ฝึกงานวันแรก

2362 Words
“สวัสดีค่ะ...!!” คำพูดถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อพบกับใครบางคนที่เธอนั้นรู้จักเป็นอย่างดี หญิงสาวตัวแข็งทื่อก้าวขาไม่ออก ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู สายตาของคนที่กำลังจ้องมา ทำให้เธอรู้สึกประหม่าอยู่ลึก ๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนสายตาของเขายังคงเย็นชากับเธอเสมอ “ต้องให้ไปอุ้มไหม?” เสียงที่คุ้นเคยไม่ได้ยินมาหลายปี แผ่นดินเอาแต่จ้องมองไปยังหญิงสาวทำเอาเธอไม่กล้าสบตา เขาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ดูไม่ใช่พี่ชายข้างบ้านที่เธอเคยรู้จักเลย มีอย่างเดียวที่ยังเหมือนเดิม นั่นก็คือสายตาว่างเปล่าของเขา “มะ ไม่เป็นไรค่ะ” เรียวขาสวยก้าวขยับเข้าไปโดยที่ใบหน้าของเธอ เอาแต่ก้มมองพื้น แล้วท่าทางของเธอมันดันชวนน่าหงุดหงิดเสียด้วยสิ ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นผีอย่างนั้นแหละ “มองหน้าสิ” การจะทำงานด้วยกันต้องสบตากันสิ ถ้าขืนเอาแต่ก้มหน้าอยู่แบบนั้นคงคุยกันไม่รู้เรื่องพอดี เธอคงเข้าใจใช่ไหม “ลูกพีชต้องทำอะไรบ้างคะ” หญิงสาวเลือกที่จะพูดเกี่ยวกับงาน ถามในส่วนที่ตัวเองได้รับผิดชอบ เธอรู้แค่ว่าโต๊ะทำงานของเธออยู่ในห้องกับเขาเท่านั้น แล้วไม่รู้ว่าหน้าที่ของตัวเองต้องทำอะไรบ้าง “แก้ไม่หายเลยนะนิสัยแบบนี้” นิสัยอวดดีทำเป็นเก่งทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เรื่องห่าเหวอะไรเลย ถ้าไม่ติดว่าพ่อสั่ง เขาคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก “พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ” ก่อนที่เธอจะเถียงกลับมาอย่างไม่ยอม เมื่อก่อนเธออาจจะยอมให้เขาว่า แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เธอไม่ใช่ลูกพีช คนอ่อนแอที่เขาเคยกระทำในเมื่อก่อน แล้วไม่ต้องถามหาความอ่อนโยนกับเธอที่มีต่อเขา เธอทิ้งมันไปหมดแล้ว “อย่าปากดีลูกพีช ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ” “ช่วยแจ้งงานด้วยค่ะ” “ไปชงกาแฟมาให้ฉัน” “อันนี้เกี่ยวกับงานด้วยไหมคะ” “อย่ายอกย้อน” “ไม่ได้ยอกย้อนค่ะ แค่อยากรู้ว่าเกี่ยวกับงานด้วยหรือเปล่า” หรือเป็นเพราะความไม่ชอบส่วนบุคคล ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เธอจะได้ไม่ต้องไปทำตามคำสั่งของเขา หน้าที่ของเธอคือมาฝึกงาน ไม่ได้มาให้ใครแกล้ง ฉะนั้นเขาควรทำความเข้าใจใหม่ซะ “ถ้าบอกว่าเกี่ยวล่ะ” “รอสักครู่คะ” หญิงสาวหมุนตัวเดินออกจากห้องเพื่อไปชงกาแฟมาให้ชายหนุ่ม เธอไม่รู้หรอกนะว่าเขากินกาแฟรสชาติไหน เอาเป็นว่าเธอจะชงตามใจตัวเองก็แล้วกัน เธอไม่อยากเสวนากับเขาไปมากกว่านี้ อยากรีบทำงานของตัวเองให้เสร็จจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน “อวดดี” แผ่นดินว่าตามหลังหญิงสาว เขาเกลียดที่สุดคือพวกผู้หญิงอวดดีใส่ อย่านึกว่าเป็นหลานรักแล้วเขาจะทำอะไรไม่ได้ เธอกำลังคิดผิด “กาแฟค่ะ” ผ่านไปไม่นานหญิงสาวก็นำกาแฟมาเสิร์ฟ เธอวางมันลงบนโต๊ะด้วยความเบามือ จากนั้นก็ยืนนิ่งเพื่อรออีกคนสั่งงาน ระหว่างที่รอแผ่นดินสั่งงานกับตัวเอง เธอเอาแต่ยืนมองเขายกแก้วกาแฟขึ้นไปสูดดมกลิ่น แล้วจิบมันเล็กน้อยก่อนที่เขาจะนำมันวางลงที่เดิม “รสชาติห่วยแตก” “งั้นพี่ก็คงต้องไปชงเองแล้วล่ะค่ะ” “เพื่อนเล่น?” “^^” “วันนี้ฉันมีนัดคุยงานกับลูกค้าข้างนอก” “ค่ะ” “เธอต้องไปกับฉัน” “ทำไมต้องเป็นลูกพีช” เธอเพิ่งมาทำงานวันแรก ยังไม่รู้เกี่ยวกับเนื้องาน คงไม่เหมาะหากจะให้เธอออกไปพบลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำ พี่แผ่นดินควรเลือกพนักงานที่เป็นงานมากกว่านี้ เช่น เลขาที่อยู่หน้าห้อง “ฉันเป็นเจ้านาย เป็นคนจ่ายเงินเดือน ฉันอยากให้ใครไปมันก็เรื่องของฉัน” “รับทราบค่ะ” ในเมื่อเขาอยากให้เธอไปมากนัก เธอก็จะไปให้ แต่หากคำถามไหนที่ลูกค้าถามมาแล้วเธอไม่สามารถตอบได้ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าเธอเช่นกัน “ก็ดูเข้าใจง่ายนี่ แล้วจะทำให้ฉันหงุดหงิดทำไม” “ลูกพีชขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เธอเหลือบไปเห็นกองเอกสาร คิดว่าน่าจะเป็นงานที่เธอควรได้รับผิดชอบ เธอควรเอาเวลาที่มายืนเถียงเขาอยู่ตรงนี้ไปทำงานไม่ดีกว่าเหรอ “เชิญ” ภายในห้องทำงานกลับมาเงียบอีกครั้ง ทั้งแผ่นดินและลูกพีชต่างก็ก้มหน้าทำงานของตัวเองโดยไม่มีใครพูดหรือเอ่ยอะไรออกมา ยิ่งเวลาทำงานแล้วทั้งสองจะเหมือนกันมาก ถึงเวลาเล่นก็คือเล่น เวลางานก็คืองาน ก๊อก ก๊อก “ขออนุญาตครับนาย” คราม เลขาส่วนตัวของแผ่นดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารมากมาย “เอาไปให้เธอ” “ขออนุญาตนะครับคุณลูกพีช” ครามขออนุญาตพร้อมกับวางเอกสารที่ตนนำมาไว้บนโต๊ะหญิงสาว งานบนโต๊ะล้นจนมองไม่เห็นใบหน้าคนตัวเล็ก นี่เขากะจะรับน้องใหม่เลยหรือไง เห็นว่าเรียนจบด้านนี้มาก็อยากจะทดลองงานเธอสินะ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยทำงานในบริษัทมาก่อนก็ตาม แต่เอกสารพวกนี้เธอก็พอจะรู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไรและต้องทำตรงไหน เพราะเธอเรียนสายนี้โดยตรง เอาเป็นว่าเธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วตามน้ำอีกคนไปก็แล้วกัน ภายนอกที่ดูเรียบร้อยแต่ข้างในมันแก่นจนตัวเธอเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้ เวลา 17:00 น. “คะ?” เลิกคิ้วถามคนที่เอาแต่ยืนมองไม่พูดไม่จา “ฉันจะสายเพราะเธอ” “ลูกค้านัดพี่กี่โมงเหรอ” “คำถามนี้เธอไม่ควรถามนะ” “การที่พี่จะเอาไปทำงานด้วย อย่างน้อยพี่ก็ควรแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้พีชทราบ บอกเวลานัดของลูกค้าให้ชัดเจน เพราะถ้าพี่เงียบแล้วมายืนกดดันพีชแบบนี้ พีชก็คงไม่ตรัสรู้ว่าพี่ต้องไปทำงานกี่โมง” “อยากรู้จังว่าอาจารย์ที่นั่นเขาสอนเธอยังไง กลับมาครั้งนี้ดูปีนเกลียวดีนะ” “พีชให้เกียรติคนที่แก่กว่าเสมอค่ะ แต่นี่มันคือเวลางาน เราก็ควรจะจริงจังและเนี้ยบมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอคะ” “หึหึ” ปากเก่ง อวดดีเป็นที่หนึ่ง เขาจะไม่มีทางเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้เลยใช่ไหม ยอมรับว่าเธอเป็นคนที่เก่งและหัวไว เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้จะไปได้สักกี่น้ำ จะรอดูว่าเธอจะทนอยู่กับเขาได้ถึง 3 เดือนหรือเปล่า ถ้าเธอทนได้แสดงว่าเธอเป็นคนที่มีความอดทนสูงอยู่พอตัว “สรุปแล้วพีชต้องวางงานแล้วไปใช่ไหมคะ” “จะทำให้เสร็จก่อนก็ได้นะ” งานยังกองอยู่ล้นโต๊ะ ถ้าจะให้ไปก็สงสารเด็กน้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องรีบมาเคลียร์งานอีก เลทนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้งเพราะงานก็ไม่ได้สำคัญมาก คนที่เขาจะไปคุยงานด้วยก็คือเพื่อนเขาเองไม่ใช่ใครที่ไหน “ความจริงพีชทำงานเสร็จนานแล้วค่ะ แต่เห็นว่าพี่เอาแต่เล่นโทรศัพท์พีชเลยไม่อยากรบกวน” “ว่าไงนะ” เธอบอกว่าเธอทำงานเสร็จแล้ว ตลกหรือเปล่าวะ งานที่เขาให้ลูกน้องไปขนมาไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ “เราจะไปกันเลยไหมคะ” คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย พลางส่งยิ้มให้คนตัวสูงตรงหน้า แผ่นดินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินนำหน้าหญิงสาวออกจากห้องไปโดยไม่รอเธอ ลูกพีชรีบตามคนตัวสูงไปด้วยความรวดเร็ว เห็นว่าตัวสูงหน่อยจะเดินยังไงก็ได้งั้นเหรอ “เราไปกันแค่สองคนเหรอคะ” คนตัวเล็กถามเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ “แล้วทำไมต้องไปกันเยอะ” “โอเคค่ะ” เธอจะไม่ถามเซ้าซี้ก็แล้วกัน เบื่อจะเถียงกับเขา ในระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากบริษัท หญิงสาวก็เอาแต่ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้า ส่วนแผ่นดินก็ทำหน้าที่ขับรถไปเงียบ ๆ เป็นการกลับมาเจอกันในรอบหลายปี ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอกันในระยะกระชั้นชิดขนาดนี้ ทุกอย่างมันดูรวดเร็ว และลงล็อกไปหมด ยอมรับว่าในหัวตัวเองมีแต่คำถามมากมายที่อยากจะถามครอบครัว แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้แค่เงียบแล้วปล่อยให้มันผ่านไป ความรู้สึกของเขามันบอกว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญ เหมือนว่ากำลังมีเรื่องจะเกิดขึ้นกับเขาในอีกไม่ช้า แล้วเขาดันเป็นพวกเซ็นส์แรงด้วยสิ “พี่แผ่นดินสบายดีใช่ไหม” ถ้าจะไม่ถามก็ดูน่าเกลียดไปหน่อย ยังไงซะเราสองคนก็เป็นเพื่อนบ้าน เป็นพี่น้องที่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน ถามสารทุกข์สุกดิบคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง “แฮปปี้” ตั้งแต่ที่เธอไม่อยู่ชีวิตเขามีความสุขมาก ไม่เคยต้องมาคิดหนักที่จะต้องเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง เขารู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน หรือเป็นเพราะเขาไม่เคยรู้สึกกับเธอ เหมือนอย่างที่เธอเคยรู้สึกกับเขามาก่อน “ก็คงจริงแหละ” “ขอไม่ถามนะ” “รู้อยู่แล้วแหละว่าจะไม่ถาม” จากนั้นทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ที่บอกว่าอึดอัดเวลาอยู่กับเธอเขาไม่ได้พูดเล่นนะ เขามีความรู้สึกนั้นจริงๆ แต่ที่ยอม ก็เพราะไม่อยากให้พ่อไปยุ่งกับฝันดี คนที่เขากำลังตามจีบอยู่ในตอนนี้ ใช้เวลาในการขับรถครึ่งชั่วโมงก็มาถึงยังที่หมาย ทันทีที่รถดับเครื่องสนิทแผ่นดินก็ก้าวลงจากรถไปโดยไม่รอหญิงสาว เธอชินกับเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้จะไปเรียนอยู่เมืองนอกหลายปี