bc

เด็กแสบของคนเถื่อน NC20+

book_age18+
1.7K
FOLLOW
12.2K
READ
HE
sweet
city
addiction
like
intro-logo
Blurb

"ดื้อนักนะ เดี๋ยวพ่อจะฟาดให้ลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลยคอยดู!"

วายุ นักธุรกิจหนุ่มวัย 33 ปี เขาเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทและมีอาณาเขตบ้านติดกัน เธอที่ทั้งดื้อรั้นและขี้อ้อนสร้างความเอือมระอาให้เขาไม่น้อย จนเขาเข้าเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งอยู่ไกลบ้านจึงทำให้หลุดพ้นจากยัยเด็กดื้อ นาน ๆ ทีได้กลับมาเจอกัน ยัยเด็กดื้อก็ยังดื้อเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือยัยเด็กแสบดันสวยขึ้นเป็นกอง แถมรูปร่างยังเซ็กซี่น่ากอดน่าฟัด จากเมื่อก่อนอยากจะไปให้ไกล ๆ ตอนนี้กลับเป็นอยากเข้าใกล้อย่างแนบชิดสนิทเนื้อ

แป้งร่ำ นักศึกษาสุดสวยวัย 20 ปี เป็นเพราะเป็นลูกคนเดียวเธอจึงเหงาอยากมีเพื่อนเล่น จึงได้แอบไปเล่นกับพี่ชายและเพื่อนรุ่นเดียวที่มีบ้านติดกันอยู่บ่อย ๆ

เด็กที่เมื่อก่อนเป็นเด็กขี้แยที่มักจะร้องไห้ขี้มูกโป่งให้เขาโอ๋อยู่เสมอ เมื่อโตขึ้นเด็กขี้แยคนนั้นกลับเป็นสาวสวยสะพรั่ง ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอจึงเริ่มเปลี่ยน ไม่ได้มองเธอเป็นน้องสาวอีกต่อไป แต่มองในฐานะผู้ชายมองผู้หญิงที่พร้อมจะทำให้เธอมาเป็นของเขาได้ทุกเมื่อ

และเด็กขี้แยคนนั้นเมื่อโตขึ้นเธอก็ดื้อใช่ย่อย ไม่อยากจะยุ่งด้วยหรอกหากว่าเขาไม่ได้สนใจเธออยู่ ปฏิบัติการปราบพยศเด็กแสบจึงได้เริ่มต้นขึ้น

ซีรีส์ชุดคนเถื่อน

1. ดวงใจคนเถื่อน (ภูผา + วิรัศยา)

2. เด็กเลี้ยงคนเถื่อน (เควิน + วิลาสินี)

3. เด็กแสบของคนเถื่อน (วายุ + แป้งร่ำ)

นิยายเรื่อง เด็กแสบของคนเถื่อน เขียนขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566

ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และ พ.ศ. 2558 (ฉบับ 2)

นิยาย เรื่อง เด็กแสบของคนเถื่อน เป็นผลงานของนักเขียนนามปากกา violet แต่เพียงผู้เดียว ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่แก่สาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต หากผู้ใดละเมิดจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้าจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 เดือนถึง 2 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

chap-preview
Free preview
1. มองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง
"แป้ง! เสร็จหรือยังลูก พี่ยุกับวามาแล้ว" เสียงตะโกนเรียกลูกสาวของหญิงวัยกลางคนดังที่ชั้นล่างของบ้าน ก่อนจะมีเสียงปิดประตูดังตึ้งจากชั้นสองจากน้ำมือของเจ้าของชื่อ "เสร็จแล้วค่า!" เสียงหวานตะโกนลงมาจากชั้นบนโดยที่ยังไม่เห็นตัวคนพูดด้วยซ้ำ ทั้งเสียงปิดประตูเสียงดังและการตะโกนตอบกลับบ่งบอกถึงนิสัยของเธอว่าไม่ได้เรียบร้อยสมเป็นกุลสตรี แต่คนที่รับรู้การตะโกนโหวกเหวกของเธอก็ชินกันหมดแล้วว่าแป้งร่ำไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้เหมือนเพื่อนของเธอที่แม่ของเธอเพิ่งเอ่ยชื่อไป "ดูเอาเถอะยุ วา ลูกน้าโตเป็นสาวเป็นนางแล้วก็ยังกระโดกกระเดก แล้วชาตินี้น้าจะมีลูกเขยกับเขาไหมเนี่ย" นาตยาถอนหายใจเบา ๆ แล้วหันไปหาสองชายหญิงรุ่นลูก ที่ทั้งคู่สละเวลามาเป็นธุระเรื่องการย้ายถิ่นอาศัยของลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ "น้านาตไม่รู้อะไร ที่มหาวิทยาลัยแป้งมีหนุ่มมาจีบเพียบเลยนะคะ" วาวีที่เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันพูดขึ้นราวจะฟ้องแม่เพื่อนกลาย ๆ แต่ที่เธอพูดก็เป็นเรื่องจริงเพราะรูปร่างหน้าตาของเพื่อนของเธอนั้นดึงดูดเพศตรงข้าม โดยที่ไม่ต้องลงทุนหว่านเสน่ห์ก็มีหนุ่มแวะเวียนมาขายขนมจีบไม่ขาด วาวีไม่ได้สังเกตเลยว่าขณะที่เธอพูดทีเล่นทีจริงอยู่นั้น สีหน้าของพี่ชายเธอนั้นเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเพียงใด "นินทาอะไรฉันยัยวา" และแล้วบุคคลที่เป็นหัวข้อสนทนาก็เดินลงบันไดมาถึงชั้นล่าง หญิงสาวร่างกายอรชรสมสัดส่วนที่อยู่ในชุดเสื้อยืดพอดีตัวสีครีมและกางเกงยีนเข้ารูปสีเข้มหิ้วกระเป๋าใบโตด้วยมือสองข้างมาด้วย จึงทำให้เธอต้องเอนตัวนิด ๆ ไปทิศตรงกันข้ามกับกระเป๋าเพื่อถ่วงเอาไว้ "ฉันฟ้องน้านาตว่าแกมีหนุ่มมาจีบ ไม่นานแกก็อาจจะมีแฟน" วาวียิ้มเย้ยเพื่อนรักที่ได้ใส่สีตีไข่เพื่อน "จะมีแฟนแม่ไม่ว่า แต่อย่าให้เสียการเรียนนะลูก" นาตยาเตือนลูกสาวเสียงเครียด ไม่ได้กีดกันหากลูกสาวจะมีแฟนแต่ก็ต้องเตือนสติกันหน่อยว่าตอนนี้หน้าที่ของแป้งร่ำนั้นคือการเรียน "แม่อย่าไปเชื่อยัยวาสิ หนูไม่อยากหาห่วงมาผูกคอ ตัวคนเดียวสบายดีจะตาย" แป้งร่ำรีบแก้ข้อกล่าวหาให้ตัวเอง วางกระเป๋าที่ถือมาลงที่พื้นก่อนจะชี้หน้าคาดโทษวาวี ปลายตาสวยไปมองพี่ชายของเพื่อนก็เห็นว่าเขานั้นมีสีหน้าเคร่งเครียด 'สงสัยพี่ยุจะมีเรื่องให้คิด น่าจะเป็นเรื่องงานล่ะมั้ง' "คิดผิดหรือคิดถูกที่ให้ไปอยู่หอพักเนี่ย" นาตยาบ่นพึมพำอย่างคิดหนัก เพราะที่นี่ไกลจากมหาวิทยาลัยพอสมควรแป้งร่ำจึงขอพ่อและแม่ไปเช่าหอพักอยู่ และตอนนี้ขึ้นปีสามแล้วงานที่อาจารย์สั่งก็เยอะขึ้น กว่าจะเดินทางกลับถึงบ้านและทำงานก็เสียเวลาไปพอสมควร เธอจึงคิดว่าออกไปเช่าหอพักใกล้ ๆ มหาวิทยาลัยจะดีกว่า ที่สำคัญก็มีวาวีออกไปพักอยู่ด้วย ทั้งคู่อยู่ตึกเดียวกันแต่อยู่กันคนละห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่เช่นนั้นพ่อและแม่ของเธอคงไม่อนุญาต วันนี้เป็นวันย้ายเข้าหอ วายุจึงถูกแม่เรียกให้มารับน้องสาวไปส่งที่หอ และไหน ๆ แป้งร่ำก็อยู่ที่เดียวกันเขาเลยมารับไปด้วย "นั่นสิครับ จะพากันเกเรไหม" วายุที่ฟังอยู่นานพูดขึ้น มองไปทางน้องสาวแล้วลากสายตาคมกริบไปหาสาวน้อยหน้าหวานที่ยืนอยู่ข้างแม่ของเธอ ด้วยต้องการจะดุทั้งวาวีน้องสาวและแป้งร่ำเพื่อนเธอกลาย ๆ ที่ปีกกล้าขาแข็งออกไปอยู่ตามลำพัง ที่สำคัญทั้งพ่อและแม่ก็ยอมด้วยสิ ไม่รู้ว่าเจอลูกอ้อนอะไรไปบ้าง ลูกคนเล็กแถมเป็นลูกสาวพ่อก็เลี้ยงแบบตามใจเสียเหลือเกิน "พี่ยุอย่ามาว่าหนู หนูออกจะเป็นเด็กดี" วาวีค้อนให้พี่ชายที่บังอาจมาดูถูกเธอ ถ้าจะมีแฟนเธอมีไปนานแล้ว เพราะเธอก็เสน่ห์แรงหัวกระไดไม่แห้งพอ ๆ กับแป้งร่ำนั่นล่ะ "เราไปกันดีกว่าวา หนูไปก่อนนะคะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงหนูจะกลับบ้านทุกวันหยุดเลย" แป้งร่ำที่เห็นว่าสองบุคคลที่อายุเยอะกว่าเริ่มจะจับผิดพวกตนจึงได้รีบเปลี่ยนเรื่อง พูดชวนเพื่อนและหันไปหาผู้เป็นแม่กอดเอวอวบอย่างออดอ้อนเพราะกลัวว่าท่านจะเปลี่ยนใจ ถึงวายุจะเป็นพี่ชายแต่อายุก็ห่างจากพวกเธอถึงสิบกว่าปี จึงทำให้แป้งร่ำรู้สึกเกรงเขาอยู่เหมือนกัน วาวีนั้นเป็นลูกหลงที่ทะลุยาคุมมาเกิดจึงทำให้มีอายุห่างจากพี่ชายมากโข "เอาเงินไปใช้ อาทิตย์หน้าถ้าไม่กลับบ้านแม่ไม่โอนให้นะ ต้องกลับมาเอาด้วยตัวเอง เดี๋ยวพ่อจะคิดถึงลูกสาวจนตรอมใจ" นาตยายิ้มอ่อนให้ลูกสาวจอมขี้อ้อนพร้อมกับล้วงเงินที่เตรียมไว้สำหรับค่าใช้จ่ายของลูกสาวแล้วส่งให้ ส่ายศีรษะอ่อนใจเมื่อลูกสาวรีบปล่อยเอวแล้วรับเอาเงินไปอย่างรวดเร็วราวกับว่าเห็นเงินดีกว่าแม่ตัวเองอย่างไรอย่างนั้น "ขอบคุณค่ะ หนูกลับแน่" แป้งร่ำยิ้มกว้างทะเล้นถูกใจก่อนจะพนมมือไหว้ขอบคุณแม่ผู้ใจดีของตน "พี่ถือให้" วายุพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาเดินทางได้แล้ว เพราะเขามีงานอีกสองชั่วโมงต่อจากนี้ประเดี๋ยวจะไม่ทันการ มือหนาเอื้อมไปหยิบหูกระเป๋าแล้วหิ้วขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว ด้วยเพราะเขาชอบออกกำลังกาย ร่างกายจึงเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อแข็งปั๊ก กระเป๋าที่แป้งร่ำหิ้วด้วยมือสองข้างเขาจึงยกด้วยด้วยแขนข้างเดียวอย่างสบาย ๆ "ไม่เป็นไรพี่ยุ หนูถือเองได้" แป้งร่ำรีบปฏิเสธน้ำใจพี่ชายของเพื่อน ปรี่เข้าไปคว้าหูกระเป๋าตั้งใจจะแย่งมาถือเอง จึงทำให้เธอคว้ามือแกร่งไปด้วย "กระเป๋าหนักพี่ถือให้" วายุเอ่ยเสียงเรียบแล้วยื้อกระเป๋ากลับจนฝ่ามือนุ่มหลุดไปจากหลังมือ ใต้ความนิ่งเฉยของวายุ ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนี้ใจแกร่งนั้นเต้นตึกตักเพียงใดหลังจากที่สัมผัสกับฝ่ามือนุ่มของหญิงสาว ที่วายุคิดว่าเธอเป็นน้องสาวอีกคนนอกจากวาวี แต่ไม่รู้ว่าเขาเริ่มมองเธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่น้องสาวตั้งแต่ตอนไหน พอมาสัมผัสความนุ่มของมือน้อยจึงทำให้เขาใจเต้นแรงจนแทบจะระเบิดแบบนี้ "เอางั้นก็ได้" แป้งร่ำที่ไม่สามารถแย่งกระเป๋าคืนมาได้จึงได้ยิ้มหวานให้ชายผู้ให้บริการรูปหล่อ "ให้พี่ยุถือให้น่ะดีแล้ว เรามันผู้หญิงบอบบาง" วาวีพูดกับเพื่อนอย่างร่าเริงที่มีคนมาบริการ "น้านาตคะ วันเสาร์เดี๋ยวพวกหนูกลับมา หนูขอมาฝากท้องสักมื้อนะ" ก่อนวาวีจะหันไปหาญาติผู้ใหญ่ที่เธอสนิทและให้ความเคารพเหมือนเป็นญาติแท้ ๆ คนหนึ่ง เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ เธอก็ไปมาหาสู่กับบ้านนี้ประจำอยู่แล้ว "ได้สิ อยากกินอะไรกันก็โทรมาบอกก่อนล่ะน้าจะได้เตรียมไว้ให้" นาตยายิ้มอบอุ่นให้หญิงรุ่นลูกที่เหมือนกับว่าเธอเป็นลูกสาวของบ้านนี้อีกคน หลังจากที่ร่ำลากันแล้ว สองเพื่อนซี้ก็เดินออกจากบ้านเพื่อที่จะไปยังรถอเนกประสงค์คันโตของวายุ ที่เจ้าของนั้นเดินออกมาก่อนและยกกระเป๋าของแป้งร่ำเก็บที่หลังรถแล้วเรียบร้อย ......................... เริ่มตอนแรกลุงก็คิดไม่ซื่อละ 55555

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.2K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook