“แล้วเธอเป็นใครเหรอ?” น้ำเสียงหวานดังขึ้นมาก่อนจะมองสบตากับฉัน แน่นอนว่าฉันลุกขึ้นยืนและยกมือโบกไปมาเมื่อได้ยินชื่อของเด็กคนนี้ เด็กคนนี้ที่ปืนพูดถึง เด็กคนนี้ที่เป็นอีกคนที่ทำให้เขาไม่รำคาญนอกจากยิ้ม น่ารัก บอบบาง อ่อนหวานมากเลยด้วย
“ไปรอข้างล่าง เดี๋ยวฉันลงไปอธิบายให้ฟัง”
“อืม” จอยพยักหน้ารับก่อนจะหมุนตัวออกจากห้องไป ส่วนฉันก็ทำอะไรไม่ถูก หันไปมองปืนที่เท้าเอวมองประตูอย่างไม่สบายใจ อ่อกังวลล่ะสิที่จอยจะเข้าใจผิด
“กลัวจอยจะเข้าใจผิดหรือไง?”
“ยุ่ง!” ปืนตะคอกฉันและเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาสวม ส่วนฉันก็เดินลงบันไดมาก็เห็นจอยนั่งอยู่กับพวกนัทที่นั่งเล่นเกมกันอยู่โดยไม่ได้สนใจอะไรเราเลย เด็กคนนั้นมองสบตากับฉันพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ และตัวฉันเองก็ต้องยิ้มตอบกลับไป ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่ชอบที่ปืนเห็นหล่อนสำคัญกว่าก็เหอะ เอิ่ม แล้วทำไมฉันจะต้องไม่พอใจด้วยเนี่ย
“พวกมึงนี่แม่งเล่นแต่เกมนะ และให้บัวขึ้นไปบนห้องกูทำไม?”
“ก็พี่สาวเขาจะไปตามมึงลงมากินข้าว จังหวะที่จอยมาพอดีกูก็เลยไล่ขึ้นไป ทำไม? มึงทำอะไรกับพี่สาวอยู่หรือไง”
“ทำตีนมึงสิ!” ฉันนั่งลงที่โซฟาก่อนจะมองปืนที่นั่งลงข้างๆ จอย ใบหน้าหล่อหันไปยิ้มให้กับหล่อนจนฉันเบ้ปาก ทีกับฉันแทบจะกัดให้ตายเลยนะ
“จอย คือเรื่องที่เห็นมันอุบัติเหตุนะ ผู้หญิงคนนี้ชื่อบัว เธอเป็นผู้ปกครองฉันแทนยิ้มน่ะ”
“เอ๋? งั้นเหรอ เออ จอยขอโทษนะคะ” จอยยกมือไหว้ฉันจนแทบจะยกมือตอบกลับไม่ทัน เธอทำหน้าไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปืนเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่เห็นว่ากำลังยิ้มให้กับจอย
“จอยซื้อเค้กมาฝาก ปืนกินนะ”
“ได้สิ โห... น่ากินมากเลย รู้ใจฉันด้วย” ฉันมองปืนที่กระตือรือร้นในการเปิดกล่องเค้กกิน แต่ทว่าฉันกลับยกจานซูชิยื่นให้เขาจนใบหน้าหล่อหันมามองฉันอย่างไม่พอใจ
“กินนี่ก่อนสิ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนะ”
“ฉันไม่ชอบกินอาหารแบบนี้...” ฝ่ามือหนาผลักจานฉันออกไป และตักเค้กกินพร้อมกับยิ้มให้จอยจนฉันหน่วงใจแปลกๆ ใช่มันรู้สึกหน่วงจนแทบจะไปไม่เป็นเลย แต่ทว่าฉันก็ทำตัวเองเข้มแข็งและเก็บอาการความรู้สึกนี่ไว้
“ฉันกลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้จะมารับไปเรียนนะ”
“ฉันโตแล้ว ไปเองได้... อย่าคิดว่าเป็นผู้ปกครองฉันแล้ว จะมาสั่งอะไรก็ได้ตามใจชอบนะ”
“พรุ่งนี้จะมารับ”
“เธอ!”
“บาย” ฉันยกมือให้กับปืน พวกเพื่อนเขาและจอยที่ยิ้มหวาน กระทั่งฉันออกมาจากบ้านของเขา ยกมือทาบหัวใจตัวเองที่มันเต้นหน่วงๆ เมื่อได้มองภาพของปืนที่ใส่ใจและยิ้มให้กับจอย ทั้งที่ฉันเองก็อยากได้โมเม้นท์แบบนี้บ้าง
“บ้าจริง! บัว คิดบ้าอะไรเนี่ย อายุเธอมากกว่าเด็กนั่นตั้งหกปีนะ... อย่ากินเด็กๆ ท่องไว้”
รุ่งเช้าฉันก็ขับรถมาที่บ้านของปืนแต่เช้าเลย อันที่จริงต้องมาดักเด็กบ้านี่ล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะไปก่อนไม่รอฉัน เพราะฉันรู้ไงว่ายังไงเด็กนั่นก็ต้องต่อต้านฉันอยู่ดี ฉันชะโงกมองเข้าไปในประตูบ้านก็เห็นร่างสูงของปืนที่แต่งตัวไม่เป็นระเบียบเดินออกมา พอเขาเห็นหน้าฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด
“น่าเบื่อ”
“เหอะ ขอโทษด้วยนะที่จะต้องเบื่อไปอีกนานจนกว่านายจะตั้งใจเรียนกว่านี้ ไป” ฉันคว้าข้อมือหนาไว้แต่ทว่าปืนก็สะบัดออกจนหลุดไป เขามองค้อนฉันและเดินตรงไปที่รถฉันอย่าง่ายดาย เราสองคนนั่งรถมาด้วยกันโดยไม่มีใครพูดอะไรเลย กระทั่งฉันที่นอนไม่หลับมาทั้งคืนเพราะเห็นปืนกับจอย ฉันโตพอจะรู้แล้วว่าสองคนนี้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน แต่ก็อยากได้ยินจากปากของปืนนะ
“นายกับจอย ดูสนิทกันนะ ไหนบอกว่าไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับชีวิตไง?”
“ก็เฉพาะจอยและก็...” เขาเงียบไป ก่อนจะเท้าศอกไปที่กระจกข้างมองออกไปด้านนอกโดยไม่สบตากับฉัน แต่เป็นฉันไงที่มองใบหน้าด้านข้างอย่างห่อเหี่ยวใจยังไงชอบกล
“นายชอบยิ้มที่อายุมากกว่าหรือชอบจอยที่อายุเท่ากัน?”
“จะอยากรู้ไปทำไม? ไม่ใช่เรื่อง” สีหน้าของปืนเด่นชัดมากว่าเขาหงุดหงิดฉัน แต่ทว่าฉันกลับเอื้อมมือไปหยิกแก้มเขาจนปืนหันมามองฉันอย่างไม่สบอารมณ์
“ชิ เจ็บนะเว้ย!”
“ก็ถามไม่ยอมตอบ นั่งเก๊กหน้าหล่อเป็นพระเอกเอ็มวีไปได้”
“จำเป็นต้องตอบเธอหรือไง? เป็นอะไรกันถึงจะต้องตอบทุกเรื่อง”
“ไม่รู้สิ รู้แค่ว่าฉันมีสิทธิ์ในตัวนายก็แล้วกัน”
“พูดให้จบ สิทธิ์ในเรื่องการเรียน ไม่ใช่เรื่อส่วนตัว” เขามองฉันอย่างนิ่งเฉยและหันกลับไปนั่งตามเดิม จนฉันเม้มปากตัวเอง ฝ่ามือก็กำลังพวงมาลัยรถอย่างหน่วงใจ
“แต่ก่อนอาจจะใช่ที่ฉันชอบยิ้ม เพราะยิ้มเป็นคนที่ทำให้ฉันอยากเปลี่ยน... และทำให้ฉันกลับไปเลวเหมือนเดิม”
“...”
“ตอนนี้มันไม่ได้มีความหมายสำหรับฉันแล้ว ยิ้มคือคนอื่นสำหรับฉัน และจอยคือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไป”
“ไม่ใช่ฉันหรือไงที่ทำให้นายเปลี่ยน เรื่องเรียนและก็เรื่องอื่นๆ”
“เธอก็แค่ตัวจุ้นจ้าน ฉันไม่ได้ต้องการ แต่เธอเสนอหน้าเอง”
“...”
“แต่กลับจอย ฉันต้องการ... ต้องการแค่จอย ไม่ได้ต้องการคนอื่น ส่วนเธออยากจะยุ่งเอง ฉันไม่ได้ขอร้อง” ใบหน้าของฉันชาไปทันทีเมื่อได้ฟังความต้องการของปืน ฉันจับจ้องใบหน้าหล่อนิ่งที่สบตากับฉันด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ทำไมรู้สึกหน่วงแบบนี้อีกแล้วนะ? หรือว่าฉันกำลังรู้สึกอะไรกับเด็กคนนี้งั้นเหรอ? ก็แค่ต้องการให้เด็กคนนี้มีอนาคตที่ดีแค่นั้นไม่ใช่หรือไงบัว ฉันขับรถมาด้วยความครุ่นคิดกระทั่งรถมาจอดที่หน้าโรงเรียนของปืน
“ขอบใจ”
“ตั้งใจเรียนนะ ขอร้องอย่าโดดเรียนไปมีเรื่องที่ไหน”
“...” เขาไม่ตอบ ลงจากรถไปจนฉันมองตามร่างสูง แน่นอนว่าเพื่อนของเขารออยู่ที่หน้าโรงเรียนพร้อมกับจอยที่ยิ้มให้เขาแต่ไกล ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันคืออะไรกันแน่นะ? ฉันโตพอที่จะรู้แล้วนะว่าความรู้สึกบ้าๆ นี่มันคืออะไร ฉันเอนศีรษะพิงเบาะมองร่างสูงที่เดินหายเข้าไปในโรงเรียน ยกมือก่ายหน้าผากกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้
“ขอร้องนะบัว คิดกับเด็กนั่นแค่เด็กในปกครองพอ อย่าคิดอะไรที่มันเกินไปกว่านี้เลย”