มีลับลมคมใน

2116 Words
​ รุ่งเช้าวันต่อมา วันนี้หลี่หนิงซินตั้งใจจะพาลูกสาวออกไปปั่นจักรยานดูร้านรับซื้อนาฬิกา แต่เธอก็ยังไม่มั่นใจว่ายุคนี้จะมีร้านแบบนั้นหรือไม่ ค่ำคืนที่ผ่านมาเธอกับลูกนอนหลับพักผ่อนอยู่ในมิติ บางเวลาหนิงซินก็แอบออกมาดูนอกมิติว่าโจรขโมยไหมแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น "วันนี้กินข้าวต้มดีไหมลูก" "ดีค่า แม่จ๋ากิงโก๋โก๋ด้วยได้ม้าย" (ดีค่ะ แม่จ๋ากินปาท่องโก๋ด้วยได้ไหม) "โก๋โก๋?" "โก๋โก๋เมื่อวางงายแม่จ๋า" (ปาท่องโก๋เหมือนที่กินเมื่อวานไงแม่จ๋า) "อ๋อ ปาท่องโก๋ที่ร้านคุณยายเหรอลูก" "ช่ายค่า" "ได้ ๆ เดี๋ยวแม่พาเดินออกไปซื้อ ขอแม่ต้มหม้อน้ำซุปไว้ก่อนนะคะ หนูนั่งเล่นตัวต่อรอแม่จ๋าก่อนนะ" สองแม่ลูกพูดคุยกันระหว่างที่เดินลงจากบันไดชั้นสองของร้านอาหาร หลังจากตกลงกันได้ต่างคนก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง หนูน้อยเสี่ยวเปาไปนั่งเล่นอยู่ในคอกกั้นเล็ก ๆ ของเด็ก ในนั้นมีทั้งตุ๊กตาเจ้าหญิง และตัวต่ออีกหลายอย่างให้เลือกเล่น "เป่าเปาหนูอยากกินข้าวต้มอะไรลูก หมู กุ้งหรือปลา" "จุ้งตัวโต ๆ ค้า" (กุ้งตัวโต ๆ ค่า) "ได้เลย" หนิงซินตั้งหม้อน้ำซุปแล้วใส่กระดูกหมูลงไป ตามด้วยเกลือ รากผักชีและพริกไทดำอีกเล็กน้อย เธอดูความแรงของไฟให้อยู่ในระดับปานกลางพอเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วจึงเรียกเป่าเปาให้ออกจากมิติไปพร้อมกัน "แม่จ๋าเสร็จแล้วลูก ไปซื้อปาท่องโก๋กันค่ะ" "ไปแย้วแม่จ๋า เป่าเปาขอฉามตัวน๊า" (เป่าเปาขอ 3 ตัวนะ) "ได้เลยจ้ะ" หนิงซินพาลูกน้อยออกจากมิติแล้วเดินออกไปที่หน้าบ้านเช่า เมื่อปิดล็อกกุญแจเรียบร้อยทั้งคู่จึงจับมือกันเดินออกไปที่หน้าปากซอย ด้วยว่าตอนนี้เป็นเวลาเพียง 7.30 น. อากาศเย็นสบายจึงถือว่าได้เดินเล่นไปในตัว บรื้นนนนน "โฮ๊ะ แม่จ๋ารกเยอะแยะเยย ฮะ ฮะ" หนูน้อยเสี่ยวเปาชี้ไปที่รถคันใหญ่ที่วิ่งสวนกันไปมาบนถนนไม่ต่างจากเมื่อวานที่ผ่านมา บ่อยครั้งที่หนิงซินต้องตอบคำถามลูกน้อยที่เพิ่งมีโอกาสได้เห็นสิ่งใหม่ ๆ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอเหนื่อยหน่ายกับคำถามมากมายของยัยหนู "ดูได้แต่จำที่แม่จ๋าบอกได้ไหมคะ ห้ามอะไรเอ่ย?" "ห้ามกั้ย ๆ ตูกม้ายแม่จ๋า" (ห้ามเข้าใกล้ถูกไหมแม่จ๋า) "ถูกต้อง ลูกสาวแม่จ๋าเก่งมาก หนูเดินไหวไหม ให้แม่จ๋าอุ้มไหมลูก" "ไหวค่า" ทั้งคู่เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ ไม่นานก็ถึงร้านป้าเหยาที่ขายโอยั๊วะกับปาท่องโก๋ทอด ไม่ต่างจากทุกวันเพราะเป็นช่วงเช้าที่เร่งด่วน โต๊ะทุกตัวมีคนนั่งเต็มไปหมด หนิงซินจึงรีบสั่งปาท่องโก๋ตามที่ลูกน้อยของเธอต้องการ "ป้าค่ะเอาโกปี๊ 1 นมชมพู 1 ปาท่องโก๋ 5 ตัว วันนี้ใส่ถุงนะคะ" "อ้าวยัยหนูหนิงกับเสี่ยวเปาเองเรอะลูก มา ๆ เดินมานั่งในนี้ก่อน เดี๋ยวยายจะรีบทำให้" "คุงค่ายายจ๋า" สองแม่ลูกเดินอ้อมมานั่งใกล้ ๆ จุดที่ป้าเหยาชงน้ำ หญิงชราเห็นแบบนั้นจึงได้เอ่ยถามถึงความเป็นอยู่ในค่ำคืนที่ผ่านมา "แล้วเมื่อคืนเป็นยังไงบ้างลูก พออยู่กันได้ไหม" "อยู่ได้ค่ะป้า ฉันรบกวนถามอะไรป้าสักหน่อยได้ไหมคะ" "ว่ามาเลยลูก ไม่ต้องเกรงใจ" มีบางจังหวะที่ป้าเหยาหันมาพูดคุยกับหนิงซิน โชคดีที่ป้าแกมีลูกมือคอยช่วยขายของอีก 2 คน จึงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ "ป้าพอจะรู้จักร้านรับซื้อนาฬิกา หรือว่าโรงรับจำนำบ้างไหมคะ" "อืม มันก็มีอยู่ แต่ต้องระวังตัวหน่อยนะลูก ขยับเข้ามาใกล้ ๆ ป้าเร็วเข้า" หนิงซินยอมขยับเข้าไปใกล้ ๆ ตามที่ป้าเหยาบอก เธอพยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ป้าเหยากระซิบบอกที่หมายที่เธอต้องไป แต่ด้วยเส้นทางที่สลับซับซ้อนจึงทำให้เธองุนงงอยู่บ้าง "..." "จำได้แล้วใช่ไหมลูก" "เอ่อ ค่ะป้า นี่เป็นค่าน้ำกับปาท่องโก๋นะคะ" ของที่เธอสั่งเสร็จพอดี หนิงซินจึงยื่นเงินที่เตรียมมา 1 หยวน 1 เหมา ให้กับป้าเหยา แล้วขอตัวพาลูกน้อยกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงหม้อน้ำซุปที่เธอตั้งไว้ "ขอบใจมากลูก ไปที่ที่ป้าบอก เค้าให้ราคาดี" "ค่ะ " "กะก่องนะค้าคุงยาย พุ่งนี้เป่าเปามาอีกค่า" (กลับก่อนนะคะคุณยาย พรุ่งนี้เป่าเปามาอีกค่า) "จ้า ๆ อย่าลืมมาหายายนะ" "ค้า" หนูน้อยเสี่ยวเป่าตอนนี้สดใสและยิ้มง่ายขึ้น ไม่นานก็รู้จักโปรยเสน่ห์ไปทั่วจนคนเฒ่าคนแก่ต่างก็เอ็นดู หลังจากสองแม่ลูกเดินกลับเข้าซอยไป ชางหยวนที่นั่งหันหลังให้หนิงซินก็มองตามสองคนแม่ลูกจนลับตา "จะไปไหนครับลูกพี่" หมิงเจ๋อเอ่ยถามผู้เป็นนายที่นั่งกินโอยั๊วะกับปาท่องโก๋ที่อยู่ ๆ ก็ลุกพรวดพราดอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย "วันนี้ให้เถียนซ่วยดูงานที่บ้านปันสุขไปก่อน ส่วนนายตามฉันมานี่" พูดจบชางหยวนก็ควักเงินออกมาจ่ายค่าน้ำชากาแฟให้ลูกน้องรวมไปถึงคนงานก่อสร้างทุกคน จากนั้นก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์คู่ใจแล้วให้ลูกน้อยอย่างหมิงเจ๋อซ้อนท้าย "จะไปไหนครับลูกพี่ เดี๋ยวผมขับให้เองครับ" "ไม่ต้อง อยู่เงียบ ๆ" หมิงเจ๋อจำต้องปิดปากให้สนิทแล้วนั่งซ้อนท้ายไปเงียบ ๆ เพื่อรอดูว่าลูกพี่ของเขาจะทำอะไร ชางหยวนขับมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อย ๆ เพื่อจะดูว่าบ้านหนิงซินกับลูกพักอยู่บ้านหลังที่เขาสงสัยจริงหรือไม่ พอเห็นว่าทั้งคู่เลี้ยวเข้าไปในบ้านเช่าเลขที่ 8 จริง ๆ เขาจึงขับรถผ่านไปไม่ให้มีพิรุธ ก่อนจะกลับรถออกมาแล้วเปลี่ยนให้ลูกน้องมาขับแทน "นายมาขับไปส่งฉันที่ร้านรับซื้อของในตลาดมืด เสร็จแล้วให้นายรีบเอาแผนที่ร้านมาโยนเข้าไปที่บ้านหลังนั้น เข้าใจที่ฉันสั่งใช่ไหม" "บ้านของสองแม่ลูกที่คุยกับป้าเหยาเมื่อกี้เหรอครับ ลูกพี่ดูแปลกไปนะครับรู้ตัวไหม ผมไม่เคยเห็นลูกพี่จะสนใจเรื่องของคนอื่นซะหน่อย คนรู้จักก็ไม่ใช่" พั๊วะ! "ทำตามที่ฉันสั่งก่อนจะโดนมากกว่านี้" "โอ๊ยลูกพี่ ถึงขั้นโบกหัวผมขนาดนี้คงไม่ธรรมดาแล้วมั้งครับ" "ยังอีก!" "ครับ ๆ ขึ้นมาเลย รับรองว่าผมจะตั้งใจเขียนแผนที่ให้ดี อาซ้อจะได้ตามไปหาลูกพี่ถูก" ป้าบ! "เล่นไม่เลิก" "ครับ ๆ หยุดแล้วครับ" ถึงแม้หมิงเจ๋อจะได้กินขนมตุ๊บตั๊บไปสองที แต่ในหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เท่านี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าลูกพี่ของเขาต้องสนใจผู้หญิงคนนี้มากแน่นอน ไม่แน่เธออาจจะได้กลายมาเป็นอาซ้อของพวกเขาก็เป็นได้ หากว่าลูกพี่ของพวกเขามีความกล้าพอ หนิงซินกับเป่าเปาพอกลับถึงบ้านก็รีบเข้าไปในมิติแล้วทำข้าวต้มกุ้งกินคู่กับปาท่องโก๋กรอบ ๆ และเครื่องดื่มร้อน ๆ ที่ได้มาจากร้านป้าเหยาทันที ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีสองคนแม่ลูกก็อิ่มแปล้ และเตรียมตัวจะออกไปตะลุยในเมืองใหญ่ต่อ แอดดด "เป่าเปาออกมาเร็วลูก" "มาแย้วแม่จ๋า" สองแม่ลูกเดินออกจากบ้านมาในชุดกางเกงทะมัดทะแมงเพื่อให้ปั่นจักรยานได้สะดวก นาฬิกาที่หนิงซินเตรียมมาเธอเอาใส่ถุงผ้าแล้วเรียงใส่ตะกร้าหน้ารถ ระหว่างนั้นสายตาของหนิงซินก็หันไปเห็นกระดาษสีขาววางอยู่บนพื้นภายในรั้วบ้านเธอจึงเดินไปหยิบขึ้นมาดู "แผนที่เหรอ สงสัยจะเป็นป้าเหยา" หนิงซินทำความเข้าใจกับแผนที่ในกระดาษที่เธอคิดว่าป้าเหยาเป็นคนนำมาให้ หลังจากนั้นก็ปิดล็อกบ้านแล้วพาลูกน้อยปั่นจักรยานไปยังตลาดมืดตามที่เขียนอยู่ในแผนที่ ยังดีที่เธอไม่ลืมจะปิดบังใบหน้าของเธอกับลูกสาวเอาไว้ "เป่าเปาถ้าร้อนบอกแม่นะลูก" "ค่า" สองแม่ลูกปั่นจักรยานไปตามทางเรื่อย ๆ บนถนนที่วุ่นวายพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นจักรยานและสามล้อลาก บางครั้งก็มีรถยนต์และสามล้อเครื่องขับสวนกันไปมาเป็นระยะ กว่าจะมาถึงที่หมายได้ก็เล่นเอาหนิงซินเหงื่อออกไปไม่น้อย เพราะความไม่คุ้นชินกับการจราจรที่สับสนวุ่นวายกว่าที่เคยเจอมา เมื่อถึงจุดหมายที่เป็นประตูสีดำตามที่มีบอกในแผนที่ หนิงซินจอดจักรยานไว้ปากทางเข้า เสร็จแล้วปกปิดใบหน้าของเธอกับลูกน้อยให้เรียบร้อยแล้วถือกระเป๋าผ้าที่อยู่หน้าตะกร้าหน้าจักรยานเดินไปหาคนเฝ้าประตู "เป่าเปา หนูซบไหล่แม่ไว้นะลูก หันเข้ามาหาแม่ ไม่ว่าจะได้ยินอะไรก็ห้ามพูดเด็ดขาด ถ้าเข้าใจแล้วพยักหน้าให้แม่รู้ด้วย" "อื้อ" หนูน้อยเป่าเปาทำตามที่แม่จ๋าของเธอบอกทุกอย่าง หนิงซินที่เห็นว่ามีคนคอยเข้าอยู่หน้าประตูทางเข้าตามที่ในใบแผนที่บอกเธอจึงรีบเดินเข้าไปถามอย่างระแวดระวัง เพราะที่นี่ดูลึกลับซับซ้อนพอตัว แต่ละคนที่เข้าออกก็ปิดหน้าปิดตาอย่างดี "พี่ชายจ๊ะ ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่าร้านนี้ต้องไปยังไง" ชายหน้าตาดุดันหันมาตามเสียงเรียก เขาก้มมองดูกระดาษที่หนิงซินยื่นมาตรงหน้า ทันทีที่เห็นสัญลักษณ์บางอย่างก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าต้องดูแลผู้หญิงคนนี้ให้เธอไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย "เดินตามผมมาทางนี้เลยครับ" "เอ่อ คือฉันจอดจักรยานไว้ตรงนี้ได้ไหมคะ" "ไม่ต้องห่วงครับ จะไม่มีใครแตะต้องสิ่งของของคุณ" ชายคนดังกล่าวส่งสายตาให้คนที่เหลือจัดการต่อ ส่วนเขาก็รีบนำหน้าหนิงซินไปที่ร้านรับซื้อของตามในแผนที่ทันที ตลอดทางหนิงซินสังเกตเห็นการคุ้มกันของที่นี่ แม้กระทั่งการเข้าออกที่ดูมีลับลมคมในมันทำให้เธอนึกได้อย่างเดียวก็คือที่นี่เป็นตลาดมืดที่ค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายแน่ ๆ ตลอดสองข้างทางที่เธอเดินไปมีทั้งแผงลอยและแบบที่เช่าเป็นร้าน บางร้านก็มีพวกอาวุธปืนวางเรียงขายได้อย่างเปิดเผย บางร้านก็คล้ายร้านขายยา หรือสมุนไพรต่าง ๆ แต่สมุนไพรประเภทไหนกันล่ะที่จะมาวางขายในตลาดแห่งนี้ ถ้าไม่ใช่สมุนไพรที่ผิดกฎหมายและให้โทษร้ายแรงต่อร่างกาย "ถึงแล้วครับ ผมจะรอคุณตรงนี้เพื่อพาคุณกลับออกไปส่งที่ทางเข้า" คนดูแลพาหนิงซินกับลูกมาหยุดอยู่ที่ร้านตามกระดาษที่ได้ดู ก่อนจะเปิดประตูให้เธอเดินเข้าไปข้างในได้อย่างสะดวก "เดี๋ยวฉันเดินไปเองก็ได้ค่ะพี่ชาย ขอบคุณมากนะคะที่พามาส่ง" "ไม่ได้ครับ ในนี้มีแต่คนมากเล่ห์ เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องส่งคุณออกไปให้สำเร็จ รีบเข้าไปทำธุระเถอะครับ" พอได้ยินที่ฝ่ายตรงข้ามพูดยิ่งทำให้หนิงซินคิดว่าเธอไม่ควรมาที่นี่บ่อย ๆ ครั้งแรกเธอคิดว่าจะเอานาฬิกาออกมาขายครั้งละ 10 เรือนแล้วค่อยมาอีกเรื่อย ๆ แต่พอเห็นแบบนี้ดูท่าว่าเธอคงต้องเปลี่ยนความคิดซะแล้ว ​ ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD