EP.14 สืบประวัติบ้านเช่า
(มีภาพประกอบ)
ทางผู้ดูแลได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้านให้เด็กทั้งสี่คนเข้ามาทำความสะอาด และย้ายของเข้ามาอยู่ได้เลย ก่อนจะชำระเงินล่วงหน้าหกเดือน ส่วนทางใบหม่อนก็ต้องกลับไปเอามัดจำที่ค้างเอาไว้กับทางป้าดวงที่หอเดิมอยู่ดี
ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นดีมาก ๆ ซึ่งตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ เสาร์และอาทิตย์ ทั้งสี่คนก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปกลับ ๆ เพื่อขนย้ายของจากหอ รวมไปถึงซื้อของใช้เข้าบ้านเพิ่ม เพราะทั้งบ้านไม่มีอะไรเลยนอกจากห้องเปล่า ๆ
"มึงว่าบ้านนี้มันถูกไปรึเปล่าวะ" ใบหม่อนยืนมองรอบ ๆ บ้านพร้อมกับเอ่ยถามขณะที่เพื่อนทั้งสามคนก็ยืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเลยตรงทางเข้าบ้าน
"ใจกลางกรุง มีบ้านทรงไทยโบราณ" ปลายฝนมองดูรูปทรงของบ้าน และสวนหย่อมเล็ก ๆ ข้างตัวบ้าน พื้นที่ขนาดนี้ไม่น่าอยู่ในราคาสี่พันบาทได้เลย
"เอาเถอะ ถ้าจะมีผีอะ...กูว่ายัยบาสตี้น่ากลัวกว่าผีเยอะ" ทับทิมเข้าใจความหมายที่เพื่อนสื่อถึงดี แต่เธอก็ทำเนียนติดตลกไป เพื่อทำให้บรรยากาศที่วังเวงมันดีขึ้นมาได้บ้าง
"เอ๊ะอินี่" บาสตี้ที่ทาลิปสีนู้ดหันไปแบะปากใส่ทับทิมทันที
"ปะ..แยกย้ายกันทำความสะอาดเถอะ คืนนี้จะได้นอนพักยาว ๆ พรุ่งนี้พวกเรามีเรียนตอนเช้าอีกนะเว้ย" ปลายฝนเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้าที่บ่งบอกเวลาใกล้จะมืดค่ำแล้ว
ทั้งสี่คนรีบแยกกันไปทำความสะอาดบ้านคนละไม้คนละมือทันที ซึ่งในตอนที่ปลายฝนยืนทำความสะอาดไปทุกซอกทุกมุม แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเย็นวูบวาบขึ้นมาแปลก ๆ แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะอาการพักผ่อนน้อยเสียมากกว่า เอาง่าย ๆ เลยก็คือเธอกำลังพยายามคิดปลอบใจตัวเองอยู่
"น้ำมันอะไรวะ เช็ดไปหลายรอบแล้วก็ยังหยดมาเรื่อย ๆ เลย" คำพูดของใบหหม่อนทำเอาปลายฝนชะงักไปทันที ก่อนจะหันไปมองที่เสาค้ำกลางบ้านที่ยายใบหหม่อนกำลังขัด ๆ ถู ๆ อยู่
"เชี่ย!" ปลายฝนสบถออกมาเบา ๆ เพราะเสาตรงนั้นมีน้ำมันตกอยู่จริง ถ้าจะให้เรียกง่าย ๆ ก็คือบ้านหลังนี้มีเสาตกน้ำมันตั้งอยู่กลางบ้านเลย
ตามจริงปลายฝนพยายามจะไม่คิดมากเรื่องประวัติของบ้านหลังนี้ แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าบ้านเรือนไทย สองชั้น สามห้องนอน สองห้องน้ำ หลังขนาดกลางที่มีพื้นที่ข้างบ้านพอสมควรแบบนี้ จะปล่อยให้เช่าในราคาแค่สี่พันบาทเท่านั้นเองจริง ๆ หรือ
"กรี๊ด ๆ ๆ " เสียงของทับทิมตะโกนลั่นบ้านเรียกความสนใจจากทุกคน ซึ่งปลายฝน กับใบหม่อนก็รีบทิ้งไม้กวาด ไม้ถูและวิ่งขึ้นไปหาเพื่อนทันที
"ตุ๊กแก ๆ !!!" ทับทิมร้องลั่น และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัวเจ้าตุ๊กแกตัวใหญ่เท่าแขน ดวงตาแดงก่ำ ลายจุด ๆ ตัวอวบอ้วนสีเทาๆ ก็วิ่งพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคนทันที
"เฮ้ย!" ทั้งสามสาววิ่งกระเจิดกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง
จนท้ายที่สุดแล้วก็ได้ยายบาสตี้ เกย์ควีนร่างบึกเดินถือผ้ามาตะครุบเจ้าตุ๊กแกอวบอ้วนนั้นออกไปจากบ้าน ราวกับสโนไวท์ผู้โอบอ้อมอารีต่อสัตว์ทุกชนิดบนโลกนี้
"น้องน่ารักออกขนาดนี้ พวกมึงร้องลั่นบ้านซะอย่างกับเจอผี" บาสตี้บ่น ๆ หลังจากที่เดินเอาตุ๊กแกตัวอ้วนไปปล่อยเสร็จสรรพแล้ว เขาก็เดินถือของใช้จำเป็นและเครื่องครัวต่าง ๆ เข้ามาจัดไว้ในบ้าน
คืนแรกหลังจากย้ายข้าวของมาจนหมด ทุกคนก็นอนหลับเหมือนตายเลยในบ้านเช่าหลังใหม่ด้วยความเหนื่อยล้า ทั้งสี่คนนอนรวมกันในห้องโถงใหญ่ เพราะต้องใช้พัดลมด้วยกัน บวกกับมีความกลัวและแปลกถิ่นอยู่บ้าง
คืนแรกผ่านไปด้วยดี คืนสอง คืนสาม จนเข้าหนึ่งสัปดาห์ที่อยู่บ้านเช่านี้ทุกอย่างก็ปกติดี แถมมีความสุขมาก ๆ ด้วย เพราะทั้งสี่คนได้ออกไปเรียนพร้อมกัน ทำอาหารกินด้วยกัน และมีกิจกรรมทำร่วมกันมากมาย ซึ่งมันก็ดีกว่าตอนอยู่หอหรืออยู่ครอบครัวตัวเองจริง ๆ
"น้องมึงอาการไม่ดีขึ้นเลยเหรอวะ" ทับทิมเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นปลายฝนเดินคอตกกลับเข้ามาในบ้าน หลังจากที่เธอเดินทางไปเยี่ยมน้องชายมา
"อืม" คนตัวเล็กถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนบริเวณหน้าบ้าน ที่ซึ่งมีทับทิมกับใบหม่อนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"ยิ่งอาการทรุดมากเท่าไร ค่ารักษามันก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น" ปลายฝนนั่งกุมขมับอย่างท้อใจ
"ทิ้งเรื่องเครียด ๆ ไว้ก่อนแล้วมากินข้าวกัน" บาสตี้เดินเข้าไปจูงแขนปลายฝนมานั่งกินข้าวพร้อมกัน ซึ่งที่ทำให้เธอชะงักไปไม่ใช่แค่เพียงเพื่อน ๆ นั่งรอกินข้าวพร้อมกัน แต่พวกเขาเตรียมทำอาหารเอาไว้มากมายเต็มโต๊ะไปหมด
"ไก่ทอดสูตรแม่กูเองเลยนะ ลองดู ๆ " ทับทิมหยิบไก่ทอดไปใส่จานเพื่อน ๆ ทุกคนอย่างภูมิใจนำเสนอ
ปลายฝนนั่งกินข้าวกับพวกเพื่อนด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนที่อยู่บ้านมากจริง ๆ เธอรู้สึกว่าทุกคนให้ความสำคัญกับเธอมาก และเธอเองก็ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากเท่า ๆ กัน
พอตกกลางคืน จู่ ๆ ยายทับทิมผู้คลั่งไคล้ในการท่องโลกอินเทอร์เน็ต เล่นทุก
แอปพลิเคชัน ใช้ทุกแพลตฟอร์ม ก็เกิดมีไอเดียอยากจะเรียกยอดวิวของเพจกุ๊ก กุ๊ก กู๋ เพื่อหารายได้เข้าบ้านให้ได้มากขึ้น
ลึก ๆ แล้วเพื่อนทั้งสามคนก็รู้สึกเกรงใจใบหม่อนมาก ๆ ที่เธอเป็นคนจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าไปคนเดียวเลย แม้ว่าแม่ของใบหม่อนจะใจดีมาก แล้วก็ดีใจมากที่ใบหม่อนมีเพื่อน ๆ มาอยู่ด้วย
แต่หลังจากที่ทุกคนย้ายเข้ามาอยู่รวมกัน มันไม่ใช่แค่ค่าเช่าบ้านเท่านั้น ค่ากิน ค่าไฟ ค่าน้ำ และค่าซ่อมส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ก็มีตามมาติด ๆ ซึ่งจะให้ใบหม่อนออกเพียงคนเดียว มันก็จะเป็นการเบียดเบียนทางแม่ของเธอมากจนเกินไป
ทับทิมเองก็เอาเงินเดือนที่แม่เธอให้มาเป็นค่ากับข้าว ส่วนปลายฝนกับบาสตี้ก็พยายามจะหางานพิเศษทำต่อไป เพราะทั้งคู่ถูกที่บ้านตัดหางปล่อยวัดแล้วจริง ๆ
แต่ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมที่เรียนหนักกันมาก ๆ ในช่วงปีสองเทอมสอง เป็นอะไรที่ก้าวกระโดดจากเนื้อหาของปีหนึ่งไปไกลมาก ไม่ว่าจะวิชาที่เรียน ไหนจะกิจกรรมของทางมหาวิทยาลัยอีก
แค่ไปเรียนกลับมาก็หมดเวลาแล้ว และที่พวกเธอไม่สามารถหางานพาร์ตไทม์ทำได้เลย ก็เพราะตารางเรียนปีสองมันก็ไม่ได้แน่นอนเอาเสียเลย เดี๋ยวก็เลิกดึกบ้าง เลิกตอนกลางวันบ้าง
"แต่จริง ๆ กูว่าพวกเราไม่เห็นต้องไปหารายได้จากงานพิเศษนอกบ้านเลยนะ" ทับทิมพูดขึ้นพร้อมกับเปิดโทรศัพท์ของเธอเลื่อนหน้าจอไปเรื่อย ๆ
"สมัยนี้นะ ใคร ๆ ก็พึ่งอินเทอร์เน็ตช่วยหาเงินกันทั้งนั้น"
"ถ้าเราทำถูกทาง เงินมันก็เหมือนกับลอยอยู่ตรงหน้าเราในอากาศ" ทับทิมลุกขึ้นพูดราวกับปลุกใจ
"คว้าได้เท่าไร ก็คว้าเอามาให้หมดเลย ดังนั้นกูเลยอยากขอเสนอวิธีนี้" ทับทิมเก็บจานชามต่าง ๆ บนโต๊ะพร้อมกับเช็ดโต๊ะจนสะอาดเงาวับ
ก่อนจะวางกล้องถ่ายวิดีโอเก่า ๆ กระดาษแผ่นใหญ่ ก่อนจะขีดเขียนตารางแปลก ๆ ออกมาตามภาพบนหน้าจอมือถือที่เจ้าตัวถืออยู่
"มึงจะชวนพวกกูทำอะไรวะ" บาสตี้ยังคงดูงง ๆ แต่ก็ชวนเพื่อนดูทับทิมกางกระดาษวาดต่อไป
"กูก็จะทำให้เพจ กุ๊กกุ๊กกู๋ของเรา กลับมาดังกว่าเดิมให้ได้ยังไงล่ะ!" ทับทิมพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่มุ่งมั่นตั้งใจ
"เพจเรามันเคยดังด้วยเหรอวะ" ปลายฝนเอ่ยแย้งขึ้นทันที เพราะเพจล่าท้าผีที่ทั้งสี่คนเคยสร้างขึ้นมาเนี่ย มีคนติดตามแค่หลักสิบกว่าคนเท่านั้นเอง ใครจะกล้ามาจ้างโฆษณาสินค้ากัน
