“อย่า...อะ...อืม...” โจเซฟที่อยากจะผลักแม่เสือสาวออก แต่ใจของเขาก็ไม่แข็งพอที่จะทำแบบนั้นได้ เพราะเสียวและไฟปรารถนาที่ก่อตัวขึ้น ซึ่งมันกำลังเรียกร้องการปลดปล่อยอย่างบ้าคลั่ง
“ชอบไหมคะ? ต้องการให้ฉันทำต่อไหม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถาม พร้อมกับสไลด์มือนุ่มๆ ขึ้นลงตามลำขนาดเขื่องเบาๆ อย่างทะนุถนอม
“ไม่ ผมไม่...ต้องการ” โจเซฟกัดฟันตอบ ทั้งที่ในใจอยากจะจับไมค์ทองคำมาตีหัวหรือฟาดเข้าที่เบ้าหน้างามๆ สักสอง-สามที เป็นการเจิมสิริมงคล
“อืม...ฉันให้คุณตอบอีกครั้ง” หญิงสาวส่งยิ้มยั่ว พลางตวัดลิ้นเลียวนตรงส่วนหัวที่เบ่งบานไปมาอย่างหยอกเย้า
คนที่ถูกจับน้องชายเป็นตัวประกันอยู่ในมือ เงยหน้าซู้ดปากเบาๆ อย่างรู้สึกเสียวซ่านทรวงในเป็นที่สุด “ซี้ด...จะทำอะไรก็ทำเถอะ”
“รับรองว่าฉันจะทำให้คุณถึงใจกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านมา” หญิงสาวบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับถอดเสื้อคลุมโยนทิ้ง เผยให้เห็นเรือนร่างที่สุดจะเซ็กซี่ชัดๆ เต็มๆ ตา
“พระเจ้า!” โจเซฟอุทานก่อนจะช้อนอุ้มแม่เสือสาวขึ้น แล้วเดินตรงไปยังเตียงขนาดใหญ่อย่างไม่รอช้า หึ! เด็กเสี่ยก็เด็กเสี่ยเถอะ วินาทีนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว
กริ้ง...กริ้ง...
เสียงที่ดังก้องกังวานอยู่ข้างๆ หู ทำให้โจเซฟลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย “บ้าจริง นี่เราฝันไปเหรอเนี่ย?”
คนที่ตกใจตื่นรีบกดรับสายทันใด
[ครับ]
[สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณโจเซฟ ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้วนะคะ]
[โอเคครับ ขอบคุณ] โจเซฟกดวางสายก่อนจะขยับลุกจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำด้วยสีหน้าหงุดหงิด เพิ่งเข้าใจคำว่าฝันค้างเป็นยังไงก็วันนี้
เวลา 11:12 น. หลังจากที่ดารินเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมพร้อมกับบิดาและคนสนิทเสร็จ ก็พากันเตรียมตัวจะเดินทางกลับบ้าน เพราะเพิ่งจะทราบว่าดอกฟ้าโวยวายเสียงดังใส่แม่นมของตน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อบิดาของเธอได้
“รีบๆ ขับรถตามไปนะลูก” ธาดาบอกบุตรสาวก่อนจะเข้าไปนั่งในรถที่คนสนิทขับมาจอดรถ
“ค่ะพ่อ เจอกันที่บ้านค่ะ” ดารินพนักหน้ารับเบาๆ
“ไปก่อนนะครับคุณหนู” ดิลกบอกพลางส่งยิ้มให้
“ค่ะคุณอา” ดารินโบกมือให้พร้อมกับจ้องมองรถของบิดาแล่นออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งในรถที่พนักงานขับวนมาให้ โดยไม่ลืมให้ทิปอีกฝ่าย
“ขอบคุณครับ” พนักงานรีบยกมือไหว้อย่างดีใจ
“ขอบคุณเช่นกันค่ะ” ดารินยกมือไหว้ตอบก่อนจะค่อยๆ ขับรถไปตามทางออก
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้น ดารินเหลือบมองที่หน้าจอมือถือครู่หนึ่งก่อนกดรับสายพร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟน
[ว่าไงดีน่า]
[เป็นไงบ้าง เมื่อคืนเขาโทรมาไหม?]
[เอ่อ...โทรแล้ว พอดีเรายุ่งๆ น่ะ ก็เลยบอกว่าจะโทรกลับหาเขาวันนี้]
[จริงเหรอ?]
[ก็จริงน่ะสิ เราว่าจะชวนเขาไปดินเนอร์น่ะ]
[กรี๊ดดด ฉันรอชมภาพถ่ายคู่นะ]
[จ้า แค่นี้ก่อนนะ]
ดารินรีบตัดสายแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างรู้สึกหงุดหงิดนิดๆ “โอ๊ย! เอาไงดีเนี่ย ทำไมเมื่อคืนเขาถึงไม่ยอมโทรมาหาเรานะ หึ! งั้นก็บุกไปหาที่บริษัทเลยดีกว่า”
บริษัท J C คอนสตรักชัน
ก๊อกๆ
โจเซฟเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “เชิญครับ”
คลิก! คนที่ยืนด้านนอกรีบหมุนลูกบิดที่ประตูห้อง แล้วก้าวเข้าไปด้านในพร้อมกับฉีกยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ “ไงคะที่รัก เซอร์ไพรส์หรือเปล่า”
“คุณ...” โจเซฟจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“ตามมารยาทคุณอาจจะแกล้งโทรไปถามไถ่อาการของฉัน แต่ก็เปล่า? ทำเบอร์โทรหายเหรอคะ?” คนที่รอเก้อเปิดฉากยิงคำถามทันที
“คุณมาได้ยังไง” โจเซฟเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสามารถผ่านด่านเลขาหรือแม้แต่พนักงานต้อนรับขึ้นมายืนอยู่ตรงนี้ได้ โดยที่ตนไม่รู้
“ฉันก็บอกว่าเป็นแฟนของคุณ พวกเขาดูตกใจอยู่นิดหน่อย แต่ประเมินจากความสวยของฉันแล้ว ก็เลยยอมปล่อยให้ฉันขึ้นมาหาคุณได้ง่ายๆ” ดารินไขข้อข้องใจให้กับหนุ่มฮอตที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็หล่อไปหมดทุกองศา
“เฮ้อ...โอเค คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่อีกไหม?” โจเซฟเอ่ยถามพร้อมกับรีบเบนสายตาไปจากใบหน้าจิ้มลิ้มและหุ่นอันเซ็กซี่อย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าคืนนี้จะเก็บเอาไปฝันเหมือนกับคืนอีก
“เจ็บค่ะ เจ็บจี๊ดที่ตรงนี้เป็นอย่างมาก” ดารินบอกพร้อมกับชี้ไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง
“ผมงานยุ่งนะ ไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอก กลับไปเถอะ” โจเซฟบอกก่อนจะทำทีเป็นก้มลงมองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะต่อ