“นี่คุณไม่ได้อยากเป็นคู่นอนของผมหรอกหรือ”
“จะบ้าหรอคะ ใครจะอยากเป็นแค่คู่นอนของคนอื่น ถึงแม้คุณจะคือ โปรด ปุณณัตถ์ ก็เถอะ แต่ฉันไม่ได้เห่อชื่อเสียงและความหล่อของคุณค่ะ”
คนหล่อย่นหัวคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ติดจะไม่พอใจหน่อยๆ ที่เธอพูดเหมือนดูถูกเขา
“ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วคุณมาขอนอนกับผมทำไม”
“ฉันมีเหตุผลของฉัน ที่ไม่จำเป็นต้องบอกใคร อีกอย่าง คุณเข้าใจคำว่า One Night Stand ไหมคะ ความสัมพันธ์ชั่วคืน แค่คืนเดียวแล้วจบไป แล้วคืนนั้นของเรา มันก็ผ่านมาแล้ว”
ไม่จริง ยัยผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ปกติแน่ๆ นี่เธอปฏิเสธเขาอย่างไม่มีเยื่อใย ความหล่อเหลาและชื่อเสียงเงินทองของเขา ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ขนาดผู้หญิงธรรมดาๆอย่างเธอ ยังไม่อยากจะนอนกับเขาอีก
เธอหยามเกียรติของเขาเกินไปแล้วจริงๆ คอยดูเถอะ สักวัน เขาจะต้องเอายัยเด็กนี่มาเป็นคู่นอนให้ได้ จะนอนกอดนอนจูบทั้งวันทั้งคืนไปเลย
“เอาเป็นว่าตอนนี้ คุณเข้าใจแล้วนะคะ ฉันกับคุณ เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน และคุณสบายใจได้ ฉันไม่เอาเรื่องของคุณกับฉันไปบอกใครหรอกค่ะ”
เขานั่งจ้องหน้าเธออีกพักใหญ่ จนคนถูกจ้องเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆกับสายตาที่แปลความหมายไม่ออกของเขา
“อะ เอ่อ คุณโปรด ทีนี้คุณจะกลับคอนโดของคุณได้หรือยังคะ”
“ยังครับ ผมยังเหนื่อยอยู่ ขอนอนที่นี่ต่ออีกซักคืนแล้วกัน”
“ห๊ะ ไม่ได้นะ”
“ทำไมจะไม่ได้ คุณไม่มีแฟนจะมาหาหรอก ผมรู้”
“จะมีหรือไม่มีคุณก็จะมานอนห้องฉันไม่ได้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“เป็นคนที่เคยนอนด้วยกันไง”
“นี่คุณ ทำไมถึงดื้ออย่างนี้”
“คุณต่างหากที่ดื้อ จะให้ผมนอนด้วยดีๆ หรือจะต้องให้ปล้ำก่อน”
เขาขยับกายเตรียมจะลุกไปหาเธอ แต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อเธอยื่นมือมาดันหน้าอกหนั่นแน่นของเขาเอาไว้
“อย่านะ ถ้าคุณทำอะไรฉัน ฉันจะแจ้งความ”
“ข้อหา?”
“ข่มขืนไง”
“นี่คุณ ภาพในกล้องวงจรปิดก็มีว่าคุณนั่งรถมากับผม และผมก็เดินตามคุณขึ้นมาบนห้อง แล้วเราก็หายเข้าไปในห้องด้วยกันทั้งคืน และคุณก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ผมไม่มีทางโดนข้อหานั้นง่ายๆหรอกนะ”
“คุณโปรด”
“ครับ”
เธอถลึงตาใส่เขา ดาราบ้าอะไร หล่อก็หล่อ แต่โรคจิตชอบบังคับใจคนอื่น นี่เขาเห็นการมาทะเลาะและบีบบังคับเธอแบบนี้มันเป็นเรื่องสนุกหรืออย่างไร
“ว่าไงครับ จะให้นอนดีๆ หรือจะต้องโดนจับปล้ำรำลึกความหลังคืนนั้นของเราก่อน”
เขาขยับกายเข้าหาเธออีกครั้ง และเธอก็ออกแรงดันหน้าอกของเขามากขึ้นอีกนิด ทั้งยังเบี่ยงหน้าและย่นคอหนีคนบ้าอย่างเขา ช่างไม่กลัวว่าเธอจะไปเขียนข่าวโจมตีเขาบ้างเลยหรือไง
“จะนอนก็นอนไป แต่คุณห้ามทำอะไรรุ่มร่ามกับฉัน เราจะไม่มีอะไรกันอีก คุณทำได้ไหม”
“ได้ เพราะผมก็ไม่ได้พิศวาสอะไรคุณนักหรอก แค่เหนื่อยๆไม่อยากกลับห้อง แค่นั้นเอง”
หึ ให้มันจริงเถอะ ถ้ามาทำรุ่มร่ามกับเธอ จะเอามีดแทงให้ทะลุเลย
“แล้วสรุปเรื่องแฟนคุณว่าไง มีจริงไหม”
“เรื่องของฉันน่า จะมาอยากรู้อะไรเรื่องคนอื่น ที่ฉันไม่เห็นอยากจะรู้เรื่องของคุณเลย”
“ผมก็ให้โอกาสคุณถามแล้วนะ วันนั้นน่ะ ถ้าอยากรู้อะไรก็ถามมาเลย ผมยินดีตอบ ผมไม่มีแฟนนะ ไม่มีคนคุย มีแต่คู่นอนที่ถ้าพอใจกัน ตกลงกันได้ก็ขึ้นเตียง”
“ไม่ได้อยากรู้ค่ะ และเรื่องพวกนี้ก็รู้ๆกันอยู่แล้ว”
“ตอบเรื่องของคุณมา”
เขาขยับตัวจะเข้าหาเธออีกเพื่อข่มขู่ เธอจึงยกมือขึ้นดันหน้าอกของเขาอีกครั้ง แล้วเบนหน้าย่นคอหลับตาปี๋
“ไม่มี ฉันไม่มีแฟน คนที่คบ 7 ปีเลิกไปแล้วก่อนไปนอนกับคุณ พอใจไหม”
หึหึหึ ประชดแฟนเก่าสินะ ถึงไปไล่แจกพรหมจรรย์ให้เขา แต่ก็ดีเหมือนกันที่คนๆนั้นที่เธอเลือกคือเขา ไม่ใช่คนอื่น
“แล้วตอนนี้คุยกับใคร ใครมาจีบ”
“ไม่มี คุณจะถามอะไรดูสภาพฉันด้วย แบบนี้จะมีผู้ชายที่ไหนอยากได้”
ก็เขานี่ไง ที่อยากได้ เมื่อคืนก็อยากได้ ตอนนี้ก็อยากได้ และคืนนี้ก็คงจะอยากได้มากๆ จนไม่รู้เหมือนกันว่าจะมานอนกับเธอให้ทรมานทำไม สู้ไปนอนกับสาวๆไม่ดีกว่าหรอ แต่ก็หาคำตอบและเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้อยู่ดี
“ผมหิวแล้วล่ะ คุณทำอะไรให้กินหน่อยสิ”
“หิวคุณก็ออกไปหาอะไรกินข้างนอกเองสิ มารบกวนนอนห้องฉัน ยังจะให้ฉันทำอาหารให้กินอีกหรอ”
“จะให้ผมออกไปยังไง กลางวันแสกๆ ขืนออกไปเจอคนที่รู้จักผมจะทำไง ได้เป็นข่าวฉาวอีกแน่ ทีนี่คุณก็จะได้เป็นข่าวกับผมด้วย”
“ยุ่งจริงเลย”
เธอพูดอะไรไม่ออก เพราะก็ไม่ได้อยากเป็นข่าวฉาวกับเขา ไม่อยากตอบคำถามและไม่อยากโดนแฟนคลับเชาเอาเปลือกทุเรียนมาปาใส่หน้า จึงยอมเดินเข้าครัวไปทำอาหารกลางวันง่ายๆสำหรับสองคน
“คุณทานกะเพราเนื้อได้ไหมคะ”
“ได้ครับ ขอไข่ดาวสองฟองนะ”
สุดยอด คุณชายเริ่มสั่งงานแจ๋วแล้ว
“ค่ะ ท่านเผ็ดได้ไหม”
“ไม่ค่อยเก่ง แต่ก็พอทานได้ รสชาติกลางๆแบบกับข้าวกองถ่าย ผมทานได้นะ”
“ค่ะ เชิญนั่งรอที่โต๊ะอาหารสักครู่ค่ะ คุณชาย”
เธอเดินนำเขาออกมาจากห้องนอน เข้าสู่โซนห้องครัว ก่อนเริ่มทำผัดกะเพราเนื้อรสเด็ดของเธอทันที ไม่นานอาหารจานเดียวง่ายๆสำหรับสองที่ก็มาเสิร์ฟที่ตรงหน้าเขา เขาตักมันเข้าปากคำโต แล้วก็ต้องพยักหน้าพึงพอใจ เพราะกะเพราเนื้อฝีมือของเธอมันอร่อยมาก รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องกะเพราของจริง
“อืม อร่อย คุณทำกับข้าวเก่งนะเนี่ย”
“ขอบคุณค่ะ”
แล้ววันนั้นทั้งวัน เขาก็ยึดพื้นที่ในห้องของเธอ ทั้งนอนดูหนัง ทั้งงีบกลางวัน ซึ่งเธอเองก็ทำได้แค่ดูหนังเป็นเพื่อนเขาตามที่เขาร้องขอเชิงข่มขู่ โดยที่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีรุ่มร่ามหื่นกามใส่เธออีกเลย
"อัณณา อัณณา ตื่นได้แล้ว"
ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดปรือ ก่อนนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเบิกกว้างแล้วลุกขึ้นนั่ง นี่เธอเผลอหลับไปตอนไหน เท่าที่จำได้ เธอดูหนังกับเขาอยู่ดีๆ แล้วก็เห็นว่าเขาเผลอหลับไป จึงนอนดูหนังต่อไป มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขามาเขย่าตัวปลุกเธอนี่แหละ
"กี่โมงแล้วคะ"
เธอยังยกมือขึ้นขยี้ตาด้วยความงัวเงีย เพราะไม่บ่อยนักที่เธอจะนอนหลับกลางวัน ปกติถ้าเธอตื่นแล้วจะตื่นเลย ต่อให้เป็นวันหยุด ก็จะมีกิจกรรมอะไรทำไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ป่วยจริงๆ เธอจะไม่นอนกลางวันอีก แต่หมู่นี้ไม่รู้เป็นอะไร ชอบง่วงนอนอยู่เรื่อย เธอสังเกตว่าเธอขี้เซามากกว่าทุกที
"หกโมงเย็นแล้ว"
"ตายแล้ว เย็นขนาดนี้เลยหรอ ฉันไม่เคยนอนนานขนาดนี้เลย"
"นั่นน่ะสิ เมาค้างหรือเปล่า ผมตื่นมานั่งมองคุณนอนตั้งนานแล้วแต่คุณก็ไม่ตื่น ผมเลยโทรสั่งอาหารมื้อเย็นมารอแล้วเรียบร้อย เดี๋ยวคุณล้างหน้าล้างตาค่อยตามออกไปนะ"
เธอทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย แล้วเดินตามไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารที่มีอาหารเย็นหน้าตาน่าอร่อยอยู่เต็มโต๊ะ
"คุณสั่งอะไรมาเยอะแยะคะ จะกินยังไงหมดเนี่ย"
"ก็ผมไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไรนี่ เลยสั่งมาเผื่อๆ"
"ฉันกินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ ยกเว้นถั่วปากอ้า ถ้ากินในปริมาณเยอะๆนี่ถึงตายเลยนะ"
"โอเค ต่อไปหาอาหารที่ผมสั่งหรือทาน จะไม่มีส่วนผสมของถั่วปากอ้าแน่นอน"
เขาพูดเหมือนจะอยู่กับเธอตลอดไปอย่างนั้นแหละ
"เอ่อ แล้วคุณออกไปรับอาหารเองหรอ ไม่กลัวคนรู้หรือไง"
"ผมใส่แมส ใส่หมวกด้วย ไม่มีใครจำได้หรอก อีกอย่างก็ให้ไรด์เดอร์ขึ้นมาส่งที่หน้าห้องเลย"
"หึหึ ไม่ใส่แว่นดำด้วยอีกอย่างเลยล่ะ"
"ก็เกือบอยู่เหมือนกันล่ะ"
"ฉันประชดค่ะ"
คืนนี้ เป็นอีกคืนที่เขาโมเมขอนอนห้องเธอ อันที่จริงเธอก็ไม่ค่อยเต็มใจหรอก แต่ความก็ใช้ความกะล่อนและชั้นเชิงกดดันจนเธอยอม เขานอนมองร่างบางที่นอนหลับสนิทอยู่ด้านข้าง เธอช่างกินง่าย อยู่ง่ายและหลับง่ายจริงๆ ไม่ได้หวาดระแวงกลัวว่าเขาจะปล้ำเลยสักนิด
ปุณณัตถ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วขยับตัวเข้ากอดเธอเอาไว้เหมือนเดิม เขาแอบจูบหน้าผากโหนกนูนนั่น ก่อนพยายามสะกดจิตตัวเองให้หลับตามเธอไป
ตลอดเวลาสามวัน เขาไม่ยอมไปไหนเลย ยังหน้ามึนขอนอนห้องเธอเหมือนเดิม เธอไล่เขาจนขี้เกียจจะเอ่ยปากไล่ และเมื่อเห็นเขาไม่ได้แตะต้องตัวเธออีก จึงยอมให้เขาอยู่ด้วย และคืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะได้นอนแอบกอดเธอ พรุ่งนี้เช้าเขาก็ต้องไปกองถ่ายละครเรื่องใหม่ที่เล่นคู่กับมินตราอีกแล้ว
สามวันมานี้ มินตราคอยโทรและไลน์หาเขาตลอด แต่เขาไม่ยอมรับสายเธอเลย เพราะเขาไม่ชอบผู้หญิงที่มาตามตื๊อและแสดงความเป็นเจ้าของแบบนี้ ละครเรื่องต่อไปแม้ต้องแสดงกับเธอ ถึงจะต้องออกต่างจังหวัดด้วยกัน ถ้าเกิดมีอารมณ์เปลี่ยว ก็คงไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเธออีก เพราะกว่าจะสลัดเธอออกได้ มันไม่ง่ายเลย
ในขณะที่เธอปิดไฟและขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆเขาเพื่อเตรียมตัวนอน อยู่ๆมารดาของเขาก็โทรเข้ามา
"เจ้าโปรด หายไปไหน สามวันนี้ไม่มีงานไม่ใช่หรอ ทำไมไม่กลับบ้าน"
"ผมไปเที่ยวกับเพื่อนครับแม่"
"เที่ยวกับเพื่อนหรือเที่ยวกับสาวอย่าบอกนะว่าไปกับมินนี่"
อัณณาได้ยินเสียงที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์อย่างชัดเจน ทั้งๆที่ไม่ได้อยากเสียมารยาทแอบฟังเขาคุยกับแม่ แต่มันได้ยินเองนี่นา ช่วยไม่ได้
"เปล่าครับแม่ ผมไม่ได้ไปกับมินนี่ ผมก็มีเพื่อนคนอื่นให้คบบ้างสิครับ"
"เพื่อนหรือสาวๆของแก บอกมาตามตรง เมื่อไหร่จะคบใครจริงๆจังๆเสียที แม่จะได้มีโอกาสอุ้มหลานที่เกิดจากแกไหมนะ"
"โถ่แม่ครับ จะรีบไปไหน ผมยังไม่คิดที่จะมีใครเลย แม่อย่าคิดไปถึงเรื่องหลานสิครับ"
"แต่แม่ว่า มินนี่ก็สวยดีนะ ถ้าจะคบกับจริงจังแม่ก็เห็นด้วย"
"ผมไม่ได้ชอบมินนี่ครับ ไม่ได้อยากมีแฟน แม่ไม่ต้องพยายามจับคู่ให้ผมเลยนะ"
"อืมๆ แค่โทรมาเช็คว่าอยู่ไหน นึกว่าจะได้ฟังข่าวดีของแกกับมินนี่เร็วๆนี้ น่าเบื่อจริง แค่นี้แหละ"
แล้วคุณนายญาดา มารดาผู้เอาแต่ใจของเขาก็วางสายไป
คบกับมินตราหรอ ไม่มีทาง ผู้หญิงที่วิ่งตามไล่จับเขาแบบนี้ อย่าหวังว่าเขาจะคบหาออกหน้าออกตา เอาเข้าจริงถ้าไม่ใช่ผู้หญิงที่ทำอาชีพด้านที่ให้ความสุขกับผู้ชายโดยตรง ถ้าเป็นผู้หญิงทั่วไปที่เขาเอามาเป็นคู่นอน เมื่อถึงเวลาต้องแยกย้าย ก็มักจะลืมข้อตกลงก่อนที่จะมีอะไรกันเสมอ เธอพวกนั้นมักเรียกร้องขอคบหา หรือขอเข้ามาอยู่ในชีวิตเขา จะเปิดเผย จะปิดบังก็ยอมทั้งนั้น แต่เป็นเขาเองนี่แหละ ที่ไม่ยอมสานต่อกับพวกเธอ อย่างมากก็แค่ครั้งสองครั้ง น้อยคนนักที่เขาจะนอนด้วยเกินกว่านั้น หนึ่งในนั้นคือมินตรา ไม่ใช่เพราะเขาติดใจอะไรเธอขนาดนั้นหรอก แต่เพราะเวลาที่ต้องออกกองต่างจังหวัด คนเคยๆใกล้ๆตัว ก็เป็นอาหารจานด่วนที่ง่ายที่สุด แม้จะไม่อร่อยถูกปาก คุณภาพไม่ประทับใจ แต่ก็ทำให้หายหิวไปได้อีกหนึ่งมื้อ