“นี่คุณ ฉันไม่ใช่สิ่งของนะ” เหมือนฝันที่ไม่อยากมีเรื่องเลยเอาแต่นั่งสงบปากสงบคำ แต่กลับพูดราวกับเธอเป็นสิ่งของแบบนั้นมันใช้ได้ที่ไหน
แม้จะไม่ชอบมีเรื่องมีราวให้วุ่นวายแต่ก็ไม่ใช่จะให้คนอื่นมาดูถูกกันอย่างไรก็ได้นะ
“หึ” ธามไทและดินแดนมองหน้าอย่างรู้กัน ขณะที่สีหน้าของพวกเขาฉายแววสนุกสนาน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนกล้าขึ้นเสียงใส่อคินณ์
“นั่นสิ เธอมันมีค่าน้อยกว่าสิ่งของซะอีก เพราะต่อให้เอาเธอไปขายก็ไม่รู้จะได้เงินพอซื้อรองเท้าที่ฉันใส่สักคู่ไหม”
“แล้วคนปากหมา ๆ อย่างคุณมันมีค่ามากนักหรือไง”
“เธอ !”
“เฮ้ย ใจเย็น ๆ ก่อน” ดินแดนที่เห็นว่าทั้งสองดูท่าจะยั้งอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่ก็รีบเข้ามาห้าม แก้วน้ำเย็น ๆ ถูกยัดใส่มือเหมือนฝันให้เธอดื่มเพื่อจะได้ใจเย็นลง แต่มันไม่ได้ช่วยนัก เหมือนฝันจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน
“เพิ่งเคยเห็นคนกล้าเถียงไอ้คินณ์นะเนี่ย” ธามไทที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ เอ่ยขึ้นและนั่นทำให้คนที่อามณ์ไม่ดีตวัดสายตามองอย่างเอาเรื่อง
“พวกมึงหุบปากสักทีเถอะ”
“ก็มันจริงนี่หว่า”
“น่ารักแต่เจ้ามารยามึงชอบไหมล่ะ”
“มึงหมายความว่าไง”
“ก็ยัยนี่แหละลูกเมียน้อยพ่อกู”
“เฮ้ย แต่ดูเขาไม่ได้เป็นอย่างที่มึงเคยเล่าเลยนะ” ดินแดนทักท้วง เพราะอคินณ์เคยเล่าว่ามีปลิงมาเกาะกินพ่อมัน แต่จากที่เห็นเหมือนฝันเมื่อกี้เธอดูไม่ได้มีท่าทางแบบนั้นสักนิด เพราะทวีทรัพย์สกุลที่มีเงินล้นฟ้าแต่ทั้งตัวหญิงสาวไม่มีเครื่องประดับหรือกระเป๋าราคาแพงเลยสักชิ้น
“นั่นดิ มึงอคติเกินไปไหมวะ”
“อคติเหรอ พวกมึงก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้น”
“เออ...กูรู้ แต่แม่ง” ธามไทสบถอย่างหงุดหงิดเพราะอคินณ์เชื่อมั่นในสิ่งที่มารดาปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจนไม่ยอมเปิดใจรับฟังอะไร
“ถ้าเกลียดขนาดนั้นแล้วมึงจะพาน้องเขามาทำไมวะ”
“คินณ์ขา แอนมาแล้วค่ะ”
สิ้นประโยคของธามไท คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่ควงที่นานที่สุดของอคินณ์ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน
หญิงสาวทั้งสามเป็นที่คุ้นหน้าค่าตากันอยู่แล้วเพราะเป็นคนดังในมหาวิทยาลัย แต่ที่ธามไทกับดินแดนไม่เข้าใจคือไอ้คินณ์มันเรียกพวกเธอมาทำไม
อย่าบอกนะ...
