บทนำ
บทนำ
รถยนต์คันหรูสีดำเงาวับขับเคลื่อนอยู่บนท้องถนนในช่วงสายของวันใหม่ ความยาวและกว้างของตัวรถทำให้คนที่นั่งอยู่ด้านในนั่งได้อย่างสบาย ภายในรถถูกตกแต่งจนหรูหราสมราคา เบาะหนังราคาแพงรองรับสรีระร่างกายกำยำได้เป็นอย่างดี แผ่นหลังแกร่งแนบชิดกับเบาะหนังเพื่อเอนกายพักผ่อนร่างกาย
"วันนี้ตอนเช้าคุณไฟมีประชุมกับฝ่ายการตลาดที่ห้างครับ และช่วงบ่ายมีคุยกับผู้รับเหมาสร้างรีสอร์ทที่จ.โคราชครับ"
"แยกหน้าเลี้ยวขวาออกชานเมือง" น้ำเสียงเข้มพูดขึ้นเบาๆทั้งที่สายตายังทอดมองวิวข้างทางเหมือนเดิม ใบหน้าคมคายนิ่งเรียบ
"ครับ?" อิฐลูกน้องคนสนิทพ่วงตำแหน่งเลขาส่วนตัวที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับรถท้วงด้วยน้ำเสียงตกใจและมองเลิ่กลั่กไปที่คนขับรถ แต่คนขับส่ายหัวเป็นคำตอบเพราะพึ่งได้ยินคำสั่งของเจ้านายเมื่อกี้เช่นกัน
ไฟเลี้ยวของรถคันหรูถูกเปิดเพื่อขอเบี่ยงทางอย่างกะทันหันตามคำสั่งของเจ้านาย
"กูจะไปโคราชเลย ส่วนงานของห้างให้ไอ้ดินจัดการ มันเป็นผู้บริหาร กูไม่เข้าสักคนมันคงบริหารได้เอง" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มหลังจากพูดจบ
"แต่เมื่อวานคุณดินให้ผมมารายงานคุณไฟนะครับ"
"มึงเป็นลูกน้องใครไอ้อิฐ"
"ลูกน้องคุณไฟครับ" อิฐตอบกลับเจ้านายหนุ่มทันทีและฟังจากน้ำเสียงไม่จำเป็นต้องหันหน้ามาพูดคุยก็รู้ว่าไม่ควรขัดคำสั่ง
"นี่คือคำสั่งของกู ที่เหลือกูจะจัดการเอง"
ภายในรถกลับมาเงียบสงัดอีกครั้งหลังจากไฟพูดจบ เลขาหนุ่มชำเลืองมองคนขับรถเพียงนิดและรอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้านายของตัวเองจะเปลี่ยนตารางงานกะทันหัน เปลี่ยนตามอำเภอใจ
ครอบครัว 'วชิรวรกุล (วะ-ชิ-ระ-วอ-ระ-กุน)' ทำธุรกิจเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้ามาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า จากห้างเล็กๆในสมัยนั้นเริ่มขยายตัวให้ใหญ่ขึ้น จนขยายธุรกิจไปตามจังหวัดต่างๆมาเรื่อยจนถึงปัจจุบันที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ส่งต่อรุ่นลูกรุ่นหลานได้สืบทอดมรดกมาเรื่อยๆจนตอนนี้มาถึงรุ่นของไฟ และพี่น้องฝาแฝดที่ชื่อ 'ดิน'
______________
ทาวน์เฮ้าส์สองชั้นสภาพทรุดโทรมตามกาลเวลามีอายุเกินกว่า20ปี เมื่อก่อนมีสมาชิกในครอบครัวหลายคนแต่ปัจจุบันเหลือเพียงยายกับหลานสาวอยู่ด้วยกันสองคน
"ยายจ๋า ฟ้าต้องไปโคราชแล้ว ถ้ามีเวลาว่างจะกลับมาหายายที่บ้านนะจ๊ะ"
"ไปดีมาดีลูกเอ๊ย ทำงานที่เรารักให้เต็มที่ไม่ต้องห่วงยาย"
"ถ้าถึงแล้วฟ้าจะโทรหายายนะจ๊ะ"
น้ำเสียงที่สั่นเครือบอกลายายผู้เป็นที่รัก ดวงตากลมโตเอ่อล้นด้วยน้ำตาที่ต้องร่ำลากับคนที่รัก แต่ไม่อยากร้องไห้เพราะกลัวยายเป็นห่วง ชีวิตของหมออินเทิร์นจบใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว และยังถูกส่งตัวไปทำงานที่จ.โคราช ต้องออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวอยู่ที่นั่น
รู้สึกใจหายไม่น้อยแต่เพื่ออนาคตฉันต้องยอม รอเวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ฉันจะย้ายกลับมาทำโรงพยาบาลในกรุงเทพ จะได้อยู่ใกล้กับยาย ได้ดูแลยายเพราะตอนนี้ฉันเหลือเพียงยายแค่คนเดียว
ดวงตากลมโตมองรูปถ่ายที่ถูกอัดกรอบเรียงกันไว้ตรงบริเวณตู้โชว์กระจก แต่ไม่ใช่รูปถ่ายปกติทั่วไปที่มีความสุข เพราะใต้รูปมีวันชาตะ...และวันมรณะ
เป็นรูปพ่อกับแม่ฉันเอง พ่อกับแม่เสียไปตั้งแต่ฉันอายุ 15 ปี วันนั้นเป็นวันที่เรามีความสุขมาก ฉันกำลังร้องเพลงอย่างมีความสุขระหว่างกลับจากเที่ยวต่างจังหวัด แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุทำให้รถเสียหลักพุ่งชนกับต้นไม้
ปัง!
"อึก"
เสียงแรงกระแทกของรถกับต้นไม้ดังเข้ามาในหูทำให้ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น จนต้องหลับตาลงเพื่อตั้งสติไม่ให้ตัวเองนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้ฝังใจ เหตุการณ์ครั้งนั้นเลยทำให้ฉันอยากเป็นหมอ อยากรักษาคนที่รักถึงแม้จะไม่อยากให้คนที่รักเป็นอะไรก็ตาม
"ไม่มีใครโกงความตายได้หรอกลูกเอ๊ย ทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้ว ปู่ ย่า ตา พ่อและแม่ของฟ้าใสต้องจากเราไปด้วยช่วงเวลาของเขา อีกไม่นานยายก็จะถึงเวลานั้นเหมือนกัน"
เสียงของยายแว่วเข้ามาในหูทำให้ฉันลืมตาขึ้นและมองหน้ายายที่ยังอยู่กับฉันจนถึงปัจจุบัน ฉันเลยรักยายมาก ชีวิตเรามีกันแค่สองคนตั้งแต่ทุกคนจากไป ปู่ ย่า และตาจากไปด้วยโรคชราด้วยตอนนั้นค่อนข้างเด็กมากทำให้ลืมความรู้สึกเสียใจในช่วงเวลานั้นไป แต่พ่อกับแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุมันยากเหลือเกินที่จะลืมเพราะฉันอยู่ในช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่ฉันโตพอที่จะจดจำเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน