EP.16 หนีผีปะเสือ (ผู้หญิง) PIC
(มีภาพประกอบ)
"อ๊าาาา!" ทั้งสามคนกรี๊ดไปช่วยดึงบาสตี้ไปด้วย
"พวกมึง..กูว่า...วิ่งเถอะ!" ปลายฝนตะโกนบอกทุกคนก่อนจะวิ่งไปรอที่หน้าบ้าน
"เออวิ่ง" ทั้งทับทิมและใบหม่อนก็วิ่งตามมาติด ๆ ทั้งสามคนวิ่งโกยสับขารัว ๆ ไปที่รถมอเตอร์ไซค์หน้าบ้าน
"บาสตี้ ๆ ๆ มาดิ" ทั้งสามคนตะโกนเรียกหาบาสตี้ ซึ่งในตอนที่บาสตี้วิ่งมาจนถึงประตู จู่ ๆ ประตูมันก็ปิดลงแทบจะกระแทกหน้าเขา
"กรี๊ด ๆ ๆ กูออกไปไม่ได้ ฮือ ๆ ๆ " บาสตี้กรีดร้องลั่นสาวแตกเต็มที่หลังจากที่ประตูปิดและเปิดไม่ออกเลย
"ผีมันขังกูไว้ในบ้าน ว้าย ๆ ๆ" บาสตี้ร้องลั่นบ้าน
"ฉิบหายแล้ว ๆ " ทับทิมร้องขึ้นและพยายามจะงัดเปิดประตูออกมาให้ได้
ขณะที่ใบหม่อนและปลายฝนวิ่งตรงไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว แต่พอหันกลับมาเห็นว่ามีเพื่อนติดอยู่ในบ้าน ทั้งสองคนก็รีบลงจากรถทันทีเพื่อกลับมาช่วยเพื่อน
"มึงกลับไปช่วยกันเปิดประตูก่อน" ปลายฝนโดดลงจากรถแบบต้องคิดเลย
"แม่งกลัวก็กลัว แต่ทิ้งอิบาสตี้ไม่ได้เหมือนกันโว้ย" ใบหม่อนพูดขึ้นอย่างปลุกใจตัวเอง พร้อมกับเดินมาช่วยทับทิมกระชากประตูเปิดออกให้ได้
"บาสตี้ ๆ ๆ " ทั้งสามคนตะโกนเรียกหาเพื่อนลั่น ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบประตูพร้อม ๆ กันอย่างเต็มแรง ปัง! ประตูเปิดออกอีกครั้ง บาสตี้ยืนนิ่ง ๆ อยู่ ทำให้เพื่อนอีกสองคนรีบวิ่งไปกระชากแขนและวิ่งตรงมาที่รถมอเตอร์ไซค์ในทันที
"กูว่ามันน่าจะช็อก รีบพามันออกไปจากบ้านก่อนเถอะ" ทับทิมลากบาสตี้ขึ้นไปซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ตัวเอง
"ออกรถเลย ๆ ๆ " ปลายฝนเดินไปเปิดประตูบ้านรอ พร้อมกับโบกรถให้ ทั้งทับทิมและใบหม่อนรีบขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านมาทันที
บรื้น รถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคันขี่ออกมาจากบ้านไม้อย่างเซไปเซมา ด้วยความที่ทั้งคู่มือสั่น แขนสั่นไปหมดจนแทบไม่มีสติในการจะขับขี่ใด ๆ
"มึงว่าผีจะวิ่งตามเรามาได้ไหมวะ" ใบหม่อนขี่รถไปก็มองกระจกหลังไป
"ไม่หรอกมึง ขี่รถดี ๆ เถอะ" ปลายฝนบีบไหล่ของเพื่ออย่างพยายามปลอบขวัญ แต่เธอนั่งหลับตาปี๋มาตลอดทาง ตอนที่ผีวิ่งตามรถยนต์ว่าหลอนมากแล้วนะ ถ้าวิ่งตามมอเตอร์ไซค์ตายแน่ ๆ ปลายฝนทำได้แค่คิดอยู่ในใจ
"พวกมึงไปเจอกันร้านข้าวต้มเที่ยงคืนนะ" ทับทิมตะโกนบอกกับทางรถของใบหม่อน ก่อนจะบิดแซงไปก่อน ด้วยความที่ซอยมันเริ่มบีบแคบเลยทำให้ต้องขับนำหน้ากันไปทีละคัน
แต่ทว่า...
"เชี่ย!...ฝน" ใบหม่อนเบิกตาโตขึ้นมา ซึ่งมันก็ทำให้ปลายฝนจำต้องลืมตาขึ้นมองด้วยอย่างอดใจไม่ได้
"เชี่ย!" ปลายฝนอุทานลั่นแต่ก็ไม่กล้าจะร้องบอกกับเพื่อนไปเพราะว่า...คนที่นั่งซ้อนท้ายทับทิมมันไม่ใช่...บาสตี้แต่เป็น…
"ผะ..ผี" ทั้งสองคนเบรกมอเตอร์ไซค์หัวแทบทิ่ม เพราะว่าคนที่ซ้อนท้ายรถของทับทิมไม่ใช่บาสตี้แต่เป็นหญิงสาวสวมชุดไทยสไบเฉียง เธอค่อย ๆ หันกลับมามองทั้งสองคนและหักคอตัวเองพร้อมกับกวักมือเรียกหาทั้งคู่
"ไอ้เชี่ยยยยยย!" ทั้งสองคนประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกันด้วยความกลัวจนสุดขีด
ใบหม่อนหักรถเลี้ยวไปอีกซอยและบิดรถมอเตอร์ไซค์จนแทบจะมิดไมล์ แต่ทว่ามันคือการขี่สวนเลนกลับมา พอขี่ออกมายังถนนใหญ่ได้ แสงไฟจ้าก็สาดส่องเข้ามาเต็มใบหน้าของทั้งคู่
เอี๊ยดดด! เสียงยางรถยนต์บดถนนมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงบีบแตรดังสนั่น ทั้งใบหม่อนและปลายฝนกลับมามีสติได้อีกครั้ง รถหรูเปิดประทุนสีดำสนิทป้ายแดงค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาหาทั้งคู่อย่างช้า ๆ พร้อมกับกลิ่นไหม้ของยางรถที่บดมากับพื้นถนนเพื่อชะลอความเร็ว
"มึง...เบรก!" ปลายฝนรีบดึงมือของใบหม่อนออกจากคันเร่งและพยายามเบรกด้วยมือสุดแรงที่เธอจะทำได้ จนท้ายที่สุดแล้วรถมอเตอร์ไซค์สีแดงของเธอก็จอดสนิท ในเวลาเดียวกับที่รถหรูสีดำป้ายแดงก็เบรกหยุดได้สนิทแล้วเช่นกัน
"โชคดีนะที่ไม่ชน ป้าย... (แดง) " ใบหม่อนหันมาพูดยังไม่ทันจะขาดคำดี แค่เพียงทั้งสองขยับตัวเล็กน้อย...
โคร่ม! รถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของยายใบหม่อน ดันเสียหลักแฉลบล้มลงตรงหน้าของรถหรู เพราะยางหลังมันลื่นเต็มไปด้วยโคลน ทำให้ล้อหลังเสียหลักพุ่งกระแทกเข้าไปที่ไฟหน้าของรถหรูเข้าเต็มแรงจนมันร้าวอย่างเห็นได้ชัด
"มึงเราหนีตอนนี้ทันไหมวะ" ใบหม่อนหันมาถามหลังจากที่รถได้ทิ่มเข้าไปที่ไฟหน้าของรถหรูตรงหน้าแบบเต็มแรงแล้ว
"ไม่ทันแล้วมึง" ปลายฝนยังไม่ทันจะเอ่ยตอบจบประโยคดี ก็มีเสียงเปิดประตูรถและเสียงฝีเท้าหนัก ๆ เดินลงมาจากรถอย่างช้า ๆ
(บทสนทนาทางโทรศัพท์)
"เออ...มิย่าครับคืนนี้พี่ไปหาไม่ได้แล้วนะ พอดีรถพี่ถูกคนเมาขับตัดหน้าอะ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดมาก ๆ
ปลายฝนเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยความรู้สึกคุ้น ๆ กับเจ้าของเสียงนี้
"นาย?" อุทานขึ้นอย่างตกใจเพราะคนที่เป็นเจ้าของรถหรูคันตรงหน้าก็คือตาหมอที่เธอยังจ่ายหนี้ค่าฉีดยาแก้ไข้ไปได้ไม่ครบดีเลย
"พี่ไม่ได้เป็นอะไรครับ แต่คงต้องรอประกันมาเคลียร์อะ" ชายหนุ่มเอ่ยตอบปลายสายไปด้วยน้ำเสียงแหบพร่าปนอ้อน ๆ แต่พอเขาเงยหน้ามาเจอเข้ากับปลายฝน ร่างสูงก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ อีกครั้ง
"ใช่ซวยมากเลยจริง ๆ" เขาพูดใส่หน้าของปลายฝนอย่างตั้งใจ
"มึงรู้จักเขาด้วยเหรอ" ใบหม่อนกระซิบถาม เพราะเห็นเขามองมาทางปลายฝนแบบแปลก ๆ
"คนนี้อะ...หมอไอ้ต้นหนาวไง" ปลายฝนอธิบายไปพร้อมกับช่วยกันพยุงรถมอเตอร์ไซค์ขึ้น จูงออกไป และตั้งขาตั้งไว้ตามเดิมอย่างเรียบร้อย
"คืนนี้พี่เลยอดพาเราไปเที่ยวทะเลเลยอะ" เขาพูดเสียงอ่อนใส่ปลายสายก่อนจะตวัดสายตาดุ ๆ มาที่ทั้งสองคนอีกครั้ง
"ยังไงแค่นี้ก่อนนะมิย่า เดี๋ยวพี่ขอเคลียร์กับคู่กรณีก่อน" เขาพูดไปก็จ้องหน้าปลายฝนสลับกับใบหม่อนอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะ
"ไว้ทริปหน้า พี่ว่างเมื่อไหร่เดี๋ยวโทรไปนะ" ตาหมอจอมเก๊กตอบปลายสายไปเพียงเท่านั้น ก่อนจะกดวางสายและเปลี่ยนสีหน้าท่าทางในทันที ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อกี้
(จบบทสนทนาทางโทรศัพท์)
"จำได้ว่า หนี้เก่าเธอยังผ่อนใช้ฉันไม่หมดเลยนะ" ร่างสูงจ้องไปที่ปลายฝนอีกครั้ง
"คือพวกเราไม่ได้ตั้งใจจะ... (ปลายฝน) / ขี่สวนเลนมาแบบนี้อยากตายเป็นผีเฝ้าถนนที่นี่ใช่ไหม" หมอซีแอลจ้องหน้าและพูดกระแทกเสียงใส่ทั้งคู่ไป แต่ทันทีที่ทั้งสองคนได้ยินคำว่า ‘ผี’ ทั้งใบหม่อนและปลายฝนก็กระโดดเข้ามากอดแขนของเขาอย่างลืมตัวในทันที
"นายอย่าพูด ๆ ๆ ถึงคำว่า ‘ผี’ ดิ" ปลายฝนจิกแขนของร่างสูงไว้แน่น
"นี่พวกเธอเมาแล้วขับใช่ไหมเนี่ย" ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม ๆ และมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่เอือมระอา
"เปล่าค่ะ ไม่ได้ดื่มเลยจริง ๆ คือ...เราหนี จุด ๆ ๆ มาจริง ๆ ค่ะ "ใบหม่อนเอ่ยตอบไปด้วยใบหน้าที่เลิ่กลั่ก ๆ
"แล้วไหนละ ผี" ซีแอลมองไปยังซอยเปลี่ยวที่ทั้งสองคนขี่สวนออกมา
"อย่าพูด!" ปลายฝนยกมือขึ้นปิดปากของซีแอลไปอย่างลืมตัว
"นี่หยุดเลยนะ พวกเธอเลิกเพ้อเจ้อสักทีดิ" ซีแอลหันไปขึ้นเสียงใส่ทั้งสองคนอีกครั้ง
"นี่สรุปเมาเหล้าจนเพี้ยนกันเหรอ" เขายื่นใบหน้าเข้าไปเพื่อดมกลิ่นเบียร์หรือเหล้าจากทางปลายฝนก่อนเป็นคนแรก
ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ปลายฝนหันหน้ามาพูดกับเขาพอดี
"ไม่ได้เมาอะไรทั้งนั้นแหละน่า" เธอชะงักไปเล็กน้อยเมื่อใบหน้าของตัวเองอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น เสียงสูดลมหายใจของเขาทำเอาคนตัวเล็กชะงักไปอย่างทำตัวไม่ถูกเลย
"ไม่ใช่เมาเหล้านี่...หรือว่าเล่นยากัน" เขาขมวดคิ้วพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาเพื่อส่องดูม่านตาของเธอแบบชัด ๆ
"นี่นายจะบ้าเหรอ" ปลายฝนผลักอกของตาหมอจอมหื่นออกไปอย่างแรง
"นี่พวกเธอยังเป็นเด็กนักศึกษากันอยู่เลยนะ หัดเล่นยากันแล้วเหรอ" เขาหันไปชี้หน้าทั้งสองคนอย่างเอาเรื่อง
"เปล่า ไม่ได้เมาอะไรทั้งนั้นแต่เราเจอผีมา เจอจริง ๆ ค่ะ สาบานได้เลย" ใบหม่อนย้ำไปอีกครั้ง
"ช่างเถอะถามไปก็เปล่าประโยชน์ เดี๋ยวเราจะได้ไปโรงพักกัน พอจับตรวจฉี่อะไรก็จะได้รู้แล้วว่าพวกเธอน่ะ ไปโดนตัวไหนมากันแน่" ร่างสูงจ้องเขม่นใส่ทั้งคู่ ก่อนจะย่อตัวลงลูบดูรอยขีดข่วนบนรถใหม่ของเขา และกำหมัดแน่นจนทั้งปลายฝนและใบหม่อนก้าวถอยหลังคนละก้าวในทันที
"ฉันเพิ่งออกรถจากศูนย์มาวันนี้เลยนะ" เขาหันกลับมาพูดใส่ทั้งคู่อย่างเจ็บใจ
"พวกเราขอโทษจริง ๆ ค่ะ " ทั้งสองคนก้มหน้ายกมือไหว้ซีแอลไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ
หลังจากนั้นไม่นานมากนัก ทั้งตำรวจและประกันก็เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว ว่องไวไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ทั้งกล้องหน้ารถ ทั้งการให้คำรับสารภาพ ทางฝั่งของใบหม่อนและปลายฝนก็เป็นฝ่ายผิดอยู่ดีที่ขี่สวนเลนออกมา ซึ่งจากการเป่าแอลกอฮอล์และตรวจสารเสพติด ผลก็ออกมาว่า...
ณ สถานีตำรวจ
"ก็บอกแล้วไงว่าพวกเราไม่ได้เสพ ไม่ได้เล่นยาอะไรทั้งนั้น" ปลายฝนหันไปแดกดันใส่ซีแอลทันทีที่ผลออกมาว่า เธอกับเพื่อนไม่ได้เมายาหรือเมาอะไรเลย แต่ทว่า..
"ฮะ!...ค่าซ่อมไฟหน้า ทำสีรวมห้าหมื่นบาท?" ใบหม่อนอ่านใบประเมินราคาจบก็เป็นลมหงายหลังไปทันที
"ไอ้หม่อน!"