“ไอ้คินณ์มึงคิดจะทำอะไร”
“นี่ใครเหรอคะคินณ์” เหมือนฝันที่เพิ่งเดินกลับมาถึงโต๊ะ มองคนที่มาใหม่ด้วยสีหน้าสงสัย อีกทั้งที่นั่งเดิมของเธอยังมีสาวสวยในสุดสีแดงสดสุดเซ็กซี่นั่งอยู่แล้วด้วย และไม่ใช่แค่นั่งเพราะเจ้าหล่อนใช้ร่างอ้อนแอ้นพิงซบต้นแขนของอคินณ์อีกต่างหาก
“คนใช้ที่บ้านฉันเอง” เหมือนฝันยืนนิ่ง เธอไม่ได้อยากป่าวประกาศว่าเป็นครอบครัวเดียวกับเขา และการเป็นสาวใช้ก็ไม่ได้แย่ แต่สิ่งที่เธอไม่ชอบคือสายตาที่มองมาอย่างเย้ยหยัน
แอนนาที่ได้รู้สถานะของผู้หญิงหน้าจืดก็ไล่มองเหมือนฝันตั้งแต่หัวจรดเท้า และมันยังเต็มไปด้วยแววตาดูถูก
“คินณ์ใจดีจังเลยนะ พาคนใช้ที่บ้านมาเที่ยวด้วย”
“เด็กมันจะได้รู้สถานะตัวเองหน่อย”
“ถ้าคุณจะอยู่ที่นี่อีกนานช่วยไปส่งฉันก่อนได้ไหมคะ” เหมือนฝันไม่สนใจคำพูดกระแนะกระแหน เธอเอ่ยความต้องการของตัวเอง
“นี่เธอน่ะ เป็นแค่คนใช้มาสั่งคินณ์ได้ยังไง” แอนนายืนกอดอกประชันหน้ากับเธอ
“ก็คุณคินณ์เป็นคนพาฉันมานี่” เหมือนฝันตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ดวงหน้าหวานเชิดขึ้น เธอไม่ได้อยากมาแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าที่นี่อยู่ส่วนใดของเมืองหลวง
“คนใช้บ้านคินณ์มารยาทแย่จังเลยนะคะ” น้ำเสียงแข็งกร้าวถูกเปลี่ยนเป็นหวานจ๋อยเมื่อแอนนาหันไปพูดกับร่างสูงที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย
“ที่บ้านคงสั่งสอนมาไม่ดีน่ะ”
เหมือนฝันตวัดสายตาขุ่นเคืองไปยังคนพูด แต่อคินณ์เพียงมองมาที่เธออย่างไม่ยี่หระกับสิ่งที่เขาพ่นออกมา และไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรก็มีคนเอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
“ถ้างั้นให้แอนช่วยดีไหม” แอนนาฉีกยิ้มร้าย ก่อนจะสบตากับสองเพื่อนสนิทที่พามาด้วยอย่างรู้กัน
“เอาสิ” อคินณ์ยกแก้วเครื่องดื่มจรดริมฝีปากราวกับกำลังเจอเรื่องสนุกก็มิปาน
และเหมือนฝันรู้ถึงจุดประสงค์ที่เขาพาเธอมาที่นี่แล้ว...
อคินณ์ตั้งใจพาเหมือนฝันมาที่นี่เพราะอยากให้เจ้าหล่อนรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่สถานะไหน และไม่ควรคิดเรื่องที่จะเข้ามาอยู่ในครอบครัวหรือสังคมเดียวกับเขา
แค่ลูกของเมียน้อยพ่อ ได้เรียนมหาวิทยาลัยที่ดีขนาดนั้นก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว
เหมือนฝันที่เพิ่งรู้จุดประสงค์ของคนใจร้ายก็มองโครงหน้าคมคายอย่างตัดพ้อและไม่ชอบใจ
ทั้งที่เธอคิดว่าเราควรต่างคนต่างอยู่ จะก็มีแต่อคินณ์นั่นแหละที่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตเธออยู่ได้
และที่อีกฝ่ายพาเธอมาที่นี่ก็เพื่อต้องการยืมมือคนอื่นมาจัดการเธอโดยที่เขาไม่ต้องเปลืองแรง และการกระทำของเขามันทำให้เหมือนฝันที่มองอีกฝ่ายแย่อยู่แล้ว แย่ลงไปอีก และเธอก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าความร้ายกาจของอคินณ์จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน
“ว้าว เหมือนจะมีเรื่องสนุกซะแล้วสิ” ดินแดนที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่นานเอ่ยเสียงร่าเริง ทั้งที่ตอนนี้เหมือนฝันโกรธจนลมแทบออกหูอยู่แล้ว ส่วนธามไทที่นั่งอยู่ถัดไปนั่นก็ทำเพียงหัวเราะในลำคอเท่านั้น
เหมือนฝันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นเพื่อนกันได้
นั่นก็เพราะทั้งสามคนเป็นวายร้ายไม่ต่างกันเลยน่ะสิ !
ซ่า
แอนนาเดินมายืนตรงหน้าเธออย่างเอาเรื่อง ก่อนที่น้ำเย็นจัดในแก้วจะถูกเทราดหัวเหมือนฝัน
สองมือกำแน่น เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์เพราะรู้ดีว่ามีเรื่องกับคนรวยคนที่ซวยก็คงไม่พ้นตัวเอง
“อยู่อย่างเจียมตัวหน่อยสิ” แอนนาพูดเสียงขบขัน พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของหญิงสาวอีกสองคนที่ยืนขนาบข้างไม่ต่างจากพวกลิ่วล้อ หรือเพราะพ่อแม่ไม่สั่งสอนอย่างที่คินณ์พูด
ซ่า !
เสียงของเหลวถูกเทราดอีกครั้ง แต่เปลี่ยนตัวผู้ถูกกระทำ เพราะเป็นเธอเองที่หยิบถังน้ำแข็งเย็นจัดเทราดศีรษะคนที่หาเรื่องก่อน
“เย็นดีไหม”
“นี่แก-”
“ทำไม”
แอนนาง้างมือเตรียมจะฟาดใส่ใบหน้าเด็กอวดดี แต่เหมือนฝันหรือจะยอม เธอไม่อยากมีเรื่องแต่ก็ใช่จะยอมให้ใครมารังแกง่าย ๆ เพราะถ้าเธอเอาแต่ยอมให้คนอื่นเอารัดเอาเปรียบจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงทุกวันนี้เหรอ
มือเรียวคว้าข้อมือที่ง้างอยู่กลางอากาศ ก่อนจะกำแน่นให้แอนนารู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่เจ้าหล่อนจะมารังแกได้ง่าย ๆ ก่อนที่เหมือนฝันจะสะบัดอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซล้มลงตรงหน้า