5

890 Words
“อย่า...อะ...อืม...” โจเซฟที่อยากจะผลักแม่เสือสาวออก แต่ใจของเขาก็ไม่แข็งพอที่จะทำแบบนั้นได้ เพราะเสียวและไฟปรารถนาที่ก่อตัวขึ้น ซึ่งมันกำลังเรียกร้องการปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง “ชอบไหมคะ? ต้องการให้ฉันทำต่อไหม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถาม พร้อมกับสไลด์มือนุ่มๆ ขึ้นลงตามลำขนาดเขื่องเบาๆ อย่างทะนุถนอม “ไม่ ผมไม่...ต้องการ” โจเซฟกัดฟันตอบ ทั้งที่ในใจอยากจะจับไมค์ทองคำมาตีหัวหรือฟาดเข้าที่เบ้าหน้างามๆ สักสอง-สามที เป็นการเจิมสิริมงคล “อืม...ฉันให้คุณตอบอีกครั้ง” หญิงสาวส่งยิ้มยั่ว พลางตวัดลิ้นเลียวนตรงส่วนหัวที่เบ่งบานไปมาอย่างหยอกเย้า คนที่ถูกจับน้องชายเป็นตัวประกันอยู่ในมือ เงยหน้าซู้ดปากเบาๆ อย่างรู้สึกเสียวซ่านทรวงในเป็นที่สุด “ซี้ด...จะทำอะไรก็ทำเถอะ” “รับรองว่าฉันจะทำให้คุณถึงใจกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านมา” หญิงสาวบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อคลุมโยนทิ้ง เผยให้เห็นเรือนร่างที่สุดจะเซ็กซี่ชัดๆ เต็มๆ ตา “พระเจ้า!” โจเซฟอุทานก่อนจะช้อนอุ้มแม่เสือสาวขึ้น แล้วเดินตรงไปยังเตียงขนาดใหญ่อย่างไม่รอช้า หึ! เด็กเสี่ยก็เด็กเสี่ยเถอะ วินาทีนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว กริ้ง...กริ้ง... เสียงที่ดังก้องกังวานอยู่ข้างๆ หู ทำให้โจเซฟลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย “บ้าจริง นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย?” คนที่ตกใจตื่นรีบกดรับสายทันใด [ครับ] [สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณโจเซฟ ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้วนะคะ] [โอเคครับ ขอบคุณ] โจเซฟกดวางสายก่อนจะขยับลุกจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิด เพิ่งเข้าใจคำว่าฝันค้างเป็นยังไงก็วันนี้ เวลา 11:12 น. หลังจากที่ดารินเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมพร้อมกับบิดาและคนสนิทเสร็จ ก็พากันเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้าน เพราะเพิ่งจะทราบว่าดอกฟ้าโวยวายเสียงดังใส่แม่นมของตน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อบิดาของเธอได้ “รีบๆ ขับรถตามไปนะลูก” ธาดาบอกบุตรสาวก่อนจะเข้าไปนั่งในรถที่คนสนิทขับมาจอดรถ “ค่ะพ่อ เจอกันที่บ้านค่ะ” ดารินพนักหน้ารับเบาๆ “ไปก่อนนะครับคุณหนู” ดิลกบอกพลางส่งยิ้มให้ “ค่ะคุณอา” ดารินโบกมือให้พร้อมกับจ้องมองรถของบิดาแล่นออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถที่พนักงานขับวนมาให้ โดยไม่ลืมให้ทิปอีกฝ่าย “ขอบคุณครับ” พนักงานรีบยกมือไหว้อย่างดีใจ “ขอบคุณเช่นกันค่ะ” ดารินยกมือไหว้ตอบก่อนจะค่อยๆ ขับรถไปตามทางออก ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น ดารินเหลือบมองที่หน้าจอมือถือครู่หนึ่งก่อนกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน [ว่าไงดีน่า] [เป็นไงบ้าง เมื่อคืนเขาโทรมาไหม?] [เอ่อ...โทรแล้ว พอดีเรายุ่งๆ น่ะ ก็เลยบอกว่าจะโทรกลับหาเขาวันนี้] [จริงเหรอ?] [ก็จริงน่ะสิ เราว่าจะชวนเขาไปดินเนอร์น่ะ] [กรี๊ดดด ฉันรอชมภาพถ่ายคู่นะ] [จ้า แค่นี้ก่อนนะ] ดารินรีบตัดสายแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ “โอ๊ย! เอาไงดีเนี่ย ทำไมเมื่อคืนเขาถึงไม่ยอมโทรมาหาเรานะ หึ! งั้นก็บุกไปหาที่บริษัทเลยดีกว่า” บริษัท J C คอนสตรักชัน ก๊อกๆ โจเซฟเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “เชิญครับ” คลิก! คนที่ยืนด้านนอกรีบหมุนลูกบิดที่ประตูห้อง แล้วก้าวเข้าไปด้านในพร้อมกับฉีกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ “ไงคะที่รัก เซอร์ไพรส์หรือเปล่า” “คุณ...” โจเซฟจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา “ตามมารยาทคุณอาจจะแกล้งโทรไปถามไถ่อาการของฉัน แต่ก็เปล่า? ทำเบอร์โทรหายเหรอคะ?” คนที่รอเก้อเปิดฉากยิงคำถามทันที “คุณมาได้ยังไง” โจเซฟเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถผ่านด่านเลขาหรือแม้แต่พนักงานต้อนรับขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ได้ โดยที่ตนไม่รู้ “ฉันก็บอกว่าเป็นแฟนของคุณ พวกเขาดูตกใจอยู่นิดหน่อย แต่ประเมินจากความสวยของฉันแล้ว ก็เลยยอมปล่อยให้ฉันขึ้นมาหาคุณได้ง่ายๆ” ดารินไขข้อข้องใจให้กับหนุ่มฮอตที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็หล่อไปหมดทุกองศา “เฮ้อ...โอเค คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่อีกไหม?” โจเซฟเอ่ยถามพร้อมกับรีบเบนสายตาไปจากใบหน้าจิ้มลิ้มและหุ่นอันเซ็กซี่อย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าคืนนี้จะเก็บเอาไปฝันเหมือนกับคืนอีก “เจ็บค่ะ เจ็บจี๊ดที่ตรงนี้เป็นอย่างมาก” ดารินบอกพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง “ผมงานยุ่งนะ ไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอก กลับไปเถอะ” โจเซฟบอกก่อนจะทำทีเป็นก้มลงมองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะต่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD