บทนำ

1345 Words
สองปีก่อน.. “ว้าว สวยจัง” ใบหน้าเล็กมันแผลบดวงตาใสแป๋วเบิกโพลงใต้หน้าม้าเต่อแหงนมองพลุหลากสีบนท้องฟ้าตอนสามยามด้วยความตื่นตา นุชนารถ ภาวเรศ หรือ จำปา สาวใช้วัย18 ผู้ติดสอยห้อยตามคุณชมนาดมาถึงไร่ชัชชวาลรีบล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือขึ้นถ่ายพลุสีแดงรูปหัวใจได้ทันพอดิบพอดีก่อนท้องนภาที่สวยงามจะกลับคืนสู่สภาพเดิม “อ้าว มัวแต่ยืนบื้ออะไร รีบเข้ามาสิยะหล่อน” “จ้าๆ” หญิงสาวผงกศีรษะรีบก้มลงหยิบกระเป๋าใบใหญ่ของเจ้านายเข้าไปในคฤหาสน์ไม้สักหลังใหญ่ ความยิ่งใหญ่ของเสาไม้แต่ละต้นชนิดที่เธอคนเดียวยังโอบไม่มิด โคมไฟระย้ายักษ์ใหญ่บนเพดานห้องโถงกว้าง และภายในตัวเรือนนั้นยังใช้ไม้เป็นหลัก ผสมกับผนังงานหินอ่อนและเพดานด้านบนสีขาวลวดลายสวยเพิ่มความทันสมัยได้อย่างเหมาะเจาะ “โห สวยมาก” เธออุทานเสียงแผ่วยิ่งกว่าบ้านนอกเข้ากรุง ทั้งที่ตนเองนั้นมาจากเมืองกรุงแท้ๆ ท่าทางเงอะงะของเธอยิ่งทำให้นวลใยได้ใจเข้าไปใหญ่ “หน็อย รบกวนเวลานอนแล้วยังชักช้าอีก!” ไม่เพียงแค่ยืนกอดอกมองเหยียดเด็กสาวผมสั้นถึงติ่งหู สาวใช้รุ่นพี่ยังเหน็บแนมเธอทั้งที่เพิ่งเจอะเจอกันด้วยซ้ำ คนถูกบ่นนั้นยิ่งก้มหัวลงต่ำขณะเดินผ่านหน้าไม่กล้าไม่หืออืออะไรสักแอะในความคิดของเธอยังคงรู้สึกเกรงใจ “นังนวลใย รีบๆไปแบกกระเป๋าช่วยยัยหนูนั่นเลยนะมึง” น้าแจ่ม แม่บ้านวัยสี่สิบเป็นน้าแท้ๆของนวลใยยื่นมะเหงกเคาะกลางกบาลหลานสาวผู้ถือดีอย่างแรง “โอ๊ยย เจ็บนะน้า” “แหม๊ ทำตัวยังกับเป็นเจ้านายกูได้ยินนะมึงบ่นอะไร ดีนะที่คุณชมนาดท่านขึ้นไปบนชั้นสองไม่ได้ยินที่เอ็งบ่นน่ะ เดี๋ยวเหอะมึงจะพูดจะจาอะไรก็ระวังหน่อย” “หนูไม่ได้ว่าคุณท่าน หนูว่านังเด็กนี่ต่างหากล่ะน้า .. เอามานี่ ชิ” นวลใยกระชากกระเป๋าออกจากมือจำปาอย่างไร้มารยาท “เบา เบาๆหน่อยอินี่ เอ๊อ เด็กมันเพิ่งจะมาถึงมึงเล่นข่มซะขนาดนี้ เดี๋ยวเหอะๆ ช่วยกันถือนะเดี๋ยวข้าไปจัดหาที่นอนให้นังหนูมันก่อน” “ไม่ต้องห่วงจ้า แค่รับน้องเบาๆเองน่ะน้า” นวลใยอธิบายอย่างไม่สำนึกก่อนหันมาเหลือกตาใส่เธอ พอลับตาก็ยัดกระเป๋าใบใหญ่ใส่มือเธอตามเดิม ...แค่ย่างกรายเข้ามาก็ดูท่าไม่ดีเสียแล้วจำปาเอ๋ย ไม่รู้จะทนคนนิสัยแย่แบบนี้ได้กี่วัน .. แต่ถึงอย่างไรเสียก็คงได้แค่บ่นในใจ ในชีวิตนี้ไม่กล้าลาออกไปไหนไกลหรอก ต้องทนจนกว่าคุณชมนาดจะพากลับบ้านกรุงเทพนั่นแหละ เธอเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้เจอหน้าพ่อเลย ส่วนหน้าแม่นั้นก็เห็นเพียงลางๆจากรูปถ่ายงานเลี้ยงบ้านคุณท่าน รู้จักเพียงว่า เธอเป็นลูกสาวผู้หญิงที่ชื่อเดือนเพ็ญซึ่งท้องไม่มีพ่อ ทนเป็นขี้ปากแม่บ้านด้วยกันทำงานในบ้านเจ้านายจนถึงวันคลอดก็ทิ้งลูกสาวไว้ใต้ต้นจำปา คุณชมนาดเวทนาทารกน้อยที่ถูกทอดทิ้งจึงให้ความเมตตาเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ส่งเสียจนจบชั้นมัธยมจำปาจึงได้ตามมารับใช้ท่านถึงไร่ชัชวาล คุณชมนาดหย่าขาดกับคุณพิภพคุณปู่ผู้มากรักของชัชวาลโดยแบ่งการเลี้ยงดูบุตรทั้งสองคนคือคุณชัชชายและคุณชยาภา เธอเลือกอยู่กับลูกสาวคนเล็กที่ถอดแบบนิสัยใจคอจากแม่ผู้ที่เลี้ยงดูมาเต็มร้อย คุณชยาภาเป็นนักธุรกิจค้าเพชรสายบุญที่ใครๆต่างก็ยกย่องและนับหน้าถือตาในแวดวงสังคมชั้นสูงซึ่งวีถีทางการใช้ชีวิตต่างจากพี่ชายลิบลับ ชัชชายที่บริหารงานในไร่สืบทอดธุรกิจจากพ่อ มีกิเลส ละโมบไม่รู้จักพอจึงได้พบจุดจบเช่นนั้น ข่าวการเสียชีวิตของชญาณี ลูกสาวคนโตของชัชชายทำให้อาการป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจของคุณชมนาดทรุดหนักจึงได้รับการผ่าตัดทันที หลังจากนั้นทางไร่ชัชชวาลและคุณชยาภาจึงร่วมมือกันปิดข่าวความวุ่นวายให้ท่านทราบเพราะเป็นห่วง ไม่ว่าจะเรื่องของ ชัชชาย ลูกชายคนโตของคุณชมนาดติดคุกต้องข้อหาหลายคดี หรือแม้แต่ตอนชัชวาลโดนยิง จนกระทั่งสุขภาพของท่านแข็งแรงขึ้นมากจึงยอมบอก คุณชมนาดคิดถึงหลานชายและอยากมาอยู่เคียงข้างเสียตั้งวันแรกที่ทราบข่าวด้วยซ้ำ แต่ติดที่จำปาสาวใช้ที่รักใคร่ดั่งลูกหลานยังเรียนไม่จบ รอจวบจนกะทั่งจำปาสอบเสร็จวันสุดท้ายจึงให้หล่อนรีบเก็บกระเป๋าเดินทางมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน “อ่ะนั่นที่นอนเอ็ง นอนรวมๆกันกับข้าและนังนวลใยมันก่อนนะ พรุ่งนี้คุณชมนาดท่านจะว่ายังไงก็ค่อยเปลี่ยนอีกที” น้าแจ่มเดินดุ่มๆนำหน้าหล่อนพลางชี้นิ้วไปที่หมอนและผ้าห่มผืนบางวางอยู่บนฟูกสีแดงขนาดกระทัดรัดตรงมุมห้องติดทางเข้าห้องน้ำ “จ่ะน้า” เธอเดินโค้งศีรษะเมื่อเดินผ่าน หย่อนสะโพกนั่งเหยียดขาพลางบีบนวดเพื่อคลายความเมื่อยล้าหลังจากเดินทางเป็นเวลานานแล้วยังต้องโดนสาวใช้รุ่นพี่เอาเปรียบ ตัวออกสูงใหญ่ดันเลือกถือแค่ใบเล็กเบาๆเพียงหนึ่งใบ ขณะที่เธอขนกระเป๋าใบใหญ่ทั้งสองของคุณท่านขึ้นไปบนชั้นสองกว่าจะจัดของเสร็จใช้เวลาอีกเกือบชั่วโมง “ข้าชื่อแจ่ม ส่วนอีหน้าวอกนั่นชื่อนวลใย มันปากหมาเป็นประจำตั้งใจทำงานของเอ็งไปทำหูทวนลมอย่าถือสานิสัยมันก็พอไม่ต้องคิดมาก ..ว่าแต่เอ็งน่ะชื่ออะไร” “ฉันชื่อจำปาจ่ะ” “จำปา เฮอะ เชยซะไม่มี” “ชื่อมึงมันต่างกับของมันตรงไหนวะอินวลใย หน็อย ตั้งท่ารังเกียจยั้งชื่อนะมึง” “ชื่อนวลใยก็ดีกว่าจำปาแล้วกันล่ะน้า” “ชื่อนี้คุณท่านตั้งให้หนูค่ะ” เธออธิบายเสียงเรียบ ทว่าไม่กล้าเงยหน้าสบตานวลใยเท่าที่ควรนัก แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้สาวใช้รุ่นพี่ยอมหุบปากและเดินสะบัดตูดไปปิดสวิตซ์ไฟเสียดื้อๆ “นอนๆกันเหอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” ดวงตาใสแป๋วกรอไปมาในความมืด อาจจะเพราะแปลกที่จึงทำให้เธอนอนไม่หลับนอนพลิกตัวไปมากระทั่งหยุดนิ่งที่ท่าตะแคงหันไปทางหน้าต่างที่เปิดไว้ สายตาสอดส่องมองท้องฟ้ามืดมิดด้านนอก พร้อมกับความสงสัยว่าใครกันที่จุดพลุสวยงามอลังการเช่นนี้ในยามดึกดื่น ในเวลาตีสี่ที่เงียบสงัดจนได้ยินเสียงแว่วของรถเครื่องจอดหน้าเรือนใหญ่ซึ่งเจ้าของไร่เป็นคนขับเข้ามา “คุณย่ามาถึงแล้วเหรอ” เจ้าของคฤหาสน์ไม้สักและไร่อันกว้างใหญ่ไพศาลเอ่ยถามคนขับรถซึ่งรอพาพวกแม่ครัวไปจ่ายตลาดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “มาแล้วครับ” “มาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ” “ประมาณช่วงตีสามครับคุณชัช” “..ออ งั้นเหรอ” ร่างสูงโปร่งเดินถือเสื้อคลุมตัวนอกพาดไหล่ เสื้อเชิ้ตตัวในถูกปลดกระดุมออกสามเม็ดเผยแผงอกล่ำสัน ใบหน้าคมคายปรากฏรอยยิ้มขณะทอดมองเข้าไปในตัวบ้าน ความรู้สึกต่างจากแต่ก่อนที่มีแต่ความเบื่อหน่ายและต้องจำใจเดินเข้าบ้านอันโออ่าและเงียบเหงาวังเวงหลังนี้ ดีหน่อยที่มีเงินบันดาลสุราและนารีให้คลายเหงาผ่านพ้นคืนวันอันน่าเบื่อ พรุ่งนี้เป็นต้นไป เขาคงต้องกลับให้ตรงเวลาและเลิกพาสาวๆเข้ามาบำเรอกามในบ้านหลังนี้เสียแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD