บทนำ
บทนำ
ย่านชานเมืองจังหวัดภูเก็ต
สายลมเย็นๆ ของยอดใบไม้ใบหญ้าของฤดูหนาวพัดผ่านมาอย่างเชื่องช้าส่งผลให้ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ภายในบ่อน ‘มาริโอ้’ บ่อนเถื่อนที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างเดินทางมาใช้เวลาว่างสุดสัปดาห์กันที่นี่เพื่อมาผ่อนคลายความกังวลต่างๆ นาๆ ไปกับการพนันชั้นสูงยิ่งหนาแน่นไปด้วยผู้คนมากมายที่ต่างมารวมตัวกันเพื่อเสี่ยงดวง เหล่าชนชั้นระดับมหาเศรษฐีพันล้านที่ต่างก็ลงทุนลงลงแรงเดินทางมาไกลเมื่อได้ยินถึงชื่อเสียงที่ร่ำลือกันไม่ขาดสายถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่แห่งนี้
ไม่เว้นแม้แต่ ‘คาร์ล ไดม่อนคอร์ฟ’ ที่มาใช้บริการคาสิโนแห่งนี่เพื่อฆ่าเวลาล่องเรือสำราญสามวันสามคืนกับสาวสวยพราวเสน่ห์ที่มีลีลาชั้นเชิงสักคนที่เขากำลังสอดส่องสายตาควานหาอยู่
หากกล่าวถึงชื่อ ‘คาร์ล ไดม่อนคอร์ฟ’ คงจะมีไม่กี่คนในที่แห่งนี้ที่รู้จักเขา แต่ถ้าหากเอ่ยเรียก ‘เจ้าชายเจ้าเสน่ห์’ คงจะไม่มีใครที่จะไม่มีรู้จักคนๆ นี้อย่างแน่นอน มหาเศรษฐีเจ้าของบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ติดอันดับโลกไหนจะควบตำแหน่งเจ้าของโรงแรมหรูอีกหลายแห่ง นี่ยังไม่รวมทรัพย์สมบัติมากมายที่เขาได้รับตกทอดมาจากมรดกหมื่นล้านจากผู้เป็นพ่อที่เพิ่งจะจากไปเมื่อหลายปีก่อนนั่นอีก...
ชีวิตที่แสนสุขอุราส่งผลให้เจ้าชายนักรักมีความสุขไปกับการใช้เศษเงินของตนเองซื้อหญิงสาวที่ปรารถนาและไม่เคยซ้ำหน้ากันเลยสักวันเดียวเพื่อมาปรนปรือความต้องการของตน
และในคืนนี้เองก็เช่นกัน!
“แกหาแม่สาวที่จะควงไปล่องเรือในวันพรุ่งนี้ได้รึยังวะคาร์ล”
มาคัส เพื่อนคนสนิทเอ่ยถามพร้อมกับสอดสายตาเล้าโลมส่งไปให้หญิงสาวผมบรอนที่นั่งอยู่ไม่ไกลไปพลางๆ เป็นสัญญาณให้เพื่อนรักได้รู้ว่าเขาหาสาวที่หมายปองสำหรับค่ำคืนที่ยาวนานคืนนี้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หนำซ้ำยังหาเจอได้ภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบวินาทีอีกต่างหาก สายตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวจ้องมองเพื่อนรักอย่างท้าทาย
“แกไปจองที่นั่งก่อนมาคัส ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วจะตามไปสมทบทีหลัง พร้อมกับสาวฮอตอกตูมไม้แพ้คู่ขาของแกแน่นอน”
มาคัสพยักหน้ารับก่อนจะเดินแยกไปอีกด้านอย่างรู้งานในขณะที่คาร์ลเฝ้ามองเพื่อนรักที่เดินห่างไปเรื่อยๆ อยู่ครู่และเมื่อรู้ตำแหน่งที่นั่งของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้วร่างกำยำที่อัดแน่นไปด้วยมัดกร้ามภายใต้สูทราคาแพงระยิบจึงค่อยๆ หมุนหันหลังกลับหลังเตรียมจะเดินตรงไปห้องน้ำแต่แค่เพียงหมุนตัวยังไม่ทันที่เท้าหนักๆ จะได้ทันก้าวออกเดินร่างของใครบางคนกลับเดินตรงมาชนเขาอย่างแรงจนร่างนั้นเซถลาเกือบจะล้มลงพื้นโชคยังดีที่มือหนาเอื้อมคว้าเอวคอดรับร่างเล็กเอาไว้ในทันการตามสัญชาตญาณชายหนุ่มที่ว่องไวปราดเปรื่อง
“ขะ..ขอโทษค่ะหวังว่าคุณคงจะไม่เจ็บมากดิฉันไม่ทันระวัง ฉัน..” เสียงหวานดังขึ้นกระตุกกระกักก่อนจะรีบผละร่างของตนเองออกห่างบุรุษแปลกหน้าเป็นการด่วนพร้อมจ้องมองเขาด้วยสายตาหวาดหวั่น
“ไม่เป็นไรครับ อันที่จริงคุณต่างหากที่น่าจะเจ็บเอาการ”
ชายหนุ่มย้อนตอบเสียงเรียบ สายตาคู่สวยยังคงจับจ้องข้อมือบางที่กำลังลูบต้นแขนของหญิงสาวไม่ละสายตา ครั้นเพียงได้เงยขึ้นสูงมองใบหน้าหวานรูปทรงไข่วงวี ดวงตากลมโตคู่สวยที่กำลังหลบสายตาเพราะกลัวจะหลงเสน่ห์ดวงตาคมกริบตรงหน้าเป็นพัลวัน ไหนจะริมฝีปากอวบอิ่มที่ถึงแม้ว่าจะซีตเผือกไร้ซึ่งสีสันให้น่าลิ้มลองดูสักครั้งแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ที่มีอยู่ในใบหน้าของหล่อนลดน้อยหดหายลงไปได้เลยแม้แต่นิดเดียว มันกลับยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้คาร์ลหลงใหลและยากที่จะถอนสายตาออกจนเมื่อเสียงหวานดังขึ้นเพื่อเรียกสติของชายหนุ่มอีกครั้ง...
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวก่อนนะค่ะ” ไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยถามชื่อเสียงเรียงนาม ร่างเล็กก็รีบผลุนผลันเดินห่างออกไปอย่างรีบเร่ง
คาร์ลเฝ้ามองร่างระหงในชุดที่แสนจะเรียบง่ายแต่ทว่าเจ้าของมันนั้นกลับมีใบหน้าที่สวยหวานจนเขาแทบจะละสายตาออกมาไม่ทันการอยู่นานก่อนมือหนาจะเอื้อมตะปบที่กระเป๋ากางเกงของตัวเองหวังจะหยิบกระเป๋ามาจ่ายทิปให้พนักงานในห้องน้ำที่กำลังรอปรนนิบัติตนอยู่ แต่คิ้วหนากลับต้องขมวดเข้าหากันเมื่อค้นพบว่าบางสิ่งที่ควรจะมีในตอนนี้กลับไม่อยู่ซะแล้ว...
“หึ! แม่สาวนักล้วงงั้นเหรอ น่าสนใจดีนี่!!”
“แกมาทำอะไรที่นี่นังน้ำหวาน!!”
เสียงดุดันตวาดก้องไปทั่วก่อนนัยน์ตาสีดำคมกริบจะลอบมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างหัวเสียทันทีเมื่อได้เห็นหน้าเข้าในจังหวะที่ตนเองนั้นกำลังมือขึ้นอยู่กับการเล่นไพ่ตรงหน้า
ธนพล ชายชราสูงวัยรูปร่างอ้วนท้วมตวาดเสียงลั่นทันทีที่เห็นหน้าหวานของลูกติดเมียของตนเองที่จู่ๆ ก็เดินเข้ามาขัดจังหวะการเล่นพนันของตนเสียดื้อๆ ทั้งๆ ที่เขาก็เคยสั่งเอาไว้แล้วว่าไม่ให้มาที่นี่หากไม่มีเรื่องด่วนอะไร
‘น้ำหวาน’ หรือชญาวีร์ กมลรัตน์โสภณ หญิงสาววัยยี่สิบสี่หมาดๆ ที่ต้องมีชีวิตพลิกผันนับตั้งแต่วันที่พ่อซึ่งเปรียบได้เหมือนหัวหน้าครอบครัวจากไปด้วยโรคร้ายและผู้เป็นแม่แต่งงานใหม่กับ ธนพล ผู้ชายซึ่งไม่เคยคิดที่จะหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ทำให้ชญาวีร์ต้องทำใจเรื่องจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ ทันทีที่จบ ม ปลายหญิงสาวก็ต้องเที่ยวหางานทำไปเรื่อยเพื่อให้มีเงินมากพอรักษาผู้เป็นแม่ที่กำลังป่วยหนักเพราะมีหลายโรครุมเร้าอีกครั้งพ่อเลี้ยงที่ค่อยจ้องแต่จะรีดไถเงินจากเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“น้ำหวานมาขอเงินจ๊ะพ่อ แม่ไม่สบายมากต้องไปหาหมอ พ่อมีเงินให้น้ำหวานบ้างไหมจ๊ะ” เสียงหวานตอบกลับไปเบาๆ อย่างหวาดกลัวสายตาลอบมองคนรอบข้างไปมาด้วยความรู้สึกหดหู่หัวใจเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น เพราะแม่ของเธอแต่งงานใหม่กับผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ชีวิตของเธอมันถึงได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเเบบนี้ เพราะไม่ว่าจะทำงานหาเงินมาได้มากแค่ไหนก็ต้องถูกพ่อเลี้ยงแย่งชิงไปทุกครั้งจนมาถึงวันนี้ที่แม่ของหล่อนเริ่มจะทรุดหนักและต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนหล่อนจึงรวบรวมความกล้าเดินเข้ามาสถานที่ที่เต็มไปด้วยอบายมุขแห่งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้
“ฉันไม่มีหรอกโว้ยนังนี่นิ!! ไสหัวแกกลับไปซะก่อนที่ฉันจะโมโห” ธนพลส่งเสียงตอบก่อนจะส่งสายตาเกลียดชังไปให้ลูกเลี้ยงอย่างไม่วางตา หากเธอยอมตกลงไปเป็นเมียน้อยเสี่ยรวยๆ ที่ตนเองนั้นควานหามายื่นให้ป่านนี้เขาก็คงมีเงินใช้สุขกายสบายใจไปแล้ว แต่เพราะความดื้อดึงของอีกฝ่ายมันเลยทำให้แผนการที่วางเอาไว้จำต้องพังไม่เป็นท่าเสียทุกครั้งเพราะมักจะมีคนให้ความช่วยเธอให้เธอนั้นหลุดรอดออกมาทุกครั้งไป
“แต่พ่อค่ะ แม่ไม่สบายมาก แม่อยากให้พ่อกลับบ้านบ้าง กลับบ้านกันเถอะนะจ๊ะพ่อ” ชญาวีร์ยังคงไม่ยอมแพ้เพียรพยายามอย่างหนักจนอีกฝ่ายเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาให้ได้เห็นอีกครั้ง...
“เอ๊ะนังลูกเวรนี่ บอกให้ไปให้พ้นยังไงวะ!!!” ครั้งนี้ไม่พูดเปล่า มือแกร่งสะบัดคนตรงหน้าให้หลุดพ้นก่อนจะเดินหนีไปอีกด้านทันทีที่พูดจบไม่สนใจเลยว่าหญิงสาวตรงหน้าจะทำหน้าเช่นไรเมื่อได้รับคำตอบที่แสนจะใจจืดใจจำ...
น้ำตาหยดใสไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อความสิ้นหวังมาเยือน ครั้นเมื่อเตรียมจะหมุนตัวเดินกลับไปยังที่ที่จากมาก็พบกับร่างสูงใหญ่ของผู้ชายปริศนาสองคนยืนดักหน้าเอาไว้ซะก่อน ดวงตาใสซื่อค่อยๆ เงยขึ้นอย่างช้าๆ ด้วยความสับสนแต่ก่อนที่จะได้ทันเอ่ยถามหนึ่งในนั้นก็รีบพูดแทรกถึงสิ่งที่ต้องการจากหล่อนเข้าเสียก่อน...
“ช่วยไปกับพวกเราหน่อยได้ไหมครับ”
“เอ๊ะ! ไปไหนเหรอค่ะ แล้วนี่คุณจะลากฉันไปไหน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันบอกให้ปล่อยไง ช่วยฉันด้วยค่ะ นี่คุณ!! ช่วยด้วยค่ะ!!”
แม้จะตะโกนสุดเสียงเพื่อร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่มีใครเลยสักคนจะปรายตามาสนใจหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่กำลังถูกชายฉกรรจ์ลากไปอีกด้านของบ่อนมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่งที่ชญาวีร์เองก็ยังงุนงงว่าตนเองนั้นได้เผลอไปทำอะไรขัดหูขัดตาใครที่นี่เข้ารึเปล่า
จนกระทั่งร่างเล็กถูกผลักลงบนโซฟาหรูสีแดงเพลิงในห้อง VIP ที่พวกนักพนันกระเป๋าหนักมักจะเช่าเพื่อเป็นรังรักให้กับตนเองและหญิงสาวที่เดินให้บริการในบ่อนในเวลาต่อมา ใบหน้าหวานตวัดมองร่างสูงใหญ่ของชายฉกรรจ์ด้วยสีหน้าโกรธจัด แก้มเนียนใสเริ่มจะขึ้นสีแดงระเรื่อจนเมื่อเสียงเข้มของใครบางคนที่นั่งไขว้ห้างรอหล่อนอยู่ก่อนแล้วดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ...