ไม่ยินยอม

1729 Words
และอีกความสามารถหนึ่งที่โดดเด่น ของลี่มี่ที่คนในทีมยอมรับก็คือ ทักษะแฮกเกอร์ ลี่มี่สามารถเจาะเข้าฐานระบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์ในหน่วยงานต่างๆได้โดยง่าย เพราะเรียนรู้และฝึกฝน ทักษะแฮกเกอร์ มาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น ก่อนที่จะเข้าร่วมทีมหน่วยรบพิเศษเสียด้วยซ้ำ พอได้เข้าร่วมทีม ก็ได้ฝึกฝนและพัฒนาจนกลายเป็นมือแฮกเกอร์อันดับต้นๆขององค์กร บริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารแปรรูปทุกชนิด ของตระกูลลู่ “เจ้านายครับ มีข่าวเพิ่มเติมจากคนงานในตระกูลเฉิน ที่ผมซื้อขายข้อมูลกันอยู่ครับ” “อืม ว่ามา” ลู่เสียนพอได้ยินคำว่าตระกูลเฉิน ก็ใจกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถเก็บสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้ดังเดิม “วันนี้คุณหนูเฉินกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ และพูดคุยธุระสำคัญกันครับ” “ธุระอะไร” วินาทีนี้ลางสังหรณ์บางอย่างของลู่เสียนเริ่มทำงานทันที ชายหนุ่มจึงหันมาตั้งใจฟังคำบอกเล่าจากเลขาหนุ่ม “เธอจะถอนหมั้นกับเจ้านายครับ และพ่อแม่ของคุณหนูเฉิน ก็ยินยอมพร้อมใจแล้ว อีกไม่กี่วันคงเข้าไปคุยเรื่องถอนหมั้นกับคุณท่านทั้งสอง” ลู่เสียนพอได้ยินว่า เฉินลี่มี่ต้องการถอนหมั้นกับตน ชายหนุ่มรู้สึกไม่ยินยอมในหัวใจขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตัวเขา ไม่ได้ต้องการหมั้นหมายกับเฉินลี่มี่เลย ทั้งยังต้องการถอนหมั้นอยู่เสมอ แต่พอได้ยินว่าหญิงสาวต้องการถอนหมั้นเข้าจริงๆ ประกอบกับที่ไม่ได้พบเจอคู่หมั้นสาวมาเป็นเดือนแล้ว ชายหนุ่มจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงมีแววตาที่มืดครึ้มขึ้นมาให้เลขาหนุ่มเห็น จนถงอี้เลขาของลู่เสียน อดที่จะขนลุกขึ้นมาไม่ได้ “มีงานอะไรอีกไหม ฉันจะรีบออกไปธุระ” ลู่เสียนเอ่ยถามถงอี้เลขาหนุ่มออกไปทันที เพราะตอนนี้ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว “ไม่มีแล้วครับเจ้านาย” ถงอี้ รีบตอบทันทีเพราะหวาดกลัวแววตามืดครึ้มของเจ้านายตนเอง . . . . ลู่เสียนขับรถเข้ามาจอดในลานจอดรถ ของคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งชายหนุ่มไม่เคยย่างกรายเข้ามาที่นี่เลยสักครั้ง แต่วันนี้ลู่เสียนรู้สึกร้อนใจแปลกๆ จึงโทรสอบถามคนของเขาที่คอยให้จับตาดูว่า คู่หมั้นสาวไปไหนมาไหนบ้างในแต่ละวัน แล้วได้ความว่า เฉินลี่มี่กลับมาที่คอนโดที่พักของเธอแล้ว ลู่เสียนจึงรีบขับรถตามมาที่คอนโดแห่งนี้ทันที ลู่เสียนสามารถเข้าออกคอนโดของเฉินลี่มี่ได้อย่างสะดวก เพราะเฉินลี่มี่คนเดิมได้แจ้งชื่อ และใบหน้าของคู่หมั้นหนุ่มไว้กับเจ้าหน้าที่ของคอนโด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คู่หมั้นเต็มที่ ในการเข้าพบเธอ แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยใช้สิทธิ์ที่เฉินลี่มี่คนเดิมให้ไว้เลยสักครั้ง จนกระทั่งวันนี้ ที่ชายหนุ่มกำลังใช้สิทธิ์ที่คู่หมั้นสาวเคยให้ไว้กับเขา ลู่เสียนเปิดเลื่อนหาข้อความเก่าๆ ที่เฉินลี่มี่เคยมอบรหัสห้องพักของเธอให้กับเขา แล้วรีบเดินขึ้นลิฟท์โดยสารไปทันที ชายหนุ่มต้องการพูดคุยกับเฉินลี่มี่ ให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ดีๆถึงอยากจะถอนหมั้น ทั้งๆที่เขาเคยเอ่ยปากขอถอนหมั้นมาโดยตลอด แต่เฉินลี่มี่ก็ไม่เคยยอมถอนหมั้นเลยสักครั้ง และลู่เสียนก็ยังไม่เข้าใจตนเองด้วยว่าเหตุใดถึงต้องร้อนใจเช่นนี้ จึงได้มาเข้าพบคู่หมั้นสาวในเวลานี้ โดยไม่ได้บอกกล่าวกับเธอไว้ก่อน ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด…….. ลี่มี่ที่กำลังทำอาหารเย็นอยู่ในห้องครัว ถึงกับตกใจที่ในขณะนี้ที่หน้าประตูห้องพัก กำลังถูกใส่รหัสเข้ามาโดยใครสักคน ที่คงรู้รหัสห้องพักของเธอเป็นอย่างดี เพราะไม่มีสัญญาณเตือนว่ากดเลขผิดเลยสักครั้ง ลี่มี่เดินไปตรงประตูห้องพักด้วยแววตานิ่งสงบ ในมือเรียวสวยตอนนี้ มีปืนสั้นขนาด 9 มม.ติดไปด้วย ตั้งแต่ลี่มี่ตื่นขึ้นมาในร่างของเฉินลี่มี่ หญิงสาวก็หาซื้อทั้งปืน และอาวุธที่ตนเองชื่นชอบอย่างลับๆไม่เปิดเผยตัวตน ดังนั้นในห้องพักในเวลานี้ จึงเต็มไปด้วยอาวุธสังหารที่ลี่มี่ถนัดทั้งนั้น แอ๊ดดดดดดดด…….. “แกเป็นใคร ต้องการอะไร” น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยกระซิบถามชายหนุ่ม ที่หันหลังให้เธอเพราะกำลังเอื้อมมือไปปิดประตูห้องพักอยู่ ปืนสั้นในมือของหญิงสาว ก็จ่อเข้าไปที่ข้างลำตัวของชายหนุ่มทันที เห็นทีว่าถ้าได้คำตอบที่ไม่ชอบใจ คงพร้อมที่จะลั่นไกทันที “อะไรกัน ไม่เจอกันแค่หนึ่งเดือน จำคู่หมั้นตัวเองไม่ได้แล้วหรือ” ลู่เสียนที่รู้สึกว่า มีอะไรมาจ่อที่ลำตัวของเขาก็ตกใจ แต่ก็เก็บอาการได้ดี จึงรีบพูดตอบออกไปทันที พอชายหนุ่มพูดจบ ก็เหลือบมองวัตถุที่อยู่ข้างลำตัวของตนเองทันที คราวนี้ชายหนุ่มถึงกับร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่สามารถเก็บอาการตื่นกลัวไว้ได้อีกแล้ว “เฮ้ยยยยย ปะ…ปืน ลี่มี่คุณจะฆ่าผมหรือไง” “หึหึ ยังไม่ถูกฆ่าก็ร้องเป็นหมาถูกน้ำร้อนลวกแล้ว” ลี่มี่ตอบอย่างขบขัน ทั้งยังขบคิดอยู่ในใจว่า เธอลืมไปได้อย่างไรว่า เฉินลี่มี่ให้รหัสห้องพัก กับผู้ชายคนนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้เขามานอนค้างกับตนเอง!!! “เก็บปืนก่อน ผมไม่ใช่คนร้าย เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ลู่เสียนพยายามสงบสติอารมณ์ตื่นกลัว แล้วหันมาพูดคุยกับลี่มี่ด้วยเหตุผล เพราะเกรงว่าปืนในมือของคู่หมั้นสาวจะลั่นขึ้นมาเสียก่อน “คุณมีธุระอะไร และทีหลังอย่าเข้าห้องของฉันโดยพละการอีก เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะไม่มีเวลาได้ร้องตกใจแบบวันนี้” ลี่มี่เอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ ขณะที่พาชายหนุ่มมานั่งคุยกันที่บริเวณรับแขก ลู่เสียนที่ตอนนี้สงบสติอารมณ์ได้แล้ว ก็มองสำรวจไปรอบๆห้องของลี่มี่ เพราะเขาไม่เคยเข้ามาเลยสักครั้ง ลู่เสียนมองสำรวจได้สักพัก ก็สัมผัสได้ถึงความเรียบง่าย และความเจ้าระเบียบของเจ้าของห้อง เพราะเฟอร์นิเจอร์ในห้องนี้มีเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ของใช้กระจุกกระจิกแบบที่ผู้หญิงชอบซื้อมาตกแต่งห้องก็แทบจะไม่มีเลย ห้องของลี่มี่สะอาดมากทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ การจัดวางข้าวของก็เป็นระเบียบเรียบร้อย และในเวลานี้ชายหนุ่มก็นึกอยากสำรวจหน้าตาของคู่หมั้นสาวที่ไม่ได้พบกันนานอีกด้วย พอสบจังหวะเหมาะ ลู่เสียนก็มีโอกาสได้มองหน้าคู่หมั้น ของตนเองเต็มๆตาเสียที จึงได้เห็นว่าหญิงสาวนั้นสวยงามมากขึ้นหลายเท่าทั้งรูปร่างและหน้าตา จนหัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัว อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อนเลยในชีวิตนี้ วินาทีที่ลู่เสียนได้สบตากับเฉินลี่มี่ ชายหนุ่มมองเห็นแต่แววตาเย็นชาและว่างเปล่า ที่คู่หมั้นมีให้เขา จนหัวใจของลู่เสียนบีบรัดกันจนจุกขึ้นมาในอก แต่ก็ยังพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติเข้าไว้ “จะพูดได้รึยัง ว่ามาทำไม” ลี่มี่ถามออกมาอีกครั้ง เพราะลู่เสียนไม่ยอมพูดอะไรเลย ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องพักของเธอ “ทำไมถึงนึกอยากจะถอนหมั้นเอาป่านนี้” ลู่เสียนเอ่ยปากถามออกมาจนได้ “คุณสกปรก ฉันรังเกียจ และอีกอย่างคุณก็ไม่ได้รักฉันด้วย ส่วนฉันในตอนนี้ก็รังเกียจคุณ สรุปก็เลยถอนหมั้นดีกว่า คุณน่าจะดีใจนี่ แล้วจะรีบมาถามฉันถึงที่พักทำไม เสียเวลาคนกำลังจะทำกับข้าว” ลู่เสียนถึงกับอึ้งไปในคำตอบของลี่มี่ ไม่รู้ว่าเขาจะต้องตกใจคำพูดไหนของเธอก่อน ทั้งกล่าวหาว่าเขาสกปรก ทั้งบอกว่ารังเกียจ และบอกว่าการที่คุยกับเขาเป็นการเสียเวลาทำอาหาร!!! “ผมไม่ถอนหมั้น คุณกล่าวหาผมลอยๆแบบนี้ผมเสียหาย ถ้ายอมถอนหมั้นไปก็เท่ากับว่า ยอมรับในสิ่งที่คุณกล่าวหาผม” ลู่เสียนรีบปฏิเสธการถอนหมั้นทันที ทั้งยังยกเอาเหตุผลข้างๆคูๆขึ้นมาอ้างอีก ในใจของชายหนุ่มตอนนี้กำลังเจ็บปวดที่ถูกลี่มี่กล่าวว่ารังเกียจ และอยากถอนหมั้นกับเขา “ฉันบอกว่าถอนหมั้นนั้นคือถอนหมั้นแล้ว ไม่ได้บอกเล่าให้คุณฟังเพื่อถามความคิดเห็น คุณจะคิดอย่างไรก็เรื่องของคุณ เพราะฉันถือว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉินลี่มี่คนนี้โสด ไม่มีพันธะหมั้นหมายกับใครทั้งสิ้น ฉันจะไปทำอะไรกับใครก็ไม่มีความผิด ส่วนคุณก็เช่นกัน เชิญตามสบาย” “เฉินลี่มี่!!!” ลู่เสียนตะคอกเรียกชื่อลี่มี่ออกมาเสียงดัง เพราะไม่พอใจที่หญิงสาวประกาศว่าตนเองโสด และพร้อมจะมีอะไรกับคนอื่น “ว่าอย่างไรคุณลู่เสียน ถ้าเข้าใจแล้วก็กลับไปเสียทีฉันจะกินข้าว ระวังถ้าฉันหิวมากๆอะไรๆแถวนี้มันจะลั่นขึ้นมาได้” ลี่มี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆทั้งอมยิ้มไปด้วย แต่รอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตา จนลู่เสียนที่มองหน้าหญิงสาวอยู่ตลอดเวลา นึกหวั่นเกรงขึ้นมาเหมือนกัน จึงยอมล่าถอยกลับออกไปแต่โดยดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD