาลาริมน้ำที่ตอนนี้เปิดไฟไว้รอบสวน ยิ่งทำให้บรรยากาศดีเข้าไปใหญ่ แต่อยู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้นใกล้ๆเธอ "น้องเมลครับ"สามีของนรินทร์ทิพย์เอ่ยขัดบรรยากาศที่แสนสงบขึ้น "เอ่อ...คะ?"เมลดาหันขวับมาประชันหน้ากับตฤณนภัทรที่อยู่ห่างจากเธอไม่กี่ก้าวอย่างตกใจ ก่อนที่จะตอบคนร่างสูงด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆ "เอ่อ...ไม่ต้องกลัว...พี่แค่จะมาขอโทษ..." "ขอโทษเมล...เรื่องอะไรคะ"เมลดาเอ่ยถามหยั่งเชิง "เรื่องคืนนั้นที่พี่ลวนลามน้องเมล...พี่นึกว่าเป็น...เอ่อ...คนอื่น"เขาเลือกที่จะไม่พูดชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมา เพราะกลัวว่าเธอจะฟ้องภรรยาของเธอ "คิดว่าเป็นอันอันหรอคะ"เมลดาตัดสินใจถามออกมา เพราะเธอเองก็อึดอัดที่ต้องเก็บเรื่องราวนี้เอาไว้คนเดียว แถมยังต้องมาวนเวียนอยู่ในบ้านของเมียหลวงอย่างนรินทร์ทิพย์อีก "น้องเมลรู้ด้วยหรอ" "ค่ะ...อันอันบอกเมลเเล้ว...ทำไมคะ...คุณเองก็มีภรรยาอยู่แล้ว...ทำแบบนี้ทำไม"ใช่สิเขาไม่ได้เสียหายนิแต่เพื่อนเธอนี่สิเป็นผู้หญิงเสียหายแน่ๆ "อย่าบอกเรื่องนี้กับรินทร์ได้ไหม...พี่จะจัดการกับความรู้สึกของพี่เอง" "โดยทิ้งเพื่อนเมลใช่ไหมคะ เพื่อนเมลผิดอะไรหรอคะ ทำไมผู้ชายถึงได้ทำอะไรไม่สงสารผู้หญิงเลย" "น้องเมลเข้าใจอะไรผิดเเล้ว อันอันไม่ได้รักพี่"เป็นไปไม่ได้หรอก ก็เพื่อนเธอบอกเองว่ารักคนมีเมียเเล้ว แปลว่าเพื่อนเธอโกหกเธอหรอ "ไม่รักเเล้ว?...แล้วที่ไปมีอะไรกันล่ะคะ?" "ก็แค่สนุกๆกันน่ะ เราตกลงกันเเล้ว...ว่าเรื่องของเราไม่เลื่อนขั้นไปมากกว่านี้" "แล้ว...ที่คุณรินทร์ไปอาละวาดที่ร้านเพื่อนเมลล่ะ" "ห๊ะ? รินทร์ไม่เคยทำอะไรแบบนั้นหรอก ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน"ถึงกับหน้าชาเมื่อได้ยินคำตอบ นี่เพื่อนเธอโกหกเธอหมดเลยหรอ แล้ว...อัญรินทร์จะโกหกเธอทำไมล่ะ มีเหตุผลอะไรทำไมต้องโกหก มีแต่คำถามในหัวเต็มไปหมดเลย "น้องเมล...น้องเมลครับ..."เมื่อเห็นว่าคนร่างเล็กนิ่งไป ตฤณนภัทรก็จับไหล่ของเมลเขย่าเรียกสติเธอ "คะ?" "เป็นอะไรไปครับ" "เอ่อ...ปะเปล่าค่ะ...เมลแค่คิดว่า...มันน่าจะมีอะไรที่เมลไม่รู้" "ระวังไว้หน่อยก็ดีนะครับ...เพื่อนน้องเมล...อาจจะไม่ได้จริงใจกับน้องเมลสักเท่าไหร่"นั่นยิ่งทำให้ใจของเธอไหววูบเข้าไปใหญ่ ขวับ! "มาทำอะไรกันลับๆล่อๆกันตรงนี้"เสียงเรียบนิ่งเรียกสติเธออีกครั้ง "เอ่อ...ไอ้คินแกก็อย่าใจร้อนนักสิ..." "หุบปากไปเลยไอ้ติน นี่เมียฉัน ฉันถามเมียฉัน"เสียงขบกรามอย่างหงุดหงิดที่คนตรงหน้าเอาแต่เงียบไม่ตอบอะไร ยิ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกโมโหจนเผลอบีบแขนคนตัวเล็กจนเธออุทานออกมาอย่างเจ็บปวด "โอ้ย ฉันเจ็บ" "เจ็บก็ตอบมา ว่ามาทำอะไรตรงนี้ คิดจะยั่วเพื่อนฉันอีกเเล้วหรอ" "ไอ้คิน...แกก็เบาๆกับน้องเขาหน่อยดิวะ ฉันมาคุยธุระกัน ไม่ได้มาทำอะไรไม่ดีเลย...อะไรวะ ยังไม่เเต่งงานกันเลยหึงเป็นหมาหวงก้างซะแล้ว"ตฤณนภัทรกล่าวก่อนจะสาวเท้าออกไปทิ้งให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน "ไม่ได้หึง!"อคินตะโกนบอกเพื่อนรักเเต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะเพื่อนของเขาไม่ได้สนใจคนปากแข็งแบบเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD