EP.7 ความเหลื่อมล้ำ

1146 Words
EP.7 ความเหลื่อมล้ำ แต่ในตอนที่เตียงของต้นหนาวเข็นกลับเข้าไปในโรงพยาบาล ต้องใช้บุรุษพยาบาลมากขึ้นสามคนเลยในการช่วยเข็น "ทำไมมันหนักจังวะ!" หนึ่งในสามคนสบถขึ้นเบา ๆ ปลายฝนค่อย ๆ เลื่อนสายตาจากล้อเข็นคนไข้ขึ้นไปหยุดที่ร่างของน้องชายในตอนนี้ "เฮือก!" ร่างบางเม้มปากแน่นเบิกตาโตขึ้นมาทันที ใจของเธอหายไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยจริง ๆ เพราะบนตัวของต้นหนาวมีผู้หญิงที่วิ่งตามรถนั่งทับอยู่บนหน้าอก และเพื่อนที่เพิ่งเสียไปก็นั่งอยู่ที่ปลายเท้า ทั้งสองคนจ้องมองที่ต้นหนาวและยิ้มอย่างเยือกเย็น "กูจะเอามึงมาแทนที่กูให้ได้...มึงต้องตาย ๆ " เสียงของผู้หญิงคนนั้นพูดใส่น้องชายของเธอดังกังวาน "ไอ้หนาว..มาอยู่กับกู ๆ " เสียงของไนท์เพื่อนของต้นหนาว ร้องไห้ไปด้วยเรียกหาเพื่อนไปด้วย ปลายฝนทำได้แค่นั่งนิ่ง ๆ เธอกลัวมากแต่ก็พยายามใจดีสู้ผี ทำเหมือนมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ‘วันพระใหญ่งั้นเหรอ’ ปลายฝนพูดขึ้นภายในใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปยังท้องฟ้า ซึ่งภายใต้สายฝนที่เทกระหน่ำมา เธอมองเห็นชัดเจนว่าคืนนี้พระจันทร์เต็มดวงเด่นสง่า เธอจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคืนนี้เธอถึงสามารถมองเห็น สัมผัส ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ได้ชัดเจนมากขนาดนี้ ทางด้านหมอซีแอลเอง เขาก็รีบวิ่งเข้าไปตามอาจารย์หมอและทีมแพทย์ผ่าตัด ทันทีที่เขามีสิทธิ์ในการรักษาคนไข้ นอกจากเรื่องเงิน แน่นอนเขาเองก็ไม่ได้อยากปล่อยให้ใครตาย เพราะที่เรียนหมอมาก็เพื่อรักษา แต่ด้วยกฎระเบียบต่าง ๆ ของทางโรงพยาบาลเอกชน แน่นอนว่าทุกอย่างมันขับเคลื่อนด้วยเงินจริง ๆ เพราะโรงพยาบาลของเขาก็ไม่เคยได้รับเงินสนับสนุนช่วยเหลือจากทางรัฐ แต่เป็นเงินที่ได้มาจากค่ารักษาและการให้บริการแก่คนเจ็บคนป่วยที่ค่อนข้างมีฐานะทางการเงินดี หน้าห้องผ่าตัด ปลายฝนนั่งอยู่กับแม่ของเธอเพียงสองคน ส่วนพ่อของเธอก็วิ่งวุ่นอยู่กับการจัดการเรื่องการวางเงินประกัน และการใช้ทรัพย์สินที่มีบางส่วนช่วยในการรักษาน้องชาย "แม่...น้องถึงมือหมอแล้ว หยุดร้องไห้เถอะ" ปลายฝนพยายามปลอบแม่ของเธอ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีอาการหนาวจับไข้อยู่ไม่น้อยเลย เพราะนั่งตัวเปียกฝนมาตลอดทาง ไหนจะต้องเข้ามานั่งรอในโรงพยาบาลที่เปิดแอร์เย็นยะเยือกนี้อีก "ที่กลับรถนั้นเพิ่งจะมีวัยรุ่นคู่หนึ่งขับชนกับรถบรรทุก ตายไปเมื่อเดือนก่อนเอง" แม่พูดกับปลายฝนทั้งน้ำตา "ใครจะคิดว่า...มันจะเกิดขึ้นกับลูกของแม่" คนเป็นแม่ร้องไห้ออกมาจนแทบไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาแล้ว หลังจากนั้นไม่นานพ่อก็กลับมานั่งสมทบด้วยอีกคน การผ่าตัดผ่านไปนานเกือบสองชั่วโมงแล้ว ไม่มีแพทย์หรือพยาบาลคนไหนเดินออกมาจากห้องเลย "ย่าเขา...มาหาแกงั้นเหรอ" พ่อหันไปเอ่ยถามลูกสาวด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย "ใช่" ปลายฝนพยักหน้าตอบกลับไป "แปลกจริง ๆ ลูกไม่เคยมาหา มาหาแต่หลานสาว!" พ่อพูดเหมือนตั้งใจแดกดันใส่ปลายฝน เพราะเขารู้ดีว่าแม่ของเขาเอ็นดูหลานคนนี้มากแค่ไหน "สงสัยย่าแกคงจะเกลียดพ่อน่าดูเลยนะ เรื่องที่พ่อเอาที่ดินสุดหวงของเขาที่ต่างจังหวัดไปขายจนหมดแล้ว" พ่อพูดขึ้นและมองตรงไปที่ห้องผ่าตัดของลูกชายและถอนหายใจออกมา "นี่พ่อขายที่ย่างั้นเหรอ" ปลายฝนชะงักไปกับสิ่งที่พ่อเธอเพิ่งพูดออกมา "ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ขายจะเอาเงินที่ไหนมากินใช้ในบ้านล่ะ" พ่อตอบกลับไปอย่างไม่รู้สึกอะไร "แล้วขายนานรึยัง" ปลายฝนถามต่อด้วยความสงสัย "เพิ่งจะมีคนมาซื้อไปเมื่อเดือนก่อนนี่เอง" พ่อพูดเสริมก่อนจะหันเหสายตาไปทางอื่นแทน "อ๋อ...เงินที่พ่อใช้ออกรถใหม่ให้น้องใช่ไหม" "…" พ่อไม่ตอบอะไรแต่หันมองทางปลายฝนด้วยแววตาที่ไม่พอใจ เพราะเข้าใจในความหมายที่ลูกสาวกำลังจะสื่อถึงดี "ไม่มีค่าเทอม ไม่มีค่าหอให้หนู แต่มีค่าออกรถ ซื้อเกมให้ไอ้ต้นหนาว...พ่อนี่สุดยอดจริง ๆ เนอะ" ปลายฝนกัดฟันแน่น พร้อมกับพูดจาแดกดันใส่พ่อของเธอไปอย่างสุดจะทน เพียะ! คนเป็นพ่อที่ได้ยินคำพูดไม่เข้าหูก็ยกมือขึ้นฟาดฝ่ามือ ปะทะเข้าใบหน้าสวยของเธออย่างเต็มแรง "นี่แกกล้าพูดแดกดันฉันงั้นเหรอ" พ่อตวาดลั่นและชี้หน้าลูกสาวของตัวเองด้วยความโมโห "พ่อ! อย่าทำมันเลยนะพ่อนะ" แม่รีบปาดน้ำตาและคว้ามือของพ่อเอาไว้ทันที "ฝนรีบขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้เลยนะ" แม่หันกลับมาขึ้นเสียงใส่เธอด้วยอีกคน "ไม่!" ปลายฝนตอบกลับเสียงแข็งก่อนจะลุกขึ้นยืนทั้ง ๆ ที่ตัวยังสั่นจากพิษไข้อ่อน ๆ และในตอนที่เธอกำลังจะเดินออกไปจากหน้าห้องผ่าตัด เธอก็เหลือบไปเห็นว่า ตาหมอขี้เก๊กคนเดิม กำลังยืนมองมาทางครอบครัวของเธออยู่พอดี ปลายฝนรู้สึกอายจนหน้าชา ทั้งอายทั้งเจ็บมาก ๆ ที่เธอถูกตบกลางโรงพยาบาลแบบนี้ "คุณหมอ..คุณหมอลูกของผมเป็นยังไงบ้าง" พอพ่อเห็นหมอซีแอล เขาก็รีบวิ่งชนปลายฝนตรงเข้าไปสอบถามอาการของลูกชายคนเล็กในทันที ในวินาทีนั้นหมอซีแอลก็บังเอิญหันมาสบสายตากับปลายฝนเล็กน้อย แววตาที่เขามองเธออย่างเกลียดชังค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไป ร่างสูงหันไปตอบคำถามของพ่อและแม่ของเธอทันที "ตอนนี้คนเจ็บเสียเลือดไปมาก และร่างกายของเขาต่อต้านเลือดที่ทางโรงพยาบาลมี ทำให้มีเลือดที่ใช้กับเขาได้ไม่เพียงพอ" "ดังนั้นเราจึงอยากขอรับบริจาคเลือดจากบุคคลในครอบครัวก่อน เพราะคิดว่าน่าจะมีโอกาสเข้ากันได้สูง" หมอซีแอลหันไปมองทางปลายฝนอีกครั้ง แต่ทว่า.. "ได้สิคะ ตอนนี้ก็มีพ่อ แม่ และพี่สาวของเขา. ..ฝะฝน..." แม่หันกลับมาเพื่อตามลูกสาวก่อนจะพบว่าปลายฝนได้เดินหนีหายไปแล้ว "อีเด็กเวรเอ๊ย!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD