"พวกเราไม่ได้บ้านะคะหมอ เราเจอผีมาจริง ๆ " ทับทิมพูดเสริมไปอย่างหน้าตาตื่น
"ผีมันน่ากลัวจริง ๆ นะคะหมอ" บาสตี้ทำเสียงอ้อนใส่หมอด้วยอีกคน
"งั้นก็เอาชื่อคนไข้ผู้ชายแอดมิตไปแล้วกัน จะได้เบิกกับประกันได้ บอกไปว่าเฝ้าดูอาการเพราะศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน" ซีแอลหันไปบอกกับทางพยาบาล
"คนไข้ผู้ชาย" ทั้งใบหม่อนและทับทิมยกมือขึ้นปิดปากตัวเองกลั้นขำในทันที
"คุณหมออะ...บาสตี้เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะ" ยายบาสตี้เอ่ยอย่างตัดพ้อ ขณะที่บุรุษพยาบาลเดินเข้ามาเข็นพาเขาขึ้นไปยังห้องพัก แต่ในขณะที่เพื่อนอีกสามคนกำลังจะเดินตามรถเข็นของบาสตี้ไป
"แล้วเธอล่ะ ไม่ทำแผลรึไง" ร่างสูงเดินตามหลังมาคว้าแขนของปลายฝนเอาไว้เสียก่อน
"เออจริงด้วยฝน รอยแก้วบาดน่าจะลึกอยู่นะ ทำแผลก่อนดิ" ใบหม่อนที่เห็นแผลของเพื่อนก็อดห่วงไม่ได้เช่นกัน เพราะทุกคนได้รับการทำแผลหมดแล้ว เหลือแค่ปลายฝนคนเดียวเท่านั้น
"จริง ๆ แค่เอาน้ำเปล่าล้างก็พอแล้ว" ปลายฝนรีบตอบกลับไปทันที เพราะเธอกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายมากที่สุด ขนาดแค่ฉีดยาเข็มเดียวยังสามพันห้าเลย
"อยากแผลติดเชื้อ จนต้องตัดมือทิ้งรึไง" ซีแอลกอดอกมองที่ปลายฝนอย่างกดดันด้วยอีกคน
"เชื่อคุณหมอหน่อยสิวะ อีกอย่างมาถึงโรงพยาบาลแล้วทำไมไม่ให้หมอทำแผลให้เลย" ทับทิมขมวดคิ้วอย่างข้องใจ
"มึงมีอะไรรึเปล่าฝน" คำถามของใบหม่อนทำให้ปลายฝนรีบเปลี่ยนสีหน้าตัวเองทันที เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าเธอบอกว่าตัวเองไม่มีประกัน ใบหม่อนคงหยิบบัตรมารูดจ่ายให้เธอแน่ ๆ
"อ๋อไม่มี ๆ คือกูกลัวเข็มอะ...ไม่อยากเย็บแผล" ปลายฝนคว้าชายเสื้อกาวน์ของหมอที่ยืนข้าง ๆ เอาไว้แน่น ในตอนที่เธอพูดโกหกเธอจำต้องหาอะไรจับก่อนเสมอ
"เออ ๆ เอาเป็นกูขอเวลาทำใจแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวทำแผลเสร็จกูให้พี่พยาบาลพาไปส่งที่ห้องเอง" ปลายฝนตอบกลับไป โดยที่สายตาของเธอมองผ่านเพื่อนทั้งสองคนไปอย่างหลบสายตา
"พวกมึงรีบขึ้นไปพักกันเถอะ สงสารอิบาสตี้ด้วย มันน่าจะกลัวการอยู่คนเดียว รีบไปดูมันเถอะ" ปลายฝนรีบไล่ให้เพื่อนอีกสองคนตามบาสตี้ไป เพราะเธอเป็นห่วงเรื่องของสภาพจิตใจเพื่อนมากกว่า เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าในตอนที่บาสตี้ถูกทิ้งอยู่ลำพังในบ้านหลังนั้นบาสตี้เจออะไรและเกิดอะไรขึ้นกับบาสตี้บ้าง
"ได้ ๆ งั้นกูขอขึ้นไปนั่งพักด้วยเลย ขาตึงและปวดแผลมากเลยอะ" ใบหม่อนพูดขึ้นเพราะเท้าของเธอก็เหยียบเศษแก้วเข้าเต็ม ๆ ทับทิมก็เดินพยุงใบหม่อนขึ้นห้องตามบาสตี้ไป
เมื่อเพื่อนทั้งสองคนเดินลับสายตาไป ปลายฝนก็ค่อย ๆ ปล่อยชายเสื้อกาวน์หมอออกอย่างช้า ๆ
"ไม่ต้องรักษาฉันค่ะ" ปลายฝนรีบดึงมือของตัวเองคืนจากพี่พยาบาล ที่กำลังจะใช้สำลีแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดรอบ ๆ แผลแก้วบาดทันที
"ถ้ากลัวตอนเย็บ ก็ฉีดยาชาเอาสิ" หมอซีแอลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รอเย็บแผลให้เธอก็พูดเสริมขึ้นมา
"แผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ต้องทำแผลอะไรหรอก" ปลายฝนก้มหน้าลงและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเจ็บอยู่ลึก ๆ
หมอซีแอลขอสำลีแอลกอฮอล์จากทางพยาบาล ก่อนจะเป็นคนเริ่มทำแผลให้เธอเอง
"ก็บอกว่าไม่ต้องทำไง" ปลายฝนพยายามจะดึงมือคืนจากเขาให้ได้
"แผลเธอลึกมาก และปากแผลสกปรก ถ้าแผลติดเชื้อขึ้นมาเรื่องใหญ่แน่" ร่างสูงไม่ปล่อยมือของเธอออกและยังคงใช้แอลกอฮอล์เช็ดรอบ ๆ บาดแผลช้า ๆ วนไปวนมา
"ก็ช่างมันเถอะ...เพราะสุดท้ายแล้วฉันไม่มีเงินจ่าย ไม่มีประกันให้เบิก ไม่มีอะไรเลยอะ...นายเข้าใจไหม" ปลายฝนกระชากมือของเธอคืน
"อะ..โอ๊ย" เธอรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ในตอนที่ยังไม่เห็นแผลมันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากสักเท่าไร แต่พอรู้ว่ามีแผลถูกแก้วบาดลึกขนาดนี้ บอกเลยว่าเจ็บขึ้นมาอย่างฉับพลัน
"แล้วเธอมีบัตรสามสิบบาทใช่ไหม" หมอซีแอลวางอุปกรณ์ทำแผลลงและเอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบ ๆ
"ก็มี...แต่ใช้ที่นี่ได้รึไง" ปลายฝนตอบแบบปัด ๆ ไป เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าโรงพยาบาลเอกชนแบบนี้จะมารับบัตรสามสิบได้อย่างไรกัน
"ใช้ได้" ร่างสูงคว้าข้อมือของปลายฝนพาเดินกลับไปทำแผลต่อที่ห้องพักส่วนตัวของเขาแทน
ปลายฝนขมวดคิ้วแบบงง ๆ แต่เธอก็ถูกลากพามาจนถึงห้องพักแพทย์ห้องเดิมที่เคยมา
ก่อนที่ร่างสูงจะโอบเอวบางของเธอ ยกขึ้นด้วยท่อนแขนข้างเดียวและอุ้มวางลงบนเตียงตรวจคนไข้ ภายในห้องพักแพทย์แบบ (ส่วนตัว)
ตุ้บ! ร่างบางกระแทกลงบนเตียงตรวจแข็ง ๆ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินไปเดินมาจัดเตรียมอุปกรณ์ทำแผล ใส่ถาดมาเตรียมรอไว้