"เดี๋ยวเปิดทีวีไว้ให้จะดูช่องไหนก็เลื่อนเอานะ" แต่เขากลับพูดไปอีกเรื่อง เพชรนราถึงกับสูดลมเข้าปอดลึกๆ ใครที่ไหนมันจะมีอารมณ์ไปดูโทรทัศน์ทั้งที่ถูกจับมัดเอาไว้แบบนี้
"อ้อ อีกอย่างนะนรา ผมดึงสายโทรศัพท์ออกหมดแล้วไม่ต้องคิดจะโทรหาใครนะ แล้วก็ไม่ต้องคิดจะพังประตูออกไปล่ะ มันหนา ไม้สักของแท้อย่างดีเลย กลัวคุณจะเจ็บมือเปล่าๆ" คนฟังได้แต่กัดฟันกรอดๆ อยู่บนเตียงนอนอย่างไร้อิสรภาพ
"แล้วผมก็จะเปิดหน้าต่างเอาไว้ เผื่อคุณอยากชมวิวข้างบ้าน ไม่ต้องคิดตะโกนให้ใครมาช่วยนะ ข้างบ้านเราเป็นบ้านร้างไม่มีใครอยู่ อ้อ แล้วเรื่องที่จะฉีกผ้าม่านมามัดต่อๆ กันแล้วโรยตัวลงไปก็เลิกคิดนะ ผ้าม่านมันแพงผมเสียดาย ฉีกให้ตายก็ไม่ขาดหรอกผ้าหนาอย่างดีขนาดนั้น เผลอๆ เกิดคุณพลัดตกลงไปแข้งขาหักอีกมันจะยุ่ง ผมไม่อยากมีเมียขาเป๋ ไปล่ะนะ" ก่อนจากไปอาธารก็ตรงเข้าไปหอมแก้มหญิงสาวเบาๆ หนึ่งฟอดอย่างอ่อนโยน คนถูกหอมถึงกับเกร็งไปหมดทั้งตัว
"ไอ้บ้า!" เพชรนราตะโกนสุดเสียงหลังจากเขาปิดประตูห้องลง ทำไมเธอจะต้องมาเจอกับคนบ้าๆ แบบนี้ด้วย โลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรม
แต่แล้วการที่ไม่มีอาธารอยู่ด้วยกลับทำให้เธอรู้สึกแย่ขึ้นกว่าเดิม เพราะเสียงครางกระเส่าบาดหูบาดใจเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนไม่เลิก อสิณทำได้อย่างไรกันพาภรรยาคนอื่นมาเริงรักในบ้านของเรา ใช่ เรา อีกหน่อยคงกลายเป็นอดีต ครอบครัวแสนสุขที่เขาแสดงออกก่อนหน้ามันก็แค่เสแสร้ง หญิงสาวมองดูสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่แล้วก็นึกเจ็บใจ จะอสิณ อาธารหรือภรรยาของเขา ทุกคนคือต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ถูกจับมัดมือไพล่หลังแบบนี้แล้วเธอจะนอนยังไง หญิงสาวได้แต่เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องที่ไม่มีของมีคมพอจะนำมาตัดเชือกที่ข้อมือได้ ในที่สุดก็ต้องล้มเลิกความคิดแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเตียง และเมื่อนอนหงายแบบธรรมดาไม่ได้ก็นอนคว่ำมันเสียเลย
อาธารกลับบ้านในสองชั่วโมงต่อมา เขาหอบถุงเสื้อผ้าของเพชรนราและของกินของใช้เข้ามาเต็มมือทั้งสองข้าง บ้านช่างเงียบวังเวงเหมือนเดิม เขาต้องการให้ไอรดารู้จักทำงานบ้านมากกว่าการออกไปพบปะเพื่อนฝูง และอยู่ไปวันๆ แบบเปล่าประโยชน์ แต่ดูเหมือนภรรยาของเขานอกจากจะไม่เข้าใจแล้ว ยังแปลเจตนาของเขาเป็นอื่น หญิงสาวมักจะประชดเขาอยู่เรื่อยว่า ร่ำรวยเสียเปล่าแต่กลับงกไม่เข้าเรื่อง อาธารคิดว่าความรักมันจะทำให้ชีวิตของเขากับไอรดามั่นคง แต่เขาคิดผิด ผู้หญิงคนนี้กลับมองไม่เห็นความรักที่เขามอบให้
‘หนีไปหรือยังนะ’
ชายหนุ่มนำของกินของใช้ไปเก็บไว้ในห้องครัว ส่วนเสื้อผ้าของเพชรนราก็ถือติดมือขึ้นไปด้านบน หัวใจเริ่มเต้นแรงแบบคนตั้งความหวังเอาไว้ แล้วถ้าเกิดผิดหวังล่ะ หากเพชรนราหนีไปจริงๆ เขาก็จะไม่เหลือใครเลยสักคน อะไรทำให้เขาคาดหวังกับภรรยาคนอื่น อะไรทำให้เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา จะอะไรก็ช่างมันก็เป็นไปแล้ว เขาคิดอย่างพาลๆ ก่อนจะตัดสินใจก้าวฉับๆ ไปเปิดประตูห้องนอน
และภาพที่เห็นก็ทำให้เขายิ้มออก เมื่อคนถูกมัดกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงนอน ในสภาพที่ไม่น่าจะสบายเท่าไหร่นัก เขาเดินเข้าไปนั่งบนขอบเตียงเบาๆ แล้วแกะเชือกที่ข้อมือให้หญิงสาว
"หืม" เพชรนราดิ้นขลุกขลักอย่างตกใจ แต่พอเห็นว่าเป็นเขาหญิงสาวก็หยุดแล้วถอนหายใจแทน
"ดีใจเหรอที่เห็นหน้าผม"
"ปากนะนั่นที่พูด"
"อ้าวทำไมมาว่าผมแบบนี้ล่ะ นี่ดูสิ ซื้อของมาฝากเยอะแยะเลย" อาธารดึงเชือกออกจากข้อมือของหญิงสาวจนหมด แล้วชูถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาให้ดูแทน
"ทำไมซื้อมาเยอะขนาดนั้นล่ะ ฉันไม่คิดจะอยู่นี่นานนะ"
"จะอยู่นานหรือไม่ ผมเป็นคนตัดสินใจเองครับไม่ใช่คุณ"
"เฮ้อ รู้ไหมฉันเหนื่อยกับคุณมากเลยนะคุณอาธาร คุณนี่มันเป็นคน…"
"คนบ้า ผมรู้คุณย้ำตลอดเลยจำขึ้นใจ"
"รู้ตัวก็ดี คนบ้าก็ต้องอยู่ในโรงพยาบาลไม่ใช่เพ่นพ่านสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแบบนี้" ไม่เพียงเขาไม่โกรธกลับหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจด้วยซ้ำไป
"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะนรา"
เพชรนราไม่มีทางเลือกนอกจากจะทำตามอย่างเสียไม่ได้ หญิงสาวหอบเสื้อผ้าที่เขาซื้อมาเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ อาธารเลือกชุดลำลองแบบใส่อยู่บ้าน แม้จะเป็นผ้าเรียบๆ แต่เขาก็ซื้อของดีมียี่ห้อมาให้ หญิงสาวปวดเบ้าตาเป็นอย่างมากในตอนนี้ ทั้งร้องไห้ทั้งเสียใจทั้งตกใจมันมาในเวลาเดียวกัน หลับตาลงแน่นก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกมา
"นั่นคุณทำอะไร" กองเสื้อผ้าที่ถูกรื้อออกจากตู้กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง
"กำจัดเสนียด"
"เสนียด?" หญิงสาวปรายตาดูเสื้อผ้าเหล่านั้นก็พบว่ามันเป็นของสตรี ซึ่งจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากภรรยาของเขา
"ยังไงเธอก็เป็นเมียคุณนะคะ"
"เมียแพศยาแบบนั้นผมไม่เอาหรอก" ชายหนุ่มรู้สึกตกใจในคำพูดของตัวเองอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้าเขาทั้งรักทั้งหลง แต่พอรู้เรื่องราวก็เกิดเคียดแค้นจนอยากจะลั่นกระสุนปืนใส่จนหมดแม็กทั้งไอรดาและชายชู้ แต่ตอนนี้ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนที่กำลังยืนทำหน้างงๆ อยู่กลางห้อง ผู้หญิงคนนี้กลับโผล่เข้ามาในชีวิตแบบไม่ได้คาดคิดไว้ก่อน มาทำให้บางอย่างมันเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน
"แล้วคุณจะเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปทำอะไรคะ"
"ทิ้ง" เขาตอบสั้นๆ อย่างไม่แยแส ใช่ว่าจะแค่เสื้อผ้าเท่านั้นที่เขาจะทิ้ง เครื่องสำอางและของใช้อื่นๆ ก็ถูกกวาดใส่ถังขยะเหมือนกัน