Elite Pub
ผับหรูแถวมหาลัยยังคงคึกคักเหมือนทุกวันแม้เปิดเพียงไม่นานแต่สามารถถอนทุนคืนได้แล้วซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุนมาก ชายหนุ่มใบหน้าเรียบเฉยนัยน์ตาคมกริบนั่งจิบแอลกอฮอล์อยู่คนเดียวในห้องทำงานชื่อของเขาคือ ไนต์ ที่แปลว่าอัศวินไม่ใช่กลางคืนวันนี้เป็นวันที่เขาต้องมาดูแลผับแน่นอนว่างานที่มหาลัยก็ยุ่งมากแต่จัดการเรียบร้อยแล้วถึงมาที่ผับ
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
ชายชุดดำวัยกลางคนที่มีใบหน้าดุดันเคร่งขรึมเกินกว่าจะเป็นบอดี้การ์ดของผับเข้ามาภายในห้องก่อนจะโค้งหัวให้กับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าตนมาก
“คุณไนต์ ทางนั้นมีความเคลื่อนไหวครับ”
“ว่ามาเลยครับ คุณฉีไม่ต้องเคารพผมขนาดนั้นก็ได้ยังไงก็”ไนต์วางเอกสารในมือลงก่อนจะเอ่ยกับชายวัยกลางคนที่เขาเคารพมาตั้งแต่เด็กแม้อีกฝ่ายจะมีสถานะเป็นแค่มือขวาของพ่อเขาก็ตาม
“ไม่ได้หรอกครับผมเป็นแค่ลูกน้องคุณไนต์เป็นเจ้านายผมต้องเคารพและทำตามคำสั่งอยู่แล้ว”
“ครับงั้นผมคงต้องเรียกลุงฉีเหมือนตอนเด็กแล้วไม่ต้องปฏิเสธนะครับ ว่าแต่ทางนั้นมีความเคลื่อนไหวยังไงบ้าง”เขายกยิ้มมุมปากก่อนจะเอนหลังด้วยท่าทีผ่อนคลายแม้เรื่องที่ลุงฉีจะรายงานอาจจะเคร่งเครียดมากก็ตาม
“หลังการประกาศเลื่อนตำแหน่งและมีกำหนดการซ้อใหญ่ก็ค่อนข้างไม่พอใจมากแน่นอนว่าตอนนี้คนที่กำลังเป็นอันตรายที่สุดคือคุณไนต์เอง”
“แล้วเจ้าสมุทร?”เขาเอ่ยถึงบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้มากที่สุด
“ยังไม่มีความเคลื่อนไหวครับคุณเจ้าสมุทรเดินทางไปอิตาลีตอนนี้ที่อเมริกามีเพียงนายใหญ่และซ้อใหญ่ครับ”
“ผมเข้าใจแล้วลุงฉีไปพักผ่อนเถอะ”
“แต่คุณไนต์ นายให้ผมมาดูแลความปลอดภัย”
“ผมโตแล้วลุงไปพักเถอะ”
ชายวัยกลางคนท่าทางดุดันอย่างลุงฉีเดินออกไปแล้วเหลือเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นร่างสูงเท้าคางกับโต๊ะอย่างใช้ความคิดเมื่อนึกไปถึงครอบครัวที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้นอกจากเพื่อนสนิทในกลุ่ม
ชื่อของเขาคือ นิธิศ เศวตธีธรณ์ นั่นคือชื่อที่แม่ตั้งให้ตอนมาอยู่ที่ไทยความจริงชื่อที่แท้จริงตั้งแต่เกิดคือ ไนต์ อีกอน ส่วนนามสกุลเอาไว้ก่อนแล้วกัน
เขาเป็นลูกคนเดียวของแม่แต่เป็นลูกคนที่สองของพ่อและเขาเป็นแค่ลูกเมียน้อยแม้ในตระกูลจะเรียกแม่ของเขาว่าภรรยารองแต่มันก็ไม่สามารถปกปิดความจริงได้ว่าแม่ของเขาคือเมียน้อย
แต่ช่างเถอะคนเราไม่สามารถเลือกชาติกำเนิดได้อีกอย่างแม้พ่อจะดีและรักแม่แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถห้ามปากคนที่แอบไปพูดลับหลังแม่ถึงได้พาเขามาอยู่ไทยบ้านเกิดของท่านแทนซึ่งพ่อก็เข้าใจ
ความรักกับอำนาจเป็นสิ่งที่ต้องเลือกเสมอแม้มีอำนาจก็ใช่ว่าจะรักษาความรักไว้ได้
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนดังเข้าสู่โซนประสาททำให้เขาละสายตาไปมองก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดอ่านซึ่งเป็นแชตของเพทาย
เพทาย : ลงมาไอ้สัด คนอื่นมากันหมดแล้ว
เมื่ออ่านจบเขาก็ขมวดคิ้วเพราะไม่เห็นมีใครว่ายังไงเลยนึกว่าจะไม่มากันแล้วเขาไม่ได้ตอบกลับข้อความของเพทายเพราะเดี๋ยวก็เจอกันเมื่อกดออกจากแชตเพทายถึงเห็นว่ามีอีกแชตที่ยังไม่ได้อ่านแค่รูปโปรไฟล์ก็รู้แล้วว่าใครเพราะเธอส่งข้อความมาหาเขาทุกวันมีเมื่อวานที่ไม่ได้ส่งมา
ไซซี : คิดถึงมากๆ ค่ะ
“ฉิบหาย”
นิ้วเจ้ากรรมดันกดเข้าไปในแชตของเธอแน่นอนว่ามันต้องขึ้นอ่านและเมื่อเข้ามาแล้วจะไม่ตอบอะไรก็คงไม่ได้เธอเป็นน้องสาวเพื่อนเขาเลยกดสติ๊กเกอร์โอเคกลับไป เพียงเสี้ยววินาทีแชตก็ขึ้นว่าอ่านแล้ว
“ตาไวสัด”
และหายนะที่สำคัญคือไซซีโทรกลับมาผ่านแอปฯนั่นแหละอยากจะบ้าตายเขาเลยกดตัดสายไปแต่เธอก็ยังโทรมาไม่หยุดทำให้เขาถอนหายใจก่อนจะกดรับ
[เพ่น่ายยย]
“....”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงปลายสายตอบกลับมาทำให้เขาขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิมเธอเมาแล้วจะโทรมาทำไมกัน!
[โคนนจายยร้ายยย]
“เมาก็ไปนอน”
[ม่ายยยคิดดดด]
“คิดอะไร”
[คิดถึงงงงงายยคิกคิก]
“ไม่ถึงไม่ยอมให้ถึงแค่นี้นะ”
[ม่านอาววจาปายหาาา]
“ตามใจ”
เขากดตัดสายไปทันทีคุยกับคนเมาไม่รู้เรื่องหรอกอีกอย่างจ้างให้ก็มาไม่ถูกเมาแบบนี้ เขาเก็บเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยมือคว้าเอาเสื้อแจ็กเก็ตในตู้เสื้อผ้าก่อนจะเดินออกจากห้องส่วนตัวของตัวเองแน่นอนว่าที่นี่มีห้องของทุกคน
แกร๊ก!
“เฮ้ย!”
เพียงเปิดประตูออกมาเท่านั้นตัวของเขาก็ถูกผลักเข้ามาในห้องด้วยฝ่ามือเล็กๆ อย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้เขาล้มลงกับพื้นพร้อมกับแรงโถมลงมาทาบทับบนตัวเขาโดยเจ้าของร่างนุ่มนิ่มข้างบน
“ทำบ้าอะไรไซซี!!”
นัยน์ตาคมกริบจ้องหน้าร่างบางเขม็งอย่างหัวเสียปกติเธอไม่เคยถึงเนื้อถึงตัวหรือทำแบบนี้เลยนอกจากวันนั้น…วันที่เราเจอกันครั้งแรก
วันที่เธอเดินเข้ามาหาเขาและขอให้ไปส่ง!!
“คิดถึง”
ร่างบางช้อนตามองเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้มริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวนน่าสัมผัสเอ่ยพึมพำเบาๆ แต่เขาได้ยินมันชัดเจนเต็มสองหูเพราะเราใกล้กันมากมีเพียงลมหายใจที่เป็นเส้นกั้นกลางเท่านั้น
“ลุกออกไป!”
เขาเอ่ยเสียงเข้มทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจริมฝีปากขบกัดกันแน่นจนเขากลัวว่ามันจะได้เลือดก่อนจะใช้มือดันหัวไหล่ของเธอออกช้าๆ เพราะหน้าอกอวบอิ่มของเธอมันแนบชิดกับอกแกร่งจนเขาต้องกลั้นหายใจ
“ไม่เอาก็บอกว่าคิดถึงไง”
“อย่าดื้อ”
ไนต์เอ่ยเสียงเข้มเขาไม่ชอบคนดื้อและยิ่งไม่ชอบคนถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะพลาดท่าให้กับเธอ กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทำให้เขายิ่งไม่ชอบใจเมื่อดันเธอออกและลุกขึ้นยืนได้แล้วเขาก็ชี้หน้าเธอทันที
“หยุด!!”
“อาราย”ไซซีทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้พลางก้าวเข้ามาใกล้เขามากกว่าเดิมจนต้องเอ่ยเตือน!
“ถอยออกไปอีกร้อยเมตร”
คิ้วขมวดเป็นปมมากกว่าเดิมไซซีที่ว่าง่ายหายไปไหนเธอไม่แม้แต่จะสนใจสิ่งที่เขาบอกหรือหวาดกลัวท่าทางดุของเขาแต่ยังใจกล้าฉีกยิ้มกว้างและเดินเข้ามาใกล้ แล้วไอ้ท่าทางเดี๋ยวเมาเดี๋ยวไม่เมาสรุปแกล้งเมางั้นเหรอยิ่งคิดยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด
“ถอย? ถอยทำไมคะ”ไนต์ขบกรามแน่นทันทีเมื่อร่างบางเอ่ยด้วยสีหน้าและคำพูดท้าทาย
“ไม่ชอบให้เข้าใกล้”
แต่เธอกลับไม่ฟังในสิ่งที่เขาพูดเลยสักนิดไซซีโน้มตัวเข้ามาใกล้ยกแขนขึ้นคล้องคอเขาก่อนจะกระซิบเสียงหวานข้างหู
“ถ้าไม่ใกล้จะได้เข้าเหรอคะพี่ไนต์”