“ผมไม่ต้องการผู้ช่วย หรือเลขา หรืออะไรทั้งนั้น”คนพูดบอกเสียงไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
“ไหน ไอ้เคนมันว่าแกประกาศรับผู้ช่วย”
“ผมต้องการผู้ช่วยผู้ชาย ไม่ใช่เด็กเส้นแบบแม่นี่”
“หนูเพียงไม่ใช่เด็กเส้น”
บอกอย่างเอ็นดู เพราะเล็งเห็นความสามารถอันล้นเหลือ ความมุ่งมั่น อีกทั้งความรับผิดชอบที่คิดไว้ว่ามองไม่พลาดไปได้ เพียงใจนั้นมีสิ่งเหล่านั้นอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
“ฮึ! อย่ามาเปลืองน้ำลายเลยครับ ผมบอกว่าไม่ก็ไม่”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะปลดแกออกจากที่นี่ แกออกไปก่อตั้งตัวเองใหม่ พาแม่ของแกไปด้วย”
“ ! ”
วิชญ์ไม่ได้แคร์กับไอ้เรื่องถูกปลด แต่เขาแคร์แม่ที่เลี้ยงเขามาแต่เกิด ท่านนอนตรมตรอมใจอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะความไม่รู้จักพอในตัณหาราคะของคนเป็นพ่อ วิชญ์ได้แต่ยืนเงียบ มองบิดาด้วยสายตาแข็งกร้าว
“พ่อจะได้เอาหนูเพียงใจมาช่วยงานเอง ส่วนแกจะไปไหนก็ไป”
“ตัณหาคนแก่นี่ ไม่มีทางหายเลยสินะครับ”
“ถ้ายังอยากบริหารงานที่นี่แกต้องรับหนูเพียงไว้” ยื่นคำขาด ก่อนจะพูดยิ้มๆ“แล้วแกจะรักหนูเพียงแบบที่พ่อเอ็นดู อย่าเล่นสกปรกก็พอ”
“เล่นสกปรกอย่างนั้นหรือครับ”
“ฉันเตือนแกไว้ก่อน ว่าอย่ายุ่งกับน้อง”
“โธ่...ต่อให้มานอนแก้ผ้ารอ ผมยังไม่อยากจะมองเลย ไม่มีทางที่ผมจะแตะยัยเด็กนั่น”
“จำคำพูดแกเอาไว้นะวิชญ์”
อานนท์จากไปแล้ว และทิ้งยัยเด็กนั่นเอาไว้ที่หน้าห้องทำงานของเขา มาคุยกันวันนี้ แล้วก็จะให้ทำงานวันนี้เลย มีที่ไหน วิชญ์อยากจะบอกว่ามีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
เด็กสาวในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่โคร่งเหมือนเอาเสื้อผู้ชายมาใส่ ทับเข้าไปในกระโปรงพีทสีดำยาวกรอมเท้า สวมรองเท้าคัทชูสีดำไม่มีส้นหมดสง่าราศีของความเป็นสตรีอย่างที่สุดเท่าที่ผู้ชายอย่างวิชญ์เคยเห็นมา พอเงยขึ้นมองใบหน้าของเด็กสาวก็เห็นถึงความเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ทั้งยังสวมแว่นสายตากรอบสีดำสนิททรงกลมโตบิดบังใบหน้าไปเกือบครึ่ง
‘สภาพแบบนี้น่ะหรือ ไม่ได้ดึงดูดผู้ชายเลยสักนิด’
วิชญ์คิดอย่างดูแคลน เขาไม่ใช่คนปากมาก ปากไวที่คิดแล้วจะพูดออกมาทันที แต่วิชญ์มีสีหน้าแววตาที่ร้ายไปกว่านั้น เขาเป็นพวกพูดน้อยแต่ข่มคนเก่ง
คิดจะเอายัยเด็กนี่มาทำงานคลุกคลีและหวังจะให้คนอย่างเขาถูกใจก็ลองดูว่าจะทำได้ไหม อรสาที่เป็นป้าของยัยนี่คงอยากจะเอาหลานสาวมาจับเขาด้วยอีกคนสินะ หลังจากฉกพ่อของเขาไปจากแม่ได้ มั่นหน้ากันนักใช่ไหม เขาจะทำให้มันเป็นฝันร้ายของสองป้าหลานนี่เลย คอยดู!