TWO TWINS (PATRY & MAX)
3
ร่างกายของฉันเจ็บไปทั่วร่าง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองแสงแดดที่แยงตาเข้ามาหลังผ้าม่านที่ถูกเปิดนิดหน่อย ฉันถอนหายใจออกมาและไม่ลืมที่จะหันไปมองคนข้างๆ ที่มุดถ้ำฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย ภายในห้องก็เต็มไปด้วยเครื่องป้องกันที่ถูกทิ้งไว้หลายชิ้น ฉันพยุงตัวเองลุกนั่ง ยีผมตัวเองไปมองนาฬิกาที่ผนังห้องซึ่งมีรูปของฉันกับเพทายและพองเพื่อนติดอยู่ เวลานี้เป็นเวลาสามโมงกว่าแล้ว ฉันบิดตัวไปมาและก้มลงมาร่างกายที่บริเวณหน้าอกและท้อง เต็มไปด้วยรอยรักที่เพทายฝากฝังไว้ และร่างหนาที่นอนเปลือยเปล่าอยู่ ก็ไม่ต่างกันหรอกนะ เพราะฉันจงใจสร้างรอยรักไว้ทุกรูขุมขนบนร่างกายของเขา ฉันโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มเพทายที่ยังคงนอนหลับเป็นตาย อาจจะเพราะเราสองคนต่างพากันให้ความสุขจนเหนื่อยไม่อยากจะลุก แต่ทว่าฉันจำเป็นต้องพาตัวเองไปชำระร่างกายและทำอาหารเช้า วันนี้ฉันว่าจะไปเดินห้าง เพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่
“เพท ตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ”
“อือ... ขอสิบนาที”
“เร็วๆ ด้วย ฉันจะไปทำอาหาร” ฉันเขกศีรษะของเพทายที่พลิกตัวนอนคว่ำลง และมันก็ส่งผลทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ฉันมีความสุขมากนะที่ได้อยู่กับเขา ถึงได้บอกไงว่าถ้าไม่พูดถึงเรื่องสถานะ เราสองคนก็เหมือนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนผัวเมีย แต่ทว่าในทางกลับกัน ทุกคนที่ผ่านไปมาจะเห็นแค่ว่าฉันกับเพทายเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น และฉันถึงได้บอกไงว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากได้สถานะหรอก ฉันคนหนึ่งที่อยากจะได้มัน ถึงแม้ว่าเราจะตกลงกันแล้ว แต่ฉันก็หวังว่าสักวันเพทายมันจะมองฉันมากกว่าเพื่อน มองฉันที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่เคียงข้างมันมาตลอด ไม่ใช่แค่เพื่อนที่นอนเอาท้องชนกันอย่างทุกวันนี้ ที่ฉันทนอยู่ก็เพียงคำเดียวคือคำว่ารัก มันอาจจะดูโง่ในสายตาของใครหลายๆ คน แต่ถ้าไม่ลองรู้จักรักใครสักคน คุณจะรู้เหรอว่ามันสำคัญและมีความสุขมากแค่ไหน ถึงแม้ว่ามันจะพร้อมกับความทุกข์ แต่การได้อยู่เคียงข้างคนที่เรารักมันยิ่งทำให้เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“แม็ก! เสื้อเชิ้ตสีดำ Gucci ที่ฉันซื้อมาใหม่อยู่ไหนอะ?”
“ก็แขวนอยู่ในตู้ไง!” น้ำเสียงเข้มของเพทายตะโกนออกมาจากห้องที่ตอนนี้ฉันกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ เพทายเปิดประตูออกมาด้วยสภาพเปลือยเปล่าที่ฉันเห็นจนชินตา ใบหน้าหล่อคมส่ายหน้าไปมาจนฉันเท้าเอวเดินไปหาเขา
“แกนี่มันหาอะไรไม่เคยเจอเลยนะ” ฉันเดินเข้ามาในห้องและเปิดตู้เสื้อผ้าหาเสื้อที่เพทายต้องการ ก่อนจะหยิบมันออกมายื่นให้เขาที่ยกยิ้มและโน้มใบหน้ามาหอมแก้มฉัน
“ก็เสื้อมันเยอะ อีกอย่างแกก็เป็นคนจัดการหมดทุกอย่าง ฉันถึงได้ไม่รู้ไง”
“จะให้หากางเกงในให้ด้วยไหม?”
“ได้ก็ดี ใส่ให้ด้วยยิ่งฟินใหญ่...” ร่างสูงเดินมาชิดกับฉันที่แผ่นหลังติดกับตู้เสื้อผ้า ยกยิ้มขึ้นมาและลูบไล้ฝ่ามือไปตามแผงอกแกร่ง เพทายเคลื่อนใบหน้าเข้ามาคลอเคลียที่แก้มของฉัน ลมหายใจของเขาทำให้ฉันร้อนผ่าวไปทั่วตัว
“แน่ใจว่าจะให้ฉันใส่ให้ บอกเลยว่าไม่ได้ไปไหนนะวันนี้”
“หึ เมื่อคืนยังไม่พอหรือไง? จัดหนักจัดเต็มขนาดนั้นแล้วนะ อืม”
“พอเลย วันนี้ฉันไปซื้อเสื้อผ้าที่ห้าง ไปด้วยกันนะ”
“อืม เอาดิ” ฉันผลักร่างสูงออกไปและหันไปหยิบกางเกงในปาใส่หน้าเขา กระทั่งเราสองคนมาถึงที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง บอกเลยว่าฉันเคยเข้ามากับเพทายนะ หมอนั่นกวาดซื้อเสื้อผ้าดีๆ และของดีๆ ไปให้ผู้หญิงของตัวเอง แต่ว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อหรอกนะบอกเลย
“แกจะพาฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ย ฉันไม่มีปัญญาซื้อหรอกนะ”
“ใครว่าจะให้แกซื้อล่ะ ฉันออกเงินให้... คิดซะว่าฉันซื้อให้เป็นของขวัญที่ได้งานทำแล้วกัน”
“แต่ว่าแกให้มาแล้ว...” เพทายก้มลงมองข้อเท้าฉันและเบ้ปากไปมาก่อนจะกอดคอฉันเดินพาเข้าร้านนั้น ออกร้านนี้ และแน่นอนว่าฉันได้เสื้อผ้ามาเกือบสิบถุง โดยที่ฉันไม่ได้เลือกนะแต่เพทายเป็นคนเลือกทั้งหมด
“แกคิดว่าเสื้อผ้าที่แกเลือกมา ฉันจะใส่?”
“ฉันมั่นใจว่าแกจะต้องใส่ เพราะฉันรู้สไตล์แก รู้ไซส์แก รู้ทุกอย่างบนตัวแก” โอ้โห และนี่ล่ะมั้งที่ทำให้ฉันไม่อยากไปไหนเลย เพราะถึงแม้จะแบดบอยเจ้าชู้ แต่สิ่งที่เพทายแสดงออกมากับฉันมันคือเรื่องจริงทุกอย่าง
“รู้ทุกอย่างบนตัวฉัน แต่ไม่เคยรู้ความรู้สึกของฉันเลยสักนิด”
“แกจะดราม่าเพื่ออะไรวะแม็ก?” เพทายที่กำลังกอดคอฉันอยู่ ถึงกับปล่อยแขนออกและเท้าเอวมองฉันด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ที่ฉันพูดเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคน
“แกก็รู้ว่าฉันรักแกนะเพท แกทำไมไม่ให้โอกาสฉันได้เข้าไปอยู่ในใจแกบ้างล่ะ”
“เฮ้อ แม็ก อยู่ด้วยกันมาก็หลายปีแล้วนะ แกน่าจะรู้นะว่าฉันเป็นยังไง? บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ชอบผูกมัด ไม่ชอบให้ใครมาหึงหวง มาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ”
“...”
“แกยอมรับตัวฉันในแบบที่ฉันเป็น แล้วแบบนี้ยังต้องการอะไรอีก? ผู้หญิงที่ฉันควงมีใครได้สิทธิ์เท่าแกไหม ก็ไม่ แกยังต้องการอะไรอีกวะ!” ฉันมองสบตากับเพทายที่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหยิบมือถือมากดต่อหน้าฉัน เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยสินะ ถึงแม้ว่าเพทายจะเป็นคนตรง แต่บางทีคำพูดของหมอนี่ก็ทำฉันเจ็บเหมือนกัน และใช่เพทายไม่เคยรู้หรอกว่าฉันเจ็บแค่ไหน ถึงไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าและท่าทางก็ตาม
“แต่สิทธิ์ที่แกให้ฉัน บางทีฉันก็ไม่ได้ต้องการ”
“แล้วสิ่งที่แกอยากให้ฉันให้แก... แกคิดว่าฉันต้องการมันหรือเปล่าล่ะ?” เพทายเงยหน้าสบตากับฉัน เขาถอนหายใจออกมาและเดินหนีฉันไปเลย ปล่อยให้ฉันทนเจ็บกับคำพูดที่แสนจะตรงของเขา ฉันหลับตาลงและเดินตามแผ่นหลังเพทายไป แต่ก่อนจะได้พูดอะไรก็ต้องหงุดหงิดทันทีที่เห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่สวยมากๆ และฉันพอจะรู้จักด้วยเพราะหล่อนเป็นนางแบบชุดชั้นในชื่อดังอยู่ตอนนี้
“ไฮ เพทาย”
“ไงดาร์ลิ่ง... คิดถึงเธอจัง” ฉันยืนมองนางแบบสาวสวยที่ชื่อดาร์ลิ่งคู่ควงคนใหม่ของเพทาย แต่ดูเหมือนว่าคนนี้จะไม่ธรรมดาก็ตรงที่ว่าเพทายมันคบนานเกือบเดือนเต็ม เพราะปกติฟันหญิงแล้วก็จะควงไม่เกินสองวัน แต่นี่เป็นเดือน เธอคนนี้คงสำคัญต่อตัวหมอนั่นมากแน่ๆ