มากันแล้วว่ะ โชนสะกิดบอกเพื่อน เมื่อพวกฉันเดินเข้ามา ฉันเดินเข้ามาก็พบกับสมาชิกในโต๊ะเพิ่ม
แล้วฉันก็ดีใจมากที่เป็นเขา
“เดฟ” ฉันยิ้มตาหยีให้เขา น้ำเสียงของฉันเจือไปด้วยความดีใจ
“ยูมิ” เขายิ้มหล่อกลับมา พระเจ้ามันกร้าวใจอยากบอกไม่ถูก ปกติคริสเตียนไม่ค่อยยิ้ม มาเจอเดวิดที่หน้าเหมือนกันยิ้มให้แล้วใจเต้นจังเลยแฮะ
ฉันเรียกเขาสนิทสนมมาก เพราะฉันคุยกันเขาบ่อยผ่านโซเชียล เขาช่วยแชร์และรีวิวนิยายของฉันด้วย น่ารักมาก ฉันยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าเขา
“มาได้ยังไงคะนี่” ฉันยังยิ้มถามคนตัวใหญ่ไม่หยุด
“อืม อยากมาเปิดหูเปิดตาน่ะ ก็เลยโทรหาไอ้พวกนี้แล้วตามมันมา”
“คิกๆ ดีใจจังที่ได้เจอ”
“เช่นกันครับ วันนี้เธอสวยมากเลยยูมิ”
“ฮ่าๆๆ เหมือนเรื่องนางทาสแปลงโฉมเลยหรือป่าวคะ” กระซิบพูดเรื่องนิยายข้างหูเขา
“คิกๆ ผมว่าเธอน่าจะสวยกว่านางเอกในเรื่องนั้นอีกนะครับ” เขากระซิบกลับมา
“พวกนายรู้จักกันได้ไง” เสียงเย็นชาของคริสเตียนที่เดินตามมาถามขึ้น หน้าเขาไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
“ไม่เกี่ยวกับมึงนี่” เดวิดทำสายตาเย็นชาใส่คริสเตียน
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ยัยนี่เป็นของเล่นของกู” หัวใจของฉันเหมือนถูกบีบรัดตอนได้ยินแบบนั้นทำไมกันนะ
“ตอนนี้กูยังไม่เบื่อ แต่ไม่เป็นไรนะเดวิด วันไหนกูเบื่อมึงก็มาแดกต่อได้”
“อย่ามั่นใจให้มากไอ้คริส มึงคิดว่าเธอจะยอมเป็นของเล่นให้มึงแบบนี้ตลอดไปหรอ”
“ก็ไม่รู้สิ พวกกูก็พึ่งไปเอากันมา ยัยนี่ติดใจกูจะตาย”
ตอนนั้นฉันรู้สึกว่าเริ่มโมโหแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะพูดเพื่อข่มเดวิดหรืออะไรก็ชั่ง แต่เขาไม่ควรพูดกับฉันแบบนี้ป่ะ เหมือนฉันเป็นของใช้เลย น้ำตาฉันไหลอยู่ตรงนั้นเลย จนทุกคนเหวอกันหมด
“ยูมิ” ปรางเรียกฉัน ด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“เฮ้ยไอ้คริสมึงพูดแรงไปป่ะวะ” โชนออกตัวมาร้องห้าม
ฉันเช็ดน้ำตาแล้วเดินออกมาไม่พูดไม่จา เดฟเดินตามฉันมา แล้วดึงแขนฉันให้ไปกับเขา แล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อหนีคริสเตียนที่เดินตามมาติดๆ เขายัดฉันลงไปในรถพอช แล้วขับออกมาเลย ฉันนั่งร้องไห้ไม่หยุด จนเดฟเอ่ยถาม
.
“นี่ เรื่องมันเป็นไงมาไงหรอ ทำไมถึงไปลงเอยกับคนแบบนั้นได้ล่ะ” เขาถามฉันอ่อนโยน
แล้วฉันก็เล่าให้เขาฟังจนหมดเปลือก
.
.
(Talk คริสเตียน)
ไอ้เชี่ยเดวิด มึงมาฉกผู้หญิงของกูต่อหน้ากูเลยงั้นหรอ ผมสบถอย่างหัวเสียแล้วเดินออกมาจากร้านงี่เง่านั่น ขับรถออกมา ในใจก็คิดว่า คนแบบไอ้เดฟ มันไม่ค่อยสนใจใครง่ายๆ วันๆอยู่แต่ทำงานที่บริษัท
แล้วพวกมันไปรู้จักกันได้ไงว่ะ ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด แล้วยัยนั่นก็ตามมันไปง่ายๆเนี่ยนะ ใจง่ายชิบหาย เอากับผมแล้วยังอยากจะเอากับพี่ชายผมอีกงั้นหรอ ร่านชิบ
โอ๊ย โคตรหงุดหงิด แม่งเอ้ย
ผมขับรถวนไปวนมา วนมาวนไปอยู่แบบนั้น
.
.
(Talk เดวิด)
บนรถของเดฟ
“งี้นี่เอง แต่งนิยายไม่ออกนี่เอง” ผมพยักหน้ารับรู้ถึงสถาณการณ์จำเป็นของคนอย่างเธอ
“ใช่ค่ะ ตอนนั้นมันจวนตัวมาก ฉันไม่ได้อัพนิยายนานแล้ว ”เธอบอกด้วยสีหน้าลำบากใจนิดหน่อย
“ว่าแต่เธอ เก่งชะมัด สามารถแต่งนิยายร้อนแรงขนาดนั้นได้ ทั้งๆที่ไม่เคยมีประสบการณ์สักครั้งเลยเนี่ยนะ” ผมแหย่เธอ
“โถ่เดฟ อย่าล้อฉันสิคะ ฉันไม่เคยบอกใครเลยนะคะนอกจากมะปราง คริสเตียนยังไม่รู้เลยค่ะว่าทำไมฉันถึงต้องขอร้องเขาแบบนั้น” เธอทำสีหน้าเจ็บปวดเมื่อพูดถึงไอ้น้องชายตัวดีของผม
“เออ อย่างไอ่เวรนั่นก็คงคิดหลงตัวเองว่าที่เธอขอร้องเพราะมัน หล่อ รวย ลีลาดี”
“ชั่งเขาเถอะค่ะ ฉันไม่คิดจะเจอเขาอีกแล้ว จริงๆก็ไม่ได้คิดว่าจะเจอเขาตั้งแต่คืนแรกแล้ว แต่เหมือนมะปรางจะโดนบังคับมาอีกทีให้โทรตามฉันออกมา ปกติฉันไม่ออกมาที่แบบนี้หรอกค่ะ”
เธอหยุดร้องให้แล้วแฮะ แล้วเธอก็คุยกับผมได้เป็นธรรมาชาติมากกว่าตอนเจอกันครั้งแรก คิกๆน่ารักจัง
“ก็พอรู้อยู่ แต่งเป็นร้อยเรื่องแบบนั้นคงใช้ชีวิต เหมือนสิงอยู่หน้าคอม”
“จะบอกให้ว่าบางทีฉันไม่อาบน้ำติดกัน 3 วันแน่ะค่ะ ถ้างานเร่งๆ ฮ่าๆ”
“อี๋ สกปรกจัง”
“ใช่ม่ะ เพื่อนร่วมห้องฉันคือปีเตอร์ค่ะ แมลงสาบตัวร้าย”
“อี๋ สุดจัดอะไรจัด”
“ใช่มั้ยๆ วันนั้นที่คุณเจอฉันครั้งแรก ฉันใส่เสื้อที่แมลงสาบแทะคอเสื้อไปด้วยค่ะ”
“แล้วมาพูดเหมือนเป็นเรื่องน่าภูมิใจเนี่ยนะ ฮ่าๆๆ เธอนี่มันโคตรตลก”
“ฉันไม่เคยบอกใครเลยนะคะเนี่ย ถือว่าคุณเป็นแฟนคลับ N.1 ได้เลยค่ะ คิกๆ”
“ฮ่าๆๆๆ”
เธอทำให้ผมยิ้มตามไม่หยุด
.
.
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ ไว้คุยกันคะเดฟ” เดวิดวนกลับมาส่งฉันที่ลานจอดรถหน้าผับ
“แน่ใจนะว่าขับกลับเองได้” สีหน้าเขาดูเป็นห่วงอย่างมาก
“ ไม่ต้องห่วงค่ะสบายมาก” ฉันยิ้มให้เขา แล้วโบกมือลา
ฉันเดินจ้ำอ้าวมาที่รถของตัวเองแล้วกดรีโมทเพื่อจะเปิดประตู ทันใดนั้นมือใหญ่ก็มาฉุดกระชากแขนฉัน
“คริสเตียน” ฉันเลิกคิ้วมองไปยังผู้ชายร่างใหญ่ท่าทางเหมือนกินรังแตนมา
“เออ กูเอง ไปไหนกับมันมา” นั่นไงคำพูดคำจา
“มันเรื่องของฉันค่ะ” ฉันไม่สนใจใยดี
“อย่ามาทำฉันโมโหนะยูมิ” เขาบีบแขนฉันแรงๆ
“แล้วฉันไปทำอะไรให้คุณโมโหละคะ” ฉันมองหน้าเขาแล้วกรอกตาใส่
“แล้วไปไหนกับมันมา ไปเอากันมารึไง” เขายังละลานไม่หยุดเขาต้องการอะไรกับคนแบบฉันอีกกันแน่
“แล้วมันยังไงคะ ฉันจะไปเอากับเขามาแล้วคุณจะทำไม คุณไม่ใช่เจ้าของฉันคริสเตียน ฉันจะไปเอากับใครมันก็เรื่องของฉัน อย่ามาทำเหมือนฉันเป็นของใช้ของคุณ” น้ำตาฉันไหลอาบแก้ม น้ำเสียงโกระเจือด้วยเสียงสะอื้นไห้
เขากระชากแขนฉันแรงขึ้นแล้วลากไปที่รถจนแขนฉันแดงไปหมด
“จะพาไปไหน” ฉันกลั้นใจถามเขา
“ไปคอนโดฉัน ฉันจะสั่งสอนเธอให้จำให้ได้ยูมิ ว่าเธอมันเป็นของใคร” ทำไมต้องโมโหขนาดนี้ด้วยนะ ไม่เข้าใจจริงๆ
.
.