Chapter 4
ไม่สิ!!! เธอต้องถามว่าเขานั่นแหละ มานอนอยู่ในห้องของเธอได้อย่างไรกัน
เมื่อคืนเธอเป็นไข้หวัดเลยกินยาเข้าไป ง่วงนอนจนแทบลืมตาไม่ขึ้น แถมยังฝันลามกอีก
อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนไม่ได้ฝัน แต่เป็นเรื่องจริง แล้วที่สำคัญก็คือเธอลืมล็อกประตูห้องนอนของตัวเอง
ดีนะที่นี่ไม่มีโจรผู้ร้าย ไม่อย่างนั้นโจรคงขึ้นมาปาดคอตายเป็นแน่แท้
ปาลินบอกตัวเองว่าเธอต้องรีบหนีลงจากเตียงตอนนี้เลย ถ้ารอให้วริศตื่นขึ้นมาเธอคงจะไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และไม่รู้จะพูดคุยอะไรกับเขา
เขาอาจจะสงสัยว่ามานอนห้องนี้ได้อย่างไรกัน ก็ช่างมันก่อน เธอค่อยหาทางโกหกเขาเอาก็ได้
ปาลินนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแปลบ พยายามขยับตัวให้เบาที่สุด แต่มือหนาที่เกี่ยวเอวบางเอาไว้ ทำให้ปาลินตัวแข็งทื่อ แถมประโยคของเขายังชวนให้เธอจั๊กจี้อีกด้วย
“คนสวยจะไปไหนครับ มาให้กอดก่อน รู้ไหมว่าเมื่อคืนคุณตัวหอมไปทั้งเนื้อทั้งตัวเลย ผมเลยซุกไปทั่วเพราะทนกลิ่นหอมเย้ายวนของคุณไม่ไหว”
ปาลินอยากจะร้องไห้กับประโยควาบหวามปนลามกของเขา ไม่คิดว่าวริศจะลามกได้ถึงขนาดนี้ เธออยากจะกรีดร้องให้ลั่น แต่ไม่กล้า
“ทำไมคนสวยถึงได้ตัวแข็งแบบนี้ล่ะครับ ไหนขอผมดูหน้าให้ชัด ๆ หน่อยสิครับ” วริศจับร่างแข็งทื่อพลิกมาหา เขาปรือตามองก่อนจะกะพริบตาปริบๆ แล้วก็หลับตาลงอีกครั้ง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป
วริศรู้สึกปวดหัวเป็นอันมาก อาจเพราะเขาดื่มเข้าไปเยอะในค่ำคืนที่ผ่านมา เขาเลยเห็นหญิงสาวคนนี้เป็นเด็กในอุปการะของมารดาแบบนี้
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง ก็ยังเห็นเจ้าหล่อนนอนตัวแข็งทื่ออยู่ใต้ร่างของเขา นั่นทำให้วริศแทบจะสบถออกมา และเมื่อกวาดสายตามองไปรอบกายก็เห็นว่านี่มันไม่ใช่ห้องนอนในคอนโดฯ ของเขาอย่างที่เข้าใจ
“เป็นเธอได้ไง” เขาเอ่ยถามออกมา ในขณะที่ปาลินได้แต่นอนตัวแข็งอยู่แบบนั้น เธอไม่รู้จะตอบเขาว่าอย่างไรดี
“เธอเข้ามานอนกับฉันได้ยังไง” ประโยคของเขาในครานี้ทำให้เธอต้องเอ่ยตอบเขาออกไป เพื่อเรียกสติของเขาคืนกลับมา
“นี่มันห้องนอนของลินนะคะ” ประโยคนั้นทำให้ชายหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบกาย ใช่แล้วนี่มันห้องนอนของเธอในบ้านของมารดา
“ทำไมถึงนอนไม่ลงกลอนแบบนี้ ถ้าโจรเข้ามาทำร้ายจะป้องกันตัวเองยังไง” เขาเอ่ยถามเสียงดุ ปาลินตาโต
นี่เขาจะหาว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเธออย่างนั้นเหรอ หญิงสาวทำหน้างอในทันที เตรียมขยับตัวหนี แต่ร่างกายเปลือยเปล่าที่เสียดสีกันและกัน อีกทั้งกลางกายสาวที่เจ็บแปลบก็ทำให้เธอถึงกับหน้าแดง
“ปล่อยนะคะคุณวริศ” เธอพยายามหนี แต่เขากอดรั้งเอาบางเอาไว้ ดิ้นรนปลุกปล้ำกันจนผ้าห่มหลุดร่วงลงไปจากร่าง ปาลินแทบจะกรีดร้องแต่ดีที่วริศเอามือปิดปากเอาไว้ได้ทัน
“เธอจะบ้าหรือไง ขืนเธอร้องเสียงดังขึ้นมา คุณแม่ก็รู้สิว่าเราทำอะไรกันเมื่อคืน หรือเธออยากให้ท่านรู้” ประโยคคำถามนั้นทำให้ปาลินรีบส่ายหน้าไปมา เธอไม่อยากให้เข็มสรณ์รู้ เพราะคงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ
“ปล่อยลินนะคะ” เธอดันอกกว้างของเขาเอาไว้ ใช้แรงทั้งหมดดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขา แค่หันหลังให้เขาเพื่อจะคลานหนีลงจากเตียง เขาก็ตามมากอดรัดเธอเอาไว้จากทางด้านหลัง
ปาลินหน้าแดงซ่าน แทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อเขาโอบรัดทรวงอกอวบอิ่มของเธอเอาไว้ ยิ่งท่อนกายชายของเขาที่มันกำลังตื่นตัวจิ้มก้นเธออยู่ มันก็ยิ่งทำให้เธอยิ่งอยากหนีออกจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด
“ถามว่าจะรีบไปไหน”
“ปล่อยลินนะ”
“ไม่ปล่อย เธอจะทำอะไรฉัน”
“ลินจะร้องให้คนมาช่วย” พูดแล้วต้องกัดปากตัวเอง เพราะว่าที่บ้านไม่มีใครเลยนอกจากเธอ คุณเข็มสรณ์กับป้าแสนเดินทางไปงานศพของญาติที่ต่างจังหวัด ในขณะที่เธอต้องอยู่โยงเฝ้าบ้านคนเดียว
เธอเพิ่งสอบเสร็จในภาคเรียนสุดท้ายของปีการศึกษาและกำลังจะปิดเทอม
เข็มสรณ์ไปหลายวันแล้ว เธอเองก็เพิ่งสอบเสร็จจึงไม่ได้ไปด้วย มีลุงมั่นขับรถไปส่งและคอยรับกลับ ท่านจึงฝากฝังบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ให้เธอดูแล ไม่คิดว่า จู่ ๆ ลูกชายของท่านจะโผล่มาแบบนี้
“ก็ร้องสิ คุณแม่จะได้เข้ามาเห็น” เขากระซิบบอกตรงริมหู กลิ่นหอมจากเรือนร่างของเธอทำให้เขาตื่นตัวยิ่งนัก
“ปล่อยลินนะคะ” บางอย่างแข็งขึงที่จิ้มก้นของเธอเอาไว้ ทำให้ปาลินหน้าร้อนผ่าว ปากยังไม่กล้าบอกเขาว่ามารดาของเขาไม่อยู่ กลัวเหลือเกินว่าจะยิ่งโดนเขารังแกเอาอีก
“เธอทำให้ฉันตื่น” ประโยคของเขาทำให้เธออยากจะกรีดร้องให้ลั่นห้อง ขนในกายลุกชันไปหมด
“คุณวริศจะไม่ปล่อยลินจริง ๆ เหรอคะ” เธอเอ่ยถามเขาเสียงสั่น ๆ ประโยคสั่นสะท้านของหล่อนทำให้เขาอมยิ้ม หล่อนคงอายและสัมผัสได้ว่าเขามีความปรารถนาเพียงใด