ล้ำเส้น 7

1645 Words
DingDong!~ เฮือก! ผมผวาตื่น ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน เสียงออดที่ประตูทำให้ผมต้องลุกขึ้นเดินงัวเงียมาเปิดประตู แต่ผมลืมคิดไปว่าถ้าเป็นพี่ไนท์เขาคงไม่กดออดห้องตัวเองหรอก ความสะเพร่านั้นทำให้ผมลืมส่องดูคนที่ยืนอยู่ด้านหลังประตู เปิดออกไปแบบไม่ทันคิด “พี่... กันต์?” หัวใจผมกระตุกวูบ! ก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัวเมื่อปะทะสายตาเข้ากับแววตาคมกริบของคนตรงหน้า ทะ..ทำไม... “เอิร์ธ! ทำไมมาอยู่นี่?” เสียงพี่กันต์ทำให้ผมได้สติ รีบดึงประตูปิดแต่เขายื้อเอาไว้ทันที “ทำบ้าอะไรของมึงวะ” ผมก้มหน้างุด ถอยห่างจากประตูทันทีที่รู้ว่าขัดขวางเขาไม่ได้ ร่างสูงสืบเท้าเข้ามาใกล้ผมหลังหนีจนหลังชนผนัง รู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบที่จ้องมองลงมาอย่างคาดคั้น “เมื่อกี้ปิดประตูใส่กูใช่ไหม” “ผะ.. ผม” “แล้วทำไมมึงมาอยู่ห้องไอ้ไนท์” “คะ.. คือเรื่องนั้น” “แล้วตอนนี้ไอ้ไนท์อยู่ไหน!” พี่กันต์กวาดตามองไปรอบๆ ด้วยท่าทางหัวร้อนจัดก่อนดึงสายตากลับมาจ้องผมเขม็ง ผมหลบสายตาเขาอย่างลนลานไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี เล่นยิงออกมาเป็นชุดแบบนั้นผมที่กำลังหวาดหวั่นในตัวเขาสมองจะประมวลผลทันได้ยังไง “พะ.. พี่ไนท์ไปทำงาน” “หา?” พี่กันต์ทำเสียงไม่อยากเชื่อ ก่อนผละออกห่างผมเดินเข้านอกออกในห้องพี่ไนท์จนทั่ว คิดว่าผมเอาพี่ไนท์ไปซ่อนอยู่หรือไงกัน ผมทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาเงียบๆ ไม่นานพี่กันต์ก็เดินหน้าตึงกลับมา ร่างสูงนั่งลงข้างๆ ผมรีบเขยิบออกห่างเว้นระยะจากเขาทันที พี่กันต์มองท่าทางมึนตึงของผมแววตาขวางก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “มึงมาทำอะไรที่ห้องไอ้ไนท์” “....” “เฮ้ย! ไม่มีปากเหรอ” “ผมบังเอิญเจอกับพี่ไนท์” ผมตอบออกไปส่งๆ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะยังไม่พอใจเท่าไหร่ “บังเอิญเจอได้ไงวะ กูเป็นเพื่อนมันยังเจอตัวมันยากเลย” ผมนิ่งเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ “แล้วมึงทำไมหลบหน้ากู” “ผมไม่ได้หลบ” “ขนาดพูดยังไม่มองตากูเลย เป็นอะไร แล้วเสื้อผ้ามึงไปไหนหมดห้ามตอบกูว่าส่งซักรีด!” ผมอ้าปากค้างกับคำถามที่มาเป็นชุด สูดหายใจเข้าปอดลึก ละล่ำละลักตอบไม่เต็มเสียง “ผมมีงานพี่ ก็เลยจะขอไปค้างกับตะวันสักพัก” “โกหก!” “...!!!” “บอกกูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน...” พี่กันต์คาดคั้นเสียงแข็งแต่จู่ๆ เขาก็หยุดพูดเอาดื้อๆ ดวงตาคมกริบจ้องหน้าผมนิ่งราวกับกำลังคิดอะไรสักอย่าง “เมื่อคืน?” ผมมองตอบสายตาของคนตรงหน้าอย่างใจหายใจคว่ำ “เกิดอะไรขึ้น ไอ้ไนท์บอกกูว่าพวกมึงแบกกูกลับห้อง แล้ว...” “แล้วอะไรพี่” “แล้วมีใครมาอีกหรือเปล่า” “พี่หมายถึงใคร” “ก็...” พี่กันต์หยุดคิดครู่หนึ่ง ใบหน้าคมคายมีอาการสับสน “...คนที่กูนอนด้วยน่ะใคร” ผมเสียวต้นคอวาบ จ้องดวงตากระหายใคร่รู้ของพี่กันต์อย่างกลั้นหายใจไปชั่วขณะ “พี่... จำไม่ได้เหรอ” “สัส! มึงนี่ถามเหมือนไอ้ไนท์เลยว่ะ ถ้าจำได้จะมานั่งถามให้เสียเวลาทำไม” อึ้ง ผมไม่รู้จะโล่งใจหรือเสียใจดี เขาจำอะไรไม่ได้จริงๆ เหรอ? จู่ๆ ผมก็นึกถึงคำพูดพี่ไนท์ก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ‘ไอ้กันต์มันมีนิสัยชอบมีเซ็กส์เวลาเมา’ หรือว่าจะลืมจริง ขนาดคืนแรกเขายังไม่รู้เลยว่าทำอะไรเอาไว้ ผมถึงต้องหนีไปนอนโซฟา หรือผมจะใช้โอกาสนี้บิดเบือนความจริงดี แต่พี่กันต์หน้าตาไม่ใช่คนโง่เขาจะเชื่อผมเหรอวะ “ผมไม่รู้ครับพี่ พี่ไล่ผมออกจากห้อง โกรธที่ผมห้ามไม่ให้มีเรื่องในผับ แถมยังด่าแม่ผมด้วย ผมทนไม่ไหวก็เลยเก็บกระเป๋าออกมา” “กูด่าน้าแอร์... ด่าว่า?” “ผมไม่พูดหรอก พูดไปก็เหมือนด่าแม่ตัวเอง” “เอ้า! กูด่าอะไรวะ หรือมึงเป็นคนใจบาง” “ใช่ผมมันคนใจบาง!” “อ้าวเฮ้ย เอิร์ธ เดี๋ยวสิวะ!?” ผมลุกออกจากโซฟาอย่างรู้สึกเจ็บซ้ำข้างใน ใจจริงอยากต่อยหน้าเขาแรงๆ สักหมัดสองหมัดด้วยซ้ำ ให้สาสมกับที่ทำเอาไว้กับผม ให้ตายเถอะ คนบ้าอะไร ลืมได้แม้กระทั่งเรื่องของคนที่นอนด้วย - พี่กันต์ - ผมมองตามร่างที่เดินออกไปอย่างไม่พอใจ โมโหที่มันไม่เชื่อฟัง คิดจะไปก็ไป ทำใจน้อยเป็นผู้หญิงไปได้ ตัวก็โตเป็นควายอยู่แล้ว ถึงมันจะตัวเล็กกว่าผมก็เถอะ ผมจะตามไปลากตัวไอ้เด็กเอิร์ธกลับมาแต่ก็นึกได้ว่ายังไม่ได้บอกไอ้ไนท์เรื่องที่ผมอยู่ห้องมัน ผมไปหามันที่ผับแล้วรอบหนึ่งแต่เด็กที่ร้านบอกผมว่ามันไม่อยู่ พาใครไม่รู้กลับห้อง ตอนนั้นผมไม่คิดจริงๆ ว่าคนที่ไอ้ไนท์พามาจะเป็นเจ้าเด็กเอิร์ธน้องชายบุญธรรมของผมเอง กันต์ : มึงอยู่ไหน ตอนนี้กูอยู่ห้องมึง ไนท์ : มึงอยู่ห้องกูเหรอ กันต์ : มึงพาไอ้เด็กนั่นมาที่ห้องทำไมไม่บอกกูวะ ไนท์ : บังเอิญโว้ย บังเอิญเหรอ? ผมมองข้อความที่เด้งบนหน้าจอแล้วกระตุกมุมปากอย่างฉุนๆ หมั่นไส้ยังไงบอกไม่ถูกที่มันสองคนดันพูดเหมือนกันเป๊ะ ไนท์ : แล้วมึงไปทำอะไรที่ห้องกูวะ กันต์ : มาหามึงไง ไนท์ : อ๋อ ถึงว่าเด็กที่ร้านบอกกูว่ามึงมา กันต์ : ใช่ กูไปหามึงที่ร้านแต่มึงไม่อยู่ไง พนง. มึงบอกกูว่ามึงกลับมาที่ห้องกูก็เลยตามมา แต่สงสัยคงสวนทางกันว่ะ ไนท์ : เออ แล้วมึงจะเอายังไงกับน้องวะ กันต์ : น้องไหน ไนท์ : พูดอย่างกับมึงมีน้องหลายคน กันต์ : ทำไมกูต้องเอายังไงกับมันด้วยวะ มันบอกกูว่าจะอยู่กับเพื่อน ไนท์ : เออ กูทำงานก่อน แล้วไอ้ไนท์ก็เงียบไปเลย ผมจ้องหน้าจอมือถือจนกระทั่งไฟดับลงก็ตะโกนเรียกไอ้เด็กนั่น มัวไปเดินเพ่นพ่านอยู่ไหนวะ เข้าออกห้องคนอื่นตามอำเภอใจแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน ผมถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งก่อนลุกขึ้นเดินหาไอ้เด็กเอิร์ธ แต่มันดันเดินออกมาพอดี “ไปไหนมา เดินลอยชายในบ้านคนอื่นสบายใจเลยนะมึง” “เข้าห้องน้ำ” ดูมัน ขนาดพูดยังทำหน้าขุ่นเคืองใส่ผมอีก ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าผมด่าอะไรน้าแอร์แม่ของมัน มันถึงได้โกรธฝังใจแบบนี้ “เออ เสร็จแล้วก็กลับ” “กลับไปไหน” ผมหันหลังจะเดินออกมาแต่ไอ้เด็กนั่นกลับยืนนิ่งอยู่กับที่ ชักสีหน้าแตกตื่นเหมือนได้ยินว่าโลกจะแตกวันนี้พรุ่งนี้อย่างงั้นแหละ “ก็กลับห้องสิวะ” “ตะ..แต่ผม...” “จะพูดอะไรก็พูด อึกอักอยู่นั่น” “ปะ..เปล่า พี่จะไปส่งผมห้องตะวันใช่ไหม” “เออ” ผมพูดแล้วก็เดินนำมันออกมา ไอ้เด็กนั่นเดินตามต้อยๆ ก้มหน้ามองพื้นเหมือนคนขาดความมั่นใจ เห็นแล้วโคตรน่ารำคาญเลย ไม่รู้เป็นอะไรของมัน จำได้ว่าก่อนหน้านี้ยังดูร่าเริงเหมือนคนที่ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อนใจอยู่เลย “พี่กันต์! พี่ไม่เลี้ยวแยกเมื่อกี้ล่ะ” “เออ ลืมว่ะ” ผมบอกหลังจากเลยแยกที่ต้องเลี้ยวไปหอไอ้ตะวันเพื่อนมัน ผมง่วง ลืมจริง แถมขี้เกียจวนรถหลายรอบด้วย บอกไอ้เด็กข้างๆ ว่าคืนนี้นอนห้องก่อนพรุ่งนี้เช้าถ้ามันอยากไปหาเพื่อนก็ค่อยไป ทันทีที่ผมพูดจบมันก็โวยวาย จะให้ผมไปส่งห้องเพื่อนตอนนี้ให้ได้ หนักข้อเข้าถึงขั้นบอกให้ผมจอดรถกลางทาง มันจะ เหิมเกริมเกินไปแล้วนะโว้ย! “พี่กันต์! ผมบอกให้จอดไง” “เงียบสักทีเหอะว่ะ รำคาญ!” “อึก...” ผมขึ้นเสียงใส่ทีเดียวไอ้เด็กนั่นถึงกับชะงักงัน ทำปากขมุบขมิบไม่กล้าพูดอะไรอีก จนกระทั่งถึงห้อง เอิร์ธตรงดิ่งไปที่โซฟาทันที ผมมองมันเหยียดขาลงนอนแล้วเอาหมอนอิงมากอดต่างผ้าห่มอย่างงงๆ “มึงทำอะไร?” “นอน” ตอบเสียงแข็งพร้อมกับทำตาค้อนใส่ผมเนี่ยนะ เฮ้ย! มันคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ เด็กห้าขวบหรือไง “จะนอนก็ไปนอนที่เตียงดิวะ แต่ก่อนนอนอาบน้ำด้วย” “ผมไม่มีเสื้อผ้า” มันเถียงกลับมาทันควัน กอดหมอนแน่นแล้วหลับอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เหอะ! ผมสบถเสียงฉุนก่อนเดินเข้าไปกระชากแขนมันให้ลุกขึ้นมาอย่างเหลืออด “มานี่!” “โอ๊ย! พี่กันต์... ผมเจ็บ” “เอ้า เลือกเอา” ผมดึงร่างบางเข้ามาในห้อง ผลักมันไปที่ตู้เสื้อผ้า ไอ้เด็กนั่นหันมาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ผม เปิดตู้หยิบเสื้อผ้าแบบส่งๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างเจ็บใจ เอากับมันสิ แค่บอกให้อาบน้ำอะไรจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนั้น เออ... แล้วทำไมผมต้องมาคอยเจ้ากี้เจ้าการกับมันด้วยวะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่คิดจะใยดีมันสักนิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD