พอมารดาเอ่ยอย่างนั้น โกมินทร์จึงได้พิจารณามาลุลีอีกทีหนึ่ง แล้วรอยคิสมาร์กที่โผล่พ้นผ้าผืนบางออกมาก็ทำให้เขาเข้าใจเรื่องทั้งหมด
“คำก็ลูกสองคำก็ลูก ผมต่างหากเป็นลูกคุณแม่ ไม่ใช่ลุลี”
“เปล่าเลย! ลุลีน่ะลูกฉัน ส่วนแก...ฉันเก็บมาเลี้ยง นิสัยเจ้าชู้ไข่ไว้ไม่เลือกอย่างนี้ ฉันให้ใช้นามสกุลด้วยก็บุญแล้ว”
“โธ่...คุณแม่ครับ เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
โกมินทร์อ่อนอกอ่อนใจ ก็คุยกันแล้ว เจรจากันเรื่องนี้จนได้ข้อตกลงแล้ว มารดาที่เคารพจะหาเรื่องด่าเขาอีกทำไมกัน
“เออ! รู้แล้ว จำไว้ด้วยว่าฉันรับแค่หลาน ไม่ได้รับเมียเก่าแกด้วย อย่าให้ผู้หญิงคนนั้นมาวนเวียนอยู่ใกล้แกเชียวนะ ฉันห่วงก็แต่ลุลี กลัวจะถูกรังแก ลูกสาวฉันเรียบร้อยปานนี้ มดสักตัวยังไม่เคยฆ่า ด่าใครสักคำไม่เคยได้ยิน หัวอ่อนอย่างนี้จะไปสู้รบปรบมือกับใครได้”
เมื่อมารดาบ่นเสียยืดยาว โกมินทร์ก็ได้แต่พยักหน้ารับ พยายามทำใจให้ชินกับสิ่งที่มารดายกยอมาลุลี จากที่ได้สัมผัสเมื่อคืนนี้ หล่อนไม่ได้ใกล้เคียงคำนั้นเลย หล่อนพร้อมที่จะต่อกรกับเขาทุกลมหายใจ และถ้าเขาเผลอสักนิด หล่อนคงได้แก้แค้นอย่างสาสม
“ครับ ผมจะจำให้ขึ้นใจ”
“ดี เอาล่ะ แม่ลุลี มาหาฉันใกล้ๆ ซิ”
“ค่ะ คุณท่าน” ลุลีรับคำแล้วขยับมาอีก
“เลิกเรียกว่าคุณท่านทีเถอะ หล่อนเป็นเหมือนลูกสาวฉันนะ”
“ก็...ลุลีชินอย่างนี้นี่คะ ให้ลุลีเรียกแบบเดิมเถอะค่า”
หญิงสาววอนขอ ยิ้มใส่ตาหญิงชราจนนางอดยิ้มตามไม่ได้
“โอ...เด็กคนนี้นี่น่าเอ็นดูซะจริง ไปอยู่โน่นดูแลตัวเองดีๆ นะลุลี อย่าลืมดูแลพี่เขาด้วย เป็นผัวเมียกันอย่ามัวแต่อคติ ต้องหันหน้ามาคุยกันเข้าใจไหม”
“ค่ะคุณท่าน”
“ตาเก้าก็ด้วย อย่าฟังคนอื่นมากกว่าเมีย ต้องเชื่อใจคนของเราให้มากรู้ไหม”
“ครับ...คุณแม่”
“ดี...” นางยิ้มยินดีเมื่อคนที่นางรักรับปากมั่นเหมาะในสิ่งที่นางต้องการ “แล้วเด็กนั่นน่ะ พามานี่บ่อยๆ ก็ดี จะได้สนิทกับฉันบ้าง”
นางเอ่ยถึงเด็กหญิงวัยสิบขวบที่คนเป็นแม่อ้างว่าเป็นลูกสาวของโกมินทร์
“ครับคุณแม่ ถ้าเป็นไปได้จะพามาทุกอาทิตย์เลยครับ”
“อือ...แล้วก็...แก ตาเก้า อย่าเชื่อยัยแพรดาวให้มากนัก คนที่ทิ้งแกไปแต่งงานกับคนอื่นน่ะ แกอย่าไว้ใจง่ายๆ เชียว”
คนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนสอนสั่งบุตรชายให้ระวัง นางไม่เคยไว้ใจผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่มาทำลายครอบครัวของนาง
“แต่หนูเกลเป็นลูกผมจริงๆ นะครับ คุณแม่ก็เห็นผลตรวจ DNA นั่นแล้ว”
“ผลตรวจที่มีแต่ภาษาปะกิตนั่นรึ ฉันไม่อ่านให้ปวดหัวหรอก”
“ทำไมไม่ให้ลุลีอ่านให้ละคะ”
มาลุลีท้วงบ้าง อันที่จริงเธอยังไม่เคยเห็นผลตรวจ DNA ที่ว่าเลย
“ช่างเถอะๆ ยังไงตาเก้าก็จะเอายัยหนูนั่นมาอยู่ด้วยอยู่แล้วนี่นา ในเมื่อลูกชายฉันเชื่อไปแล้วว่าเด็กนั่นเป็นลูกเขาจริงๆ ฉันก็เหนื่อยจะสืบสาวเอาความ แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ฉันเลี้ยงได้แม่ลุลี”
นั่นคือความใจดีของสตรีที่มาลุลีเคารพ ครั้งหนึ่งเธอก็เคยได้รับความเมตตา เธอเป็นทารกในห่อผ้าที่ถูกเอามาทิ้งไว้ข้างสวนมะลิของนาง และเธอโชคดีที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี
คุณท่านแสงทิพย์ให้ความรักแก่เธอ คนงานทุกคนที่นี่ก็รักและเคารพเธอ จะมีก็แต่โกมินทร์เท่านั้น ที่ไม่เคยเห็นเธอในสายตา
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะครับคุณแม่ เอาล่ะ...ผมว่าผมกลับเลยดีกว่า พรุ่งนี้ผมมีงาน ไหนจะเรื่องหนูเกลอีก”
เขาเอ่ยถึงความจำเป็นที่ต้องเข้ากรุงเทพฯ ในตอนนี้ แม้ว่านี่จะเป็นช่วงหลังงานแต่งงานของตัวเองก็ตาม
“แกนี่จริงๆ เลย จะรีบอะไรนักหนา” คนเป็นแม่เอ็ดอึง
“ก็...พรุ่งนี้แพรจะไปดูที่ที่ต่างจังหวัด ผมไม่อยากให้หนูเกลต้องอยู่ห้องคนเดียว เลยว่าจะให้แกย้ายมาวันนี้เลย”
“เออๆ เข้าใจแล้ว มีอะไรให้ช่วยก็โทรมาแล้วกัน ต่อไปเรือนนี่คงเงียบเหงา ไม่มีแม่ลุลีสักคน”
“โธ่...คุณท่านขา ไม่มีลุลีแต่ยังมีน้ารื่นนี่นา”
เธอเอ่ยแล้วแลหาน้ารื่น สตรีวัยกลางคนที่ดูแลคุณท่านและเรือนหลังนี้ อีกฝ่ายโผล่หน้าขึ้นมาทางบันได ยกเอานมอุ่นๆ มาวางตรงหน้าหญิงชรา
“แม่รื่นรึจะไปสู้หล่อนได้ หนังเหี่ยวหมดแล้ว มองตรงไหนก็ไม่เจริญหูเจริญตา”
“โอย...คุณท่านก็พูดเกินไปนะคะ รื่นยังไม่แก่สักหน่อย”
รื่นจิต ท้วงเสียงขรม นั่งลงไม่ห่างกายหนูลุลี อีกฝ่ายจะตามสามีเข้าไปอยู่ในเมือง นางก็อดคิดถึงไม่ได้ นางรักและเอ็นดูไม่ต่างจากลูกสาวทีเดียว
“น้ารื่นดูแลคุณท่านดีๆ นะคะ”
“จ้าจ้ะ หนูลุลีเถอะ ไปอยู่บ้านโน้นดูแลตัวเองดีๆ นะ อ้อ...แล้วอย่าแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวล่ะ ถ้าโกรธกันต้องคุยกับคุณเก้าให้เข้าใจนะคะ”
“โธ่...น้ารื่นก็ ใครจะไปแอบร้องไห้ ลุลีไม่ใช่เด็กสามขวบนะคะ ลุลีโตแล้ว”
มาลุลีทำเป็นเอ็ดคนที่สูงวัยกว่า แอบชำเลืองมองสามีก็เห็นว่าเขามองมาอย่างใคร่รู้
“จริงอย่างที่แม่รื่นว่า ตาเก้า...ดูน้องดีๆ นะ ลุลีน่ะ เหมือนจะเข้มแข็งแต่จริงๆ แล้วบอบบางยิ่งกว่ากลีบมะลิเสียอีก”
“ครับ...คุณแม่”
คนเป็นลูกได้แต่รับคำ สงสัยชาติที่แล้วมาลุลีจะทำบุญมาดี หล่อนถึงได้มาอยู่ในครอบครัวนี้ ครอบครัวที่มารดาเขารักหล่อนยิ่งกว่าลูกชายของตัวเอง
“ฝากด้วยนะคะคุณเก้า อย่ารังแกหนูลุลีของน้ารื่นนะคะ” รื่นจิตเอ่ยสำทับอีก
โกมินทร์ทำหน้าเคืองไม่จริงจัง
“คร้าบ...มีแต่คนรักลุลี ไม่มีใครรักผมแล้ว”
“โธ่...พ่อคุณของน้า”
รื่นจิตยิ้มขัน เข้าไปกอดเจ้านายของนางอย่างเอ็นดู ก่อนที่คู่ข้าวใหม่ปลามันจะโดนไล่ไปขึ้นรถ เมื่อแสงตะวันบอกเวลาว่าสายเต็มที