“คนไข้ครับ….คนไข้” อาจารย์หมอเรียกสติคนไข้ที่ตอนนี้เหม่อมองใบหน้าหมออย่างล่องลอย….
“ค่ะ!!!…” คนร่างบางรีบดึงสติให้ตื่นจากภวังค์ หมอคือรุ่นพี่คนนั้นคนที่กล้าปฏิเสธความรักครั้งแรกและเป็นรักเดียวของเธอ…..
“ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างยังมีอาการคันหรือมึนๆรึเปล่า” มือเรียวๆนิ้วขาวผ่องของอาจารย์หมอเดินเข้ามาปรับสายน้ำเกลือและใช้หูฟังแพทย์ตรวจการเต้นจังหวะหัวใจ สายตาคมจ้องมองไปสบดวงตาคู่งาม
“ตึกๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวใจของคนร่างบางเต้นรัวเหมือนจังหวะกลองชุด
“อึ๋ยยย!!!…ทำไมต้องเป็นเค้าหายไปตั้ง 13 ปี อย่าทำขายหน้าสิใจสั่นอยู่ได้” ตะวันเธอประหม่าและเสียอาการเพราะอาจารย์หมอต้องรู้แน่ๆว่าเธอใจเต้นแรง…
“คนไข้กลัวหมอรึเปล่า…หายใจเข้าออกช้าๆลึกๆ” อาจารย์หมอยิ้มที่มุมปากคิ้วหนาเลิกขึ้น
“ให้ตายสิอีตะวัน…เก็บอาการหน่อยแค่เค้าหล่อและเป็นหมอเจ้าของไข้จะตกหลุมรักคนนี้ซ้ำๆไม่ได้” คนร่างบางบ่นตัวเองภายในใจและพยายามควบคุมจิตใจให้เย็นลง
“อาการโดยรวมดีขึ้นตามลำดับ…อาจจะมีเพลียบ้างและหมอขอสั่งห้ามคนไข้โดยเด็ดขาดห้ามกินกุ้งทุกชนิด….ถ้าคนไข้ไม่อยากเป็นภาระหมอหรือยังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ” อาจารย์หมอพูดดุคนร่างบางวาจานั้นร้ายกาจดุสมเป็นอาจารย์หมอเถื่อนที่ทุกคนแอบเรียกเป็นฉายาใบหน้าหล่อนิ่งขัดกับคำพูด
“นี่คุณหมอ…ดิชั้นก็ไม่ได้อยากจะมาเป็นภาระพวกคุณหรอกค่ะ และที่ต้องมานอนเดี้ยงที่โรงพาบาลแห่งนี้ก็ไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน” คนร่างบางเธอเริ่มมีอารมณ์ที่ถูกอาจารย์หมอต่อว่าพร้อมกับทำหน้าตาบึ้งตึงดูน่ารักน่าเอ็นดู จนอาจารย์หมอเผลอยิ้มใบหน้านิ่งๆเมื่อยิ้มแล้วนั้นดูแล้วโลกสดใสและสว่างขึ้น ร่างบางและทุกคนที่เห็นถึงกับหลงในรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้น
“อะฮื่ออ!!….” อาจารย์หมอรีบหุบยิ้มและเขียนรายงานการตรวจพร้อมกับยื่นให้พยาบาล
“นี่ครับคุณพยาบาลวันนี้ผมมีเคสที่ต้องผ่าใช่ไหม?” สายตาคมหันไปมองพยาบาลสาวที่ยืนบิดกายเอียงอายแอบเขิน
“ค่ะ…อาจารย์หมอมีผ่าตัดวันนี้ตอนบ่าย 2 ” สายตาของทุกคนจ้องไปที่พยาบาลสาวสวยหุ่นเพรียว ดูจากดาวอังคารก็รู้ว่าพยาบาลแอบปลื้มอาจารย์หมอ
“หมอขอให้คนไข้แอดมิทดูอาการอีก 2-3 วันนะครับ….ถ้าหากยังมีอาการคันหรือหายใจไม่ออกให้เรียกพยาบาลได้ทันที” หมอเขื่อนกำลังจะกลับสายตาคมๆก็จ้องมองไปสบตาใบหน้าสวยที่คุ้นตา
“เจอกันจนได้นะยัยผมหน้าม้าตัวกะเปี๊ยก….ไม่คิดว่าโตเป็นผู้ใหญ่จะดูดีขึ้นขนาดนี้……จะจำฉันได้รึเปล่า???” หมอเขื่อนคิดในใจและกระตุกยิ้มเดินจากไป
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” แม่กล่าวขอบคุณอาจารย์หมอเขื่อนสุดหล่อและฝีปากร้าย
“กรี๊ดดดดดด!!!!…..อีตะวัน…พ่ะๆๆ….พี่เขื่อนของแก” พลอยที่พยายามเก็บอาการและยืนดูเหตุการณ์ตลอด อดที่จะปลื้มหมอเขื่อน และดีใจจนลืมพ่อกับแม่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“นี่ๆๆ…พลอยไม่ได้มีแค่เรา” คนร่างบางหัวเราะและเตือนสติเพื่อน
“ขอโทษค่ะพอดีหนูดีใจเกินไปหน่อย…คืออาจารย์หมอเจ้าของไข้ตะวันคนเมื่อกี้คือรุ่นพี่ที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน” พลอยใสเธอตื่นเต้นและคิดไม่ถึงว่าโชคชะตาจะทำให้ตะวันเจอกับชายในดวงใจ
“หล่อมากแถมอายุน้อยได้เป็นอาจารย์หมอแล้ว…เก่งอีกต่างหากไม่รู้ว่าอาจารย์หมอเค้าจะแต่งงานรึยังนะ?” แม่เอ่ยปากชมหมอเขื่อนและกำลังคิดอะไรเพลินๆ
“นี่คุณ!!!…พอเถอะจะจับลูกคลุมถุงชนไปถึงไหนสงสารลูกมันบ้าง” พ่อที่ดูจะเข้าอกเข้าใจตะวันอดที่จะปรามคนเป็นแม่ไม่ได้ คนร่างบางเอาแต่ส่ายหน้าไปมาให้กับคนเป็นแม่ หลังจากที่พ่อและแม่กลับไปเหลือเพียงแค่ตะวันกับพลอยใส ที่วันนี้เธออาสามานอนเฝ้าไข้เพื่อนสาว
“นี่ๆๆๆ…พี่เขื่อนเค้าเป็นหลานเจ้าของโรงพยาบาลนี้ย่ะ คนอะไรเท่ห์หล่อรวยเก่ง และที่สำคัญเค้ายังโสดจ้า” พลอยใสตั้งแต่ได้เจอหน้าอาจารย์หมอก็ชมไม่หยุด
“เฮ้ยยย….ถึงเค้าจะโสดยังไงกูกับเค้าก็อยู่กันคนละโลกว่ะแก พี่เขื่อนเค้าจำชั้นไม่ได้ด้วยซ้ำแถมปากยังร้ายกับกูขนาดนี้ไม่เคยเปลี่ยน” คนร่างบางรู้ตัวดีว่าเธอนั้นไกลห่างจากหมอเขื่อนมาก และเค้าไม่มีวันที่จะมาสนใจผู้หญิงอย่างเธอ
“ไม่ลองไม่รู้น๊าาา….เรื่องวันนั้นในอดีตที่แกชอบฝันร้ายน่ะอาจจะเยียวยาให้มันหายไปได้แกก็รอพี่เขามาตลอดนี่นา” พลอยเธอรู้ดีว่าตะวันนั้นชอบแค่หมอเขื่อนเพียงคนเดียวและชอบมาตลอด ถึงได้ครองตัวเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้
หลังจากผ่าตัดและสอนนักศึกษาแพทย์อินเทิร์นเสร็จ หมอเขื่อนก็รีบทำความสะอาดร่างกายแล้วกลับมาพักที่คอนโด ในใจเค้านั้นคิดถึงแต่เรื่องราววันนั้นในอดีตที่เด็กผู้หญิงใจกล้าตัดผมหน้าม้าถักเปีย 2 ข้าง เดินมาสารภาพรักอย่างกล้าหาญ เขาจำใบหน้าสวยหวานและรอยยิ้มนั้นได้ดี ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธเธอแต่เขาก็จะชอบแอบมองเด็กผู้หญิงคนนั้นเสมอ…. แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้ต้องลาออกจากโรงเรียนตอน ม.5 แล้วย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศจึงพลาดโอกาสที่จะได้เจอกับเธออีก