หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปตั้งแต่พ่อเธอกลับมาจากต่างประเทศกับอรอุมา เมย์ษญาก็เริ่มผิดสังเกตว่าพ่อเธอดูเปลี่ยนไปมาก เขาดูมีอาการแปลกๆ กลับมาก็รีบขึ้นห้องนอน ออกไปทำงานก็ไม่ค่อยได้เข้าประชุมคนที่เข้าประชุมแทนก็เป็นอัทธกานต์ อรอุมาก็คอยดูแลพ่อของเธอตลอดเวลา แต่วันนี้พ่อเรียกเมย์ษญาเข้าไปหาที่ห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
“คุณพ่อ มีอะไรจะคุยกับเมย์หรือเปล่าคะ?”
“รอตาอิทก่อนลูก จะได้พูดพร้อมกันทีเดียว”
เมย์ษญาทำหน้าสงสัยที่พ่อเรียกเธอเข้ามาพร้อมกับอัทธกานต์ทำไม
“ตาอิทมาแล้วค่ะ นั่งก่อนซิตาอิท”
อรอุมาน้าสาวเดินไปยืนข้างๆ พ่อของเมย์ษญา เธอจ้องหน้าเขาเพราะไม่ได้เห็นหน้าเขามาเกือบอาทิตย์แล้วตั้งแต่ที่มีปัญหากันที่ร้านอาหาร เขาพยายามหลบหน้าเธอแล้วก็ยังไม่กลับมานอนที่บ้านหลายวันแล้วด้วย
“นึกว่าตายไปแล้ว ไม่เห็นหัวมาตั้งหลายวัน”
“ที่คุณพูดแบบนี้ ผมกำลังจะเข้าใจว่าคุณคิดถึงผมนะครับ”
“ไอ้บ้า ใครคิดถึงแก...”
“หยุดๆ หยุดทะเลาะกันสักพักได้มั้ย แล้วฟังพ่อพูดก่อน”
เมย์ษญาทำหน้างอนๆ ใส่เขาแล้วก็นั่งกอดอกหันหนีไปอีกทาง
“พ่อมีเรื่องต้องจัดการก่อนที่พ่อต้องไปทำธุระที่เมืองนอก พ่อเลยเรียกเมย์ กับ อิทมาที่นี่”
ทั้ง 2 คนหันมามองหน้าผู้เป็นพ่อ
“พ่อต้องการให้เมย์กับอิทแต่งงานกัน”
“แต่งงาน?”
เมย์ษญาพูดขึ้นเสียงดัง
“ไม่นะคะ...เมย์ไม่แต่ง เมย์ไม่ยอมแต่งกับไอ้บ้านี่้เด็ดขาด พ่อจะมาบังคับเมย์แบบนี้ไม่ได้นะคะ เมย์ไม่ยอม”
เธอลุกขึ้นโวยวายผู้เป็นพ่ออย่างโมโห ผิดกับอัทธกานต์ที่นั่งนิ่งเพราะเขารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วจากน้าสาวของเขาตั้งแต่เมื่อวาน
“นี่นายพูดอะไรหน่อยซิ นายมีแฟนแล้วนี่นายจะมาแต่งงานกับฉันได้ไง นายไม่ยอมเหมือนกันใช่ไหม พ่อคะนายนี่มีแฟนแล้วนะคะ เราแต่งงานกันไม่ได้หรอกค่ะ นายพูดซิ...บอกพ่อซิว่านายจะไม่แต่ง”
“ผมตกลงครับคุณอา ผมจะแต่งงานกับคุณเมย์ตามที่คุณอาบอก”
“ไม่แต่ง...ฉันไม่ยอม นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ แล้วแฟนของนายละ ถ้านายมาแต่งงานกับฉันแล้วแฟนนายจะทำยังไง ไม่แต่งนะคะคุณพ่อ เมย์ไม่แต่ง”
เมย์ษญาเริ่มโวยวายเสียงเธอเริ่มสั่นเครือเพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่เขาไม่ได้รักเธอและเธอก็ไม่ได้รักเขาด้วย
“พ่อตัดสินใจแล้วเมย์ พ่อต้องไปดูงานที่เมืองนอก 6 เดือน ในระหว่างที่พ่อไม่อยู่ที่นี่จะต้องมีคนขึ้นมาดูแลบริษัทแทนพ่อ พ่อคิดแล้วว่าคนที่จะทำหน้าที่นี้แทนพ่อได้คืออิท แต่เพื่อไม่ให้หุ้นส่วนอื่นเข้ามายึดตำแหน่งนี้ไปพ่อก็ต้องให้อิทแต่งงานกับเมย์เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและยกตำแหน่งประธานบริษัทให้อิทเป็นคนดูแลในระหว่างที่พอไม่อยู่”
“เมย์ ละคะ เมย์ก็ทำได้คุณพ่อก็สอนงานเมย์ซิคะ เมย์เป็นลูกสาวคุณพ่อนะคะ เมย์ควรได้ทำหน้าที่นี้แทนคุณพ่อ ไม่ใช่คนอื่น”
“มันไม่ทันแล้วค่ะ คุณท่านจะต้องรีบเดินทางไปต่างประเทศในอีก 2 อาทิตย์ ข้างหน้านี้แล้ว”
“อีก 2 อาทิตย์..นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมคุณพ่อต้องรีบไปขนาดนี้ด้วย หรือว่านี่เป็นแผนของพวกแก 2 คน แกหวังจะหุบบริษัทนี้ใช่ไหม ฉันไม่มีวันยอมแต่งงานกับแกแล้วทำให้แผนของพวกแกสำเร็จลงได้ง่ายๆ หรอกนะ”
“พ่อเป็นคนขอร้องให้อิทแต่งงานกับเมย์เอง พ่อต้องการให้อิทจดทะเบียนสมรสกับเมย์แล้วจัดงานแต่งงานให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้ประกาศให้ทุกคนในบริษัทรู้ แล้วอิทจะได้ขึ้นมาแทนพ่อได้สมบูรณ์โดยที่หุ้นส่วนคนอื่นไม่มีใครคิดเข้ามายุ่งเกี่ยว”
“แล้วทำไมคุณพ่อต้องไปเมืองนอกนานตั้ง 6 เดือนด้วยละคะ เมย์เพิ่งกลับมาอยู่กับคุณพ่อได้ไม่นาน คุณพ่อจะทิ้งเมย์ไปทำงานไกลๆ เป็นเวลานานขนาดนี้ได้ยังไง”
เมย์ษญาเริ่มน้ำตาคลอหันมามองหน้าผู้เป็นพ่อนิ่งด้วยความไม่เข้าใจปนสงสัย
“พ่อไม่มีวันทิ้งเมย์ไปไหน พ่อไปแค่ 6 เดือนเอง พ่อสัญญาพ่อไปแล้วพ่อจะรีบกลับ แต่พ่อขอได้มั้ยขอให้เมย์ยอมแต่งงานกับตาอิท เพื่อบริษัทของเราได้มั้ย?”
ผู้เป็นพ่อมองหน้าเธอนิ่งๆ แล้วหันไปบอกกับอัทธกานต์และอรอุมาเมียสาวให้ออกไปก่อน เมื่อทั้ง 2 คนเดินออกไปแล้ว ผู้เป็นพ่อก็เดินเข้ามาจับไหล่ลูกสาวที่นั่งร้องไห้น้ำตานองหน้าด้วยความสงสาร
“เมย์...พ่อรู้ว่าลูกหนักใจที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก แต่อิทเขาเป็นคนดีพ่อเชื่อว่าลูกจะรักเขาได้ไม่ยาก ส่วนเรื่องที่ตาอิทมีแฟนแล้วพ่อจะรีบให้เขาไปจัดการเคลียร์ตัวเองให้เร็วที่สุด”
“ทำไมเมย์ต้องแต่งงานกับมันด้วยคะ ทำไมต้องเป็นมัน ทำไมต้องเป็นหลานของเมียใหม่คุณพ่อด้วย ฮึกๆๆ . เมย์เกลียดมันคุณพ่อก็รู้ เมย์เกลียดพวกมัน..”
เธอก้มหน้าร้องไห้กับฝ่ามือตัวเองด้วยความเสียใจที่ถูกผู้เป็นพ่อขอร้องให้แต่งงานกับคนที่เธอเกลียด
“เมย์ ทำเพื่อพ่อทำเพื่อบริษัทของเราได้มั้ยลูก เก็บความเกลียดเอาไว้แล้วทำเพื่อพ่อนะเมย์ถือว่าพ่อขอร้อง.?”
เมย์ษญามองหน้าพ่อของเธอพร้อมน้ำตา
“....”
พ่อเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างทนุถนอมเขารู้ดีว่าลูกสาวเกลียดอัทธกานต์มากเพียงได แต่เขาก็ต้องทำแบบนี้เพราะถ้าเขาไม่อยู่ บริษัทนี้มีหุ้นส่วนอีกมากมายหวังจะขึ้นมาหุบตำแหน่งแล้วกอบโกยผลประโยชน์ไปได้ เขาเลยต้องให้อัทธกานต์ช่วยโดยให้อรอุมาไปขอร้องให้มาแต่งงานกับลูกสาวของเขา โดยที่โกหกเธอว่าเขาต้องไปดูงานต่างประเทศเป็นเวลา 6 เดือน
“แค่ 6 เดือนเท่านั้นนะคะ เมย์จะแต่งงานกับมันแค่ 6 เดือน เมื่อคุณพ่อกลับมาเมื่อไหร่ เมย์จะหย่ากับมันทันที”
เมย์ษญายอมแต่งงานกับอัทธิกานต์ แต่เธอก็มีเงื่อนไขว่าจะขอหย่าหลังจากที่ครบ 6 เดือนแล้ว
“ได้ลูก แค่ 6 เดือนเท่านั้น”
ผู้เป็นพ่อต้องยอมโดยดีตามที่เธอขอ
….
ก่อนวันแต่งงาน 1 วัน
“ชนนน”
“เอ้า ชนนน ไม่เมาไม่กลับนะเมย์ วันนี้เชนจะกินเป็นเพื่อนเมย์ทั้งคืนเลยนะ”
ทั้ง 2 คนนั่งดื่มด้วยกันแบบนี้ทุกวันตั้งแต่ที่พ่อของเธอประกาศเรื่องงานแต่ง เธอก็ชวนเชนเพื่อนสนิทที่แอบหลงรักเธอมาดื่มด้วยเกือบทุกวัน
“เมย์จะกินให้เมาแล้วก็ไม่ต้องตื่นไปแต่งงานกับเจ้าบ่าวหน้ามึนนั่นเลย ปล่อยให้มันเป็นหม้ายขันหมากไปเลย 555”
“ดีๆ เมย์จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับมัน เมย์จะได้มาแต่งกับเชนแทน เนอะๆ”
เขาดีใจที่เห็นเธอพูดแบบนี้แล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เธอ
“นี่ เอาหน้าเข้ามาใกล้ทำไมเนี่ยะ เหม็นปาก”
เมย์ษญาพลักหน้าเขาให้ห่างจากเธอ จนเขาเซออกไปนิดหนึ่ง
“โธ่ เมย์ ไม่หวีทเลยอะ เชนอุตส่าอ่อยนะ”
“ไม่ต้องมาอ่อยเลย เมย์ไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอกนะ ถึงเมย์ไม่ได้แต่งงานกับไอ้บ้านั่น เมย์ก็ไม่แต่งกับเชนหรอก เพราะเมย์ไม่มีวันแต่งงานกับคนที่เมย์ไม่ได้รักเด็ดขาด”
“เมย์นะเมย์ เชนจีบเมย์มาตั้งนานทำไมถึงไม่รักเชนบ้างอะ รู้งี้ไม่น่ามากินเหล้าด้วยเลย”
เมย์ษญาเดินเข้ามาโอบบ่าของเพื่อนชายที่เธอสนิท
“โอ๋ๆ เชนอย่างอนเมย์เลยนะ เมย์มีเชนเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวนะ ถ้าเชนงอนเมย์แล้วไม่คุยกับเมย์ เมย์ต้องเสียใจมากแน่ๆ เลย อย่างอนนะ อย่างอนนะ”
เมย์ษญาโอบรอบตัวของเขาพร้อมเขย่าตัวเขาไปมาทำเสียงออดอ้อนใส่จนเขาใจอ่อน
“เห็นเชนเป็นแค่เป็นเพื่อนแล้วชอบมาทำเสียงออดอ้อนใส่แบบนี่ เชนจะเลิกชอบเมย์มากกว่าเพื่อนได้ไงอะ แล้วนี่เชนก็ต้องใจอ่อนให้เมย์ทุกทีอะ”
เขายื่นมือมาบีบจมูกของเมย์ษญาด้วยความหมั่นไส้
“เห้ย! ใครว่ะ?”
เชนสะดุ้งตกใจที่อยู่ดีๆ ตัวของเมย์ษญาก็ถูกคนดึงไป
“นี่แก ปล่อยเมย์นะ”
“ไอ้บ้าอิท”
เมย์ษญาถูกดึงมาตามแรงกระชากของคนตัวใหญ่กว่าเธอหันมาเห็นเขาจึงโมโห
“คุณอาให้ผมมาตามคุณกลับบ้าน กลับบ้านกับผมเดี่ยวนี้”
อัทธกานต์ดึงแขนของเธออย่างแรงเพื่อให้ตามเขาเดินออกไปเชนรีบวิ่งตามคนทั้งคู่ออกไปนอกร้าน
“ปล่อยนะไอ้บ้าอิท ฉันบอกให้ปล่อยไง ฉันไม่กลับกับนายหรอกนะ ฉันมาเองได้ฉันก็กลับเองได้ ปล่อยยย”
เธอพยายามดิ้นขัดขืนให้หลุดจากมือเขาแต่เขาแรงเยอะกว่า จนเธอไม่สามารถหลุดจากมือที่เขาจับไว้ได้
“คุณกินเหล้ามาแบบนี้จะขับกลับได้ไง เจอด่านขึ้นมาได้เข้าไปนอนในคุกแน่”
“ก็ดีซิ ฉันจะได้ไม่ต้องไปแต่งงานกับนายงัย สู้ให้ฉันโดนตำรวจจับเข้าคุกซะยังจะดีกว่าที่จะต้องกลับไปแต่งงานกับนาย”
“คุณคิดหรอว่าผมอยากแต่งงานกับผู้หญิงร้ายกาจแล้วเมาเละเทะมั่วผู้ชายไม่เลือกอย่างคุณ ผมก็แค่ทำตามที่คุณอาขอร้อง ผมก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณหรอกนะคุณเมย์”
“กรี๊ดดดด ไอ้บ้า ไอ้บ้า”
เมย์ษญาทนที่เขาด่าไม่ได้เธอร้องกรี๊ดลั่นโรงจอดรถแล้วเข้าไปทุบตีเขา แต่เขาก็พยายามปัดป้องโดยที่ไม่โต้ตอบอะไรเธอ
“เมย์ เมย์พอเถอะ ใจเย็นเมย์”
เชนรีบวิ่งเข้ามาห้ามคนทั้งคู่แล้วจับตัวเมย์ษญาไว้เพื่อไม่ให้ทำร้ายอัทธกานต์
“แกจำไว้นะ...ฉันจะเกลียดแกไปจนวันตาย ถึงฉันจะต้องแต่งงานกับแก แกก็จะไม่มีวันได้แตะเนื้อต้องตัวฉันเพราะฉันขยะแขยงแก ฉันเกลียดคนชั่นต่ำอย่างแก ฉันเกลียดแก รู้ไว้ซะด้วย”
เมย์ษญาชี้หน้าอัทธกานต์ด้วยความโมโหแล้วเธอก็สะบัดตัวออกจากเชน ไปขึ้นรถตัวเองสตาร์ทรถแล้วก็รีบขับออกไปทันที
เขารีบวิ่งไปขึ้นรถของเขาอีกคันเพื่อขับตามเธอไป ในสมองก็คิดถึงแต่คำพูดที่เธอชี้หน้าด่าเขาเมื่อกี้ เขารู้ว่าเธอเกลียดเขามากแค่ไหน ที่เธอยอมแต่งงานกับเขาก็เพราะพ่อของเธอ เขาเองก็เหมือนกันที่เขายอมแต่งงานกับเธอก็เพราะน้าสาวขอร้องให้ช่วย เพราะเขาเองก็มีคนรักที่อยากแต่งงานด้วย แต่ตอนนี้เขาต้องตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณก่อน เขาถึงได้ต้องมาตามว่าที่เจ้าสาวที่เขาเองก็ไม่ได้รักไม่ได้อยากแต่งด้วยตั้งแต่แรก
อัทธกานต์ขับรถตามเธอมาเพราะเธอดื่มหนักแล้วข้างหน้าก็มีด่านจริงๆ เธอจอดรถ เขาจึงขับมาดักหน้ารถเธอ เขาเคาะกระจกรถหลายทีจนเธอยอมลดกระจกลงมา
“เบรกรถทำไมละ ไหนว่าอยากโดนจับไง อยากนอนคุกมากกว่าต้องไปแต่งงานกับผมไม่ใช่หรอ”
“....”
เธอไม่ยอมตอบอะไร
“ลงมาคุณเมย์ .... ผมบอกให้ลงมา”
เธอยังนั่งนิ่ง
“ไม่ลงใช่มั้ย อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ”
เขามุดเข้าไปในรถปลดล็อกรถแล้วเปิดประตูออกมา
“นายจะทำอะไร นี่หยุดนะ”
เขาพยายามใช่ตัวดันเธอเพื่อให้ไปนั่งอีกฝั่งข้างคนขับ
“คุณก็เขยิบไปซิ ผมจะได้ขับให้”
เขาดันตัวเธอจนเธอต้องขยับไปนั่งฝั่งข้างคนขับแต่ขาเธอทั้ง2ข้างก็ยังติดอยู่กับฝั่งคนขับอยู่ ตัวเขาที่นั่งเบาะคนขับได้แล้วจึงต้องจับขาเธอยกขึ้น
“ว๊ายย”
เธอรีบเอามือปิดกระโปรงไว้ เพราะเขาจับขาเธอยกขึ้นจนทำให้กระโปรงที่สั้นๆ ล่นลงมาจนเห็นแพนตี้ลูกไม้สีชมพู เขามองอย่างตกใจแล้วทำให้เขาใจเต้นรัว เธอรีบหดขามาที่เบาะตัวเองแล้วรีบดึงกระโปรงลง
“ไอ้บ้าอิท นายมันลาม๊ก ไอ้ทุเรศ”
เธอด่าเขาไปมือก็จับกระโปรงไปให้เข้าที่ดูเรียบร้อย
“ทำมาเป็นอาย ทำยังกะผมไม่เคยเห็น”
“นี่นายพูดบ้าอะไร”
เมย์ษญาทำหน้าแปลกใจสงสัยที่เขาพูดว่าเขาเขาเคยเห็นอะไร แล้วเคยเห็นที่ไหน
“เอ่ออ ช่างมันเถอะ”
“นายบอกมานะ ว่ายนายเคยเห็นอะไร แล้วเคยเห็นที่ไหน นี่อย่าบอกนะว่านายเคยแอบดูฉันอาบน้ำ หรือว่านายแอบไปติดกล้องที่ห้องนอนฉัน...”
เธอทำหน้าตกใจแล้วก็เริ่มรู้สึกกลัวเขาว่าจะเป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ
“มันจะไปกันใหญ่แล้วคุณเมย์ ผมไม่ใช่โรคจิตขนาดนั้นนะ แล้วจะกลับกันได้หรือยังผมง่วงแล้วนะ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าด้วย”
“นายไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ นี่บอกมานะ ไอ้บ้าอิททททท”