“คือฉัน...” พันดาวพูดไม่ออก ได้แต่มองแดนเหนือด้วยสายตาเว้าวอนเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบใจที่เธออ่อน...แค่ถูกเขาแตะต้องถูกกอดรัดก็ตัวอ่อนแล้ว เขาคงจะไม่ทอดทิ้งเธอไปตอนนี้หรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เธอคงจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดี ทั้งอ่อยทั้งยั่วจนแทบจะหมดตัวแล้วแต่เขาไม่เอานะ
“แบบนี้แหละ...น่ารักแล้ว ไม่เหมือนใคร เป็นตัวของตัวเอง มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว ผมชอบเธอที่เป็นแบบนี้ ถึงจะใสซื่อและไร้เดียงสา แต่ก็ไม่ได้ปกปิดว่าตัวเองต้องการอะไร”
พันดาวเย็นวาบไปทั้งตัวเมื่อรับรู้ว่าตอนนี้เสื้อที่สวมใส่ได้หลุดร่วงไปกองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“ไม่ต้องกลัว ผมชอบที่เธอเป็นแบบนี้” ว่าแล้วแดนเหนือก็โอบแขนรอบเอวคอดกิ่วอุ้มร่างกลมกลึงขึ้นมาให้สองขาเรียวโอบรอดสะโพกสอบแล้วพาร่างนุ่มนิ่มที่หอมจนเขาปวดหนึบไปหมดไปยังเตียงนอน พื้นที่ส่วนตัวที่เพื่อนสนิทหากไม่มีธุระสำคัญจริง ๆ ก็ไม่เคยเข้ามา ห้องและเตียงนี้ก็เลยไม่เคยต้อนรับสาวใดมาก่อนเลย
แผ่นหลังแตะเตียงนอน หัวใจพันดาวก็แทบจะหลุดออกจากร่าง เธอยังคิดว่านี่คือ...
“กลัวเหรอ...”
“กลัว...นิดหน่อยคะ แต่กังวลใจมากกว่า” พันดาวตอบออกไปโดยไม่คิดปิดบัง “คุณก็เห็นแล้วว่าฉันไม่ใช่คนสวย รูปร่างก็...” นิ้วยาวแตะลงบนริมฝีปากของพันดาวพร้อมกับศีรษะทุยที่ส่ายสะบัดไปมา
“ถึงผมจะเข้าใจว่าคุณไม่มั่นใจ แต่อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร ทุกคนล้วนแล้วแต่มีสิ่งที่ดีเป็นของตัวเอง เช่นเดียวกับคุณที่ก็มีดีในส่วนของคุณ ถึงคนอื่นจะไม่เห็นแต่ใช่ว่าเราจะไม่มี คุณน่ารักในสายตาผมที่สุดแล้ว น่ารัก...น่าปรารถนาด้วย” มือใหญ่วางบนใบหน้านวลเนียน ขณะที่ดวงตาไล่มองไปบนกายอรชร แม้ทรวงอกจะยังอยู่ในชั้นในสีสวย แต่มันก็ปกปิดความกะทัดรัดและกลมกลึงชวนจับต้องไม่ได้
“อย่าอายที่จะเป็นตัวของตัวเอง”
“ขอบคุณค่ะ” พันดาวพูดออกไปด้วยความรู้สึกดี หัวใจมันพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ที่มันยิ่งทำให้เธอรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นด้วย สองแขนกลมกลึงจึงยกขึ้นพาดบนไหล่กว้าง ฝ่ามือลูบไล้ต้นคอแกร่ง ก่อนจะสอดนิ้วเรียวยาวไปสัมผัสกับเส้นผมหนานุ่ม
“คุณไม่ควรคิดมากกับเรื่องนี้ครับ เพราะคุณ...น่ารักที่สุดสำหรับผมแล้ว”
แดนเหนือจะทำให้หัวใจเธอเต้นแรงจนตายไปเลยใช่ไหม ทำไมเขาถึงได้น่ารักจนเธอคิดว่าไม่ว่าจะที่ผ่านมาหรือจะเป็นอนาคตข้างหน้าก็คงไม่อาจตัดใจจากเขาได้แน่
“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้...คุณจะไม่ปล่อยให้ฉันเหงา จะรักฉันทั้งคือใช่ไหมคะ” เพราะเธอจะได้เก็บเอาทุกสัมผัสและทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นไว้เป็นกำลังใจและเป็นพลังให้กับตัวเองในวันที่แดนเหนือสาดคำพูดไม่น่ารักใส่
“ถามผมไม่ได้หรอกครับ จะต้องเป็นคุณ จะอนุญาตให้ผมกอดรัด...ให้ผมรักทั้งคืนหรือเปล่า”
แม้จะแปลกใจกับพฤติกรรมของแดนเหนือที่ดูเหมือนว่าคืนนี้จะพูดจากับเธอดีมาก...มากจนเกินไป มากจนเธอเริ่มที่จะหวาดกลัวที่ยิ่งต้องตอกย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้มันคือความจริง
“ถ้าคุณจะอ่อนโยนกับฉัน...ก็ได้สิคะ”
“ผมไม่รับปากนะครับ แต่ผมจะพยายามอ่อนโยนกับคุณให้มากที่สุด
“ทำไมละคะ” พันดาวเอ่ยถามด้วยความเผลอไผล
“เพราะคุณน่ารักจนผมไม่แน่ใจว่าจะทนต่อความเย้ายวนที่อ่อนหวานได้หรือเปล่านะสิครับ”
“ถ้าอย่างนั้นฉันคงจะต้องรอดูแล้วละคะ ฉันจะน่ารักแค่ไหน” พันดาวพูดจบแดนเหนือนก็กดจูบลงมา...อย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนพร้อมกับมือที่ลูบไล้บนผิวกายอย่างเชื่องช้าที่มันทำให้เธอวาบหวิวไปหมดทั้งช่องท้อง ลมหายใจเริ่มติดขัดและในหัวก็เริ่มจะขาวโพลน
“ดาว!” กลทีป์ร้องเรียกอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนที่นั่งนิ่งเงียบไปดวงตาแดงระเรื่อ มีน้ำตาเอ่อล้นคลอหน่วยตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดก่อนที่น้ำตามันร่วงหล่นอาบแก้มที่มาพร้อมกับเสียงสะอื้นน้อย ๆ ที่บาดหัวใจเพื่อนสนิทคนนี้ที่สุด
“พันดาว!” ไม่ใช่ไม่เคยร้องไห้ เรื่องของแดนเหนือทำให้พันดาวร้องไห้มีน้ำตาอยู่บ่อยครั้ง ที่จะแอบไปหลบมุมร้องไห้อยู่เงียบ ๆ ไม่ให้ใครเห็น แต่กับครั้งนี้...มันคงจะหนักหนากับเพื่อนรักของเขาที่สุดจริง ๆ นั่นแหละ เพียงแค่คิดเท่านั้นน้ำตามันถึงได้ไหลออกมาอย่างที่เจ้าระงับมันไว้ไม่ได้
“ดาว...มึงยังมีกูนะเว้ย” กลทีป์จับมือเล็กบีบกระชับมือเล็กที่เย็นจัดเอาไว้
“ฮื่อ...รู้ ขอบใจนะมึง” พันดาวเอ่ยออกไปเสียงแหบพร่า ที่ผ่านมาเธอทำเพื่อผู้ชายคนนั้นมากมายจนไม่สนใจความรู้สึกของตัวเองเลยสักนิด เจ็บเท่าไหร่ก็ไม่เคยหลาบจำและคิดได้เลย ยังคงพาตัวเองไปพบกับความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างกับคนไร้ความคิด
“ขอบใจนะมึง ขอบใจสำหรับทุกเรื่องที่มึงทำให้กู” นับตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอมีใจให้กับแดนเหนือ ตอนแรกกลทีป์ก็คอยมองอยู่ แล้วเมื่อเห็นว่าแดนเหนือทำเธอเจ็บก็คอยตักเตือนห้ามปรามให้ถอยห่าง แต่ก็นะ...ใจคนไม่ใช่สิ่งของที่จะหยิบไปวางตรงไหนก็ได้ ไม่อยากเห็นก็โยนมันไปในห้องมิดชิด ลืมมันไปว่าเคยมี แต่ใจคนคือก้อนเนื้อที่ถูกความรักเล่นงานที่ไม่ว่ายังไงก็ตัดใจจากคนที่รักไม่ได้
“ขอบใจที่มึงอยู่ข้างกูจนถึงทุกวันนี้” เพราะรู้ว่าเธอรักแดนเหนือมาก เมื่อห้ามไม่ได้ เพื่อนคนนี้ยังดื้อรั้นดันทุรังที่จะรักคนที่ไม่รักตัวเองอยู่ สิ่งที่กลทีป์ทำได้คือคอยดูแลอยู่เคียงข้าง วันไหนที่เธอร้องไห้มาก็มีอกให้ซบ มีมือที่คอยกดซับน้ำตาให้พร้อมกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความห่วงใยกับคำที่บอกว่า...
‘ร้องไห้เสียให้พอนะมึง ร้องแล้วจำไว้ เพราะกูเชื่อว่า วันหนึ่งน้ำของมึงจะทำให้มึงรู้และตัดใจจากไอ้ผู้ชายใจดำคนนั้นได้’
ที่มันได้เกิดขึ้นจริงแล้วในวันนี้ แม้เธอจะยังรักแดนเหนืออยู่...มากด้วย แต่ตอนนี้เธอรู้ที่จะรักตัวเองแล้ว เธอจึงต้องตัดใจจากเขา...ให้ได้ ถ้าหากไม่อยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้ก็...ยุติทุกอย่างลงเสียที
“ทุกอย่างมันมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วล่ะหนึ่ง” เธอบอกกับเพื่อนเสียงเศร้า ใช่ว่าจะไม่เจ็บไม่ปวด เพียงแค่พูดออกไปว่าจะตัดทุกสิ่งทุกอย่างออกไป ใจมันก็เหมือนถูกเชือดเฉือนแล้ว แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ให้ดื้อรั้นดันทุรังต่อไป ก็มีแต่เธอนี่แหละที่จะเจ็บปวดเพียงลำพัง
“ฉันแล้ว...ฉันขอยอมแพ้แล้ว”
“แต่มึงรักเขามากเลยนะ รักมานมานานแล้วด้วย” ถึงอยากจะให้เพื่อนตัดใจจากผู้ชายใจร้ายคนนั้น แต่พอเห็นพันดาวร้องไห้ไม่มีเสียง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแบบนี้ มันทำให้กลทีป์อยากจะเอาคืนด้วยการต่อยหน้าแดนเหนือให้หนัก ๆ สักครั้ง เอาให้ปากแตกปูดบวม ดวงตาเขียวช้ำไม่อยากพาหน้าหนา ๆ ออกมาพบเจอใครสักสองสามวัน