(7)กลับบ้านอีกครั้ง

1998 Words
“ หยุด! ด้านในมีเสียงพวกมัน ตั้งสติ พอใกล้ เสียงนั้นก็จัดการมันเลย” ลาราจ พูดเพื่อย้ำทุกคนอีกที นาตาชาที่เดินตามลาราจ มาติดติดกลัวสั่นเทาจนลาราจ เป็นห่วงมากๆ “ ดูผม ถ้าเสียงนั้นมาใกล้คุณ ก็ให้คุณจัดการแบบนั้น ไม่ต้องกลัวนะ” นาตาชาที่มีสีหน้าดูดีขึ้น ยิ้มอ่อนให้กับลาราจ ~ตรืดดดดดดดดดดดดด สัตว์ประหลาดโดนลาราจ สาดสีใส่ และเจอตาข่ายของจอร์จคุมไว้ อัลเบิร์ตอึ้งกับวิธีการจัดการสัตว์ประหลาดของพวกเขาที่ดูฉลาดมาก ~ปังปังปังปัง สัตว์ประหลาดถูกยิงจนลงไปนอนกองกับพื้น แล้วชักกระตุกก่อนจะแน่นิ่งไป “ ทางซ้ายครับ” ทุกคนเดินไปตามทางที่อัลเบิร์ตบอก ตอนนี้สภาพในตึก มีแต่ศพข้าวของพังกระจัดกระจาย ~ตรืดดดดดดดดดดดดดด สัตว์ประหลาดโผล่ มาอีกตัว แต่เจ้าตัวนี้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดของมนุษย์แทบจะมองเห็นมันเป็นรูปเป็นร่างอย่างเห็นได้ชัด ~ ปังปังปังปัง ~ ปังปัง เจ้าตัวนี้ไม่ยอมล้มง่ายง่าย เหมือนตัวอื่นๆ มันดูแข็งแกร่งกว่าตัวอื่นที่พบเจอมาก่อน แต่ก็จัดการได้ไม่ยาก “ ทางซ้ายครับ” โถงทางเดินที่เต็มไปด้วยข้าวของและศพ กระจัดกระจายทำให้เดินไปอย่างยากลำบากมากขึ้น “ ห้องนี้แหละ” อัลเบิร์ต ยิ้มดีใจรีบวิ่งไปหาโทรศัพท์ของตัวเอง ตาข่ายถูกกาง ออกมัดกันประตูทางเข้าออกไว้ เพื่อดักสัตว์ประหลาดเอาไว้ เพราะประตูกระจกเดิมได้แตกเป็นเสี่ยงเสี่ยงไปแล้ว “ เจอแล้วครับ” เบอร์คุณนิโคลัสที่มีอยู่ในเครื่องของอัลเบิร์ตอยู่แล้ว อันเบิร์ตโทรออกแล้วยื่นให้ลาราจ ~ ตรู้ดๆๆๆๆ “ ฮัลโหล.. อัลเบิร์ตดีใจจริงๆที่คุณยังมีชีวิตอยู่” นิโคลัส รับสายและคุยด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจ “ พ่อครับ.. นี่ผมเอง” น้ำเสียงลาราจ ที่ดูดีใจและอึดอัดใจในเวลาเดียวกัน “ลาราจ.. แกเป็นไงบ้าง แกทำไมถึงเข้าไปในนั้น ห๊าา อึก..” ผู้เป็นพ่อดีใจสุดสุด และร้องไห้แต่ทนเก็บเสียงเอาไว้ ทั้งโมโหลูกชายและเป็นห่วง “ พ่อช่วยเปิดประตูให้พวกเราได้ไหมครับ” ปลายสายเงียบไปพักนึง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบาเบา ปนหวาด ระแวง “ ฉันไม่รู้จะทำได้ไหม แต่แกรอพ่ออยู่ที่หน้าประตูนะ พอคิดถึงแก..” การคุยกับพ่อครั้งนี้ทำให้ลาราจ มองพ่อเปลี่ยนไปคนละแบบตลอดกาล พวกเขาค่อยค่อยเดินทางไปที่ประตูใต้ดิน ที่เป็นทางออกเพียงทางเดียว กับดักสัตว์ประหลาดได้ถูกทำไว้ที่หน้าประตู ที่ถูกสัตว์ประหลาดดึงออกไปหมดแล้วเพื่อกัน พวกมันเข้ามาในห้องใต้ดินด้านล่างนี้ ผ่านไปราว 3 ชั่วโมงจนมืดพวกเขาหิวโหยอย่างหนัก ลาราจ กลับสเกิร์ตอาสามาเอาอาหารที่รถแต่พอถึงด้านหน้าตึกก็ต้องประหลาดใจที่เห็นสัตว์ประหลาดกำลังเดินเข้าไปในป่าสเกิร์ตขยี้ตาไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไอ้ตัวนั้นมันน่าเกลียดมือใหญ่ เท้าใหญ่กรงเล็บยาวหัวใหญ่โต ผิวหนังแห้งกร้าน มีหางยาวใหญ่ “ นายเห็นไหม ฉันต้องหิวจนตาลายแล้วแน่เลย” สเกิร์ตไม่มั่นใจในสายตาตัวเองว่า สัตว์ประหลาดที่ล่องหนอยู่ดีดีจะมาปรากฏกายให้เห็นได้ยังไง “ นายตาไม่ฝาดหรอก มันดูอ่อนแรงนะ เดินเหมือนไม่มีแรง” ทั้งสอง รีบหอบอาหารใส่เป้ แล้วเดินกลับไปชั้นใต้ดิน ด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่เจอ และกลับไปเล่าให้ทุกคนฟัง “ อ๋อ.. ผมลืมบอกนะครับ พวกมันจะหมดแรงและก็ปรากฏกายในตอนกลางคืน แต่ตัวล่าสุดเนี่ยมันล่องหนตลอดเวลา แถมเรี่ยวแรงก็ไม่หายไปด้วย พอดีเพื่อนผมที่ตายอยู่ในอ้อมแขนของผม บอกมาอีกทีครับ” อัลเบิร์ตผู้จบก็หันไปอีกทางแอบร้องไห้เสียใจคิดถึงเพื่อนที่ตายไป “ โถ่.. แล้วทำไมไม่บอกกันแต่แรกครับ” สเกิร์ตบ่นพึมพำ ทุกคนไขข้อคล่องใจจบ ก็รับประทานอาหารกันด้วยความหิวโหย “ แล้วอีกอย่างนะครับ.. ห้องทางด้านบนขวามือเป็นห้องครัวครับมีห้องเก็บอาหารด้วย” อัลเบิร์ตปาดน้ำตาหันกลับมาบอกพวกเขาอีกเรื่องนึง ทุกคนต่างอึ้ง พูดอะไรไม่ออก มองหน้ากันพร้อมถอนหายใจ โดยเฉพาะสเกิร์ตที่ถอนหายใจแรงกว่าคนอื่นๆ ~ เฮ้อ.. ทุกคนผลัดกันเฝ้ายามที่ประตูไว้ จนเช้าอีกวันก็ยังไร้ วี่แววว่าจะมีใครมาเปิดประตูให้พวกเขา “ คุณนิโคลัสจะเปิดประตูให้เราจริงๆใช่ไหมครับเนี่ย” อัลเบิร์ตเพิ่งตื่นก็ถามคำถามที่ค้างใจมาแล้วทั้งคืน “ ไม่มีใครรู้ได้หรอกครับ คุณนักวิทยาศาสตร์” จอร์จที่นั่งเฝ้ายามอยู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงีย แล้วลุกเดินไปหยิบกระเป๋ามาหนุนหัวนอนไปดื้อดื้อ ทำให้อัลเบิร์ตที่ตื่นอยู่คนเดียวต้องย้ายก้น ไปนั่งเฝ้าหน้าประตู โดยที่เจ้าตัวยิงปืนก็ยังไม่เป็นและขี้กลัวจนขึ้นสมอง นาตาชา ที่เพิ่งตื่นขึ้นมาก็ลุกไปห้องครัวด้านบนเพื่อจัดเตรียมอาหารให้ทุกคนทาน เวลาล่วงเลยมาจนค่ำอีกวัน ไร้วี่แววคุณนิโคลัสจนทุกคนแทบจะหมดหวัง แต่ถ้าว่าเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น ~ คึกก ~ คลื่นนนน ประตูกลเหล็กหนา 30 เซนติเมตรค่อยค่อยเปิดออก ชายแต่งชุดสูท หน้าตาคมเข้มยืนถือปืนดูท่าทางล้นลาน รีบกวัก มือเรียกพวกเรา ให้เลขเข้ามาแล้ว รีบปิดประตูกล ทันที “ พี่อาซา..” จอร์จเอ่ยทักทาย ผู้มาช่วยพวกเราแต่เขากลับทำหน้าดุดีดนิ้วชีมาชนที่ปาก ~ชู่.. แล้วพูดกระซิบเบาเบา “ คนที่นี่จะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวต้อนรับพวกคุณ” ทุกคนได้ยินดังนั้นก็ค่อยค่อยย่องตามอาซาไปอย่างเงียบเงียบ ~บึ๊กกก อัลเบิร์ตเตะเข้ากับร่างผู้ชายที่นอนสลบอยู่ที่พื้น “ พวกเขาแค่สลบเท่านั้น คุณต้องระวังหน่อย” อาซาหันมาดุ อัลเบิร์ต แล้วนำทางเข้ามาในโถงที่มีแต่สายไฟ อยู่เต็มทางเดิน หนทางคดเคี้ยวและทอดยาวอับชื้นและเหม็นสาบ จนในที่สุดก็เห็นประตูที่มีแสงรอดผ่านเข้ามา “ ด้านหน้าประตู มีคนเฝ้ายามอยู่ พวกคุณรออยู่ด้านล่างนี้” อาซา พูดจบก็ไม่รอช้ารีบเดินไปเปิดประตูด้วยความเร็วแล้วเดินกลับมาเรียกพวกเราตามไปภายในเวลา 2 นาที “ เร็วเข้า.. เดินชิดกำแพงเข้าไว้ กล้องตรงนี้ทำงานอยู่” อาซา รู้มุมกล้องทุกจุด เค้าพาทุกคนเดินมาตามถนน จนเปิดประตูรถตู้สีดำที่จอดอยู่หน้าร้านไอศครีมให้พวกเราขึ้นไป รถออกเดินทาง เข้าไปในเมืองที่มีผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมา ทุกคนดีใจมากจนยิ้มไม่หุบ รถตู้คันหรูแล่นมาจอดหน้าบ้านที่ใหญ่โตอลังการ “ ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยพวกผมออกมา” ลาราจ พูดขึ้นมาด้วยแววตาซาบซึ้ง “ ใช่ครับ ขอบพระคุณจริงๆวันหลังมีอะไรให้ผมช่วยบอกได้เลยนะครับ” สเกิร์ต “ ขอบคุณนะคะ คุณอาซา” นาตาชา “ นี่บ้านใครล่ะครับ คุณจะให้พวกเราอยู่ที่นี่หรอ” ลาราจ สงสัย “ บ้านคุณหนูครับ” อาซาตอบรับด้วยท่าทางนอบน้อม ลาราจ ประหลาดใจนิดหน่อย ก่อนจะเปิดประตูรถเดินลงไป คนใช้หญิงชายเกือบ 10 คนรีบวิ่งออกมาต้อนรับ “ ต้อนรับกลับบ้านค่ะ คุณหนู” เสียงเหล่าคนใช้ พูดประสานเสียงกัน ลาราจ รู้สึกคุ้นชินกับทุกสิ่งที่เห็นตรงหน้า ลาราจ เดินย่างก้าวเข้าบ้านแต่เพื่อนเพื่อนของเค้ากับ ยืนแข็งทือ อยู่หน้าบ้าน.. “ ทำไมทุกคนไม่เข้ามาละครับ” ลาราจ วิ่งกลับไปถามทุกคน “ คือฉันเกรงใจ นายจะให้ฉันอยู่ที่นี้หรอ” สเกิร์ตก้มหน้า ยืนบิดไปมา “ ผมอยากเจอครอบครัวของผม” ทริคชี่ “ ฉันจะกลับบ้านไปหาเมีย!” อัลเบิร์ตพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้น “ คุณล่ะ อยู่กับผมที่นี้นะ” นาตาชา เงยหน้ามามองลาราจ แล้วสวมกอดเขาเบาเบา “ ฉัน.. ” ~บรื้นนนนนนนน รถคันยาวสีดำจอดเทียบหน้าบ้าน “ รูปพ่อ! หึ.. อ๋อเธอนี้เอง” คุณนิโคลัส พอรู้ว่าแอบพาลาราจ ออกมาได้แล้วก็รีบขับรถกลับบ้านมาหาลูกชายทันที เค้าจำนาตาชาได้เพราะติดตามถ่ายทอดสดอยู่ตลอด และรู้ว่าลูกชายเค้าคบกับเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นาตาชาค่อยค่อย คลายกอดลาราจ เมื่อเห็นคุณนิโคลัสลงจากรถหรูคันยาวมา “ พ่อหรอ..” ลาราจ จำเขาได้จากในฝัน แต่ในฝันเค้ารู้สึกไม่ดีกับพ่อเอามากๆ แต่ก็ได้หายโกรธเขาแล้ว “ พ่อเอง ไอ้ลูกชาย ทำไมแกถึงได้คิดแบบนี้ ถ้าแกไม่รอดกลับมาจะเป็นยังไง ฮะ” ลาราจ ก้มหน้ารับคำบ่นของผู้เป็นพ่อ นิโคลัสพุ่งมากอดลูกชายไว้แน่น แล้วครายกอดลูกชายหันไปชื่นชมอาซาและจอร์จ “ ขอบคุณ.. เดือนนี้นายอยากได้โบนัสเท่าไหร่ บอกฉันได้เลยนายด้วยนะ จอร์จ” “ ครับนาย/ครับนาย” อาซายิ้มกว้างดูสนิทสนมกับนิโคลัสมากกว่าจอร์จที่ดูจะสนิทสนมกับลาราจมากกว่า “เอ่อ.. คุณพ่อครับ ผมอยากแต่งงานกับนาตาชา” ลาราจ พูดกับพ่อของเค้าด้วยสีหน้าจริงจัง สีหน้าของพ่อเขาที่ได้ยินกลับดูช็อคนิดหน่อยเพราะอยากให้ลูกแต่งงานกับผู้หญิงที่มีฐานะเดียวกัน “ ลองอยู่ด้วยกัน สักปีก่อนดีไหมลูก นาตาชาว่าไหม” นาตาชายังไม่รีบร้อน พยักหัว ตอบรับคุณนิโคลัสง่ายง่าย ซึ่งก็ถูกใจเขาอย่างมากๆ “ คุณ.. ไม่มั่นใจในตัวผมหรอ ผมรักคุณมากนะ” ลาราจ กลุ้มมือหญิงสาว ด้วยความรัก แล้วยกมือเธอมาหอมฟอดใหญ่ “ ทำตามคุณพ่อบอกเถอะค่ะ” หญิงสาวโน้มน้าวแฟนหนุ่มสำเร็จ เค้ายิ้มอ่อนตอบรับเธออย่างว่าง่าย ซึ่งคุณพ่อเค้าก็มีสีหน้าพอใจเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพากันแยกย้ายกลับบ้านไป โดยมีจอร์จขับรถไปส่ง เพราะเค้าเป็นคนไปรับทุกคนมาจากบ้านตั้งแต่แรก นาตาชารู้สึกประหม่าในบ้านหลังใหญ่โต นั่งแข็งทื่ออยู่ที่โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ที่ค่อยค่อยมีอาหารถูกนำมาวางอย่างมากมาย “ คือว่า.. จะมีใครมาทานอาหารกับพวกเราอีกหรอค่ะ” อาหารเยอะแยะเรียงเต็มโต๊ะ จนนาตาชานึกสงสัย “ เปล่าหนิ.. ทานอาหารกันเถอะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” คุณนิโคลัสยิ้มเจื่อนๆ ตอบเธอไป แล้วหันไปยิ้มล่า ให้กับลูกชายตัวเองที่กำลังหยิบกุ้งล็อบสเตอร์ตัวใหญ่มากินเป็นอย่างแรกและทำหน้าฟินกับอาหารมื้อนี้สุดสุดจนทุกคนพลอยมีความสุขกับลาราจ ไปด้วย มื้อค่ำผ่านไปอย่างมีความสุข นาตาชาเข้าไปอยู่ห้องเดียวกันกับลาราจ ที่มีเฟอร์นิเจอร์หรูหรากว่าทุกที่กว้างขวางโอ่อ่า นาตาชาอาบน้ำเสร็จก็สวมเสื้อยืดตัวใหญ่ของลาราจ ทับเรือนร่างที่ เปลือยเปล่าของร่างเล็กของเธอ ลารามองเธอด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนนุ่ม มากอดรัดร่างหญิงสาวแล้วเหวี่ยงเธอลงบนที่นอน ก่อนจะก้มลงเอาร่างกายตนทับร่างเล็กเธอไว้ หลังจากนั้นค่ำคืนอันแสนหวาน ก็เริ่มขึ้นด้วยความสุขและเร่าร้อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD