ทุกวันเจียซินจะเอาผักออกไปส่งลูกค้าประจำของเธอในตอนเช้า พร้อมทั้งเก็บผักไปขายเช้าละ 4 กระบุง หากวันไหนขายไม่หมดก็จะเหลือเพียงไม่กี่กำ เธอก็นำมาทำอาหารไปขายตอนกลางวันต่อ
จนตอนนี้เธอมีลูกค้าประจำเพิ่มมาอีก 1 เจ้า เป็นเพราะการแนะนำจากเจ้าของร้านบะหมี่ที่หาลูกค้ามาช่วยเธอ วันนี้เป็นเวลาครบ 1 เดือนที่เธอต้องจ่ายค่าเช่าห้องแล้วหญิงสาวจริงเตรียมถือเงินมาจ่ายก่อนออกไปขายข้าวแกงที่ตลาดมืด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" พี่เลี่ยงหรูจ๊ะ ฉันเอาค่าห้องมาจ่ายจ้ะ "
เจียซินเคาะประตูหน้าห้องเพื่อเรียกให้เลี่ยงหรูออกมารับค่าเช่าห้อง
แอดดดดด
" อ้าว อาซินเองหรือลูก อาหรูออกไปธุระข้างนอกมีอะไรเหรอ " เป็นแม่เลี่ยงที่เดินออกมาเปิดประตู ตอนนี้นางเดินได้คล่องแล้วและสามารถอยู่คนเดียวได้แล้ว วันนี้เลี่ยงหรูจึงออกไปหาสมัครงาน
" ฉันจะมาจ่ายค่าเช่าห้องจ้ะป้า "
" ขอบใจมากนะอาซิน ขายดี ๆ นะลูก "
" จ้ะป้า ฉันขอตัวก่อนนะจ๊ะฟ้าฝนไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่ "
" ไปเถอะลูก "
หญิงสาวยื่นเงินให้แก่แม่เลี่ยงทันที เมื่อหมดธุระเธอจึงขอตัวไปขายของต่อ วันนี้สภาพอากาศไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
เจียซินหาบของไปเรื่อย ๆ ระหว่างทางก็มีลูกค้าเรียกซื้ออาหารกับเธอไปด้วย หนึ่งเดือนที่ผ่านมาลูกค้าและผู้คนที่อาศัยอยู่ละเเวกนี้รู้จักเธอมากขึ้นแล้ว แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดมืดหรือดูแลตลาดก็เป็นลูกค้าของเธอทั้งนั้น
" มาแล้วหรืออาซิน ไป ๆ เข้าไป มีคนรอเหมาอาหารของเธออยู่ข้างในน่ะ "
ผู้คุมที่อยู่ด้านหน้ารีบเปิดตูให้เจียซินทันทีที่เห็นเธอมา เพราะเจ้านายของพวกเขารอเธออยู่นานแล้ว
" ใครเหรอพี่ " แม้หญิงสาวจะรีบเดินเข้าไป แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาถาม
" เฮียหยางน่ะ "
" เฮียหยางหรือ " หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ในระหว่างที่เดินไปที่โต๊ะตัวเดิมที่ยังว่างอยู่
" มาแล้วหรือแม่ค้า นี่เฮียหยางเป็นเจ้าของตลาดแห่งนี้ " ดูแลตลาดที่ยืนรอเจียซินอยู่กับหยางหยางรีบแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเจ้านายของตัวเอง
" สวัสดีจ้ะเฮียหยาง ขอโทษที่ให้รอนานนะจ๊ะ " ทั้งสองมองหน้ากันผ่าน ๆ เพียงแวบเดียว เจียซินก้มหน้าก้มตาจัดหม้ออาหารของเธอให้พร้อมขาย
" ไม่เป็นไร รีบตักอาหารของเธอใส่ปิ่นโตนี่ก่อน ข้าวไม่ต้อง " ยังคงเป็นน้ำเสียงแข็งกระด้างเช่นเดิมที่เข้าใช้กับคนอื่น ๆ มีเพียงน้องสาวและคู่หมั้นในวัยเด็กของเขาเท่านั้นที่เขาจะอ่อนโยนด้วย
" จ๊ะ " เจียซินรีบตักอาหารใส่ปิ่นโตให้เจ้าของตลาดจนเต็มก่อนจะยื่นปิ่นโตคืนให้เจ้าตัว
" ขอบใจ นี่ค่าอาหาร 100 หยวน ฉันเหมาทั้งหมด ที่เหลือเธอก็ตักให้ลูกน้องฉันกินได้เลย "
หยางหยางรับปิ่นโตมาแล้วจึงเตรียมตัวจะเดินออกไปโดนไม่สนใจหญิงสาว แต่เป็นเจียซินเองที่รู้สึกคุ้นหน้าชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย แต่เธอคิดว่าคงไม่ใช่พี่ชายใจดีของเธอเพราะเขาย้ายไปอยู่ต่างเมืองนานแล้ว
" เดี๋ยวจ้ะเฮียหยาง เงินทอนจ้ะ " หญิงสาวยื่นเงินให้เจ้าของตลาด 80 หยวน แต่เจ้าตัวก็ไม่หันมาสนใจแม้แต่น้อย
" ไม่ต้อง " พูดจบหนุ่มเจ้าของตลาดก็เดินออกไปขึ้นรถของเขาทันที
" อะไรของเขานะ เงินตั้งเยอะไม่เสียดายหรือยังไง "
หญิงสาวยักไหล่เบา ๆ แล้วเก็บเงินเข้ากระเป๋า เธอเรียกผู้ดูแลและผู้คุมให้ผลัดเปลี่ยนกันมารับอาหารที่เจ้านายของพวกเขาได้จ่ายเงินเอาไว้ ไม่นานอาหารสองหม้อที่เธอเตรียมมาก็หมด
บนรถ
" อาหารพวกนี้จะอร่อยแน่นะอาชง "
หยางหยางเอ่ยถามมือขวาของเขาที่นั่งอยู่หน้ารถ หลายวันมาแล้วที่น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาเบื่ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่แม่ครัวที่บ้านทำให้ หรือแม้กระทั่งอาหารจากภัตตาคารดังหยางลี่ถิงก็ไม่สนใจ
เมื่อลูกน้องที่เข้าไปส่งเงินค่าเช่าแผงได้ยินเรื่องราวของน้องสาวเขาจึงได้แนะอาหารของแม่ค้าหาบเร่ที่ขายดีที่สุดในตอนนี้ จึงเป็นเหตุให้วันนี้เขาต้องมาดูด้วยตัวเองเพราะเป็นห่วงเรื่องความสะอาด
" อร่อยแน่นอนครับเฮียหยาง ถึงแม่ค้าจะแต่งตัวด้วยชุดเก่า ๆ แต่ผมเห็นว่าเธอสะอาดสะอ้านไม่น้อยเลยนะครับ ดูอย่างหม้อแกงที่เธอใช้ก็ถูกขัดจนเงาวับขนาดนั้น "
หยางหยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ ตอนนี้สิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือสุขภาพของน้องสาว เธอเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เขาเหลืออยู่ในโลกใบนี้ เขาคงใช้ชีวิตจอยู่ไม่ได้แน่ ๆ หากเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาว
ไม่นานรถยนต์คันหรูก็เคลื่อนตัวมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ หยางหยางพึ่งซื้อที่นี่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ก่อนหน้านี้เขาต้องระหกระเหินพาน้องสาวลำบากลำบนมาหลายปี
" เอาอาหารในปิ่นโตไปใสจานแล้วยกตามฉันขึ้นไปบนห้อง "
" ค่ะ "
ชายหนุ่มยื่นปิ่นโตอาหารให้กับแม่บ้านแล้วเดินขึ้นไปที่ห้องของน้องสาวของเขาด้วยความเป็นห่วง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" ลี่ถิง พี่ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม " ไม่มีเสียงตอบรับจากด้านในเขาจึงค่อย ๆ เปิดประตูเข้าไป
แอดดดด
" เฮีย พ่อกับแม่มาด้วยไหม คุณอาทั้งสองกับพี่สาวคนสวยก็มาด้วยใช่ไหม "
ผลจากการสูญเสียทุกคนรอบข้างอย่างกะทันหันทำให้เด็กสาวช็อกจนหมดสติไปหลายวัน ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาในวัย 9 ปี ความทรงจำของเธอก็สับสนปนกันไปหมด
พ่อแม่ของพวกเขาก็เป็นอาจารย์ ในมหาวิทยาลัย ก่อนเกิดการปฏิวัติเพียง 2 ปี พ่อของเขาได้ย้ายเขาในวัย 14 ปีและน้องสาวในวัย 7 ปี ให้ย้ายไปอยู่ที่ชนบทกับตาและยายโดยที่ไม่บอกเหตุผลอะไรเลย
2 ปีต่อมาเป็นช่วงปฏิวัติตาและยายของเขาเสียไปในช่วงนั้นพวกเขาไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้ว เขาจึงพยายามโทรติดต่อกับพ่อและแม่แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้
หยางหยางจึงได้พาหยางลี่ถิงเดินทางเข้ามาหาพ่อและแม่ ที่บ้านในตัวเมืองเซี่ยงไฮ้
พอมาเห็นสภาพบ้านสองพี่น้องต่างกอดกัน นั่งร้องไห้จนน้องสาวของเขาช็อกหมดสติไป ผู้คนแถวนั้นรีบเข้ามาบอกว่าครอบครัวของเขาและครอบครัวหลี่อวินสหายของบิดาเขา ได้ถูกเหล่าทหารแดงจับตัวไปหมดแล้ว บางคนก็บอกว่าพ่อและแม่ของพวกเขารวมทั้งครอบครัวหลี่ถูกฆ่าทิ้งไปทั้งหมด 5 คน
นั่นถือเป็นข่าวร้ายจนเขาและน้องสาวไม่อาจตั้งรับได้ทัน จากเดิมทีเพิ่งเสียตากับยายไปก็ว่าหนักแล้วพอกลับเข้ามาในเมืองใหญ่ก็ยังต้องมาเสียครอบครัวไปอีก
สองพี่น้องต้องไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหลายวัน จนกระทั่งหยางหยางใช้เงินเก็บที่มี หาห้องเช่าเล็ก ๆ ให้น้องสาวและตัวเองอยู่
ในช่วงเวลานั้นถือเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตของพวกเขา แม้แต่ข้าวจะกินแต่ละมื้อยังลำบาก หยางหยางต้องออกไปหารับจ้างทำงานเพื่อจะได้มีเงินมาซื้อข้าวให้น้องสาวของเขากิน
ส่วนน้องสาวพอฟื้นขึ้นมาความทรงจำของเธอก็สลับไปสลับมาจนไม่อาจแยกได้ว่าอันไหนคือความจริงหรืออันไหนคือความฝัน
กว่าเขาจะมีวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต่อสู้ดิ้นรนไม่เคยปริปากบ่นว่าเหน็ดเหนื่อยแม้แต่คำเดียว ท้ายที่สุดความสำเร็จก็ไม่ทรยศคนที่พยายาม
หยางหยางหันมาเอาดีเรื่องการค้าเพราะอาชีพนี้ถือเป็นอาชีพที่ทำเงินได้เร็วที่สุด เขาเป็นคนกลางหาของมาขาย รับมาขายไปอาศัยส่วนต่างเป็นรายได้ จนวันนี้เขามีตลาดเป็นของตัวเอง แต่ก็ยังมีพวกขี้อิจฉาคอยก่อกวนอยู่ตลอด
" ลี่ถิง น้องกินข้าวสักหน่อยเถอะ พี่จะตามหาพี่สาวคนสวยมาให้น้องให้ได้ "
หยางหยางรับถาดอาหารจากแม่บ้านที่จัดขึ้นมาให้ เขาตักอาหารไปจ่อที่ปากของน้องสาวและหลอกล่อให้ลี่ถิงยอมกินข้าวเดี๋ยวว่าง่าย
พี่สาวคนสวยที่ลี่ถิงต้องการพบก็คือคู่หมั้นคู่หมายในวัยเด็กของเขา ตั้งแต่ตอนที่พ่อและแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่เคยได้พูดคุยหมั้นหมายกับสหายสนิท ว่าจะให้ลูกชายและลูกสาวของตนแต่งงานเป็นทองแผ่นเดียวกัน
" จริงนะเฮีย เฮียต้องพาพี่สาวคนสวยมาหาอาถิงให้ได้นะ อาถิงจะรอ "
" ได้ เฮียสัญญา เฮียจะตามหาพี่สาวคนสวยของน้องให้เจอ "
วันนี้ลี่ถิงกินข้าวได้เยอะเป็นพิเศษ จนหยางหยางป้อนข้าวน้องสาวแทบไม่ทัน ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ เป็นเพราะอาหารอร่อย หรือเป็นเพราะอาถิงอยากเจอพี่สาวคนสวยกันนะ
" ดูแลลี่ถิงให้ดีด้วยนะคุณพยาบาล ถ้ามีอะไรเกี่ยวกับน้องสาวของผมก็รีบบอกเข่อชงได้เลย "
" ได้ค่ะคุณหยาง ซีอินจะดูแลคุณลี่ถิงให้ดีค่ะ "
ไม่ใช่ว่าหยางหยางจะดูไม่ออกว่าพยาบาลคิดกับเขาอย่างไร นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาให้เธอแจ้งผ่านผู้ช่วยของเขา ผู้หญิงที่เขาจะยอมให้เข้าใกล้มีเพียงน้องสาวและคู่หมั้นตัวน้อยที่เขาออกตามหามาตลอดหลายปี
หลายชั่วโมงต่อมา
" เฮียหยางครับ ที่ตลาดเกิดเรื่องครับ พวกไอ้โง้วมันพาคนมาทำลายข้าวของในตลาดทั้งทำร้ายทุบตีพ่อค้าแม่ค้าในนั้นด้วยครับ "
หยางหยางรีบวิ่งไปที่รถทันที ทั้งที่ลูกน้องยังรายงานเหตุการณ์ยังไม่จบ
" เพิ่มคนดูแลที่บ้านด้วยนะอาชง นายอยู่เฝ้าที่นี่ดูแลน้องสาวของฉันให้ดี อากว้านนายไปกับฉัน "
" ครับเฮียหยาง/ครับ "
หยางหยางรีบไปช่วยทุกคนที่ตลาดโดยไม่สนว่าฟ้ามืดทั้งฝนก็เริ่มตั้งเค้ากำลังจะตกแล้ว ไม่ถึง 15 นาทีรถยนต์คันใหญ่ก็เคลื่อนมาจอดที่หน้าประตูทางเข้าตลาดมืด
ปึก
ทุกคนลงจากรถก็ได้ยินเสียงอึกกะทึกครึกโครมดังมาจากด้านในของตลาด หยางหยางและลูกน้องก้าวขาหมายจะเข้าไปด้านในเพื่อช่วยทุกคนอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันสังเกตว่าอีกมุมหนึ่งมีคู่แข่งของเขาซุ่มรออยู่กับลูกน้องอีกนับ 10 คน
" ไปเร็วเข้าซือกว้าน " หยางหยางเรียกลูกน้องยังไม่ทันขาดคำก็มีชายฉกรรจ์พุ่งเข้ามาหาเขา
ฉึบ เสียงใบมีดที่แหลมคมปักเข้าที่ตัวของหยางหยาง แม้เขาจะเบี่ยงหลบแต่ไม่พ้นอยู่ดี
" เฮียหยางระวัง!! " ซือกว้านร้องเสียงดังด้วยความตกใจ แต่ผู้ที่ถูกทำร้านกลับไม่มีเสียงครวญครางเจ็บปวดเลย
พลั่ก ตุบ ตุบ
ฉึบ ฉึบ ฉึบ
" โอ๊ยย! "
"อ๊าค! "
เสียงตะลุมบอนกันชุลมุนไปหมดเมื่ออีกฝ่ายที่ซุ่มดูอยู่พาลูกน้องออกมาสมทบ แต่หยางหยางใจเด็ดพอที่จะดึกมีดออกจากตัวเขามาเป็นอาวุธเพื่อใช้กับฝั่งตรงข้ามต่อ
" มึงโผล่หัวออกมาแล้วเหรอไอ้โง่ " แม้ร่างกายจะเจ็บปวดเพียงใดแต่หยางหยางก็ยังคงมีแรงพอจะทักทายศัตรูของตัวเอง
" กูชื่อโง้ว ปากดีไม่เลิกเลยนะมึงน่ะลูกอมลูกปืนกูหน่อยเป็นไร "
ยังไม่ทันที่ถงโง้วจะได้พูดอะไรต่อ เหล่าผู้คุมที่จัดการกับคนก่อกวนด้านในหมดแล้วก็รีบออกมาดูที่หน้าตลาด ถงโง้วเห็นท่าไม่ดีอย่างนั้นจึงตัดสินใจลั่นปืนใส่หยางหยางไปหนึ่งนัด
ปัง
" อึก "
ยิ่งเห็นหยางหยางเพลี่ยงพล้ำทางฝ่ายของคู่อริยิ่งฮึกเหิมเข้ามาตะลุมบอกลกันมากกว่าเดิม
" นายพาเฮียหยางออกไปจากตรงนี้เร็วเข้า! " ซือกว้านหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ใกล้ที่สุดให้รีบมาพาเจ้านายออกไป ส่วนตัวเขารีบเข้าไปขวางอีกฝ่ายเอาไว้ก่อน
" ครับลูกพี่ "
ชายหนุ่มรีบรับคำสั่งแล้วพาตัวของหยางหยางออกไปจากจุดที่ชุลมุนทันที ทั้งสองลากสังขาล กันไปได้ไม่ไกลสักเท่าไหร่หยางหยางก็บอกให้ลูกน้องทิ้งเขาไว้ตรงนั้นแล้วกลับไปช่วยทุกคนต่อ
" วางฉันไว้ตรงนี้ อึก กะ..กลับไปช่วยทุกคนซะ! "
"แต่เฮียครั... "
" หยุด แล้วทำตามที่ฉันสั่ง! "
ยังไม่ทันที่ลูกน้องจะพูดจบก็ลูกห้ามเอาไว้เสียก่อน ชายหนุ่มจึงจำต้องทิ้งผูเป็นนายเอาไว้ตรงนี้แล้วรีบกลับไปช่วยทุกคน
" ครับเฮียหยาง แล้วผผมจะรีบกลับมา "
หลังจากที่ลูกน้องวิ่งกลับไปที่ตลาดแล้วหยางหยางจึงรีบขยับตัวเข้าไปอยู่ข้างตึกที่เป็นซอยทางเข้าห้องเช่า เขาเปิดดูแผลที่อยู่กลางลำตัว แม้ทั้งสองแผลจะไม่โดนจุดสำคัญแต่ก็เจ็บไม่น้อย
" เฮ้ย พี่ชายเกิดอะไรขึ้นเนี่ย "
เจียซินที่กำลังรีบกลับเข้าห้องเพราะฝนกำลังลงเม็ด เธอพึ่งเดินออกไปซื้อเครื่องปรุงอาหาร ระหว่างทางเธอได้ยินผู้คนพูดกันว่าเกิดเรื่องที่ตลาดมืด หญิงสาวจึงเร่งฝีเท้าหมายจะกลับเข้าห้องเพราะกลัวอันตราย
" เธอ! " หยางหยางเงยหน้าขึ้นมาดูว่าเป็นใครที่เรียกเขา เขาพอจะจำได้ว่านั่นคือแม่ค้าที่เขาพึ่งซื้ออาหารกับเธอเมื่อตอนกลางวัน
" เอ๊ะ เฮียเจ้าของตลาดนี่น๊า! "