"แล้วถ้าเราไม่ได้ทำแค่ล่าท้าผี แต่ทำให้บ้านหลังนี้ดังขึ้นมาได้ล่ะ" ทับทิมเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำท่านับเงินจุก ๆ
เดิมทีเพจ กุ๊ก กุ๊ก กู๋ ก็คือเพจทางเฟซบุ๊กที่ทำเนื้อหาเกี่ยวกับประสบการณ์หลอน ๆ และมีการนั่งเล่าเรื่องผี ที่พวกเขาทั้งสี่คนแค่ต้องการทำกันขึ้นมา เพื่อหวังให้ได้ยอดวิว ยอดไลก์ เอาไว้สำหรับดึงดูดสินค้าต่าง ๆให้มาลงโฆษณา เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถทำเงินได้ในอนาคต
"หลังจากที่เพจหยุดอัปเดตไปนานมากแล้ว"
"วันนี้ทับทิมคนสวยคนนี้ จึงคิดหาคอนเทนต์ที่น่าสนใจลงในเพจของกลุ่ม ด้วยหัวข้อเรื่องที่ว่า... สืบประวัติบ้านเช่า" ทับทิมพูดขึ้นพร้อมกับวางกระดาษแผ่นใหญ่ไว้กลางโต๊ะ
"สืบประวัติบ้าน สืบยังไง" บาสตี้ขมวดคิ้วถามต่อด้วยความสงสัย ในทั้งสี่คนนี้บาสตี้เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่มี sixth sense มากที่สุด
"ผีถ้วยแก้ว" ทับทิมพูดขึ้นพร้อมกับโชว์กระดาษแผ่นใหญ่ที่มีตัวอักษรภาษาไทยครบทุกตัว พร้อมกับป้ายตรงกลางว่า ที่พัก รวมถึงสระครบทุกคำ
"มึงเอาจริงดิ" ปลายฝนถามเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าบ้านหลังนี้ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ๆ เพียงแต่วันนี้ไม่ใช่วันพระ สัมผัสของปลายฝนจึงไม่ค่อยชัดเจนเหมือนกับในคืนวันที่ต้นหนาวเกิดอุบัติเหตุ
"เอาจริง มึงอะถ่ายคลิป " ทับทิมวางกล้องถ่ายวิดีโอเก่า ๆ เอาไว้ตรงหน้าของฝน
"ส่วนมึงไปจุดธูปและท่องคาถาตามนี้" ใบหม่อนรับหน้าที่ไปจุดธูปต่อ
"ส่วนมึงไปเปิดหน้าต่างและประตูทุกบาน" ทับทิมหันไปบอกกับบาสตี้
"ส่วนกูจะเป็นคนเลื่อนแก้วเอง พวกมึงแค่แตะ ๆ ไว้ก็พอนะ กูเตรียมคำถามมาไว้หมดแล้ว แค่เล่นไปตามบทก็พอ"
"คลิปนี้จะทำให้เพจเราดังมากขึ้น! สปอนเซอร์ก็จะเยอะขึ้น!" ทับทิมปลุกใจเพื่อนทุกคน จนทุกคนเริ่มคล้อยตาม
"เพื่อเงิน" ปลายฝนเสริมทัพขึ้น
"เพื่อเงิน" ใบหม่อนลุกขึ้นเดินไปหยิบธูปมาเตรียม
"เงินเท่านั้นที่ knock everything!!!" บาสตี้เดินไปเตรียมแก้ว เดินไปเต้นไป
ฟุ่บ! เมื่อไฟแช็กจุดไฟที่ปลายธูปติด ควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นมาช้า ๆ ใบหม่อนยกแก้วขึ้นครอบควันธูป ทั้งสามคนหลับตาลง
"ขอเชิญผี หรือวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ หรืออยู่แถว ๆ บริเวณนี้ จงมาสื่อสารพูดคุยกับพวกข้าพเจ้า" ทับทิมเป็นคนพนมมือพูดก่อนจะใช้แก้วครอบควันธูปและประกบลงกับแผ่นกระดานเล่นผีถ้วยแก้ว
ปัก! มือทั้งสี่คนแตะลงที่แก้วสีใส ควันธูปวนเวียน ๆ ภายในแก้ว ทั้งสี่หันมองหน้ากันอีกครั้ง