เหมียวรีบออกจากห้องด้วยความเร่งรีบ วันนี้มีรับน้องด้วยสิ ถ้าไปสายต้องโดนทำโทษแน่ ๆ เธอใส่รองเท้าพร้อมกับวิ่งจะออกไปหน้าบ้าน แต่ต้องชะงักเท้า เมื่อโดนเสียงทรงพลังของมารดาเรียกซะก่อน
"เหมียวกินข้าวก่อนสิลูก"
"ไม่ทันแล้วค่ะแม่ สายแล้ว" เธอเอ่ยขณะรีบเดิน
"งั้นเอาแซนวิสกินรองท้องก่อนสิลูก"
แคทหยิบแซนวิสใส่ถุง 2 อันยื่นให้บุตรสาว เธอรีบรับก่อนจะเข้าไปหอมแก้มมารดาเบา ๆ
ฟอดๆๆ
"รักแม่ค่ะ"
"รักเหมือนกัน รีบไปมันสายแล้ว" นางเอ่ยแล้วยิ้มให้บุตรสาว
"ค่ะๆ"
เหมียวรีบขึ้นไปขึ้นรถก่อนจะขับรถมุ่งไปมหาลัยทันที แต่รถติดมากวันนี้คงไปสายมากกว่าเดิมแน่ ๆ หญิงสาวได้แต่โอดครวญในใจ
"ไอ้รถบ้าจะติดอะไรหนักหนา"
สบถออกมาอย่างโมโห ชั่วโมงเร่งรีบรถดันมาติดอีก กว่าจะไปถึงมหาลัยก็สายมากแล้ว
เธอรีบวิ่งไปเข้าแถวกับเพื่อน ๆ ซึ่งตอนนี้ได้รวมตัวกันหมดแล้ว รุ่นพี่มองหญิงสาวตาเขียวปั๊ด จนเธอก้มหน้าหลบสายตาทันที
"เธอชื่ออะไรฉันชื่อเปลวนะ" เปลวเอ่ยทักทายพร้อมกับส่งยิ้มให้เหมียวอย่างเป็นมิตร
"ฉันชื่อเหมียวนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"
"ยินดีที่รู้จักค่ะเช่นกันค่ะ"
"ค่ะ" เหมียวฉีกยิ้มให้เปลวอย่างสดใส
"ส่วนคนนี้วศินเพื่อนเปลวเอง" เปลวชี้ไปที่ผู้ชายที่ยืนข้าง ๆ เขาหน้าตาดีมากๆ แต่ดูนิ่ง ๆ เพียงแค่ได้เห็นหน้าเหมียวก็รู้สึกตกหลุมรัก เขาหล่อ ตรงสเปคของเธอทุกอย่าง
"ฉันชื่อเหมียวนะ ยินดีที่รู้จักค่ะ"
เธอยิ้มหวานให้วศินแต่เขาไม่ยิ้มตอบ เขาปรายตามองหน้าเธอก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
"ผมชื่อชุมพลนะ เรียกพลเฉย ๆ ก็ได้" ชุมพลส่งยิ้มให้เปลว ในขณะที่หญิงสาวส่งยิ้มตองไม่ต่างกัน
"ฉันชื่อเปลวกนก หรือเปลวเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ" เปลวเอ่ยแนะนำตัว
"เปลวสวยจังนะครับ"
"ขอบคุณค่ะ" เปลวยิ้มอาย ๆให้ชุมพล ก่อนจะสนใจมองรุ่นพี่ที่กำลังพูดอยู่ ชุมพลยิ้มแล้วลอบมองเปลวอยู่หลายครั้ง เขารู้สึกชอบเปลวมาก นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่ารักแรกพบ เพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึกชอบเปลวกนกมาก
"ศินก็บอกเปลวทุกวันนั่นแหละว่าเปลวสวย" วศินเอ่ยแทรกอย่างไม่พอใจ เขาไม่ชอบให้ใครมาแสดงออกว่าชอบเปลว เขาไม่ต้องการให้เปลวรักใครนอกจากเขา
"..." เปลวหันมาจ้องหน้าวศินด้วยสายตาเรียบนิ่ง ที่ผ่านมาเธอคิดกับวศินแค่เพื่อนเท่านั้น
"เปลวสวยในสายตาศินเสมอ"
"เอ่อคือ…"
"หน้าสวยใจก็สวย"
"วศินก็พูดเกินไป เปลวไม่ได้สวยขนาดนั้นหรอก"
"ก็ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายเห็นผู้หญิงสวยๆ จะพูดแบบนี้ ถ้าสวยนิสัยแย่ผู้ชายก็ว่าสวยน่ารักเหมือนเดิม ไม่กล้าพูดตรง ๆ" เหมียวเอ่ย
"กับคนไม่น่ารักกูก็พูด โดยเฉพาะมึง ขี้เหร่ไม่สวยปากไม่ดีนิสัยสอดเสร่อ"
"อ้าว!!สาบานนะว่าปาก" เหมียวมองหน้าวศินถึงจะปากหมา แต่เธอก็ดันไปรู้สึกดีๆด้วย สงสัยจะบ้าไปแล้ว เหมียวได้แต่คิดอย่างหงุดหงิด นี่เธอเป็นโรคจิตแอบชอบคนที่ด่าตัวเองหรือนี่ บ้าไปแล้ว
"คุยอะไรกัน4คนออกมาเลย ออกมาสิชอบคุยกันมาก ออกมาคุยให้รุ่นพี่ฟังหน่อยสิ" รุ่นพี่ตะโกนแหกปากเสียงดังมากจนทุกคนสะดุ้ง แต่วศินกลับมองเฉย ๆ พร้อมกับล้วงมือในกระเป๋ากางเกงตัวเอง เหมียว วศิน เปลว ชุมพลเดินออกมาจากแถวไปหารุ่นพี่ ตอนนี้ทำหน้าตาเคร่งเครียด
"พี่คงใช้เสียงบ่อย ผมให้ลูกอมพี่คงเจ็บคอ" วศินยื่นลูกอมให้รุ่นพี่
"ไหนใครพูดเรื่องอะไรกัน พูดให้รุ่นพี่ฟังสิ" รุ่นพี่ตะโกนเสียงดังจนหูจะแตก กว่าจะผ่านกิจกรรมรับน้อง หูได้หนวกกันพอดี เหมียวได้แต่ค่อนขอดในใจ
"..."
"ไม่มีใครพูดต้องโดนทำโทษ โดยเฉพาะไอ้หน้าเสร่อนี่" รุ่นพี่ว้ากตะโกนใส่หน้าวศิน วศินเอามือปิดจมูกตัวเองทันที
"ปิดจมูกทำไม!!"
"พี่ปากเหม็นมาก"
"ปากดีแบบนี้โปะแป้งทาสีทั้งสี่คนเลย ไอ้พวกไม่เคารพรุ่นพี่" รุ่นพี่ตะโกนเสียงดัง ดูจากการแต่งตัวแบรนด์เนมทั้งนั้น ทั้งสี่คนโดนโปะแป้งทาสีไปหมดทั้งตัว
"เข้าตาเลย" เปลวใช้มืขยี้ตาวศินจะเข้าไปดู แต่ช้ากว่าชุมพล วศินโดนรุ่นพี่โปะแป้งเต็มตัวไปหมด วศินแกล้งเซล้มไปโดนตัวรุ่นพี่ ทำให้รุ่นพี่เลอะไปด้วย
"ไอ้เวรนี่ ไปวิ่งกลางแดดทั้งสี่คนเลย"
ฉันวิ่งกลางแดดเปลววิ่งมาใกล้ ๆ เหมียวก่อนจะเริ่มวางแผนบางอย่าง
"เหมียวแกล้งเป็นลมเลย เดี๋ยวเปลวจัดการที่เหลือเอง" เปลวเอ่ย
"ได้ ๆ" เหมียววิ่งไปสักพักก่อนจะล้มลงกับพื้น แกล้งเป็นลมตามแผนของเปลว เปลววิ่งมาก่อนจะตะโกนเรียกรุ่นพี่
"ช่วยด้วยค่ะเหมียวเป็นลม"
น่าจะเป็นรุ่นพี่วิ่งเข้ามา สังเกตจากเสียงฝีเท้าหนักๆ สักพักเหมียวก็รู้สึกว่าตัวเองถูกอุ้ม พร้อมกับถูกปฐมพยาบาล การรับน้องผ่านไปเรื่อยๆ เปลวเป็นคนช่วยดูแลเหมียวพร้อมกระซิบแผน
"รุ่นพี่จับนมหนู หนูจะไปฟ้องคณบดีว่ารุ่นพี่จับนมหนู" เหมียวเริ่มโวยวายเสียงดัง รุ่นพี่อีกหลายคนยุติการรับน้องทันที
"เฮ้ย!!พวกพี่ไม่ได้ทำ" รุนพี่เอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
"หนูเป็นพยานได้" เปลวเอ่ย
"ร้ายนักนะ พวกพี่ยอมแล้ว ไม่แกล้งแล้ว"
"คิคิ