8.แรกพบ

1294 Words
เรื่องเสื้อผ้าที่เธอนำมามันชื่อชุดเดรสเรียบๆที่เธอใส่เป็นประจำทุกวัน พวกมันมิได้เก่าแต่แค่มิได้มีความหรูหรา อาเซลพาเธอเดินไปสำรวจยังห้องต่างๆในปราสาทแห่งนี้ที่มีมากมายหลายร้อยห้อง มันมากเสียจนเธอต้องร้องขอให้เจ้าหมึกน้อยตนนี้พักก่อน.. อาเซลคงจะยังอยู่ในช่วงวัยที่เป็นเด็กน้อยอยู่เพราะว่านางดูนุ่มนิ่มและน่ารักราวกับตุ๊กตา ติดอยู่ที่ว่าเธอไม่กล้าจะสัมผัสเพราะว่าเธอกลัวว่าจะไปจับในส่วนที่ไม่สมควรแตะต้องเข้า "อย่าลืมว่าท่านมิลลาจะต้องยิ้มเยอะๆนะคะในยามที่ท่านพบเจอท่านจอมมาร.." "อืม ว่าแต่ข้าสามารถเขียนจดหมายไปหาครอบครัวได้รึเปล่า แน่นอนว่าข้าจะไม่บอกกล่าวพวกเขาเรื่องที่นี่ข้าแค่จะส่งกลับไปว่าข้านั้นสบายดี" อาเซลเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนที่นางจะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ "เรื่องนั้นข้าไม่มีอำนาจมากพอที่จะตัดสินใจหรอกค่ะ ท่านมิลลาจะต้องกล่าวถามและขออนุญาตจากท่านจอมมารก่อน" "ข้าไม่แน่ใจว่าจะสามารถพูดคุยกับท่านจอมมารได้อย่างราบรื่นดีรึเปล่า?" เพราะว่าเธอมันเป็นโรคแพ้คนหล่อ! โดยเฉพาะคนที่หล่อเหลาขนาดที่ไม่เคยมีใครหล่อเหลาขนาดนี้มาก่อนในสายตาของเธอ "เรื่องนั้นท่านมิลลาจะต้องทำมันได้ดีอย่างแน่นอนค่ะ" เธอส่งยิ้มให้กับอาเซลอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่ขนาดอาเซลยังเจิดจ้าจนแสบตาเลย จริงอยู่ที่การมองความงดงามของมนุษย์และปีศาจต่างกันแต่ท่านมิลลาถือเป็นข้อยกเว้นไหมนะ ผิวกายขาวเนียนราวกับดวงจันทร์ในยามราตรี ผมสีเงินสว่างใบหน้าที่เรียกได้ว่านั่นมันคือความสมบูรณ์แบบที่ปีศาจเช่นเธอต้องให้การยอมรับเลย อาเซลเชื่อว่าท่านจอมมารจะต้องพึงพอใจในตัวท่านมิลลาอย่างแน่นอน และท่านจอมมารจะต้องกัดกินร่างกายที่งดงามนี้ลงไปในคืนแต่งงานจนไม่หลงเหลือแม้แต่เศษเนื้อสักชิ้น รสชาติของมนุษย์ที่แสนงดงามจะต้องทำให้ท่านจอมมารพึงพอใจอย่างแน่นอน.. "ขอบคุณนะอาเซล ข้าน่ะเดิมทีก็ไม่ใช่คนที่มีเพื่อนมากมายสักเท่าไหร่ การได้พบกับเจ้าทำให้ข้ารู้สึกดีใจที่อย่างน้อยข้าเดินทางมาที่นี่ ที่ที่ข้าไม่รู้จักใครเลย..ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ที่นี่ใช้ชีวิตยังไง..อ่าไม่สิต้องเรียกว่าปีศาจที่นี่ใช้ชีวิตอยู่ยังไงต่างหาก แต่อย่างน้อย..ข้าก็ได้รู้จักกับเจ้า ใครบอกกันนะว่าปีศาจเป็นพวกบ้าคลั่งและกระหายเลือด อันที่จริงพวกเจ้าอ่อนโยนมาก.." อาเซลมองมิลลาที่กำลังยกยิ้มนิ่งๆโชคดีที่เธออยู่ในร่างปีศาจ สตรีผู้นี้จึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเธอได้ "ค่ะ ส่วนใหญ่มนุษย์จะมองเราแบบนั้น" เพราะว่าพวกที่พูดถึงปีศาจแบบนั้นคือพวกเขารู้จักเหล่าปีศาจดีมากนะสิ.. อาเซลพามิลลาลงมาด้านล่าง เพื่อพาเธอมายังโต๊ะอาหาร ห้องอาหารที่แสนกว้างใหญ่ไม่มีใครนั่งอยู่เลย "ท่านจอมมารน่าจะกำลังมาค่ะ" มิลลาพยักหน้าเบาๆ อาหารถูกยกมาวางเอาไว้เบื้องหน้าของเธอ มันคือ..กระต่ายสดๆและซุปสีแดงเหนียวข้นราวกับเลือดของมนุษย์.. ใบหน้างามพลันซีดเผือดพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆจางหายไป กลิ่นคาวจากอาหารที่น่าตกใจพวกนั้นมันชวนให้เธอรู้สึกราวกับจะอาเจียนออกมาและในจังหวะที่มิลลาหันไปเพื่อบอกกล่าวกับอาเซลว่าเธอขอไปอ้วกก่อน ประตูก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามา "อะ..อึก!" มิลลายกมือขึ้นมาปิดปากแต่ทว่ามันก็ไม่ทันแล้วเพราะสิ่งที่เธออาเจียนออกมาบางส่วนมันเลอะเปรอะเปื้อนไปจนเต็มพื้น.. "....." เธอไม่รู้ว่าจะตกใจกับเรื่องไหนก่อน เรื่องใบหน้าที่หล่อเหลาจนภาพในรูปต้องชิดซ้ายหรือว่าเรื่องที่เธออาเจียนออกมาในครั้งแรกที่เราพบกัน ช่างเป็นการพบเจอกันในแบบที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว "ข้าคิดว่าเราอาจจะต้องยกอาหารขึ้นไปทานด้านบนและเรียกสาวใช้มาทำความสะอาดที่นี่ อาเซลช่วยจัดเตรียมอาหารให้สุภาพสตรีท่านนี้ใหม่ด้วย ขอเป็นเนื้อที่ย่างจนสุกแล้วและน้ำจากผลไม้ในสวนก็พอ" เขาเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดที่มุมปากให้เธอโดยไม่แสดงอาการรังเกียจใดๆ "ขออภัยสำหรับการพบเจอกันครั้งแรก ข้าเสียมารยาทแล้วค่ะ" เขาพาเธอเดินออกมาที่สวนด้านหน้า..เป็นสวนที่มีต้นไม้ที่น่าสยดสยองเพราะรอบๆต้นมันมีหนามแหลมคมและมันกระดุกกระดิกไปมาราวกับว่าอยากจะพุ่งตรงมากัดคอเธอยังไงอย่างนั้น "เป็นความผิดของข้าเองที่มิได้สั่งให้พ่อครัวจัดเตรียมอาหารสำหรับมนุษย์.." เธอมองหน้าเขา แน่นอนว่าเขาตรึงสายตาของเธอเอาไว้ตั้งแต่ที่เราเดินออกมาจากห้องอาหารด้วยกันแล้ว สาบานได้เลยว่าใบหน้าของเขามันหล่อในแบบที่เธอกำลังกรีดร้องในใจอย่างหนักหน่วง เธอพอจะเข้าใจอาการที่พี่ลิเลียนบอกแล้ว อาการความชื่นชอบและการตกหลุมรัก เธออยากให้เขามองสบตาเธอแล้วใช้มือของเขาลูบผมเธอเบาๆ อีธานมิได้มองไปที่สตรีมนุษย์ผู้นั้นเลยเพราะว่าเขารู้ว่านางไม่มีค่าให้ใส่ใจด้วยซ้ำ นางจะตายหลังจากส่งมอบสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดในร่างกายของนางให้เขา เพราะว่าเขาจะกลืนกินนางเข้าไปเพื่อเพิ่มพลังปีศาจในตัว แต่ไหนแต่ไรก็เป็นเช่นนี้สตรีคนแล้วคนเล่าที่เข้ามาที่นี่ไม่เคยมีใครได้เดินออกไปเพราะทุกคนจะต้องตาย... เพราะฉะนั้นจนกว่าจะถึงวันที่ดวงจันทร์เต็มดวง เขาจะแสร้งทำเป็นว่าใส่ใจนางสักหน่อยก็แล้วกัน ถึงยังไงวาระสุดท้ายของนางก็กำลังจะเดินทางมาถึงในเร็ววันอยู่แล้ว "ข้า..อยากจะเขียนจดหมายหาพี่สาวค่ะ ข้าสามารถส่งจดหมายออกไปได้หรือไม่?" เขาปรายตามองใบหน้าที่งามล้ำของมิลลา ก่อนจะปั้นยิ้มที่แสนอ่อนโยนขึ้นมา "แน่นอนครับ เลดี้สามารถฝากจดหมายเหล่านั้นให้อาเซลช่วยส่งมันออกไป.." เขาดู..ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเอาไว้เลยสักนิด! ท่านจอมมารดูอ่อนโยนและใจดีอย่างที่อาเซลบอกกล่าวเอาไว้จริงๆ "ขอบคุณมากนะคะ" หรือบางที การที่เธออยู่ที่นี่มันจะสามารถทำให้เธอมีความสุขได้มากกว่าการอยู่ท่ามกลางชนชั้นสูงพวกนั้นกันนะ เธอจะแต่งงานกับเขาและนอนมองใบหน้าที่หล่อเหลาของท่านจอมมารให้เบื่อกันไปข้างหนึ่ง ลูกของเราจะเกิดมาหน้าตาน่ารักเช่นเขา และเป็นลูกครึ่งปีศาจที่แสนอ่อนโยน.. แค่คิดหัวใจก็เต้นแรงในแบบที่เธอไม่สามารถห้ามริมฝีปากให้หุบยิ้มได้เลย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD