PSYCHO ROMANCE+
3
ฉันนั่งทำเล็บอยู่ที่ร้านประจำชื่อดัง พลางครุ่นคิดเรื่องที่หัวใจตัวเองกำลังคิดหนัก เรื่องของปืน... ฉันไม่อยากยอมรับว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไรกับปืน เด็กคนนั้นมีแรงดึงดูดฉันมาก ไม่ว่าจะหน้าตา ท่าทาง แต่ทำไมนะ? ทำไมฉันจะต้องมาหวั่นไหวกับเด็กอายุแค่สิบแปด แถมยังไล่ฉันเสมอๆ ด้วยนะ
“โอ๊ย! เซ็งๆ”
“เออ คุณบัวเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ดิฉันทำเล็บไม่ถูกใจเหรอคะ?”
“ปะ เปล่าค่ะ พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อย แหะๆ” พนักงานที่ทำเล็บให้ฉันอยู่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันถอนหายใจและมองเล็บตัวเองที่ถูกทาด้วยสีชมพูพาสเทล วันนี้ฉันกะว่าจะซื้อของกินไปตุนไว้ที่บ้านของปืนด้วย รู้ไหมว่าคอนโดของฉันเนี่ยสิงไว้นอนอย่างเดียวเลย บ้านฉันก็ไม่ได้กลับรู้ๆ กันอยู่ว่าเพราะอะไรนะ
หลังจากที่ทำเล็บเสร็จแล้วเรียบร้อย ฉันก็ออกจากห้างด้วยข้าวของที่มีอยู่หลังรถถึงตอนนี้ก็เย็นแล้ว ป่านนี้ปืนคงจะกลับบ้านแล้วล่ะมั้ง รถของฉันมาจอดที่หน้าบ้านของปืน เห็นประตูรั้วถูกเปิดไว้ก็มั่นใจแล้วว่าน่าจะมาแล้ว ฉันหิ้วของลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่เห็น
“นะ นี่มันอะไรเนี่ย!”
“แหกปากเพื่ออะไร? ไม่ได้มีใครตายสักหน่อย”
“ละ แล้วพวกนาย? บ้าจริง ไปมีเรื่องกันอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย ตอบ!” ฉันวางถุงอาหารลงกับโต๊ะและมองบรรดาพวกปืนที่กำลังทำแผลกันอยู่ รู้ไหมว่าสภาพของแต่ละคนเนี่ยไม่ได้ดูดีเลยสักนิดนะ ให้ตายเหอะ บอกไม่ให้มีเรื่องไหงถึงได้เป็นแบบนี้กันล่ะ
“บอกว่าไม่ให้มีเรื่องไม่ใช่หรือไง? อย่าบอกนะว่าโดดเรียนกัน”
“ไม่ใช่นะพี่สาว พวกผมกำลังจะกลับบ้านไอ้ปืน ก็เจออริซะก่อน ไม่ได้หนีเรียนนะ” นัทเป็นคนตอบคำถามฉันก่อนจะหันไปทำแผลให้กับทีนและเพื่อนอีกสองคน ปืนที่กำลังใช้ผ้าเช็ดไปที่หน้าผาก ใบหน้าหล่อมีคิ้วแตก มุมปากเป็นแผลเพราะโดนต่อยกับอกแกร่งที่เป็นรอยช้ำ ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะทำแผลให้เขาซึ่งปืนก็ผลักมือฉันออกไป
“จะทำอะไร?”
“ทำแผล คิดว่าตัวเองจะมองเห็นแผลบนหน้าบนตัวหรือไง ถึงได้ทำแผลถูก”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวให้ไอ้ทีนทำ”
“เพื่อนนายก็เจ็บเหมือนกัน อย่าเรื่องมากได้ไหม จับตีก้นซะนี้!”
“อิอิ จับตีเลยพี่บัว ผมอยากเห็นตูดไอ้ปืน ฮ่าๆ”
“มึงอยากโดนตีนยัดปากอีกสักทีไหมไอ้นัท?” ปืนยกเท้าจะถีบนัท ก่อนที่ฉันจะทำแผลให้เขา ดูสิใบหน้าหล่อๆ เนี่ยเต็มไปด้วยแผลไม่ต่างจากร่างกายเลยนะ สนุกนักหรือไงถึงได้มีแต่เรื่องแบบนี้ ฉันพ่นลมออกมาก่อนจะเงยหน้าไปมองหน้าผากของปืนที่มีรอยแผลและคิ้วแตก ก่อนจะใช้ฝ่ามือเสยผมที่ปิดหน้าให้ขึ้นไปแต่ทว่าฉันก็ทำแผลไม่ถนัดก็เลยดึงยางรัดผมของตัวเองมามัดจุกให้กับปืน
“ทำอะไรของเธอ?”
“ก็ผมนายลงมาปิดตาก็เลยมัดไว้ก่อน” ฉันยิ้มขำเมื่อมองใบหน้าหล่อชัดขึ้น เขาดูไม่ชอบใจที่ฉันทำอะไรตามใจตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้ขัดหรืออะไร ก็ยังคงให้ฉันทำแผลให้ สายตาของฉันมองสบตากับปืนอีกครั้ง หัวใจมันสั่นไหวแปลกๆ เมื่อลมหายใจอุ่นของเขารดอยู่ที่ริมฝีปากของฉัน ฉันไม่รู้ว่ามือตัวเองสั่นแค่ไหน แต่ทว่าร่างกายมันกลับไม่เป็นอย่างที่ต้องการ นี่ฉันกำลังหวั่นไหวกับเด็กเหรอเนี่ย? ให้ตายเหอะบัว อยู่เมืองนอกมาเจอฝรั่งก็เยอะ แต่ทำไมมาหวั่นไหวกับเด็กเลวคนนี้ได้ล่ะเนี่ย
“มองฉันอีกนานไหม?”
“อะ เออ...”
“จ้องอยู่ได้ จะกินไหม”
“บะ บ้า! จะเสร็จแล้ว” ปืนหรี่ตามองฉันก่อนจะบิดตัวไปมา ใบหน้าหล่อเหยเกอาจจะเพราะว่าแผ่นหลังกว้างมีรอยช้ำขนาดใหญ่ ฉันแตะไปที่รอยช้ำนั่นจนปืนสะดุ้งตกใจทันที
“ฉิบ! แตะมาทำซากอะไร เจ็บนะเว้ย”
“ขอโทษ งั้นไปอาบน้ำก่อนไป จะได้ลงมากินข้าว เดี๋ยวทายาให้”
“ไม่ต้องอะ กลับไปซะ” ฉันมองสบตากับร่างสูงที่เดินกุมหลังขึ้นไปที่ห้อง ส่วนฉันก็เขวี้ยงหมอนอิงไล่หลังเข้าไป อวดดีจริงๆ น่าทุบให้ตายเลย เด็กบ้านี่!
“พี่สาวอย่าไปโกรธมันเลยนะ ก็แค่เด็กมีปัญหาอะ”
“ใคร? หมายถึงปืนน่ะเหรอ มันก็แหงอยู่แล้วล่ะ”
“แต่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะครอบครัวมันนะ ความจริงไอ้ปืนไม่ได้แย่ขนาดนั้น พวกผมรู้จักมันดี” นัทและเพื่อนของเขาหันมาสบตากับฉันและเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับปืนให้ฟัง ซึ่งเป็นความลับมาก พวกเขาบอกว่าแต่ก่อนปืนเป็นเด็กเรียนดี ขยันและเป็นเด็กกิจกรรม หล่อเป็นเดือนโรงเรียน แต่เพราะว่าตอนนั้นเขาหลวมตัวไปมีเรื่องกับอริของเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ย้ายออกไปแล้ว นัทบอกว่าปืนรักเพื่อนทุกคนและในตอนนั้นเพื่อนคนนั้นก็พาความซวยมาหาเขา
“ไอ้ปืนรีบไปช่วยไอ้... ไม่ขอเอ่ยชื่อแล้วกันนะครับ เพราะพวกผมลืมมันไปแล้ว หลายปีแล้วด้วย”
“อือ”
“ไอ้ปืนไปช่วยมัน โดนซ้อมจนน่วมจนเป็นเรื่องเป็นราว แต่เพราะไอ้ปืนเป็นเด็กดีมาตลอด เลยถูกเชิญผู้ปกครองมา ทำให้มันมีปัญหากับพ่อแม่ถึงขั้นแยกกับพ่อแม่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้”
“นี่สินะที่เขาเรียกว่าทำดีแทบตาย แต่ทำพลาดแค่ครั้งเดียวกลับโดนด่ายิ่งกว่าคนเลวซะอีก”
“นั่นแหละครับปัญหามันอยู่ตรงนี้ ไอ้ปืนมันเป็นพวกนิ่งเฉยอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยได้แสดงออกทางด้านไม่ดีเท่าไหร่ กระทั่งมันถูกพ่อมันว่าด้วยคำที่แรง...” ฉันกระพริบตาและจ้องใบหน้าของนัทที่มองขึ้นบันไดไปตลอด เพื่อว่าปืนจะลงมาจะได้สลายตัวกันไง พูดง่ายๆ ตอนนี้พวกเราจับกลุ่มกันราวกับเล่นการพนันเลย
“ยังไง?”
“ลูกสารเลว”
“!”
“ครับ ทั้งที่พ่อของไอ้ปืนไม่เคยด่ามันเลยสักครั้ง แต่ครั้งนั้นมันโดนพ่อมันด่าเละราวกับมันไปฆ่าใครตาย และที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าพ่อมันพูดว่า ทุกคนนินทาพ่อกับแม่มันที่มีลูกเลวๆ อย่างไอ้ปืน สร้างแต่ความเดือดร้อน เพราะตอนที่มีเรื่อง มันไปมีเรื่องที่หน้าร้านทองของพ่อมันพอดี”
“จะ จริงเหรอ?”
“คนที่เคยชื่นชมมันกับพ่อแม่มันก็ต่างพากันด่าทอมัน พ่อมันก็ด่ามันชั่ว เลว ระยำ... มันก็เลยตัดสินใจเป็นอย่างที่พ่อมันด่า จนถึงตอนนี้ผ่านมาก็สองปีแล้ว มันก็ยังคงเลวให้พ่อแม่กุมใจอยู่ดี”
“เด็กบ้า! ทำให้พ่อแม่ต้องเครียด”
“แต่มันก็น่าเห็นใจนะครับ มันทำดีมาตลอดแต่กลับโดนด่าเพียงเพราะว่าทำเลวแค่ครั้งเดียว และไม่ใช่เรื่องที่เสียหายเท่าไหร่ แค่ไปช่วยเพื่อนที่กำลังจะถูกกระทืบตายต่างหาก”
“...”
“หลังจากนั้นพ่อกับมันก็ตัดขาดกัน ปืนมาอยู่กับพี่สาวที่ชื่อกัน รายนั้นก็มีปัญหาแต่ตอนนี้ไปอยู่เกาหลีกับแฟนแล้วเลยทิ้งไอ้ปืนไว้คนเดียว ส่วนเรื่องเงินทองมันก็ไม่ลำบาก ถึงพ่อกับแม่จะตัดขาดมันแต่เงินก็เข้าบัญชีทุกเดือน เพราะแบบนี้ไงครับ ไอ้ปืนถึงไม่มีผู้ปกครองไปงานโรงเรียนเวลามีกิจกรรมหรือมีปัญหา”
“เหรอ”
“ขอบคุณพี่สาวนะครับที่อย่างน้อยก็ยื่นมือมาช่วยมัน หลังจากที่ยิ้มเคยทำได้แล้ว แต่ก็... ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ถึงพวกผมจะมีเรื่องชกต่อยไปทั่ว แต่พวกผมก็ยึดมั่นในการเรียนนะครับ แต่กลับไอ้ปืนมันไม่มีใครคอยเตือน และอีกอย่างมันก็ไม่ฟังผมด้วย นอกซะจากจอย” เมื่อชื่อของใครบางคนที่ไม่ใช่ยิ้มดังขึ้นมา ฉันก็เหมือนกับสติหลุดไปพักหนึ่งและหันมาฟังนัทเล่าต่อถึงแม้ว่าตอนนี้จะฟังไม่รู้เรื่องก็ตามที
หลังจากที่รับรู้เรื่องราวของปืนแล้ว ฉันก็เลยเข้าครัวไปทำอาหารง่ายๆ ให้เขาและทำให้พวกนัทด้วย เพราะสภาพแบบนั้นคงไม่ได้กลับบ้านกันแน่ ฉันออกมาจากครัวเพราะตอนอยู่ที่เมืองนอกฉันก็ทำอาหารกินเองบ่อยๆ ถึงแม้พี่นับแสนจะทำให้กินบ่อยก็เหอะ หมายถึงว่าพี่นับแสนมาหาฉันบ่อยไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ พวกนัทพากันนอนหลับไป ส่วนฉันก็ยกถาดข้าวต้มยาและก็ยานวดขึ้นไปที่ห้องของปืน แน่นอนว่าห้องเปิดทิ้งไว้ฉันเลยถือวิสาสะเข้าไป ก็เห็นร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงมีแค่กางเกงบ๊อกเซอร์สีแดงตัวเดียวนุ่งอยู่ ฉันเดินไปนั่งข้างปืน ใบหน้าหล่อที่หลับสนิทดูเหมือนเด็กน้อยจนฉันยิ้มออกมา
“ปืน ตื่นมากินข้าวกินยาได้แล้ว”
“ออกไป...”
“ได้ไงล่ะ นายเจ็บอยู่นะ ข้าวต้มเนี่ยฉันทำมาให้กินหน่อยเหอะ” ดวงตาคมที่หลับอยู่ค่อยๆ ลืมขึ้นและตวัดสายตามองค้อนฉัน พลิกตัวหันหลังให้ฉันแทน เด็กนี่! ฝ่ามือของฉันแตะไปที่ไหล่ของปืนก่อนจะพลิกร่างหนาให้หันมาสบตากับฉัน
“กินข้าวซะ”
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง กลับไปได้แล้วไป!”
“ไล่ตลอดเลยนะ อย่าลืมนะว่าฉันเป็นผู้ปกครองของนาย ถ้าไม่อยากให้ฉันยุ่งก็ทำตัวให้มันดีๆ ซะก่อนสิ”
“เหอะ”
“ลุกขึ้น เร็วๆ ข้าวต้มเย็นหมดแล้ว” และฉันก็เพิ่งจะสังเกตนะว่าเขาไม่ได้เอายางที่ฉันมัดจุกให้ออก มันเลยดูเหมือนเด็กปัญญาอ่อนเลยอะ ฉันอมยิ้มออกมาและวางถ้วยข้าวต้มให้เขาที่ลุกขึ้นนั่งแล้ว ตักข้าวต้มกิน
“เดี๋ยวกินยา ฉันจะทายาที่หลังให้พักผ่อนซะ พรุ่งนี้ไม่ไหวก็บอกจะได้โทรไปบอกอาจารย์ให้”
“ทำไมชอบยุ่งจัง?”
“ไม่รู้สิ อยากยุ่ง ทำไมอะ”
“รู้ไหมว่าแถวบ้านฉันเรียกเสือก”