และเมื่อถึงเวลาเลิกงานก็กินเวลาไปจนถึงตีสอง เสี่ยที่ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือก็มองไปโดยรอบอย่างแปลกใจ เขาลูบหน้าตัวเองก่อนจะลุกขึ้นมองหาหญิงสาวแต่ไม่เจอแม้แต่สักคนเดียว
เขาเดินออกไปหาลูกน้องและตามหาตัวนับดาวแต่เขาก็บอกว่าไม่เห็นออกมาเลย ทั้งสองคนเดินลงมาชั้นล่างเจอหญิงสาวกำลังช่วยรุ่นพี่เก็บโต๊ะอยู่
“น้องนับดาวทำไมไม่รอเสี่ยที่ห้อง”
“ก็เสี่ยเมาจนหลับไปนี่คะ หนูก็เลยออกมาทำงานข้างนอกต่อ”
หญิงสาวทำเป็นใสซื่อทั้งที่เธอเป็นคนวางแผนทุกอย่างด้วยตัวเองและพนักงานทุกคนก็เป็นใจแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อช่วยเด็กสาว
“ก็นี่ไงเสี่ยตื่นแล้วเพราะฉะนั้นกลับเข้าไปที่ห้องกันดีมั้ย”
เสี่ยยังมีความหวังว่าจะได้เชยชมเด็กสาวและงงพอสมควรว่าตัวเองเผลอหลับไปได้ยังไงทั้งที่ดื่มไปไม่มากเอง นับดาวมองนาฬิกาในข้อมือเป็นเวลาตีสองกว่าก็ยิ้มออกมาทันที
“เราตกลงกันว่าถึงแค่ตีสอง ตอนนี้หมดเวลาแล้วค่ะเสี่ย หนูต้องกลับบ้านแล้ว”
“ได้ยังไงเสี่ยจ่ายไปตั้งแสนหนึ่งแขนยังไม่ได้จับเลยนะ”
“ก็ช่วยไม่ได้ค่ะก็เสี่ยหลับไปเองนี่”
เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะหันไปทำงานอย่างอื่นต่อ และไม่ว่ายังไงเขาต้องได้ผู้หญิงคนนี้อุตส่าห์ลงทุนจ่ายเงินมากกว่าคนอื่นแต่ไม่ได้เชยชมอะไรเลยมันรู้สึกขาดทุนมาก
“แต่นับดาวรับเงินเสี่ยไปแล้วนะ”
“แล้วยังไงคะความผิดหนูเหรอ… ก็ไม่ใช่นี่ ถ้าเสี่ยคิดว่าไม่ยุติธรรมงั้นก็ไปแจ้งความเลยค่ะให้กฎหมายตัดสินว่าใครผิดใครถูก แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่ามันไม่คุ้มเสี่ยนะถ้าเมียรู้ขึ้นมาจะแย่เอา”
หญิงสาวกระซิบเสียงเบาก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีสุดๆ เสี่ยกำมือแน่นอย่างโกรธจัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะถ้าเกิดว่าเขาแจ้งความก็เหมือนประจานตัวเองแถมยังโดนเมียที่บ้านด่าอีก
“แสบจริงๆเด็กคนนี้”
“ก็เสี่ยไม่ทำตามข้อตกลงเองนี่คะ มันเลยเวลาไปแล้วจะเรียกร้องเอาอะไรอีก”
“ไอ้ดิวกลับ!”
เสี่ยหันไปสั่งลูกน้องแล้วเดินออกไปทันที เธอมองตามเขาจนลับสายตาก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เห็นแบบนี้เธอก็เลือกคนหน่อยถ้าดูน่ากลัวและอันตรายเธอก็ไม่ทำหรอก
‘ช่วยไม่ได้เพราะความบ้ากามเป็นเหตุถึงได้ถูกเธอหลอกแบบนี้ไง’
หลายวันต่อมา….
มาวินหรือสารวัตรมาวิน เขาเพิ่งย้ายมารับตำแหน่งที่อำเภอแม่พระและตอนนี้กำลังทำความรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายอื่น ไหนจะต้องไปดูสถานที่ทำงานและหน่วยงานที่ต้องรู้จักอีก แค่ครึ่งวันก็เหนื่อยมากแล้วขอพักหาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า
“สารวัตรครับสถานีตำรวจของเรามีร้านประจำอยู่ ข้าวแกงป้านับเงินครับอร่อยมากเดี๋ยวผมพาไปกิน”
“โอเคงั้นไปกันเลยมั้ยผมหิวมากแล้วเนี่ย”
เขายิ้มออกมาก่อนจะลูบท้องตัวเองป้อยๆ ผู้กองรีบพาเขาเดินทางไปร้านข้าวแกงร้านประจำก่อนจะเข้ามานั่งภายในร้าน ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มจากนั้นก็ลุกขึ้นไปดูข้าวแกงว่ามีอะไรให้เขากินบ้าง
“สวัสดีครับแม่ค้ามีอะไรแนะนำบ้างครับ”
“ก็มีตามที่เห็นเลยจ้ะพ่อหนุ่ม ว่าแต่หน้าไม่คุ้นเลยมาเที่ยวเหรอจ๊ะ”
ป้านับเงินเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้ หน้าตาหล่อเหลารูปร่างกำยำดูครั้งแรกก็รู้ว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตหน้าที่การงานดี
“เที่ยวอะไรล่ะป้า คนนี้สารวัตรมาวินเพิ่งย้ายมาประจำการรู้จักไว้สิ เดี๋ยวก็ต้องเห็นกันบ่อยๆ”
“จริงเหรอ… สวัสดีนะสารวัตรป้าชื่อนับเงินเป็นเจ้าของร้านข้าวแกงเนี่ยแหละ งั้นวันนี้ต้อนรับสารวัตรคนใหม่ป้าเลี้ยงดีกว่า”
ป้านับเงินไม่พูดพร่ำทำเพลงตักกับข้าวทุกอย่างว่งให้สารวัตรที่โต๊ะ เขาอึ้งไปไม่คิดว่าเธอจะใจปล้ำมากขนาดนี้
“ไม่ต้องเลี้ยงก็ได้นะครับผมจ่ายเอง ของซื้อของขายมันคือกำไรทั้งนั้นเลย”
“ไม่ต้องเกรงใจกินๆ มื้อหน้าค่อยมาอุดหนุนก็ได้ แค่นี้ไม่ทำให้ร้านเจ๊งหรอก”
ป้านับเงินเชิญให้สารวัตรนั่งกินข้าวให้อร่อยและผู้กองก็อิ่มท้องไปด้วยอีกมื้อหนึ่ง เขายกมือไหว้ขอบคุณป้านับเงินที่มีน้ำใจกับเขามากขนาดนี้
“ขอบคุณครับที่เลี้ยง เอาไว้ผมจะมาอุดหนุนทุกวันเลยฝากท้องเป็นลูกค้าประจำนะครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกกินๆ”
สารวัตรลองชิมอาหารก็ร้องว้าวออกมาทันที อร่อยทุกอย่างเลยถูกปากเขามากแถมราคาไม่แพงเลยสักนิดไม่รู้ว่าขายของแบบนี้เอากำไรมาจากไหนกัน
“ขายถูกขนาดนี้เอากำไรมาจากไหนครับป้า”
“ก็เอาแค่พออยู่ได้แหละชาวบ้านอิ่มก็ดีใจแล้ว มีลูกสองคนคนหนึ่งก็เรียนจบแล้วดูแลตัวเองได้ อีกคนก็เรียนอยู่แต่ไม่ได้ส่งเสียอะไรรายนั้นทำงานหาเงินเอง ได้เงินเยอะก็ไม่รู้จะเอามาทำอะไรก็เลยขายถูกๆให้คนอื่นเค้าอิ่มท้องก็มีความสุขแล้วจ้ะ”
ป้านับเงินเอ่ยออกมาด้วยความสุข เธอแค่อยากให้คนที่มากินอิ่มกลับไปมีแค่ยี่สิบบาทเธอก็ขายช่วยเหลือกันไปแบบนี้แหละเธอมีความสุขมากที่สุดแล้ว สารวัตรมาวินยิ้มออกมามองป้าอย่างนับถือในความมีน้ำใจ
“ป้าเป็นไอดอลผมเลยนะเนี่ย ทำความดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะครับผมเอาใจช่วย งั้นเดี๋ยวขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่งนะครับไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน”
“ซ้ายมือเลยจ้ะ”
“งั้นผมขอตัวสักครู่นะครับ”
เขาลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนจะเดินกลับมา ชายหนุ่มชะงักไปเมื่อเห็นหญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษาใบหน้าสะลึมสะลือเดินออกมาจากบ้านของป้านับเงิน
“ไอ้นับดาวข้านึกว่าเอ็งจะไม่ตื่นละ นี่มันเที่ยงวันแล้วนะเว้ย”
“ก็หนูทำงานนี่จ้ะแม่ กว่าจะกลับก็ตีสามแล้วอ่ะให้หนูนอนพักผ่อนให้เต็มอิ่มสิ”
“แล้วสภาพเอ็งมันเหมือนคนพักผ่อนเต็มอิ่มมั้ยล่ะ”
ป้านับเงินดุลูกสาวก่อนจะยีผมเธออย่างหมั่นไส้ ถึงเธอจะบ่นๆแต่ก็รักและภูมิใจในตัวของลูกสาวมากเพราะเธอไม่เคยสร้างเรื่องให้คนเป็นพ่อแม่เดือดร้อนเลย ถึงจะได้ยินข่าวไม่ดีมาบ้างแต่เธอก็เชื่อใจลูกมาก
“แม่อ่ะผมหนูยุ่งหมดแล้ว”
“จะกินอะไรมั้ย เอาเงินป่ะ”
“ไม่อ่ะเงินหนูมี ข้าวไม่กินเพราะไม่ทันแล้วค่อยกลับมากินแล้วกันไปก่อนนะจ้ะ”
เธอยกมือไหว้คุณแม่ก่อนจะหันไปเจอกับผู้กองที่ตอนนี้กำลังมองเธออยู่ด้วยรอยยิ้มเอ็นดู นับดาวยิ้มกว้างออกมาทันทีก่อนจะเอ่ยทักทายเสียงใส
“สวัสดีจ้ะผู้กองมากินข้าวเหรอจ๊ะ”
“สวัสดีจ้ะนับดาว เมื่อคืนไปสร้างเรื่องอะไรมาเหรอ…”
หญิงสาวตาโตก่อนจะรีบเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่มทำมือจุ๊ปากไม่ให้เขาพูดอะไรเยอะ เดี๋ยวแม่รู้ขึ้นมาเป็นเรื่องอีก
“อย่าเสียงดังสิผู้กอง ว่าแต่ข่าวกรองเร็วจังเลยนะ”
“เบาๆหน่อยเค้าไม่เอาเรื่องใช่ว่าสิ่งที่ทำมันจะถูกต้องนะ มันอาจจะไม่ได้โชคดีแบบนี้บ่อยๆนะ”
เขาเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่รู้ว่าเธอทำยังไงทุกคนที่โดนไม่เคยได้สัมผัสตัวหญิงสาวเลย แต่ว่าเสียเงินเป็นหมื่นเป็นแสนทำเอาเขางงมากเช่นกัน
“หนูไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ผู้กองอ่ะคิดมาก ไปเรียนดีกว่าบ๊ายบายนะคะ”
เธอโบกมือลาชายหนุ่มก่อนจะวิ่งออกไปทันที ผู้กองส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจตัวเขาเองรู้ว่าหญิงสาวนิสัยยังไงและทำไปเพื่ออะไรแต่คนอื่นเขาไม่รู้ด้วย กลัวเหลือเกินว่าวันหนึ่งจะซวยพลาดท่าจริงๆ สารวัตรเดินเข้ามานั่งลงก่อนจะกระซิบเสียงเบา
“เมื่อกี้คุยกับใครเหรอ”
“อ่อ ลูกสาวป้านับเงินครับสารวัตร เธอชื่อนับดาว หน้าตาสระสวยแต่นิสัยและความแสบผมขอไม่บรรยายแล้วกันนะครับ”
เขายิ้มออกมาไม่พูดอะไรอีก มองตามหญิงสาวไปจนลับสายตา เพียงแค่เห็นครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตาและเธอมีเสน่ห์น่าค้นหาอย่างประหลาด…
‘ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอยากรู้จักเด็กคนนี้…’