Chapter 11

1812 Words
สารวัตรมาวินนั่งรอหญิงสาวอยู่หน้าตึกเรียนหลังจากที่นั่งเล่นที่คาเฟ่อยู่เกือบสองชั่วโมงแล้ว เขาคิดว่าน่าจะใกล้เวลาเธอเลิกเรียนก็เลยมารอที่นี่ดีกว่าจะได้ออกมาเจอกันพอดี เขารู้สึกว่ามีคนมองมาเยอะเป็นพิเศษหรือว่าสงสัยว่าเขามาทำอะไรที่นี่ “มาวิน… มาวินใช่มั้ย” เสียงเล็กดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา ชายหนุ่มหันไปมองก่อนจะนิ่วหน้าเล็กน้อยอย่างสงสัย “หน้าคุ้นจัง” “เราศศิไง เราเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันตอนที่นายไปเรียนเสริมอ่ะ” “อ่อ ศศิ จำได้ล่ะไม่เจอหลายปีอยู่นะสบายดีมั้ย แล้วนี่มาทำอะไรที่นี่ นั่งก่อนสิ” เขาผายมือเชิญให้เธอนั่งลงที่โต๊ะ ตอนที่เขาเป็นตำรวจได้ไม่นานก็ไปเรียนหนังสือเพิ่มและเรียนมหาวิทยาลัยด้วย ก็บังเอิญมีเพื่อนหลายคนแต่คนนี้ไม่ถึงขั้นสนิทมากแต่ก็ทำงานกลุ่มด้วยกันบ่อยก็เลยจำได้ “เราทำงานที่นี่” “อ่อ ดีจังได้เป็นอาจารย์แล้ว” “แล้วนายอ่ะเป็นตำรวจไม่ใช่เหรอตอนนี้คงยศนำไปไกลแล้วล่ะมั่ง” เธอเอ่ยถามเสียงสดใส ยอมรับว่าตอนนั้นแอบชอบเขาด้วยนะคงเพราะทุกอย่างในตัวของเขาเพอร์เฟคหมดเลย หน้าตา หน้าที่การงาน ฐานะทางบ้านที่มีเงินพอสมควร สายเปย์ด้วยนะมีน้ำใจมากทำให้เขาเป็นที่ประทับใจของสาวๆในรุ่นนั้นเลย “ก็ตอนนี้เป็นสารวัตรนะ ย้ายมาทำงานประจำที่อำเภอแม่พระ” “จริงเหรอ… ดีจังเลื่อนตำแหน่งไวมากอายุเพิ่งเท่าไหร่เอง เรียนตรงสายมันก้าวหน้าเร็วเนาะว่าแต่มาทำอะไรที่นี่เหรอ” เธอเอ่ยถามอย่างสงสัย จะบอกว่าเขามาเรียนปริญญาโทคงไม่ใช่แน่นอนหน้าที่การงานก็สูงไม่น่าจะมาเรียนเพิ่มแล้วนะ “มาระ…” “คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ สวัสดีค่ะอาจารย์” นับดาวที่เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทเอ่ยทักทายชายหนุ่มทันทีที่เห็นหน้า เขาเงยหน้ามองสบตาหญิงสาวก็ยิ้มออกมา “เลิกเรียนแล้วเหรอ…” “ค่ะ เพิ่งเลิกหนูว่าจะทำการบ้านกับเพื่อนก่อนค่อยกลับคุณรีบมาทำไมเล่า” เธอบ่นออกมาก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะเดียวกับเขา เธอมองอาจารย์สลับกับสารวัตรมาวินอย่างแปลกใจว่าทำไมทั้งสองคนถึงมานั่งโต๊ะเดียวกัน “อ่อ… นี่ศศิเพื่อนพี่ที่เรียนปริญญาตรีด้วยกัน ไม่เจอกันนานก็เลยทักทายสักหน่อย” “น้องสาวของนายเหรอไม่รู้มาก่อนนะเนี่ย” ศศิมองทั้งสองคนก่อนจะยิ้มออกมา ไม่คิดว่าเขาจะมีน้องสาวด้วยเธอจำได้ว่าเด็กคนนี้เรียนเก่งมากอยู่คณะนิติศาสตร์ แต่ไม่ค่อยรู้จักดีเพราะเธอทำงานอยู่ที่ตึกอธิการบดีไม่ได้สอน “อ่อ… คนนี้ ใช่ๆน้องสาว” เขาไม่กล้าบอกคนอื่นว่าเป็นอะไรกับเธอเพราะเราเพิ่งตกลงกันว่าจะคุยกันแบบนี้ไปก่อนไม่เร่งรีบเรียกสถานะ “น้องสาวเหรอคะ… หนูเป็นน้องสาวของคุณเหรอ” นับดาวเอียงคอถามชายหนุ่มเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน เขายักไหล่ไม่ตอบโต้อะไรก็เธอไม่ยอมเป็นแฟนของเขาเองจะให้บอกคนอื่นได้ยังไงล่ะ “ก็หนูไม่ยอมเป็นแฟนพี่นี่นา” “งั้นเราไปก่อนดีกว่าต้องไปทำงานต่อ งั้นขอไลน์ไว้ได้มั้ยจะได้คุยกัน เพื่อนในรุ่นจะนัดกินข้าวกันทุกปีแต่ไม่เคยเห็นมาวินมาเลยเพื่อนกลุ่มนายบอกว่าอยู่ต่างจังหวัดมาไม่ได้” “ใช่อยู่ต่างจังหวัดนี่เพิ่งย้ายกลับมาเนี่ยแหละคิดว่าน่าจะอยู่ยาวเลย อ่ะนี่ไลน์เรานัดกันวันไหนก็ทักมาจะไป” เขาส่งคิวอาร์โค้ดให้หญิงสาวแสกน เธอแอดเพื่อนเรียบร้อยก็ลุกขึ้นบอกลาเขาจากนั้นก็ไปทำงานต่อ “โอเคยังไงคุยกันนะ อาจารย์ไปก่อนนะเด็กๆ” “ค่ะ” ครีมหวานลอบสังเกตสีหน้าของเพื่อนสนิทและชายหนุ่มอีกคน ทำไมมันเหมือนมีอะไรบางอย่างกับสองคนนี้และเธอเชื่อความรู้สึกของตัวเองว่ามันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นแน่ แต่ว่าเขาแนะนำตัวว่าเป็นพี่ชายทั้งที่เธอเคยเจอพี่ชายของเพื่อนและแน่นอนว่าไม่ใช่คนนี้ “สวัสดีค่ะพี่ชายของนับดาวเหรอคะ” “อืม พี่ชายของฉันเอง” หญิงสาวพูดพร้อมกับเหลือบสายตามองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง เธอไม่ใช่น้องสาวของเขาสักหน่อยทำไมต้องแนะนำเธอกับผู้หญิงคนอื่นแบบนั้นด้วย “ประชดพี่เหรอ… เอาดีๆงอนเหรอคะ” “งอนอะไรคะทำไมหนูต้องงอนด้วย” หญิงสาวหน้าตึงเอ่ยสวนกลับชายหนุ่มทันที ทำไมคนอย่างเธอต้องไปงอนต้องไปประชดประชันเขาด้วย ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยบอกเลยว่าเรื่องนี้ไร้สาระมาก “แล้วหนูทำหน้าไม่พอใจทำไม แค่พี่บอกเพื่อนว่าหนูเป็นน้องสาวเหรอ ก็หนูไม่ยอมเป็นแฟนพี่เองแล้วจะให้บอกคนอื่นแบบนั้นเราโอเคเหรอ” “แล้วเราสองคนตกลงกันว่ายังไงคะ” เขาเกาหัวอย่างมึนงงไม่เข้าใจในท่าทีของหญิงสาวเลยสักนิดเดียวว่าตกลงเธอโกรธอะไรทำไมหน้าหงิกงอขนาดนั้น “ก็คุยกันไปก่อนไงถ้าหนูเรียนจบจะยอมเป็นแฟนพี่ไม่ใช่เหรอ” “แล้วทำไมคุณไม่บอกว่าหนูเป็นคนคุยทำไมต้องบอกว่าเป็นน้องสาว คุณกำลังโกหกคนอื่นนะ” เธอโวยวายออกมาใบหน้าบึ้งบูด ครีมหวานรู้สึกว่าเธอไม่ควรอยู่ตรงนี้และพอปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้วและผู้ชายตรงหน้าคงจะเป็นแฟนของเพื่อนสนิท ส่วนเธอที่เป็นเพื่อนไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนมีแฟนแล้วเอาไว้ถ้าอยากเล่าคงจะเล่าเอง “ฉันว่าเราแยกกันตรงนี้ดีกว่า การบ้านค่อยคุยกันดึกๆนะ หนูไปก่อนนะคะพี่สวัสดีค่ะ” เธอยกมือบอกลาพี่ชายตรงหน้า เขารับไหว้ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงอ่อนโยน “พี่ไปส่งมั้ยกลับด้วยกัน” “ไม่เป็นไรค่ะหนูอยู่หอพักไม่ไกลจากที่นี่ค่ะ ไปนะแก” “เอ้า… ไม่ทำการบ้านแล้วอ่ะ” นับดาวมองตามเพื่อนไปอย่างมึนงง ตอนแรกคุยกันจะทำการบ้านให้เสร็จกลางคืนจะได้สบายไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไหงมาทิ้งกันเฉยเลย “ตกลงคือถ้าใครถามพี่ต้องบอกว่าหนูเป็นคนคุยถูกมั้ย” “ก็ใช่นะสิคะจำไว้เลยนะหนูไม่ใช่น้องสาวของคุณ หนูมีพี่ชายคนเดียวเท่านั้นไม่อยากมีเพิ่มแล้วด้วย” หญิงสาวกอดอกจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง สารวัตรมาวินได้ยินแบบนั้นก็ส่ายหน้ายิ้มๆอย่างเอ็นดูหญิงสาว ทำขนาดนี้ไม่ยอมเป็นแฟนเขาให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียล่ะจะได้ไม่ต้องมางงกับสถานะกันแบบนี้ “โอเคต่อไปถ้าใครถามพี่จะบอกว่าหนูเป็นคนคุยโอเคมั้ย” “เป็นผู้ใหญ่ต้องไม่พูดโกหกนะคะเข้าใจมั้ย” “เข้าใจค่ะ คนคุยก็คือคนคุยจะเป็นน้องสาวได้ยังไง เนาะ…” เขาเออออตามหญิงสาวไปไม่โต้แย้งอะไร ใครมันจะไปอยากเป็นพี่ชายน้องสาวล่ะนอนด้วยกันขนาดนั้นแล้ว แต่ถ้าเธออยากจะกั๊กสถานะเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะเพราะเขาตกลงไปแล้วว่ารอได้เสมอกี่ปีก็จะรอ ขอแค่เธอคุยกับเขาคนเดียวแค่นี้ก็พอแล้ว “หนูหิวค่ะ” “งั้นไปหาอะไรอร่อยกินกัน ป่ะ” เขากุมมือหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นพากันเดินไปขึ้นรถ วันนี้เขาว่างทั้งวันว่าจะพาหญิงสาวไปเปิดหูเปิดตาเที่ยวให้เต็มที่ไปเลย วันๆเอาแต่เรียน ทำงาน อ่านหนังสือแล้วก็นอนวนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีเวลาไปผ่อนคลายบ้างเลย ต่อจากนี้ไปเขาจะเป็นคนทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต “หนูอยากกินอะไรคะ” “ก๋วยเตี๋ยวอาหารตามสั่งอะไรก็ได้ค่ะ” “เปลี่ยนบ้างสิ งั้นเอางี้เคยกินอาหารญี่ปุ่นมั้ย” “เคยกินราเมงค่ะเพื่อนชวนไป แต่ว่าราคามันแพงหนูก็เลยไม่ไปกินอีก” หญิงสาวจอมงกไม่มีทางเอาเงินมากมายขนาดนั้นไปกินของแพงหรอก ราเมงชามหนึ่งเป็นร้อยเธอเอาไปกินอย่างอื่นคุ้มกว่าอีก “งั้นพี่พาไปกินอาหารญี่ปุ่น เอาแบบโอมากาเสะเลยเป็นไง” “โอมากาเสะมันเป็นยังไงคะ แพงมั้ยถ้าแพงหนูไม่กินนะ” “พี่จ่ายหนูจะบ่นทำไม วันนี้ขออนุญาตเปย์เมียหนึ่งวัน” เขาอมยิ้มก่อนจะขับรถไปที่ร้านโอมากาเสะชื่อดังของจังหวัด ตัวเขาเองก็ไม่ได้มากินบ่อยหรอกมันแพงอย่างที่หญิงสาวพูดนั่นแหละ แต่ว่าเขาอยากจะทำอะไรกับเธอหลายๆอย่างและอะไรที่เธอยังไม่เคยลองเขาจะพาไปลองให้หมด “คุณต้องเก็บเงินนะคะอย่าใช้เงินเยอะจนเกินไป ไม่ต้องซื้ออะไรหรือพาไปกินอะไรแพงๆหรอก หนูกินง่ายอยู่ง่ายค่ะ” “งั้นเดือนหนึ่งเรากินของแพงวันเดียว โอเคตกลงตามนี้มั้ย” หญิงสาวนิ่งเงียบไปอย่างลังเล ถ้าเดือนละครั้งเธอก็พอรับได้นะแต่ถ้ากินบ่อยเธอไม่โอเคแน่นอน ถ้าเขาอยากจะพิสูจน์ตัวเองกับเธอการใช้เงินเยอะเกินไปก็มีส่วนในการพิจารณานะ ถึงแม้ว่าจะร่ำรวยมีเงินแต่เธอไม่โอเคถ้าเกิดว่าเขาไม่รู้จักเก็บออมรักษา “ตกลงค่ะเอาแบบนั้นก็ได้” “น่ารักที่สุดงั้นวันนี้จัดเต็มไปเลย” “แล้วหนูจะกินได้มั้ยคะ มันจะอร่อยมั้ย” เธอยังสงสัยโอมากะเสะของเขาอยู่ เห็นเรียนในเมืองดูเหมือนมีความรู้มากมาย แต่เรื่องแบรนด์เนมหรือของหรูหราเธอไม่ค่อยรู้จักเพราะชีวิตเอาแต่เรียนและทำงานเท่านั้น และคิดว่าถ้าเธอคุยกับชายหนุ่มน่าจะเปิดโลกใบใหม่ได้ไม่น้อย “หนูต้องชอบแน่นอนพี่มั่นใจ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD