คัลเลนที่เห็นเหตุการณ์ตอนเพื่อนรักหมุนตัวเดินชนเข้ากับสาวคนหนึ่งอย่างจังที่หน้าร้าน ถามอย่างข้องใจ “เกิดอะไรขึ้นวะเพื่อน?”
“ก็แค่เด็กให้ท่าน่ะ” โจเซฟบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ กับความมั่นหน้ามั่นโหนกของหญิงสาวคนเมื่อครู่
“สวยนะ หุ่นก็เซ็กซี่ด้วย” คัลเลนเอ่ยหยอก
“อย่าใส่ใจเลย รีบทานข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวต้องไปประชุมต่อ” โจเซฟเอ่ยเตือนด้วยสีหน้านิ่งๆ
“คืนนี้ไปเที่ยวผ่อนคลายกันไหม ช่วงนี้เบื่อๆ ว่ะ ชีวิตไม่มีสีสันเลย ไม่เหมือนมึง ดูสิ สวยกว่าดารานางแบบเลยนะเพื่อน” คัลเลนสะกิดเพื่อนรัก เพราะอยากจะให้อีกฝ่ายสานสัมพันธ์กับสาวคนเมื่อครู่ต่อ
“สวยแต่ไม่น่าจะมีสมอง” โจเซฟบอกด้วยสีหน้าตึงๆ
“รู้ได้ไงว่าน้องเขาไม่มี ดูจากการแต่งตัวแล้ว ฐานะทางบ้านคงจะไม่ธรรมดา”
“หรือไม่ก็เด็กเสี่ย” โจเซฟประเมินเด็กสาวคนเมื่อครู่ ซึ่งยอมรับก็ได้ว่า...เขาถูกใจเธอเป็นอย่างมาก แต่เธอเลือกวิธีเข้าหาเขาได้ห่วยสุดๆ
“ต้องสนด้วยเหรอวะ?” คัลเลนเลิกคิ้วถามอย่างรู้สึกขำๆ
“สนบ้างก็ดี” โจเซฟมองค้อนตัวยุยงก่อนจะใช้ส้อมจิ้มสเต๊กเนื้อนุ่มๆ ทานต่ออีก 3-4 คำ แล้วสั่งเช็คบิลทันที
ดีน่าเอ่ยขึ้นทันทีหลังเห็นสองหนุ่มเดินออกจากร้านไป “โห...เช็คบิลจากไปโดยไม่หันมามองเพื่อนสาวของเราเลย”
“จะมองทำไม ยังไงคืนนี้เขาก็ต้องโทรมาอยู่แล้ว” ดารินตอบพร้อมกับยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ
“จ้า...ฉันรอฟังข่าวดีนะ” ดีน่าบอกอย่างไม่เชื่อว่าคนอย่างโจเซฟจะโทร. หาเพื่อนสาว แม้ว่าเพื่อนของเธอจะสวยและหน้าตาดีมากๆก็ตาม
“โอเค งั้นเช็คบิลเลยไหม พอดีฉันต้องไปหาพ่อที่สนามกอล์ฟต่อ” ดารินรีบบอกหลังเปิดอ่านข้อความในมือถือที่บิดาส่งมาให้
“แล้วแต่เจ้ามือเลยจ้ะ” เมรีบอกยิ้มๆ เพราะตนเองและเพื่อนสาวอีกสองรับประทานอาหารกันจนอิ่มแปร้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องนั่งต่อ
ชั่วโมงต่อมา...สนามกอล์ฟ
ดารินขับรถไปถึงก็รีบเดินตรงไปยังคาเฟ่ที่บิดาชอบไปนั่งดื่มกาแฟเป็นประจำ ก่อนจะยกมือไหว้คนสนิทของบิดาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีค่ะคุณอาดิลก”
“อ้าว! คุณรินมาเมื่อไหร่ครับ” ดิลกรับไหว้ก่อนจะเอ่ยถามอย่างตกใจนิดๆ
“เพิ่งมาถึงนี่แหละค่ะ เป็นไงบ้างคะวันนี้” ดารินรีบเข้าไปนั่งข้างๆ บิดาอย่างไม่รอช้า
“ไม่ได้ออกไปตีกอล์ฟหรอกลูก แค่มาจิบกาแฟและนั่งคุยกันเท่านั้น” ธาดาหันไปบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” ดารินถามอย่างแปลกใจ หลังสังเกตเห็นดวงตาของบิดาแดงก่ำนิดๆ
“เปล่านี่” ธาดาเอ่ยปฏิเสธทันที
“แล้วทำไมคุณพ่อตาแดงๆ คะ”
“ก็ดิลกน่ะสิ เล่าเรื่องเก่าๆ ทำเอาพ่อบ่อน้ำตาเเตกเลย” ธาดาเอ่ยพลางส่งค้อนไปให้คนสนิทที่ไม่ยอมช่วยแก้ต่างให้ตนเหมือนกับทุกครั้ง
“จริงเหรอคะ” ดารินถามย้ำพร้อมกับจับสังเกต
“จริงครับคุณหนู” ดิลกเอ่ยยิ้มๆ
“โอ๋ๆ เดี๋ยวรินปลอบเองค่ะ” ดารินบอกก่อนจะขยับเข้าไปกอดบิดา ที่ยังคงมีร่องรอยของความเศร้าหมองหลงเหลืออยู่ให้เห็น
“เนี่ย! รักใดๆ ก็ไม่เท่ากับรักของลูกสาว จริงไหมดิลก” ธาดาอมยิ้มหลังถูกบุตรสาวอ้อน
“จริงที่สุดครับท่าน” ดิลกขานรับทันใด
“อืม...งั้นคืนนี้เราไปเที่ยวด้วยกันไหมคะ?” ดารินเอ่ยชวนด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ที่ไหนเหรอครับคุณหนู” ดิลกถามอย่างสนใจ
“ไม่รู้สิคะ คุณอาแนะนำรินหน่อยสิ”
“โห...ถ้าผมบอกคุณหนูจะไปเหรอครับ”
“จัดมาได้เลย”
“ผมอยากไปเที่ยวผับครับ” ดิลกบอกความต้องการของตัวเองออกไปทันที
“คิกๆๆ” ดารินได้ฟังก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ไม่ดูอายุเลย” ธาดาเองก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างเบรกไม่อยู่
“โธ่! สักครั้งในชีวิตผมก็อยากจะไปเปิดหูเปิดตาดูบ้างครับท่าน” ดิลกบอกพร้อมกับกลอกตาอย่างเพลียๆ ที่ถูกทั้งเจ้านายและบุตรสาวหัวเราะใส่ตน
“ไปก็ไป ว่าแต่...เราแอบไปกันสามคนนะ โอเคไหม” ธาดาเอ่ยสรุป
“เยี่ยมที่สุดเลยค่ะ ถ้าพ่อพาดอกฟ้าไปด้วย คงได้ตีกับรินในคลับแน่” ดารินบอกทีเล่นทีจริง ทำเอาบิดากับคนสนิทถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“ชิ! งั้นเดี๋ยวรินกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านให้เองค่ะ พ่อกับอาดิลกไปเปิดโรงแรมรอแล้วกัน อ้อ! โทรบอกดอกฟ้าด้วยนะคะว่าคืนนี้เราจะไม่กลับบ้านค่ะ” ดารินบอกจบก็หยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“ตกลงตามนั้นเลยลูก” ธาดาบอกอย่างเห็นด้วย ก่อนจะลุกขึ้นยกมือเรียกพนักงานมาเช็คบิล
“แล้วเจอกันค่ะ” ดารินเข้าไปกอดและหอมที่แก้มของบิดาเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปยังรถที่จอดอย่างรวดเร็ว
สองชั่วโมงต่อมา...โรงแรมร็อฟเวลล์
ทันทีที่ดารินมาถึง ก็เอาเสื้อผ้าไปให้บิดาและคนสนิทในห้องพักที่อยู่ติดกัน จากนั้นก็เดินเข้าไปยังห้องพักของตัวเองแล้วจัดการอาบน้ำ แปลงโฉมเตรียมพร้อมที่จะท่องราตรีแบบจัดเต็ม
ไนต์คลับหรู เวลา...21:29 น.
“เสียงดังไปไหมคะพ่อ” ดารินหันไปถามบิดาหลังเดินเข้าไปข้างในไนต์คลับหรูของซานเตียนโน่
“ก็ดังอยู่นะ แต่พ่อพอรับได้ แล้วนายล่ะ” ธาดากระซิบตอบบุตรสาวก่อนจะหันไปถามคนสนิท
“ได้ครับ แค่หัวใจของผมเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงกลองเท่านั้น” ดิลกบอกยิ้มๆ
“ฮ่าๆๆ ไหวหรือเปล่าดิลก” ธาดาหัวเราะกับคำตอบของคนสนิท ที่กินเที่ยวด้วยกันมาตั้งแต่วัยรุ่น
“ไหวสิครับ ไม่ไหวก็อายท่านแย่เลย” ดิลกยักไหล่ทั้งสองขึ้นนิดๆ ดาริน อมยิ้มก่อนจะยกมือเรียกพนักงานต้อนรับ
“มากี่ที่คะ” พนักงานสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม