เจียซินที่ได้ยินเจ้าของร้านบอกเธอก็คิดไม่ต่างไปจากหญิงสูงวัยเช่นกัน
" ลำบากแค่นี้ฉันทนได้จ้ะป้า ว่าแต่แถวไหนขายกระบุงหาบหรือจ้ะ "
" เดินไปทางขวามืออีกไม่ไกลหรอกแม่หนู เจ้านี้เขาทำมาอย่างดีเลยนะ รับรองว่าทนทานและรับน้ำหนักได้ดีแน่นอนจ้ะ "
" เดี๋ยวฉันกลับมาเอาของนะจ๊ะป้า ฉันขอเดินไปดูกระบุงหาบสักหน่อยจะได้เอาไปเก็บที่ห้องพร้อมกันเลย ว่าแต่ค่าของเท่าไหร่หรือจ๊ะ "
เจียซินเตรียมจะล้วงเงินมาจ่ายค่าเครื่องครัวไว้ก่อน แต่ป้าเจ้าของร้านก็ยังไม่รับ
" ยังไม่ต้องจ่ายหรอกแม่หนู ตอนมาเอาของค่อยจ่ายทีเดียวก็ได้ "
" เดี๋ยวฉันมานะจ๊ะป้า "
เจียซินเดินออกจากร้านขายเครื่องครัวเพียงไม่กี่ห้องก็เจอเข้ากันร้านขายเครื่องจักสานที่มีสินค้าให้เลือกหลายอย่าง
" ลุงจ๊ะ ฉันอยากได้กระบุงหาบ ลุงพอจะมีของไหมจ๊ะ "
เจียซินรีบเอ่ยถามชายสูงวัยที่คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้านทันทีที่มาถึง
" มีสิแม่หนู ตามลุงมาดูฝั่งนี้เลย "
เจียซินเดินตามไปที่ประตูอีกบานหนึ่งของร้าน เธอพบว่ามีกระบุงหลายขนาดให้เลือกได้ตามใจชอบ สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่กระบุงขาดกลางแต่ใหญ่พอจะใส่หม้อของเธอถึง 2 ใบ
" ฉันเอาคู่นี้จ้ะลุง รวมไม้หาบแล้วเป็นเท่าไหร่จ๊ะ "
" 40 หยวนแม่หนู อยากดูอะไรเพิ่มเติมสักหน่อยไหม เดี๋ยวลุงจะลดราคาให้ "
ชายสูงวัยเห็นว่าเด็กสาวตัดสินใจโดยไม่ต่อราคาเลยแม่แต่น้อย กลายเป็นเขาเสียเองที่อยากลดราคาให้
" เอากระด้งเล็ก ๆ แบบนั้นสัก 3 อันแล้วกันจ้ะลุง คิดเงินได้เลยนะจ๊ะ "
หญิงสาวมองเห็นกระด้งสานเธอจึงนึกได้ว่าตนเองยังไม่มีถาดสำหรับวางผักหรือเนื้อเลยสักอัน
" กระบุงหาบ 40 หยวน กระด้งอันละ 1 หยวน รวมเป็น 43 หยวน แต่ลุงเอาแค่ 42 หยวนก็พอแม่หนู "
เจียซินหยิบเงินออกมาจ่ายอย่างรวดเร็วเพราะเธอยังต้องไปดูอย่างอื่นอีก
" นี่จ้ะลุง 42 หยวน " หญิงสาวยื่นเงินให้เจ้าของร้านก่อนจะเตรียมหาบกระบุงขึ้นบ่า
" ขอบใจมากแม่หนู ลุงเอากระด้งใส่ไว้ในหาบให้แล้วนะ "
" ขอบคุณจ้ะลุง "
เจียซินเดินหาบกระบุงกลับมาที่ร้านขายเครื่องครัวเพื่อจะมาเอาของที่เธอสั่งเอาไว้
" เป็นอย่างไรบ้างแม่หนู ถูกใจไหม " หญิงสูงวัยเจ้าของร้านเครื่องครัวเอ่ยถามเจียซินด้วยน้ำเสียงละมุน
" ถูกใจมากจ้ะป้า ประหยัดได้เยอะมากเลยจ้ะ ว่าแต่ค่าของ ของฉันเท่าไหร่หรือจ๊ะ อ้อ ฉันลืมเขียงกับมีดเอาเพิ่มอีกอย่างละ 1 อันนะจ๊ะป้า "
เธอพึ่งนึกได้ว่าลืมของสำคัญสองอย่างนี้ไปได้อย่างไร ระหว่างที่รอสิ่งของที่สั่งเพิ่ม เจียซินก็เตรียมเงินไว้จ่ายค่าสินค้าไปด้วย
" มาแล้วจ้ะ ของหนูมีหม้อ 3 ใบ 60 หยวน มีด 5 หยวน ช้อน 10 คัน 2 หยวน ถ้วย 10 ใบ 10 หยวน จาน 10 ใบ 10 หยวน เขียงป้าแถมให้หนูนะจ๊ะ รวมทั้งหมดเป็น 87 หยวนจ้ะ "
เมื่อหญิงเจ้าของร้านแจ้งราคารวมเสร็จทุกอย่างแล้ว เจียซินหยิบธนบัตรใบละ 100 หยวนขึ้นมาจ่ายค่าของด้วยใจที่เบาหวิว แม้จะรู้สึกเสียดายเงินแต่ทุกอย่างก็จำเป็นในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
" นี่จ้ะป้าค่าของ "
" รอครู่เดียวนะแม่หนู เดี๋ยวป้าเดินไปเอาเงินทอนมาให้ "
หญิงเจ้าของร้านยิ้มด้วยความดีใจที่วันนี้ขายของได้เยอะพอสมควร ไม่นานหญิงสูงวัยก็กลับมาพพร้อมกับเงินทอนในมือแล้วส่งคืนให้กับเจียซิน
เจียซินเก็บของใส่กระบุงเสร็จแล้วก็หาบกลับไปที่ห้องของเธออย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงก็พบว่าเลี่ยงหรูออกมายืนอยู่ที่หน้าห้องเช่นกัน
" เป็นยังไงบ้างอาซิน ได้ของกลับมาเยอะเลย เตาอันนั้นพี่เอาออกมาให้เธอใช้ไปก่อนนะ มีเงินเมื่อไหร่ค่อยซื้อใหม่ "
เลี่ยงหรูชี้ไปที่เตาปูนที่เธอยกมาวางไว้ที่หน้าห้องของเจียซิน ในครัวของเธอมีอยู่หลายอันจึงแบ่งมาให้เจียซินได้ใช้ก่อน
" ขอบคุณจ้ะพี่เลี่ยงหรู ขอบคุณพี่มาก ๆ ที่ช่วยเหลือฉัน " เจียซินดีใจจนน้ำตาคลอเบ้าที่เธอมีโอกาสได้เจอคนดี ๆ กับเขาบ้าง
" อย่าคิดมาก วางของก่อนเร็วเข้าแล้วรีบเปิดห้อง แม่พี่ฝากหมอนกับผ้าห่มมาให้ด้วย "
ระหว่างที่เลี่ยงหรูเดินเข้าไปหยิบผ้าห่มในห้อง เจียซินก็น้ำตาร่วงเผาะอย่างห้ามไม่ได้ หญิงสาวรีบเปิดประตูเอาของเข้าไปเก็บไว้ด้านในก่อนจะเดินออกมาหน้าห้อง
" อาซินมาเอานี่ไปเร็วเข้า "
เจียซินรีบเดินเข้าไปรับเอาผ้าห่มกับหมอนที่เลี่ยงหรูยื่นมาให้อย่างตื้นตันใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่เลี่ยงหรูมองเห็นสิ่งของที่เจียซินซื้อมาได้ชัดขึ้น
" ฉันจะทำอาหารออกไปเร่ขายจ้ะพี่เลี่ยงหรู " หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองดูสิ่งของในกระบุง
" หม้อ 3 ใบ อาซินจะทำอาหารวันละกี่อย่างเหรอจ๊ะ "
เลี่ยงหรูถามด้วยความสงสัยหากทำน้อยเกินไปคง จะไม่ดึงดูดลูกค้าสักเท่าไหร่
" ฉันคิดว่าจะทำกับข้าววันละ 2 อย่างแล้วก็ข้าวอีก 1 หม้อจ้ะพี่เลี่ยงหรู "
" ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วอาซินจะใช้กระทะที่ไหนผัด รอพี่อยู่ตรงนี้ครู่หนึ่งนะ "
เลี่ยงหรูเดินเข้าไปในครัวของตัวเองเพื่อหยิบกระทะใบเก่ามาให้เจียซินเอาไว้ใช้ เธออาศัยอยู่กับมารดาเพียง 2 คน เครื่องครัวของเธอเดิมทีก็มีมากอยู่จึงไม่ได้ลำบากอะไร
ไม่นานเลี่ยงหรูก็เดินกลับออกมาพร้อมกระทะในมือ แล้วยื่นให้กับเจียซินที่ยืนรออยู่หน้าห้อง
" อาซินเอา ไปไว้ใช้ก่อนนะ ไม่ต้องไปซื้อใหม่ให้เปลืองเงินหรอก กว่าจะขายดีคงต้องใช้เวลาสักหน่อย เงินที่มีอยู่ก็เก็บเอาไว้สำรองก่อน "
เจียซินมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความซึ้งใจ เลี่ยงหรูเป็นคนอื่นแท้ ๆ แต่กลับมีใจคิดช่วยเหลือ เธอมากถึงเพียงนี้
" ขอบคุณพี่เลี่ยงหรูมากเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันขอออกไปซื้อเครื่องปรุงก่อน กลับมาฉันจะทำอาหารให้พี่ช่วยชิม "
หญิงสาวตั้งใจเอาไว้ว่าจะเข้าไปเยี่ยมมารดาของเลี่ยงหรูสักหน่อย แม้นนางป่วยไข้ลุกไม่ได้ก็ยังมีแก่ใจบอกให้ลูกสาวเอาผ้าห่มและหมอนมามอบให้เธอ
" ไปเถอะ ถ้าหาซื้อที่ร้านค้าหน้าตลาดไม่ได้ อาซินต้องเข้าไปดูที่ตลาดมืดนะ ในนั้นค่อนข้างจะมีของให้เลือกเยอะพอสมควร มานี่เร็วเข้าพี่จะบอกรหัสลับให้ "
เจียซินเดินเข้าไปใกล้ ๆ เลี่ยงหรูเพื่อฟังรหัสลับที่หญิงสาวบอกอย่างตั้งอกตั้งใจ
" ขอบคุณพี่เลี่ยงหรูมาก ๆ นะจ๊ะเดี๋ยวฉันขอตัวก่อนแล้วจะรีบกลับมาจ้ะ "
" ดูแลตัวเองดี ๆ นะอาซิน "
เจียซินเดินมุ่งหน้าไปยังตลาดมืด ระหว่างทางเธอผ่านร้านเครื่องปรุงและได้สั่งซื้อเครื่องปรุงบางอย่างที่มีอยู่ในร้านเอาไว้ก่อน
แต่หญิงสาวยังอยากไปเห็นสถานที่แห่งนั้นว่ามีอะไรขายบ้าง หรือหากเธอจะเอากับข้าวไปขายจะได้หรือไม่
ไม่นานเจียซินก็เดินมาถึงหน้าประตูทางเข้าเธอบอกรหัสผ่านประตูให้กับผู้คุมที่ยืนอยู่หน้าทางเข้า
ผู้คุมเปิดประตู ให้เธอเข้าไปด้านในเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนด้านในเดินออกมาโดยที่เธอยังไม่ตั้งตัวจนเจียซินเซถลาลงไปข้างหน้า
พรึบ
หยางหยางหรือเฮียหยางที่ทุกคนเรียก เขาคือเจ้าของตลาดมืดที่มีอยู่ทุก ๆ เมือง หยางหยางกำลังเดินออกจากตลาดมืดด้วยความรีบร้อน แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีอย่างหญิงสาวโผล่มาจากประตูอีกฝั่งแล้วเซถลามาทางเขา จนเจ้าตัวต้องรีบช้อนตัวเธอเอาไว้
" เป็นอะไรหรือเปล่า "
หยางหยางใช้น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยถามออกมาอย่างเคยชิน
" ไม่เป็นไรจ้ะขอบคุณมากนะจ๊ะ ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเสียเวลา "
เจียซินหันมาขอบคุณและขอโทษในเวลาเดียวกันเป็นจังหวะที่ทั้งสองได้สบตากัน ต่างคนต่างหยุดนิ่งในหัวของทั้งสองกำลังคิดถึง อดีตเมื่อครั้งยังเยาว์วัย
ทั้งคู่รู้สึกคุ้นหน้ากันอยู่ไม่น้อย แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยถามอะไร ผู้ช่วยของชายหนุ่มก็รีบเข้ามาตามเสียก่อน
" เฮียหยางครับ เราต้องรีบไปกันแล้วนะครับ " หยางหยางจำต้องรีบเดินออกไปจากตลาดมืดเมื่เกิดเรื่องด่วนที่บ้านของเขา
คิ้วของเจียซินขมวดเป็นปมเมื่อได้ยินชื่อของชายหนุ่มที่พึ่งเดินออกไป
" เฮียหยางอย่างนั้นเหรอ จะใช่คนเดียวกันไหมนะ หรือว่าเราคิดมากไปเอง ถ้าเป็นพี่ชายจริงต้องใจดีกว่านี้สิ "
เจียซินรีบสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะเดินเข้าไปดูว่าด้านในมีอะไรบ้าง
สองข้างกำแพงมีพ่อค้าแม่ค้าเช่าโต๊ะขายของหลายอย่างที่น่าสนใจ เจียซินเห็นเนื้อหมูที่วางขายอยู่ แต่คุณภาพไม่ดีสักเท่าไหร่เธอ จึงเดินดูอย่างอื่นต่อ
" พี่ชายจ๊ะ ถ้าฉันอยากจะทำข้าวแกงเข้ามาขายในนี้จะได้ไหมจ๊ะ "
เจียซินเอ่ยถามชายหนุ่มร่างใหญ่ที่เป็นผู้ดูแลกำลังเดินเก็บค่าแผงอยู่ในตลาดมืดแห่งนี้
" จริง ๆ มันก็ไม่ได้มีข้อห้ามนะน้องสาว แต่พี่ยังไม่เคยเห็นใครทำเข้ามาขายเลยสักคน ถ้าอยากจะลองดูก็ได้ ค่าเช่าวันละ 5 เหมา "
ชายหนุ่มตอบกลับเจียซินอย่างเป็นกันเอง ใครบ้างเล่าที่จะไม่อยากพูดคุยกับสาวสวยที่รูปร่างงดงามถึงเพียงนี้
หญิงสาวรอบข้างบางคนก็มองเจียซินด้วยความอิจฉา บางคนก็มองด้วยความชื่นชมอย่างปกปิดไม่มิด
" ตลาดเปิดตั้งแต่กี่โมงเหรอจ๊ะพี่ชาย "
" 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ถ้าน้องสาวมาถึงก็เลือกโต๊ะได้เลย ที่นี่ไม่มีที่ประจำ ใครมาถึงก่อนก็เลือกได้ตามใจชอบ ถ้ามีใครคิดจะก่อเรื่องคนคุมตลาดจะลากตัวออกไปและไม่ให้เข้ามาขายของในนี้อีก "
เมื่อได้คำตอนที่พอใจแล้วหญิงสาวจึงกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินไปเลือกซื้อผัก 2-3 อย่างแล้วเดินออกจากตลาดไป