ทางด้านนะโมเมื่อเดินผ่านประตูรั้วเหล็กมาแล้ว ก็เห็นเพื่อนทั้งสองกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่กระท่อมหน้าบ้าน จึงเดินเอามะม่วงที่แอบเด็ดมาจากสวนของเพชร จำนวนสองลูกไปวางลงบนแคร่เพื่อไว้แกล้มเหล้า พอก้านเห็นจึงเอ่ยถาม
“ไอ้โมมึงขอมะม่วงน้าเพชรมาเหรอวะ?”
“ระดับกูไม่ต้องขอหรอก”
“แล้วมึงได้ไก่มาต้มไหมวะ” ก้านถามพร้อมกับยื่นแก้วสีใส ที่มีเหล้าขาวให้นะโม เมื่ออีกคนทิ้งตัวนั่งยังแคร่
“ยังไม่รู้เลยว่ะ เดี๋ยวน้าเพชรโทรบอก” สิ้นเสียงทุ้มนะโมก็ยกแก้วเหล้ากระดกดื่ม พอแอลกอฮอล์ไหลลงคอก็อ้าปากเล็กน้อย เพื่อระบายความร้อนออกทางปาก จากนั้นก็ส่งแก้วคืนให้ก้าน แล้วนั่งคุยกันต่อพร้อมกับกินเหล้าให้เต็มที่
เนื่องจากคืนนี้ก้านและไม้นอนที่นี่ ส่วนพรุ่งนี้ก็จะเดินทางกลับบ้านแล้ว ซึ่งไม่รู้ทั้งสามจะมีเวลามานั่งกินเหล้าด้วยกันเหมือนเช่นตอนนี้อีกเมื่อไหร่
ในขณะชายหนุ่มทั้งสามคน นั่งพูดคุยพร้อมกับดื่มเหล้า และกินมะม่วงแกล้มไปด้วย จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังมาจากหลังบ้าน ทั้งสามจึงหันไปมอง ก่อนจะเพชรเดินอุ้มไก่ตรงมายังกระท่อม
นะโมเห็นเช่นนั้นจึงรีบหยิบมะม่วงที่วางอยู่บนแคร่ และในมือของก้านที่กำลังจะยกขึ้นแทะแกน โยนทิ้งหลังกระท่อมทันที จากนั้นก็หันไปเอ่ยถามเพชรด้วยท่าทีปกติ
“ได้ไก่แล้วบ่น้าเพชร” (ได้ไก่แล้วเหรอน้าเพชร) โดยการกระทำของเขาเมื่อครู่ อยู่ภายใต้ความสงสัยของเพื่อนทั้งสอง แต่ก็ไม่มีใครถามอะไรออกมา
“แม่น” (ใช่)
“จักบาทครับน้า” (เท่าไรครับน้า)
“มึงเอาไปต้มกินโลด” (มึงเอาไปต้มกินเลย)
“ขอบคุณครับ น้าเพชรกินนำกันบ่?” (ขอบคุณครับ น้าเพชรกินด้วยกันไหม?)
“บ่ หมู่สูกินโลด” (ไม่ พวกมึงกินเลย)
เมื่อได้ยินคำตอบ นะโมก็เดินไปรับไก่จากเพชร แล้วหันไปบอกเพื่อนทั้งสองที่นั่งมองอยู่
“ไอ้ก้านมึงไปเชือด เดี๋ยวกูก่อไฟต้มน้ำรอ ส่วนไอ้ไม้รอต้ม”
“เออ” เมื่อแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อย นะโมกับก้านก็เดินไปยังครัว ที่ต่อเติมจากหลังบ้าน
เมื่อเดินเข้ามาในครัว นะโมก็จัดการก่อไฟ พอไฟได้ที่ก็ยกหม้อตั้งบนเตาถ่าน เพื่อต้มน้ำถอนขนไก่ ในเวลาที่นะโมกำลังนั่งรอน้ำเดือด ก้านก็เดินถือไก่เข้ามาในครัว ก่อนจะวางในกะละมังที่นะโมเตรียมไว้
ส่วนนะโมพอน้ำเดือดก็ยกหม้อ เทน้ำใส่กะละมัง ขณะที่หูนั้นฟังก้านเอ่ยบอก
“มึงถอนขนไก่นะ เดี๋ยวกูไปบอกให้ไอ้ไม้มาชำแหละ”
“เออ” พอนะโมขานรับก้านก็เดินไปยังกระท่อม เห็นไม้กำลังคุยกับเพชรอยู่ก็ไม่ได้สนใจอะไร หากแต่ว่าถ้าไม่เห็นเพื่อน กำลังจะยื่นเหล้าขาวไปให้เพชร ตนจึงรีบตะโกนออกไป
“ไอ้ไม้!”
ทางด้านเพชรพอหันไปเห็นก้านกำลังเดินมา ตนจึงเอ่ยบอกไม้ที่นั่งอยู่กระท่อม
“ขาดเหลืออะไรก็บอกให้ไอ้โมไปเอานะ”
“ขอบคุณครับ” สิ้นเสียงไม้ เพชรก็เดินลัดสวนมะม่วงของตนกลับบ้านทันที ส่วนไม้ก็หันไปถามก้านในเรื่องที่ค้างคาใจ...
“เมื่อกี้มึงเรียกกูทำไม?”
“ก็มึงกำลังจะส่งเหล้าให้น้าเพชรกิน”
“ทำไมวะ?”
“ก็เขาไม่กินเหล้าไง” ได้ยินคำพูดของก้าน ไม้ก็ถึงกับคิ้วขมวดมุ่น แล้วถามออกไป
“ใครบอกมึง ว่าเขาไม่กินเหล้า?”
“ถามมาก มึงไปชำแหละไก่ได้แล้ว เดี๋ยววันนี้ก็ไม่ได้แดกกันพอดี”
“เออ” พูดจบไม้ก็เดินออกไปทันที ทำให้ที่กระท่อมมีเพียงก้านนั่งอยู่ลำพังคนเดียว...
ทางด้านนะโมหลังจากถอนขนไก่เสร็จก็ให้ไม้จัดการต่อ ก่อนจะเดินไปหาก้านที่กระท่อม
เวลาเดินไปเรื่อย ๆ กระทั่งต้มไก่เสร็จ ทั้งสามก็นั่งซดกินแกล้มกับสี่สิบดีกรี พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนานกระทั่งช่วงเย็น ขณะกำลังติดลมกับน้ำเมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังมาจากทางหลังบ้าน ทั้งสามจึงหันไปมอง พอนะโมเห็น พร้อม รุ่นน้องของตนจึงรีบเอ่ยชวน
“พร้อมมากินเหล้านำกัน” (พร้อมมากินเหล้าด้วยกัน) พร้อมได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าตอบกลับ ก่อนจะหันไปยังก้านกับไม้แล้วไหว้ตามมารยาท เมื่อหยุดยืนข้างกระท่อม มือหนาก็ยื่นไปรับแก้วเหล้าจากรุ่นพี่ที่ส่งให้โดยไม่คิดจะปฏิเสธ
“อ้ายขนของแล้ว แล้วบ่?” (พี่ขนของเสร็จแล้วเหรอ)
“แม่น ของอ้ายมีบ่หลาย” (ใช่ ของพี่มีไม่เยอะ)
“ขาดเหลือหยังกะบอกเด้ออ้ายโม” (ขาดเหลืออะไรก็บอกนะพี่โม)
“ขอบใจเด้อบักหล่า” หลังจากยกแก้วที่นะโมให้แล้ว พร้อมก็ทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างนะโม แล้วส่งแก้วคืนให้ไม้ จากนั้นทั้งสี่ก็นั่งพูดคุยกัน
ทางด้านไม้ขณะกำลังจะรินเหล้า พอเห็นว่าเหล้าขาวขวดใหญ่ที่ซื้อมาใกล้จะหมดแล้ว จึงเอ่ยบอกนะโมที่กำลังนั่งคุยกับพร้อมอย่างออกรส
“ไอ้โมเหล้าจะหมดแล้วว่ะ”
“เออ เดี๋ยวกูไปซื้อใหม่”
“เดี๋ยวผมไปซื้อให้”
“จังซั่นพร้อมเอาตังค์นำอ้ายไปซื้อ” (ถ้างั้นพร้อมเอาตังค์กับพี่ไปซื้อ) ขณะนะโมกำลังจะล้วงแบงก์สีเขียวสี่ห้าใบที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีน เพื่อให้พร้อมไปซื้อเหล้าทว่า
“บ่ต้องอ้ายโม เดี๋ยวผมออกเอง” (ไม่ต้องพี่โม เดี๋ยวผมออกเอง)
“อ้ายบ่ปฏิเสธเด้ะ” (พี่ไม่ปฏิเสธนะ)
“บ่ต้องปฏิเสธดอก ผมอยากเลี้ยงอีหลี” (ไม่ต้องปฏิเสธหรอก ผมอยากเลี้ยงจริง ๆ)
แม้นะโมจะเกรงใจไม่น้อยที่ต้องให้รุ่นน้องเลี้ยง แต่เพราะตัวเขายังอยากดื่มอยู่ จึงเลือกไม่ปฏิเสธ เพราะถ้าหากจะให้เลี้ยงเหล้าอีกขวด ก็กลัวว่าวันนี้เงินจะจมกับค่าเหล้าหมด ทำให้ชีวิตในวันข้างหน้าลำบาก เพราะต่อจากนี้นะโมต้องทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ขอพ่อแม่เหมือนเช่นที่ผ่านมา
ทางด้านพร้อมขณะกำลังจะเดินลัดสวนมะม่วงเพื่อไปซื้อเหล้า ก็ได้ยินเสียงนะโมตะโกนดังจากทางด้านหลัง
“พร้อมอ้ายฝากซื้อน้ำปลาแหน่ ต้มไก่จืดแฮง” (พร้อมพี่ฝากซื้อน้ำปลาหน่อย ต้มไก่จืดมาก) เนื่องจากน้ำปลาที่เอามาจากบ้านแม่มีนิดเดียว ทำให้รสชาติต้มไก่ไม่ถึง ไม่ใช่ว่าเพื่อนของตนนั้นปรุงไม่อร่อย
“น้ำปลาบ่ เดี๋ยวผมบอกพลอยเอามาให้” (น้ำปลาเหรอ เดี๋ยวผมบอกให้พลอยเอามาให้)
“อ๋อได้”
หลังจากพร้อมเดินออกไปแล้ว ทั้งสามก็นั่งดื่มเหล้ากันต่อ ไม่นานก้านก็ลุกไปเข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกปวดท้อง
ส่วนนะโมกับไม้ก็นั่งคุยกันต่อ กระทั่งนะโมเริ่มปวดฉี่ จึงหันไปมองยังประตูห้องน้ำ ที่ปิดสนิทอยู่จึงบ่นอุบอิบให้เพื่อนตัวเอง
“ไอ้ก้านมันเข้าห้องน้ำหรือหลับวะ?”
“มึงเดินไปดูมันดิ๊”
“เออ ๆ” สิ้นเสียงทุ้มนะโมก็ดันตัวลุกขึ้นจากกระท่อม แล้วเดินไปยังห้องน้ำ ก่อนจะเคาะประตูรัว ๆ พร้อมกับเรียกคนที่อยู่ข้างใน
“ไอ้ก้านขี้เต็มโถส้วมแล้วมั้ง นานฉิบหาย”
“สัส มึงมีอะไร?” คนที่กำลังท้องไส้บิดเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เมื่อเพื่อนมารบกวนในเวลานี้
“ใกล้เสร็จยังกูปวดเยี่ยว”
“มึงไปเยี่ยวหลังบ้านเลย”
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้น เพราะมึงเข้านานฉิบหาย” พูดจบนะโมก็เดินอ้อมไปยังข้างหลังครัวเพื่อยิงกระต่าย
เมื่อได้จุดแล้วมือหนาก็เลื่อนลงปลดกระดุมกางเกงออก จากนั้นก็ควักท่อนเอ็นลำใหญ่ ที่อยู่ภายใต้กางเกงในสีขาวสะอาดออกมาข้างนอก เลื่อนมืออีกข้างไปจับเสาหลักเขตเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้ม เนื่องจากมึนเมาเพราะดื่มเหล้าเข้าไปเยอะ จากนั้นก็ปลดปล่อยให้รู้สึกโล่ง
ในเวลาที่ยืนฉี่ดวงตาหวานฉ่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ก็มองเข้าไปยังสวนมะม่วง ไม่นานก็ก้มลงมองยังของตัวเอง ก่อนจะยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ กับความใหญ่ที่พ่อให้มา
พอปลดปล่อยเสร็จนะโมก็สะบัดสิ่งที่จับอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็เตรียมเก็บความเป็นชายเข้าที่เดิม
แต่ทว่า…จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคู่หนึ่ง ดังมาจากข้างหน้า ใบหน้าหล่อเหลาปนทะเล้นจึงเงยขึ้นมอง