แต่ก่อนที่เธอจะไป เธอมักจะเอาของเล่นและขนมไปฝากแผ่นดินเสมอ ทว่าเขากลับทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนอยู่ในสายตา ชอบแอบเอาขนมที่เธอให้ไปโยนทิ้ง ของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือขนม อะไรที่เกี่ยวกับเธอแผ่นดินไม่เคยเก็บไว้เลยสักอย่าง เขาทิ้งมันอย่างไม่ใยดี ความรู้สึกของเธอตอนนั้นมันพังไปหมด เธอคิดแค่ว่ามันคงเป็นความรักของเด็กเท่านั้น กระทั่งตัวเองโตขึ้นและเริ่มเข้าใจคำว่ารักมากขึ้น ถ้าเธอได้รู้ว่าความจริงแล้ว นั่นไม่ใช่ความรักของเด็กเลย.. “คุณฟีนิกซ์มารอแล้วครับ” ครามรายงานผู้เป็นนาย “มากับใคร” “คุณฝันดีครับ” “อืม” เมื่อได้ยินชื่อหญิงสาวอีกคน ใบหน้าเย็นชาที่ปรากฏอยู่ในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มอบอุ่นขึ้นมาทันที ลูกพีชมองแววตาที่เปลี่ยนไปของแผ่นดิน มันชัดเจนว่าผู้หญิงคนนั้นคงสำคัญกับเขามาก เธอรู้ได้ยังไงน่ะเหรอว่าคนที่กำลังพูดถึงอยู่เป็นผู้หญิง คงไม่มีผู้ชายคนไหนตั้งชื่อตัวเองว่าฝันดีหรอกนะ ตึก ตึก แอ๊ด~ “รอนานไหมวะ” “ไม่” “ไงแสบ” “สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน” “อยู่ข้างนอกแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกคุณไหม” “แต่ยังเป็นเวลางานอยู่นะคะ” “ใคร” ฟีนิกซ์ชี้ไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใคร แต่เขาก็อยากให้เพื่อนแนะนำให้รู้จัก อย่าลืมว่าเธอมากับมัน “พนักงาน” คำว่าพนักงานที่หลุดจากปากคนตัวโต ทำหญิงสาว หัวเราะในใจ เขาก็ไม่ได้พูดผิดนี่ ก็ถือเป็นพนักงานจริง ๆ “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลูกพีชนะคะ” “ฉันฟินิกซ์” “สวัสดีค่ะดิฉันฝันดีนะคะ” “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณฝันดี” “เช่นกันค่ะ” หญิงสาวทั้งสองแนะนำตัวให้กันและกันรู้จัก ทว่าแผ่นดินกลับไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ที่เห็นลูกพีชดูสนิทสนมกับฝันดีทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกัน “คุณลูกพีชสวยมากเลยนะคะ” “คุณฝันดีเองก็เช่นกันค่ะ” “สรุปเรื่องงานมึงมา” แผ่นดินแทรกบทสนทนาของสองสาว ไม่รู้สิ เขาแค่ไม่อยากให้ฝันดีรู้จักกับเธอ เท่านั้นเอง.. “เธอสองคนออกไปก่อน” “ค่ะ/ค่ะ” เมื่อได้รับคำสั่งทั้งสองก็พากันออกไปรอที่นอกห้อง ปล่อยให้เจ้านายคุยเรื่องงานกันไป ส่วนพวกเธอก็มาทำความรู้จักกันต่อ แล้วดูเหมือนว่าเธอสองคนจะเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ฝันดีเป็นคนที่พูดสนุก พอมาอยู่ด้วยกันกับลูกพีชแล้ว ลูกพีชกลายเป็นคนเงียบไปเลย เพราะฝันดีคุยเก่งมาก “ลูกพีชเป็นแฟนพี่แผ่นดินเหรอ” ความปากไวทำให้ฝันดีเผลอถามถึงความสัมพันธ์ของแผ่นดินและหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเอามาก ๆ ทว่าปากของเธอกลับพ่นประโยคนั้นออกไปแล้ว “ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ” “ก็คุณแผ่นดินกับลูกพีชดูเหมาะสมกันมากเลย” “ไม่หรอก ลูกพีชเป็นแค่พนักงานฝึกงานค่ะ” “จริงเหรอ” “ค่ะ^^” “ช่างมันเถอะ มาคุยเรื่องของเราต่อกันเถอะ” “^^”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD