บทที่ 1 บทนำ
ใจกลางเมืองฟลอเรนซ์ยามค่ำคืนโรแลนด์กำลังดื่มด่ำเครื่องดื่มราคาแพงที่ทำให้มึนเมากับสาวสวยข้างกายสองคน คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขาเรียกใช้บริการจากผับเอนเนร่า สองสาวทำหน้าที่ของตนได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะเอลิซ่าสาวสวยผมยาวสุดเซ็กซี่ที่วันนี้ถูกอกถูกใจเขามาก คืนนี้เขาอยากไปต่อกับเธอ
“คุณโรแลนด์คะ ไล่ฮาสน่าออกไปอย่างนั้นใจร้ายจังเลยนะคะ”
“ใจร้ายหรอไม่นิ ฉันชอบใครคนนั้นก็อยู่ส่วนคนที่ไม่ชอบก็ต้องออกไปมันถูกแล้วไม่ใช่หรอ” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงสบายๆฟังดูไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร
“โอเคค่ะว่าแต่คืนนี้เราจะไปไหนกันต่อหรอคะ ไปที่ห้องของคุณโรแลนด์หรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามออกไปตาเป็นประกายเพราะเธอไม่เคยได้ยินข่าวเลยว่าเขาพาผู้หญิงคนไหนขึ้นเตียงที่คอนโดส่วนตัว แต่ถ้าเธอจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้นเธอก็ยินดีเป็นอย่างมาก
“พื้นที่ส่วนตัวแบบนั้นฉันไม่ให้ใครเข้าไปง่ายๆหรอกนะคืนนี้เราจะไปที่โรงแรมกัน” ชายหนุ่มตอบกลับน้ำเสียงนิ่งๆไม่ได้สนใจหญิงสาวข้างกายว่าจะรู้สึกอย่างไร
“ค่ะคุณโรแลนด์” เธอตอบกลับน้ำเสียงเบาหวิว เธอก็คงจะเป็นของเล่นอีกชิ้นของเขาสินะ ความหวังที่วาดฝันเอาไว้พังทลายลง เธอหวังอยากจะเป็นผู้หญิงที่เขารักแต่มันคงเป็นได้แค่ในความคิดของเธอคนเดียว
“ดีมากที่เชื่อฟัง” ชายหนุ่มเปิดประตูห้องเข้าไปจากนั้นก็พลักหญิงสาวให้ล้มลงบนเตียงกว้างด้วยความรีบร้อนอยากจะปลดปล่อยความต้องการที่มีอยู่ภายในให้หมด
“ไม่ต้องใส่ไม่ได้หรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามขัดจังหวะเมื่อเห็นเขาเตรียมจะสวมใส่เครื่องป้องกัน
“เธอคิดว่าตัวเธอเองสะอาดพอสำหรับฉันไหมล่ะ” เขาถามกลับเสียงดังเพราะถูกขัดจังหวะ คำถามของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวหน้าตึง เธอไม่รู้จะตอบกลับเขาอย่างไร
“…”
“เงียบก็แปลว่ารู้ตัวเพราะฉะนั้นอย่าขัดอารมณ์ฉันอีกเด็ดขาดเข้าใจไหม” เขาตอบกลับเสียงเข้ม
“เข้าใจค่ะคุณโรแลนด์ เรามาต่อกันเถอะนะคะฉันรับรองว่าจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังคุณทุกอย่างเลยค่ะ” เขาไม่รอช้ารีบจัดการสาวสวยตรงหน้าทันที หลังจากที่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้วเขาก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำทิ้งให้สาวเจ้านอนเปลือยกายอย่างโดดเดี่ยวอยู่บนเตียงกว้างพร้อมกับเช็คธนาคารที่ระบุจำนวนอยู่ไม่น้อยเลย
“ชิ ไม่ได้ใจแต่ฉันก็ได้ตัวกับเงินของคุณแล้วกัน แค่นี้ฉันก็ไปเม้ามอยกับสาวๆได้แล้ว คิกๆ” หญิงสาวหัวเราะชอบใจเบาๆ หลังจากออกมาจากห้องน้ำชายหนุ่มก็เก็บข้าวของสำคัญแล้วเดินออกจากห้องไปเลย
“เชิญครับคุณโรแลนด์” บรูโนผู้ช่วยของชายหนุ่มเปิดประตูรถให้ผู้เป็นนาย
“ขอบใจมากขับไปบริษัทเลยนะบรูโน”
“ครับผม”
สายได้รายงานมาว่าวันนี้หลานชายคนเดียวของคุณ วาดิมนั้นได้หอบหิ้วสาวสวยสุดเซ็กซี่เข้าโรงแรมอีกตามเคย ท่านรู้สึกว่าหลานชายคนนี้เหมือนกับท่านตอนหนุ่มๆไม่มีผิด ทั้งเรื่องการดื่มและเรื่องของสาวๆแต่ชีวิตของท่านก็เปลี่ยนไปหลังจากที่ท่านแต่งงานกับคู่หมั่นที่คนเป็นพ่อหามาให้ แม้ว่าจะแต่งงานทั้งที่ไม่ได้มีความรักต่อกันแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปทั้งสองได้ปรับตัวเข้าหากันและเกิดเป็นความรักในที่สุด ท่านมีลูกชายหนึ่งคนนั่นก็คือบิดาของโรแลนด์ แต่ลูกชายและลูกสะใภ้ชั่งมีบุญวาสนาน้อยเหลือเกินทำให้ต้องจากโลกนี้ไปทั้งแต่โลแลนด์อายุได้เพียงสิบขวบ แน่นอนว่าเด็กสิบขวบนั้นสามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆได้ทั้งหมด
“หลานชายของฉันไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ กี่ปีแล้วนะ”
“คุณโรแลนด์ใช้ชีวิตอย่างนี้มาห้าปีแล้วครับหลังจากที่คุณ อะเอ่อ ผมไม่ควรเอ่ยชื่อเธอ”
“อย่าเอ่ยถึงผู้หญิงหน้าเงินอย่างนั้นเลยดีกว่า” เขาไม่คิดเธอว่าจะมีสาวคนไหนกล้าหักหลังหลานชายอย่างไม่ใยดี
“ครับท่าน”
“ขอบใจมากที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวของโรแลนด์ให้ฉัน”
“ครับท่าน”
“ไปพักเถอะฉันเองก็จะพักบ้างแล้วเหมือนกัน พ่อแก่ตัวลงอะไรๆก็ไม่ดีเหมือนเก่า จริงไหมที่รัก” วาดิมคว้ากรอบรูปบนหัวเตียงที่ภาพในมีรูปของตนกับภรรยาอันเป็นที่รักที่ได้จากโลกใบนี้ไปเมื่อสามปีก่อน เขาทั้งคิดถึงและโหยหาเธอทุกวัน กว่าจะหลับตาลงได้ในแต่ละคืนเขาก็ต้องหยิบกรอบรูปนี้มาจ้องมองและระบายเรื่องราวต่างๆที่เจอมาในแต่ละวันให้ภรรยาผู้ล่วงลับฟังแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อสารแต่เขาก็รู้สึกสบายใจที่ได้ทำแบบนั้น
จบสักทีฉันรอวันนี้มานานแล้ว วันที่ฉันจะทำให้คุรพ่อคุรแม่ได้ภูมิใจ หญิงสาวก้มมองใบปริญญาในมือที่กว่าจะคว้ามาครอบครองได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมันต้องแลกกับความพยายามและความอดทนของเธอ
งานเลี้ยงฉลองวันเรียนจบปริญญาของแอนเธียถูกจัดขึ้นที่บ้านพักซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณสิบกิโลเมตร เธอและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ประมาณห้าปีแล้วเพราะคุณแม่ของเธอท่านมีอาการป่วยต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์คุณหมอเลยแนะนำให้ย้ายออกไปจากตัวเมือง และก็เป็นอย่างที่คาดไว้อาการของแม่เธอดีขึ้นมาก ท่านมีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตกับธรรมชาติได้ปลุกผักสวนครัวได้เลี้ยงปลาสวยงามดูแลชีวิตนี้ชั่งสุขสันต์
“อาหารฝีมือคุณแม่อร่อยที่สุดในโลกเลยค่ะ ไม่ว่าจะไปทานร้านไหนก็สู้คุณแม่ไม่ได้เลย เชื่อไหมคะว่าเปิดร้านได้เลยนะคะ”
“จ้ะลูกชอบแม่ก็ดีใจแล้ว” หญิงสาวโผเข้ากอดคนเป็นแม่อย่างรักใคร่ ท่านกอดตอบเธอด้วยความรักเช่นกัน
“ลูกของพ่อยังอ้อนแม่เป็นเด็กอยู่เลยนะลูก”
“อยู่กับคุณพ่อคุณแม่หนูก็ยังเป็นเด็กตลอดไปนั่นแหละค่ะ จริงไหมคะ”
“ฮ่าๆ” ผู้เป็นพ่อหัวเราะชอบใจ
“ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะโดยเฉพาะคุณแม่คนสวยของหนู” แอนเธียส่งยิ้มให้แอนดาผู้เป็นมารดา แม่เฝ้าดูแลฟูมฟักเธอจนเติบใหญ่ด้วยความรัก
“ยินดีกับหนูแอนเธียคนสวยของพ่อนะลูก”
“ค่ะ หลังจากนี้แอนเธียจะดูแลคุณพ่อคุรแม่เองค่ะ”
“พ่อกับแม่ดูแลตัวเองได้น่ะลูก พ่อมีคนอยากให้ลูกได้ดูแล”
“ใครกันคะคุณพ่อ” หญิงสาวเอียงคอถามอย่างสงสัย เธอไม่รู้ว่าคนที่คนเป็นพ่อกำลังพูดถึงคือใคร
“ผู้มีพระคุณของพ่อเองท่านคือคุณวาดิม”
“คุณวาดิมหรอคะ เขาทำไมมาเป็นผู้มีพระคุณของเราได้ละคะหนูไม่เคยได้ยินชื่อของคุณวาดิมมาก่อนเลยค่ะ”
“ก็ตอนนั้นหนูยังเล็กไงลุก เรื่องมันมีอยู่ว่า...” พ่อของเธอเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังว่าก่อนที่เขาจะมาเมืองไทยเขาเคยทำงานกับคุณวาดิมที่บริษัทผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เขาถือว่าเป็นมือซ้ายของคุณวาดิมที่คอยช่วยเหลือท่านทุกอย่าง จนวันนึงเขาได้พบรักกับหญิงไทยคนนึง เธอมาทำงานที่ร้านอาหารกลางเมืองฟลอเรซ์ เขาและเธอคบกันมาระยะหนึ่งเธอก็ตั้งครรภ์ ตลอดเวลาทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีจนกระทั่งใกล้ถึงกำหนดคลอดของแอนนา หญิงสาวครรภ์เป็นพิษต้องได้รับการดูแลที่ใกล้ชิดจากแพทย์เพื่อช่วยประคองการตั้งครรภ์ให้ปลอดภัย เธอต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาลทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา เขายอมรับเลยว่าเงินจำนวนนั้นเขาไม่มีแต่ผู้เป็นนายอย่างวาดิมรับรู้ปัญหาของเขามาตลอดจึงยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งๆที่เขายังไม่ได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือ หญิงสาวใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนลูกสาวอายุได้ประมาณห้าขวบเธอรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยจึงให้ผู้เป็นสามีย้ายมาอยู่เมืองไทยด้วยกัน วาดิมแม้จะรู้สึกใจหายแต่ก็เข้าใจคนทั้งคู่จึงอนุญาตให้ทั้งสองและลูกสาวได้ใช้ชีวิตอิสระตามที่ใจต้องการ ท่านดีกับครอบครัวเรามากและในเวลานี้ท่านก็อายุมากแล้วเขาจึงอยากให้ท่านมีคนดูแล
“นึกถึงตอนนั้นแล้วผมก็ขอบคุณคุณจริงๆนะแอนนาที่อดทนเพื่อลูกสาวของเรา” เขารูดีว่าภรรยาต้องอดทนมากแค่ไหน
“ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อคุณกับลูกค่ะ ฉันทนได้ทุกอย่างจริงๆค่ะไม่ว่าจะร้ายหรือดีแค่ไหน”
“หนูขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากๆเลยนะคะที่รักและดูแลหนูมาอย่างดี หนูยินดีที่จะไปดูแลคุณวาดิมตามที่คุณพ่อต้องการค่ะ ถ้าคุณวาดิมเขามีพระคุรกับเราสามคนพ่อแม่ลูกหนูก็จะดูแลเขาอย่างดีเลยค่ะ” เธอตกลงทำตามด้วยความเต็มใจ
“ขอบใจมากนะลูก นี่ลูกไม่ได้ฝืนใจใช่ไหม”
“ไม่ได้ฝืนใจเลยค่ะลูกดีใจซะอีกที่ได้ไปดูแลท่านบ้าง” เธอไม่ได้ฝืนใจแถมยังรู้สึกดีใจที่ได้ตอบแทนพระคุณ ฟังจากที่คนเป็นพ่อเล่าแล้วช่วงเวลานั้นในอดีตพวกท่านคงจะทั้งเครียดทั้งกังวลแต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้เพราะได้รับการช่วยเหลือจากคุณวาดิมคนนี้ อนาคตไม่รู้อย่างไรแต่เธอจะขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
ณ สนามบิน
“คุณพ่อคะรักษาสุขภาพด้วยนะคะหนูฝากคุณแม่ด้วยค่ะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกนะลูกแม่อยู่กับพ่อลูกสบายใจได้เลย”
“มันอดห่วงไม่ได้นี่คะ ยังไงหนูจะโทรมาหาบ่อยๆนะคะ” พอเอาเข้าจริงเธอก็อดเป็นห่วงพ่อและแม่ไม่ได้ในยามที่เธอต้องห่างไกลแล้วใครจะคอยดูแลท่านทั้งสองคน
“จ้ะลูก รีบเดินทางเถอะเดี๋ยวจะตกเครื่องนะจ๊ะ” คนเป็นแม่เข้าใจลูกสาวดีแต่ว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การสิ้นสุดแต่มันคือการเริ่มต้นตั้งหาก
“จริงด้วยค่ะงั้นหนูไปแล้วนะคะ” หญิงสาวรู้สึกใจหายไม่น้อยที่ต้องห่างจากบุคคลอันเป็นที่รัก เธอเคยเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวแต่ครั้งนี้แตกต่างตรงที่เธอจะต้องไปอยู่ที่นั่นนานหลายปี เธอคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ของตนมากๆแม้ท่านจะบอกเอาไว้ว่าหากมีโอกาสท่านจะบินมาหาเธอที่นี่ เมื่อว่าถึงที่เมืองฟลอเรนซ์เธอก็ตกหลุมรักเมืองนี้ทันที เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยงามและน่าอยู่มากในความคิดของเธอ มันโรแมนติกมากเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฉากนิยายเรื่องๆหนึ่ง
“ว้าว สวยมากๆเลย” หญิงสาวยกกล้องในมือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บความสวยงามนี้เอาไว้ด้วยตนเอง เะอรู้สึกหลงรักที่นี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสกับตาของตนเอง ในภาพถ่ายตามอินเทอร์เน็ตว่าสวยแล้วแต่สู้ของจริงไม่ได้เลย
“ไม่ทราบว่าฉันจะเดินทางไปที่นี่ได้อย่างไงคะ” เธอถามทางจากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งดูท่าทางใจดี
“เธอคงจะมาทำงานที่นั่นสินะ”
“ใช่ค่ะคุณพอจะรู้เส้นทางไหมคะ”
“อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เรายืนอยู่หรอกนะสาวน้อย เธอเดินตรงไปจนสุดทางแล้วเลี้ยวขวาอีกราวๆสองร้อยเมตรแค่นั้นก็ถึง ว่าแต่เธอเดินไหวไหมล่ะ”
“ไหวอยู่แล้วค่ะขอบคุณมากๆเลยนะคะ” หญิงสาวรู้สึกโชคดีมากที่บ้านหลังนั้นอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เธอยืนอยู่ เมื่อมาถึงจุดหมายเธอก็ต้องตกตลึง อย่าเรียกมันว่าบ้านเลยมันสมควรเรียกว่าคฤหาสน์ และไม่ใช่คฤหาสน์ธรรมดาแต่มันคือคฤหาสน์ในความฝันของใครหลายๆคน
“ใหญ่โตชะมัดเลย” หญิงสาวตื่นตาตื่นใจมากๆเธอชอบที่นี่จังเหมือนภาพวาดเลย มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร
“มาหาใครกันจ๊ะแม่หนู” คุณป้าท่านหนึ่งเอ่ยทักทายเธอ
“อะ เอ่อ สวัสดีค่ะ หนูมาหาคุณวาดิมค่ะคุณป้า”
“มาหาคุณท่านหรอ หนูชื่ออะไรจ๊ะ”
“หนูชื่อแอนเธียค่ะ เพิ่งเดินทางมาจากประเทศไทยค่ะ”
“นี่หนูแอนเธียจริงๆหรอเนี่ย โตขึ้นเยอะเลยนะจ๊ะ”
“คุณป้ารู้จักหนูด้วยหรอคะ” คุณป้าพุดเหมือนกับว่ารู้จักหญิงสาวมานาน
“รู้จักสิ รู้จักดีเลยล่ะ ป้าชื่อโรซี่จ้ะเคยเห็นหนูตั้งแต่แรกเกิดนั้นแหละ พ่อของหนูเอนโต้สบายดีใช่ไหมจ๊ะ”
“สบายดีค่ะ” เธอรู้สึกเหมือนได้เจอญาติสนิททำให้เธอรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นที่ต้องอยู่ที่นี่
“แล้วแอนนาละจ๊ะ”
“คุณแม่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงค่ะแต่คุณพ่อท่านก็ดูแลคุณแม่อย่างดีค่ะ”
“ขอให้แม่ของหนูหายไวๆนะจ๊ะ พ่อเขารักแม่หนูมากป้ารู้ดี ไปจ้ะเข้าไปข้างในกันดีกว่าป้าชวนคุยซะนานเลย เมื่อยแย่”
“ค่ะคุณป้าโรซี่” โรซี่ให้หญิงสาวรอที่ห้องนั่งเล่นจากนั้นตนเองก้รีบเดินไปบอกข่าวดีกับคุณท่านของบ้าน
“คุณท่านคะ ทายสิคะว่าใครมา”
“ใครกันล่ะ บ้านนี้ไม่ได้มีใครมาตั้งนานแล้ว หรือว่าจะเป็นหลานชายตัวดีของฉันมาเยี่ยมฉัน วันนี้ฝนคงจะต้องตกแน่ๆ”
“ไม่ใช่ค่ะ” โรซี่ส่ายหัวไปมาเบาๆแล้วก็อมยิ้ม
“หรือว่าจะเป็น...”
“ใช่แล้วค่ะ” โรซี่พยักหน้ายิ้มๆ
"ไปตามหนูแอนเธียมาเร็วเข้า"
"ค่ะ"
“มาๆเข้ามาก่อนเร็วหนูแอนเธีย”
“สวัสดีค่ะคุณท่าน” เธอยกมือไหว้ท่านอย่างนอบน้อม แต่ก็ต้องสงสัยเพราะคุณท่านจู่ๆก็หัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ”ท่านหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขหญิงสาวมึนงงไปหมดว่ามีอะไรน่าหัวเราะกันนะ
“คุณท่านอะไรกันล่ะ เรียกฉันว่าคุณปู่เถอะนะหนู”
“อะ เอ่อค่ะคุรท่าน เอ้ย! คุณปู่”
“เดินทางมาลำบากไหมจะให้คนรถไปรับพ่อของหนูก็บอกว่าหนูจะมาที่นี่เอง”
“ไม่ลำบากเลยค่ะคุณปู่หนูชอบการเดินทางวะอีกค่ะ ที่นี่สวยมากเลยนะคะเหมือนภาพวาดเลยค่ะ” หญิงสาวตอบกลับใบหน้ายิ้มแย้ม วาดิมคิดในใจว่าที่นี่กำลังจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแล้วสินะ สาวน้อยตรงหน้าจากที่แห่งนี้ไปนานเหลือเกิน
“ปู่มีรูปหนูตอนเด็กๆให้ดูด้วยนะ”
“จริงหรอคะ ไหนคะหนูอยากเห็นแล้วค่ะ” รูปตอนเด็กที่เมืองไทยเะอมีไม่มากพอคุณปู่บอกว่ามีรูปของตนก็อยากจะเห็นมันทันที
“ตามมาสิ”
“ว้าวหนูตัวเล็กมากเลยค่ะ นั่นคือคุณปู่ใช่ไหมคะ” คุณปู่วาดิมกำลังอุ้มแอนเธียในวัยแบเบาะบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่
“ใช่แล้ว ตอนนั้นหนูยังแค่ไม่กี่เดือนเอง”
“ตอนหนุ่มๆคุณปู่หล่อมากเลยค่ะ ”
“ฮ่าๆจริงรึ แต่ก็มีสาวๆเข้ามาหาปู่เยอะนะ” คุณปู่ตอบกลับยิ้มๆ โรซี่ที่ยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าได้แต่ยืนยิ้มเพราะไม่ได้เห็นผู้เป็นนายยิ้มเต็มใบหน้ามานานแล้ว ด้านวาดิมนั้นก็รู้สึกถูกชะตากับแอนเธียเป็นอย่างมากเช่นกัน
“ตื่นเช้าจังเลยลูก”
“คุณปู่มาทานอาหารเช้าก่อนนะคะหนูตั้งใจทำเพื่อคุณปู่เลยค่ะ”
“ขอบใจมากนะลูกแต่เอ๊ะ!”
“ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะวันนี้หนูทำอาหารไทยให้คุณปู่ทานค่ะ”
“ขอบใจมากนะลูก แต่ความเป็นจริงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ก็ได้เพิ่งเดินทางมาถึงแท้ๆ”
“ไม่เหนื่อยเลยค่ะคุณปู่ลองชิมหน่อยนะคะว่าสู้ฝีมือของคุณแม่หนูได้หรือเปล่า ท่านสอนหนูมาน่ะค่ะ”
“จริงด้วยสิเมื่อก่อนน่ะแม่ของหนูมักจะทำเมนูอร่อยๆให้ปู่ทานเป็นประจำ แต่พอย้ายกันออกไปแล้วก็…”
“หนูมาแทนแล้วไงคะ ลองชิมหน่อยนะคะ”
“โอเคๆปู่จะทานแล้วนะ โอ้โห้ไม่ธรรมดาจริงๆอร่อยมาก”
“จริงหรอคะ ขอบคุณค่ะ” เธอดีใจที่ท่านชอบ
ณ บริษัท
“โทรมาตามฉันอีกแล้วสินะ”
“ไม่ใช่ครับนี่สายของลูกค้าครับ”
“อืม ขอบใจมาก” ชายหนุ่มรู้สึกแปลกไปเมื่อรู้สึกว่าคนเป็นปู่ไม่คอยโทรตามโทรจิกเขาเหมือนแต่ก่อน ในใจกับคิดไปไกลว่าหรือท่านกำลังจะป่วยแล้วไม่อยากให้เขารับรู้ วันนี้เขาเลยคิดว่าต้องเข้าไปหาท่านบ้างหลังจากที่ไม่ได้พบหน้าท่านมาหลายเดือนแล้ว หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาก็บอกกับบรูโนว่าวันนี้จะเดินทางไปหาคุณปู่ที่บ้าน บรูโนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจัดการธุระให้เขาทุกอย่างแม้กระทั่งเป็นคนขับรถ
“ได้เลยครับคุณโรแลนด์” เมื่อเดินทางมาถึงเขาก้ได้ยินเสียงหัวเราะมีความสุขของคนเป็นปู่ก่อนเสียงอื่นใดเลย แต่ที่น่าแปลกใจคือมีเสียงของผู้หญิงกำลังพูดคุยเจื้อยแจ้วกับท่านอย่างออกรส
“ใครกันนะหรือปู่จะหาสาวมาอยู่ถึงในบ้าน” เขาคิดไปต่างๆนาๆ
“อ้าวคุณโรแวนด์จะมาทำไมไม่บอกป้าก่อนล่ะคะ ป้าจะได้จัดเตรียมของโปรดให้”
“ไม่เป็นไรครับผมแค่อยากแวะมาดูท่านซะหน่อยว่ายังสบายดีไหม”
“ตอนนี้คุณท่านกำลัง..”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมเข้าไปดูเอง”
“ค่ะๆ เดี๋ยวป้าไปเตรียมอะไรอร่อยๆให้ทานลองท้องนะคะ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องอาหารก้ได้กลิ่นหอมของอาหารที่มันแตกต่างไปจากอาหารพื้นเมืองของที่นี่ มันทั้งหอมทั้งฉุน
“ลมอะไรหอบมาได้ละเนี่ย”
“คุณปู่สบายดีนะครับเมื่อกี้ผมได้ยินคุณปู่คุณกับ..”
“คนดูแลของปู่นั่นแหละ”
“เธอไปไหนแล้วล่ะครับ”
“ไปเอายามาให้ปู่น่ะ”
“มาแล้วค่ะคุรปู่ ทานข้าวเสร็จแล้วต้องทานยานะคะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงใสโดยที่ยังไม่ทันได้มองว่าตอนนี้มีผู้มาใหม่หนึ่งคน ชายหนุ่มหันไปสบตากับหญิงสาวที่พูดเจื้อยแจ้วชวนคนเป็นปู่ของเขาทานยา
“อะ อ้าวคุณปู่มีแขกหรอคะขอโทษด้วยค่ะที่เสียงดังงั้นหนูวางเอาไว้ตรงนี้นะคะ” คุณปู่พยักหน้าเบาๆจากนั้นแอนเธียก็เดินจากไป
“เงียบหายไปแบบนี้ที่แท้ก็มีสาว”
“อย่าคิดอะไรอย่างนั้นนะ อย่าพูดอะไรให้หนูแอนเธียของฉันต้องเสียหาย”
“ฮ่าๆถึงกับต้องปกป้องกันเลยหรอครับ เอเป็นใครหรอครับปู่ถึงได้ดูเกรงใจขนาดนี้”
“สักวันแกก็จะรู้เองนั่นแหละ”
“บอกเลยไม่ได้หรอครับ”
“ไม่ ยังไม่ถึงเวลาหรอก” ยิ่งคนเป็นปู่ดูมีลับรมคมในเขาก็ยิ่งอยากจะเอาชนะท่านให้ได้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครข้อนี้เขาต้องหาคำตอบให้ได้แล้วจะได้รู้กัน
“ท่านอะไรหน่อยสิ”
“ผมอิ่มครับ”
“ลองสักหน่อยเหอะหน่า”
“เพราะปู่ขอร้องนะครับผมถึงได้ทาน”
“อืม อย่าวางท่านักเลยลองหน่อยเถอะ” โรแลนด์ตักอาหารตรงหน้าเข้าปากแล้วก็ต้องรู้สึกแปลกใจ รสชาติที่ได้สัมผัสมันชั่งคุ้นเคยซะเหลือเกินเหมือนว่าเขาเคยทานมันมาก่อน
“อร่อยใช่ไหมล่ะ”
“ก็พอได้ครับ คงเพราะไม่เหมือนกับอาหารบ้านเรา”
“จริงหรอ ไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ”
“ไม่นี่ครับ” คนปากแข็งตอบกลับอย่างสบายๆ
“งั้นก็แล้วไป สาวๆน่ะเบาลงหน่อยนะ”
“ฮ่าๆอย่าว่าผมเลยครับผมก็เหมือนปู่นั่นแหละจริงไหมครับ”
“นั่นมันเรื่องในอดีต แกก็รู้ว่าตั้งแต่ฉันแต่งงานกับย่าของแกฉันก็เปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว”
“ครับๆคุณปู่ของผมแสนดีกับคุณย่าเสมอ” หลังจากพุดคุยกันอีกนิดหน่อยโรแลนด์ก็ขอตัวกลับ แอนเธียเมื่อเห็นว่าแขกคนนั้นกลับไปแล้วจึงเดินกลับมาหาคุณปู่และพาท่านขึ้นไปพัก
หลังจากที่กลับมาจากบ้านของคุณปู่วาดิมชายหนุ่มก็เอาแต่คิดว่าผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นคือใครกันแน่ ยิ่งคนเป็นปู่ดูจะหวงเหมือนไข่ในหินขนาดนั่นยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะเธอให้ได้
“บรูโนฉันมีงานให้นายทำหน่อย นายไปสืบมาให้เร็วที่สุดว่าผู้หญิงที่อยู่กับคุณปู่คือใครกันแน่ ฉันอยากจะรู้นักทำไมท่านถึงได้พามาอยู่ด้วย”
“ได้เลยครับคุณโรแลนด์ จะจัดการให้เร็วที่สุดครับ” บรูโนรับคำสั่ง
“อ้าวคุณคนนั้นนี่เองมาหาคุณปู่หรอคะ” หญิงสาวเอ่ยทักชายหนุ่มยิ้มๆ ต้องการผูกมิตรด้วยเพราะเธอมาอยู่ต่างแดนไม่อยากมีปัญหากับใคร
“อืม”
“เดี๋ยวดิฉันไปตามให้นะคะ”
“เดี๋ยว” ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้หญิงสาวมากขึ้น เธอตกใจก้าวเท้าถอยหลังต้องการจะหนีแต่ก็ไม่พ้นเพราะตอนนี้แผ่นหลังบางของเธอแนบชิดกับกำแพงเสียแล้ว ใบหน้าของเขาห่างจากใบหน้าของเธอแค่เพียงคืบเดียวเท่านั้น ลมหายใจของเธอสะดุดเมื่อเขาสบตาเธอ กลิ่นหอมอ่อนๆของหญิงสาวตรงหน้าทำให้จิตใจของเขามันปั่นปวน ความรู้สึกด้านมืดที่ซ่อนอยู่ภายในเหมือนกำลังถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับใหล
“คะ คุณจะทำอะไรคะถอยออกไปหน่อยค่ะ ถ้าไม่ถอยฉันจะไปตามคุณท่านได้ยังไงละคะ”
“เธอกลัวฉันหรอ” เขาเธอสนุกที่เห็นเธอกลัวเขา
“คะ คุณเป็นใครกันแน่คะ คุณต้องการอะไรกันแน่” เธอถามออกไปเสียงสั่น ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนตัวเธอเหลือแค่นิดเดียวเหมือนว่าเธอเป็นลูกแกะแล้วเขาเป็นหมาป่าตัวโตที่พร้อมจะกัดกินเธอเข้าไปทั้งตัว
“เธอคิดว่าฉันเป็นใครล่ะถึงเข้านอกออกในบ้านนี้ได้สบายๆโดยไม่มีใครว่าน่ะ ฮึ” แววตาสั่นไหวดูก็รู้ว่าเธอกลัวเขาแค่ไหนยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบใจ
“ฉะ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละคะ ช่วยขยับออกไปด้วยค่ะไม่งั้นฉันจะตะโกนให้คนช่วย” ชายหนุ่มยิ้มขำเพราะผู้หญิงตรงหน้าจะจัดการปัญหาด้วยวิธีที่เด็กน้อยมากๆ คุณปู่เห็นหญิงสาวหายไปนานเลยเดินมาดูเสียหน่อย ปรากฎว่าเจ้าหลานชายกำลังทำท่าคุกคามหญิงสาวอยู่ ทำให้ท่านรู้สึกไม่พอใจ
“ตาโรแลนด์แกจะทำอะไรน่ะ” คุณปู่วาดิมเอ่ยเสียงเข้ม
“ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยครับคุณปู่” ชายหนุ่มยกมือขึ้นสองข้างจากนั้นก็ค่อยๆถอยห่างจากหญิงสาว
“คะ คุณปู่หรอคะ นะนี่..” เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าผู้ชายคนนี้คือหลานชายคนเดียวของคุณปู่วาดิม
“ใช่ ฉันชื่อโรแลนด์เป็นหลานชายของคุณปู่วาดิมของเธอน่ะ เธอนี่ไม่รู้จักศึกษาข้อมูลมาก่อนเลยนะ” เธอหันไปมองหน้าท่านท่านก็พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ
“หนูแอนเธียมาหาปู่มา อย่าทำกับน้องแบบนี้อีกเข้าใจไหม อย่ามาวางอำนาจที่นี่”
“ครับๆ เข้าใจแล้วครับ” ชายหนุ่มยอมปล่อยเธอ เธอรีบเดินไปหลบด้านหลังของคุณปู่ทันที
“วันนี้มีอะไรถึงมาที่นี่ได้”
“ผมจะแวะมาหาเฉยๆไม่ได้แล้วหรอครับ”
“หึ เพราะมันผิดปกติมากๆเลยยังไงล่ะ ปกติฉันต้องคอยโทรตามถึงจะโผล่มาได้” ทั้งปู่ทั้งหลานไม่มีใครยอมใครต่างเจ้าเลหืกันทั้งคู่ทำให้ทั้งสองฝ่ายแค่มองตาก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“แกจะมาทำตัวลุ่มล่ามกับหนูแอนเธียของฉันไม่ได้ เข้าใจที่ฉันพูดไหม”
“.....”
“เข้าใจไหม” คุณปู่เอ่ยย้ำเสียงเข้ม
“คร๊าบบบ ผมคงตกกระป๋องแล้วใช่ไหม นี่เธอเป็นญาติเราหรอครับ”
“แน่ล่ะสิก่อนหน้านี้แกเคยสนใจฉันบ้างไหมล่ะ ไม่เคยน่ะสิ หนูแอนเธียน่ะไม่ใช่ญาติของเราแต่ก็เหมือนญาติของเราเข้าใจไว้ด้วย”
“โถว่คุณปู่ก็รู้นี่ครับว่าผมน่ะงานยุ่งขนาดไหนถึงได้ไม่มีเวลาแวะมาหา”
“งานหรือว่าสาว ข้ออ้างทั้งนั้น”
“กะ ก็ทั้งสองอย่างนั้นแหละครับ” เขาตอบกลับเสียงอ่อน แต่ก่อนที่จะได้พูดคุยอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มก็ดังขึ้นขัดจังหวะ เขาขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอก
“หลานปู่มันทำอะไรหนูหรือเปล่า”
“ปะ เปล่าค่ะคุณปู่มาช่วยหนูเอาไว้ก่อนค่ะ” เธอรู้สึกโล่งใจมากๆที่เขาเดินห่างออกไปทำธุระด้านนอก
“หนูรีบไปพักผ่อนเถอะวันนี้ไม่ต้องดูแลปู่แล้ว ไปเถอะไปลูก”
“ค่ะ แต่ถ้าคุณปู่ต้องการเรียกใช้หนูเรียกใช้ได้เลยนะคะ”
ชายหนุ่มหน้าเครียดหลังจากวางสายจากลูกน้องไปเพราะว่าลูกน้องรายงานว่าสินค้าที่ถูกจัดส่งไปนั้นมีปัญหาเกิดขึ้นทำให้เขาต้องรีบกลับไปจัดการ
“มีอะไรหรือเปล่าโรแลนด์” ท่านสังเกตุถึงความผิดปกติของหลานชาย
“เกิดปัญหานิดหน่อยครับคุณปู่ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ” เขาจะต้องจัดการปัญหาเองไม่อยากให้ท่านต้องมากังวลไปด้วย
“ปู่เชื่อว่าหลานจัดการได้”
“ครับงั้นผมคงต้องขอตัวไปจัดการอะไรก่อน”
‘ไปเถอะยังไงก็บอกปู่ด้วยนะ อย่าเก็บความกังวลใจไว้คนเดียว”
“ครับคุณปู่”
ณ บริษัท
“เกิดเรื่องนี้ได้ยังไง ของขาดไปเท่าไร” โรแลนด์ถามออกไปด้วยความสงสัยอยากจะรู้ว่าความผิดพลาดครั้งนี้มันเป็นยังไงกันแน่ แล้วใครกันที่อยู่เบื้องหลัง ใครกันที่จ้องจะทำลายเขาให้ต้องได้รับความเดือดร้อน
“ขาดไปสิบสามชิ้นครับ”
“แล้วรู้หรือยังว่าผิดพลาดที่ขั้นตอนไหนไปเรียกคนที่เกี่ยวข้องมาเดี๋ยวนี้”
“ครับ”
“คุณพอจะตอบได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มเอ่ยถามพนักงานสาวเสียงเข้ม ยังไม่อยากที่จะตำหนิเขาอยากที่จะรู้ความจริงมากกว่า
“อะ เอ่อ” เธอดูเป็นกังวลมากๆ
“คุณไม่ได้มีการตรวจนับก่อนส่งมอบหรอ” ชายหนุ่มถามย้ำ
“มะ มีค่ะ”
“หึ มีแล้วทำไมยังเกิดปัญหาขึ้นมาได้ ตอบผมมาเดี๋ยวนี้”
“อะ เอมี่ขอโทษค่ะ”
“คุณจะขอโทษผมทำไม คุณต้องแก้ปัญหานี้ให้ได้สิ หรือว่าคุณมีอะไรจะสารภาพ”
“เอมี่ขอโทษค่ะเอมี่ได้รับคำสั่งมาให้ส่งสินค้าไปแค่นั้น” เอมี่รีบบอกความจริงเพราะรู้สึกกลัว
“ใครสั่ง!” ชายหนุ่มามกลับเสียงดัง
“คะ คุณนาธานค่ะ” เธอตอบกลับตะกุกตะกัก
“ไอ้นาธานมันมาเกี่ยวอะไรด้วย”
“นายครับผมรู้แล้วครับว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่” บรูโนรีบวิ่งเข้ามาในห้องเพราะตอนนี้เขาทราบความจริงแล้วว่ามีหนอนบ่อนไส้
“ว่ามา”
“เอมี่คือคนที่นายนาธานให้แฝงตัวเข้ามาทำให้บริษัทของเราเสียหายครับ”
“เธอรู้ใช่ไหมว่าหลังจากนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น”
“เอมี่ขอโทษค่ะ คุณโรแลนด์อย่าทำอะไรเอมี่เลยนะคะเอมี่จะช่วยคุณเองค่ะ เลือกทุกอย่างเอมี่มีทางออกแถมคุณยังได้แก้แค้นคุณนาธานด้วยนะคะ”
“ฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง”
“นายครับอย่าไปเชื่อเธอเลยครับ” บรูโนคิดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย
“เอมี่จะพิสูจน์ให้คุณเห็นเองค่ะ เอมี่อยากหลุดพ้นจากคุณนาธานแล้วค่ะ”
“ฉันจะลองเชื่อใจเธอสักครั้ง”
นาธานเจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และเจ้าพ่อธุรกิจอื่นๆอีกมากมายที่สำคัญเป็นคู่แข่งลำดับต้นๆกับบริษัทของโรแลนด์ในเวลานี้กำลังนั่งหัวเราะอย่างมีความสุขหลังจากที่สายรายงานมาว่าหญิงสาวที่เขาส่งให้เข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ภายในบริษัทของโรแลนด์ทำงานสำเร็จเป็นที่น่าพอใจมาก
“ฮ่าๆวันนี้มันมีความสุขจริงๆ” นาธานหัวเราะออกมาอย่างสะใจ เขารอเวลานี้มานานแล้ว
“นายครับฝ่ายนั้นเสียหายไปประมาณ 5 ล้านบาทครับ”
“ฮ่าๆ ดี ดีมากมันต้องอย่างนี้สิ ให้เอมี่อยู่ที่นั่นต่อไปอีกหน่อยแล้วค่อยไปรับตัวเธอกลับมา” นาธานอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พอได้รู้ว่าเกิดความเสียหายมหาศาล
“ได้ครับนาย”