เช้าวันต่อมา…
นับดาวนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนเตียงนอนจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง กลับกันสารวัตรมาวินกอดอดยืนมองเธอด้วยแววตาหวานฉ่ำ หญิงสาวหยิบหมอนมาปาใส่เขาก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองเพื่อเตรียมตัวกลับ เขาเดินไปกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังเอาคางเกยไว้บนไหล่กว้างก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
“หิวมั้ยไปหาอะไรกินกัน”
“ไม่กินค่ะไม่อยากกิน คุณอยากจะไปไหนก็ไปเลยค่ะหนูทำงานตามหน้าที่เสร็จแล้วและอย่าหวังนะว่าจะได้เชยชมเรือนร่างหนูอีก”
เธอจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่องแต่สารวัตรมาวินก็พยายามที่จะพูดดีกับเธอไม่อยากทะเลาะและไม่อยากให้หญิงสาวเกลียดไปมากกว่านี้
“ไม่เอาสิเรามาคุยกันดีๆมั้ย”
“คุยดีๆยังไง คุยกับคุณมันไม่ควรคุยดีๆต้องใช้กำลังคุย นี่แน่”
เธออ้าปากงับแขนของชายหนุ่ม เขาร้องลั่นออกมาเสียงดังก่อนจะหอมแก้มหญิงสาวอย่างหมั่นเขี้ยวสุดๆ เธอร้องกรีดออกมาดีดดิ้นอย่างโมโห
“อย่ามาแตะอั๋งหนูนะ”
“ก็หนูน่ารักน่าหอมอ่ะ”
“กรี๊ดดดดด พูดจาลวนลามใช้ไม่ได้”
เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมของชายหนุ่มแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ผลเพราะแรงของเขามันมากเกินไป นับดาวจึงตัดสินใจหยุดขัดขืนเพราะสู้ไปก็เท่านั้น
“แฮ่กๆ”
“ไง… ยอมแพ้ยัง”
“จะเอายังไงว่ามา หนูก็เหนื่อยจะทะเลาะกับคุณแล้วจะเอายังไงว่ามาเลยค่ะ”
นับดาวพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อไม่ให้ตัวเองโกรธ สารวัตรมาวินปล่อยเธอให้เป็นอิสระก่อนจะหันไปมองสบตาหญิงสาวและทำข้อตกลงกับเธอก่อน
“ไหนๆพี่ก็มีอะไรกับหนูแล้วอ่ะ งั้นพี่จะรับผิดชอบเองโอเคมั้ย”
“พี่เหรอ… เหอะ!”
นับดาวเบะปากใส่คำเรียกของชายหนุ่ม จะเรียกแทนตัวเองว่าพี่เรียกพ่อเรียกป๋ายังไงเธอก็ไม่ให้อภัยหรอก เขาทำเกินไปถึงแม้ว่าจะเป็นความผิดของเธอก็เถอะแต่ยังไงก็ไม่โทษตัวเองหรอก
“รู้ใช่มั้ยว่าการทำแบบนี้มันผิด เราไปหลอกเอาเงินเค้ามาวางยานอนหลับ รู้มั้ยว่ามันมีความผิดถ้าเค้าแจ้งความขึ้นมาหนูจะต้องถูกจับ”
“ก็ไม่เห็นมีใครแจ้งนี่คะ”
เธอลอยหน้าลอยตาไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเล็กน้อยอย่างเหนื่อยใจ ไม่รู้จะพูดยังไงให้หญิงสาวเข้าใจว่าสิ่งที่เธอทำมันผิด
“พี่เตือนด้วยความหวังดีนะนับดาว”
“เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เหรอไง เป็นตำรวจเหรอคะถึงมาผดุงความยุติธรรมแถวนี้ หนูผิดตรงไหนล่ะมีผู้ชายอยากได้อยากนอนด้วยแต่ไม่มีปัญญาทำได้เองแล้วจะโทษใคร”
“ดื้อ! จับกดอีกสักรอบดีมั้ย”
เขาขยับเข้าไปใกล้เธออีกครั้ง นับดาวรีบกอดหน้าอกตัวเองวิ่งไปหลบอยู่อีกฝั่งเพราะกลัวว่าจะถูกเขาจับกดลงเตียงอีกรอบ ตอนนี้ยังเจ็บไม่หายเลยร่างกายบอบช้ำไปหมดเพราะชายตรงหน้าคนเดียว
“อย่าเข้ามานะ”
“หยุดทำแบบนี้ได้แล้วขาดค่าเทอมเท่าไหร่บอกเดี๋ยวจ่่ายให้เอง”
“ไม่เอาหนูจะทำงานหาเงินเอง”
เธอไม่ยอมรับเงินจากเขาอีก ถ้ารับเงินมาเท่ากับว่าเขาจะมานอนกับเธออีกก็ได้ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเธอก็เข็ดแล้วเดี๋ยวต้องรีบออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินกินอีกไม่อย่างนั้นท้องขึ้นมาแย่แน่นอน
“ทีงี้ทำเก่ง เงินจะให้ฟรีๆไม่เอาไม่ต้องไปเสิร์ฟไม่ต้องไปหลอกใครด้วย อยากได้กี่บาทก็บอกจะให้”
“ทำไม… ถ้าหนูขอสองแสนคุณก็จะโอนให้เลยฟรีๆงั้นเหรอไง”
เธอสวนกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน ทำไมเขาจะต้องมาให้เงินเธอมากมายขนาดนั้นด้วย ตอนนี้เขาก็ได้ตัวเธอไปแล้วและไม่มีความจำเป็นต้องให้เงินเพิ่มอีก
“จะเอามั้ยล่ะ… แต่ว่าต้องรับปากว่าจะไม่ไปทำงานที่ร้านเหล้าอีกไม่ไปหลอกใครด้วย จะตั้งใจเรียนหนังสืออย่างเดียว”
“ชีวิตน่าเบื่อตายไม่เอาอ่ะ ไปทำงานเหมือนเดิมดีกว่าขอบคุณนะคะสำหรับน้ำใจแต่ไม่ขอรับไว้”
“ดื้อ!”
เขาเอ่ยออกมาเสียงดุ หญิงสาวเชิดหน้าใส่ชายหนุ่มก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักทันที สารวัตรมาวินเดินตามหญิงสาวไปก่อนจะกุมมือเธอไว้และเดินเคียงข้างกันไปไม่เร่งรีบ หญิงสาวพยายามสะบัดมือออกแต่เขาจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“เดินดีๆหน่อยอย่าดื้อ”
“หนูไม่เคยดื้อ”
“เหอะ! เถียงแบบนี้เค้าเรียกว่าดื้อ”
ทั้งสองคนเริ่มมีปากเสียงกันอีกครั้งหลังจากที่เหมือนจะสงบลงได้ สารวัตรมาวินทำการเช็คเอาท์จากนั้นก็พาหญิงสาวไปขึ้นรถก่อนจะพาไปส่งที่บ้าน
“รู้เหรอคะว่าบ้านหนูอยู่ที่ไหน”
“รู้สิ… เคยไป”
สารวัตรมาวินอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขับรถตรงไปยังบ้านของเธอ นับดาวนิ่วหน้าอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเธอ
และเมื่อมาถึงหน้าร้านข้าวแกงของแม่เธอ หญิงสาวก็รีบวิ่งลงจากรถแล้วเข้าไปหาแม่ข้างในก่อนเพราะกลัวว่าท่านจะเห็นว่าเธอนั่งรถผู้ชายมา สารวัตรมาวินเดินตามหญิงสาวลงมาด้วยว่าจะมาทักทายป้านับเงินสักหน่อยแล้วค่อยกลับ
“ตามมาทำไมเนี่ย”
“มาทักทายผู้ใหญ่”
“ไม่ต้องค่ะคุณกลับไปเลย… อ๊ะ”
“ไอ้นับดาวเมื่อคืนเอ็งไปค้างที่ไหนไม่กลับบ้านเดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่แล้วนะ ค้างที่ไหนก็โทรศัพท์มาบอกกันบ้างข้าเป็นห่วง”
นับเงินเห็นลูกสาวก็เดินเข้ามาบ่นทันที หาเงินเองทำงานเองเป็นหน่อยคิดจะทำตัวยังไงก็ได้เหรอไง เธอไม่ได้ละเลยลูกสาวสักหน่อยแต่ว่ารายนี้เค้าดื้อเองไม่ยอมขอเงินจะบอกว่าแม่ไม่สนใจไม่ได้เพราะช่วยเหลือแล้วแต่ไม่รับไว้เอง
“ขอโทษจ้ะแม่”
“คราวหน้าเอ็งโดนแน่ อ้าว… คุณสารวัตรมากินข้าวเหรอจ๊ะ ป้ายังทำไม่เสร็จเลยเหลืออีกหน่อยรอได้มั้ยล่ะ”
ป้านับเงินเห็นสารวัตรมาวินก็เอ่ยทักทายทันที นับดาวได้ยินคุณแม่เรียกชายหนุ่มก็หันขวับไปมองอย่างสงสัย
“แม่รู้จักเขาด้วยเหรอ… แล้วเมื่อกี้เรียกว่าอะไรนะ”
เธออาจจะฟังผิดไปเพราะฉะนั้นลองถามอีกครั้งดีกว่าเพื่อความชัวร์ คุณแม่ดึงลูกสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะพาไปแนะนำให้ชายหนุ่มรู้จัก
“เอ็งรู้จักไว้สิ นี่คุณสารวัตรเพิ่งย้ายมาประจำการที่อำเภอเรา นี่นับดาวลูกสาวของป้าเองจ้ะ”
หญิงสาวอ้าปากค้างอย่างตกใจ ผู้ชายที่มีความสัมพันธ์กับเธอเมื่อคืนเป็นตำรวจแถมยังเป็นสารวัตรอีก เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แท้ๆแต่กลับมารังแกประชาชนตาดำๆอย่างเธอเนี่ยนะมันหน้านัก
“สารวัตรเหรอ… เหอะ! เหอะ!”
หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออกยิ่งเห็นใบหน้าของเขาที่ยักคิ้วกวนประสาทเธอก็ยิ่งหมั่นไส้อยากจะต่อยหน้าให้หายแค้น นับเงินตีมือลูกสาวก่อนจะสั่งให้เคารพผู้ใหญ่จะได้ดูมีมารยาท
“ไหว้พี่เค้าสิลูก”
“ทำไมหนูต้องไหว้ด้วยจ๊ะแม่”
เธอส่ายหน้าปฏิเสธทันที คุณแม่ตีลูกสาวหลายทีเพื่อเรียกสติ เขาเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่ายังไงก็ต้องทักทายทำความเคารพมันเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว
“ยัยเด็กคนนี้นี่ แม่ไม่เคยสอนให้นิสัยแบบนี้เลยนะ”
“แม่อ่ะ!”
“เร็วๆ”
เธอดีดดิ้นไปมาอย่างขัดใจก่อนจะยกมือไหว้เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“สวัสดีค่ะ”
เธอไหว้ชายหนุ่มอย่างจำใจทำ สารวัตรมาวินหลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะรับไหว้หญิงสาวด้วยความเต็มใจ
“ไหว้พระเถอะน้องนับดาว”
“หนูไปก่อนนะจ้ะแม่ อยู่ตรงนี้อารมณ์เสียอากาศมันเป็นพิษ”
เธอบ่นออกมาก่อนจะจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง เธอกระทืบเท้าปึงปังเข้าไปในบ้านอย่างขัดใจ นับเงินมองตามลูกสาวไปก่อนจะส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนจะหันไปมองชายหนุ่ม
“ไปกินรังแตนที่ไหนมา… เฮ้อ ป้าขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะจ้ะ ปกติเป็นเด็กน่ารักกว่านี้นะ”
“ไม่เป็นไรครับงั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า เดี๋ยวกลางวันจะมากินข้าวนะครับ”
“ได้เลยจ้ะคุณสารวัตร”
เขายกมือไหว้บอกลาป้านับเงินก่อนจะอมยิ้มเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปแกล้งหญิงสาวด้วย ถามว่าได้เบอร์มาจากไหนก็ตอนที่เธอแอบหลับไง เขากดโทรออกเรียบร้อยรวดเร็วทันใจมากเลยแหละ
‘กลางวันนี้มากินข้าวด้วยกันนะหนูน้อย’
‘คุณมีเบอร์หนูได้ยังไง… มีได้ยังไงก๊อนนนนน’