ปึง! ปึง!ปึง!
“ตื่นนนน มีเรียนนนยัยซี”
ซินเซียในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนคลุมทับด้วยเสื้อช็อปสีกรมยืนเคาะประตูห้องเพื่อนสาวจนมือแดงก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นทุบประตูแทน
เธอพยายามโทรแล้วไม่รับสายคาดว่ายังไม่ตื่นทุบประตูแทบพังก็ยังเงียบเธอเท้าเอวอย่างจนปัญญาดูเวลาก็จวนจะสายเฮียทุกคนออกไปเรียนหมดแล้วงั้นคงต้องทิ้งให้นอนไปวันนี้มีวิชาสำคัญด้วยช่วงเย็นเรียนภาคปฏิบัติเลยต้องใส่กางเกงไปซินเซียทำหน้าบึ้งก่อนจะรีบขับรถไปมหาลัยเมื่อคืนก็ไปด้วยกันไหงสภาพถึงต่างกันขนาดนี้!
บ่ายคล้อยร่างบางปรือตาขึ้นมาอย่างยากลำบากคิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อได้ยินเสียงแผดร้องของมือถือข้างหัวเตียงเธอหลับตาคลำหาสะเปะสะปะก่อนจะหยิบมากดรับ
“...”
[ซีลูกตื่นหรือยัง] เสียงอ่อนโยนแสนคุ้นเคยทำให้เธอลืมตาขึ้นมาก่อนจะเด้งตัวขึ้นจากที่นอนและกรอกเสียงทักทายปลายสายอย่างสดใส
“สวัสดีค่ะหม่ามี้”
[มี้ก็นึกว่ายังไม่ตื่นเป็นยังไงบ้างลูก ที่เรียนโอเคไหมกลับไทยแล้วไม่ค่อยโทรมาเลยมี้ก็เป็นห่วง]
“ขอโทษนะคะที่ไม่โทรหาบ่อยๆ ตามที่สัญญา ปีหนึ่งก็แบบนี้แหละคะยุ่งกิจกรรมมากมาย”เสียงใสเอ่ยไหลลื่นก่อนจะเอานิ้วชี้และนิ้วกลางไขว้หลังไว้เพราะกำลังโกหกคำโต งานยุ่งจริงแต่ติดเที่ยวเล่นอย่างเช่นเมื่อคืนที่แอบไปเที่ยวผับกับพวกเจ๊
[พี่ชายเราก็ไม่ค่อยติดต่อมาดีหน่อยก็ตอบแชตมี้ยังงงว่าไปมีแฟนได้ยังไงแต่ส่วนเรามาไทยแป๊บเดียวก็เริ่มลืมมี้แล้ว] หม่ามี้พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจทำเอาฉันพานจะน้ำตาไหลตอนอยู่ฮ่องกงที่เอาแต่ใจแบบนี้บอกเลยเพราะหม่ามี้ให้ท้ายนี่แหละ
“ขอโทษนะคะมี้ซีจะพยายามโทรหาบ่อยๆ นะคะส่วนเฮียรบก็ปกติอย่าไปถือสาเลย”พยายามพูดปลอบใจเพราะท่านเป็นคนขี้น้อยใจแล้วยิ่งลูกชายมาอยู่ไทยแต่เด็กค่อนข้างห่างเหินกันมาทีเดียว
[มี้จะพยายามแต่เราห้ามทิ้งมี้อีกคนนะเข้าใจไหม]
“รับทราบค่ะรักที่สุดเลย”
[แล้ววันนี้หนูไม่มีเรียนเหรอลูก] เพียงประโยคเดียวฉันที่กำลังจะล้มตัวลงนอนเป็นอันเบิกตากว้างสมองประมวลผลวันนี้มีเรียนค่ะแม่ วิชาสำคัญด้วย
กรี๊ดดดด ฉันลุกจากเตียงพลางวิ่งไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วหัวใจเต้นแรงมากจนยากจะระงับจนต้องยกมือขึ้นมาทาบอกแม้จะรีบมากแค่ไหนก็ต้องไม่ให้หม่ามี้รู้
“เรียนค่ะพอดีพักเบรก..มี้ขาหมดเวลาพักแล้วซีไปเรียนก่อนนะคะ”
[โอเคจ้ะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก]
“รับทราบค่ะ”
เมื่อวางสายแล้วฉันก็รีบอาบน้ำอย่าเรียกว่าอาบเลยเรียกว่าวิ่งผ่านน้ำยังจะดีกว่าเสร็จแล้วก็มาแต่งตัวเอากระโปรงพลีทแล้วกันวันนี้ได้วิ่งขึ้นตึกแน่กับรองเท้าผ้าใบน่าจะสะดวกกว่าสวยหน้า
“กรี๊ด!เติมปากหน่อยแล้วกันซีดอย่างกับศพ”บ่นตัวเองในใจพลางเม้มปากสองสามทีต้องรีบทำเวลาถ้าแต่งหน้าไปมีหวังไม่ทันแน่จำได้แค่มีเรียนบ่ายเดี๋ยวไปถึงค่อยเปิดดู
“ต่อไปจะไม่กินอะไรขนาดนี้อีกแล้วอยากจะบ้าตายเมาไม่พอสภาพอย่างกับซอมบี้สมองก็เอ๋อ ฮืออ”ฉันเป็นคนรักสวยรักงามวันนี้เป็นครั้งแรกที่หน้าสด ผมที่ปกติดัดลอนสวยงามจำต้องมัดรวบเป็นโดนัทดีหน่อยที่ผมหน้าม้ายังพอดูได้ไม่ชี้ออกมาให้ระคายตา
เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างนัยน์ตากลมโตสวยพลันเบิกกว้างเมื่อเห็นคนในห้วงคำนึกยืนกอดอกมองเธอนิ่งจนต้องยกมือขึ้นมาขยี้ตาอีกรอบนึกว่าตัวเองตาฝาดกระทั่งเขาส่งเสียงหึออกมาจากลำคอ
“พี่ไนต์..”
ร่างบางเรียกเขาเสียงดังเธอคิดว่าตัวเองเมาค้างถึงเห็นเขาอยู่ในบ้านขยี้ตาก็แล้วเขายังไม่ไปไหนสงสัยจะเป็นตัวจริง
“พี่มาทำอะไรเหรอคะ?”
ไซซีเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากพลางลอบด่าตัวเองในใจทำไมคนที่ชอบต้องมาเจอเธอในสภาพที่เหมือนซอมบี้ด้วยลำพังเขาก็ไม่ชอบอยู่แล้วยิ่งคิดหัวใจยิ่งห่อเหี่ยวก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่ารีบ
“ช่างเถอะไม่ตอบก็แล้วแต่วันนี้รีบ..ไว้หาเวลาไปจีบนะคะ”ร่างบางพูดรัวเร็วก่อนจะรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านมองหาลุงสมคนขับรถอยู่นานก็ไม่เจอ
“ลุงสม ลุงสมคะ ไปไหนเนี่ย”
“คุณหนูลุงสมลากลับบ้านค่ะแม่ลุงสมป่วย”แม่บ้านที่ออกไปข้างเดินเข้ามาภายในคฤหาสน์เดินเข้ามาบอกอย่างรู้งาน
“แล้วคนอื่นละคะ?”
“ออกไปรับคุณติณณ์ค่ะ”เท่านั้นแหละไขความสงสัยทันทีไม่แปลกใจเวลาเฮียกลับมาไม่รู้ทำไมต้องเกณฑ์คนขับรถทั้งบ้านไปรับด้วย
“แล้วฉันจะไปเรียนยังไงเนี่ยรถเต็มโรงรถแต่ขับไม่ได้เสียชาติเกิดมากยัยซี” เพราะเธอไม่ชินถนนหนทางและการขับขี่บนท้องถนนในประเทศไทยมันค่อนข้างอันตรายเราขับระวังบางคนไม่ระวังก็มีเลยโดนห้ามไม่ให้ขับ
ระหว่างนั้นเหมือนแสงสว่างบังเกิดอยู่ตรงหน้าร่างสูงร้อยแปดสิบกว่าเส้นผมสีดำสนิทเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยเดินออกมาจากคฤหาสน์และตรงไปยังรถซูเปอร์คาร์สุดหรูของตัวเอง
ร่างบางฉีกยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อเห็นทางออกของปัญหาเรียวขาสวยกึ่งวิ่งกึ่งเดินยังรถหรูก่อนจะเปิดประตูรถข้างคนขับและแทรกตัวเข้าไปอย่างรัวเร็วก่อนที่เขาจะออกรถ
ไม่อยากจะคุยรถของเขาเธอนั่งบ่อยแล้ว..
“ไปด้วยนะคะ”
เมื่อเห็นรุ่นพี่สุดฮอตปรายตามองเรียบนิ่งเธอเลยฉีกยิ้มตอบอย่างมึนๆ แม้มันจะดูไร้มารยาทแต่ช่างเถอะเวลานี้จะมัวมามีมารยาทอะไร
“พี่ไนต์มาทำอะไรที่บ้านซีเหรอคะ”
“เอาของ”
“ไหนของอะ”
เธอกวาดตาหาแล้วไม่เห็นจะมีของอะไรเลยแล้วที่บ้านไม่มีคนอยู่สักคนร่างบางเลยทำตาเปล่งประกายและหยอดไปอีกที
“เนียนมาหาก็ไม่บอก..ชอบเค้าละซิ”
ไนต์นิ่งไปทันทีไม่เคยเจอไซซีเวอร์ชันแบบนี้มาก่อนเขาถอนหายใจก่อนจะปรายตามองไปที่นั่งของเธอก่อนจะตอบ
“ของที่ว่าเธอกำลังนั่งทับมัน”
“หา0.0”
ร่างบางรีบหันไปมองตรงพนักพิงพลางขยับสะโพกขึ้นและหยิบบางสิ่งออกมามันคือ เครื่องคิดเลขที่นักศึกษาวิศวะต้องมีพกติดตัวเวลาไปเรียน
“ขอโทษนะคะหวังว่าจะไม่พังนะ”
ไซซีทำหน้าอย่างรู้สึกผิดเธอมันเซ่อซ่าเองเข้ามานั่งโดยที่ไม่มองอะไรเลยยิ่งเป็นของสำคัญแบบนี้อีกไม่รู้ว่าเขาจะรีบใช้ไหมที่บอกว่าสำคัญเพราะถ้าสอบมันจำเป็นมากๆ ไง
ท่าทางของเธอทำให้เขาหันไปมองนัยน์ตาคมมองสำรวจเครื่องคิดเลขที่ไปเอามาจากห้องต้าร์ที่จริงเครื่องคิดเลขเป็นของที่มันวานให้แวะมาเอาไม่ใช่ของเขาหรอก
วันนี้มีสอบช่วงเย็นแน่นอนว่าคนหัวหมออย่างมันแอบบันทึกสูตรไว้เรียบร้อยดังนั้นเลยค่อนข้างสำคัญเอามากๆ
จังหวะที่เขาหันมามองดันสบตาเข้ากับร่างบางทันทีนัยน์ตากลมโตสวยแบบลูกเสี้ยวจมูกโด่งรั้นเหมือนบาร์บี้ริมฝีปากอวบอิ่มชวนมองทุกอย่างช่างผสมผสานกันอย่างลงตัวถ้าใครมีคนบอกว่าไซซีขี้เหร่บนโลกนี้คงจะไม่มีคนสวยและพอสังเกตดีๆ ถึงได้รู้ว่าวันนี้เธอสดใสแปลกตาคงเพราะไม่ได้แต่งหน้า
แล้วเขาจะพิจารณาหน้าตาเธอทำไม
“ของไอ้ต้าร์”
“หืม เครื่องคิดเลขนี่เหรอคะ”
“ใช่”
เฮ้อ แล้วไปนึกว่าของพี่ไนต์พอเปิดดูแล้วก็ใช้งานได้ตามปกติเธอเลยสนใจก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดเพลงบนรถแต่ก่อนไม่เคยเพราะพยายามแอ๊บใส่เขาแต่ตอนนี้ไหมอยากเปิดก็จะเปิดแบบนี้แหละ
ติ๊ด!
“อ๊ะ..เพลงนี่” มือบางกดเลือกเพลงจนมาเจอเพลงที่เธอชอบฟังแล้วเขินมากมันจั๊กจี้ไม่คิดว่าเขาก็มีเพลงนี้บนรถ
“ทำไม?”
“พี่ก็ชอบเหรอ..เนี่ยเราใจตรงกันแล้วหนึ่ง”ร่างบางยิ้มตาหยีส่งให้ชายหนุ่มแต่เขากลับตอบมาอย่างเฉยชา
“เพลงแบบนี้ใครก็ฟังทั้งนั้น”
“แต่มันเป็นเพลงเก่าอย่างน้อยเราสองคนก็มีรสนิยมเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ” แค่ตอบใช่มันยากตรงไหน
“ไม่เหมือนเพราะพี่ไม่อยากให้เหมือนจบ!!”คำตอบใจร้ายของเขาทำให้เธอเบะปากก่อนจะเอื้อมมือไปเพิ่มระดับเสียงเพลงให้มันดังขึ้นจนเสียงเพลงดังลั่นรถดูซิว่าคนปากหนักจะทำยังไง!!
if you call me baby (ถ้าคุณเรียกผมว่าที่รักนะ)
i’ll be always yours (ผมจะเป็นของคุณตลอดไปเลย)
cr. เพลง Cheri Cheri Lady - Modern Talking