bc

ข้ามฟ้ามาเจอรัก

book_age18+
660
FOLLOW
2.4K
READ
billionaire
arrogant
drama
sweet
bxg
campus
coming of age
love at the first sight
stubborn
crown prince
like
intro-logo
Blurb

'มีดีแค่เอว นอกนั้นเลวหมดเลย'

*****

เชคฮ ดรูฟ บราฮิม อาร์นาฟ การ์ซานฟา - ชายในฝันของสาว ๆ ที่ใคร ๆ ก็หมายตาจ้องจะเอา! แต่ด้วยนิสัยที่นิ่งเรียบ พูดน้อย และเย็นชาดุจน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาสูง จึงยากที่ใครจะได้เข้าหา และหากต้องตาใครจริง ๆ หญิงคนนั้นเขาต้องได้ครอบครองแม้จะต้องทำด้วยวิธีใดก็ตามเพื่อให้ได้มา แม้วิธีนั้นจะต่ำช้าก็ตาม นิสัยนี้ที่ได้มาทุกกระเบียดนิ้วจากบิดาของเขา

ซีน เดือนเมษา- หญิงสาวที่ทำให้โลกทั้งใบนั้นดูสดใส คนที่เป็นเหมือนรอยยิ้มให้ใครหลายคน ความมีเสน่ห์ที่ใครได้อยู่ใกล้เป็นต้องหลงใหล แค่เพียงเห็นรอยยิ้มแรกของเธอ จนหญิงสาวด้วยกันนั้นต้องอิจฉาทั้งรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมันสมองที่อัดแน่นด้วยความเฉลียวฉลาด และจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของเธอนั้นคือ พูดมาก!

chap-preview
Free preview
เรื่องที่อยากขอ
"พ่อคะ แม่คะ น้องซีนไปเรียนแล้วนะ" เสียงแหลมสดใส ร้องดังมาแต่ไกลจากบนบ้านชั้นสอง "เบา ๆ ลูก" ผู้เป็นพ่อร้องทักขึ้นเมื่อลูกสาวสุดที่รัก ทั้งหวงทั้งแหนปานดวงใจนั้นวิ่งลงบันไดอย่างไม่นึกกลัวเกิดอันตราย "ฟอด หื้ม...อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณพ่อสุดหล่อ" เด็กสาววัยยี่สิบ วิ่งลงบันไดแล้วโฉบกอดผู้เป็นพ่ออย่างที่เคยทำประจำ แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสิบสี่ปีแต่ก็ยังมีความหล่อและยังดูดี แถมยังหวงลูกสาวที่แสนจะพูดมากคนนี้ จนผู้ชายไม่กล้าเข้าหา วิ่งป่าราบหากผู้เป็นพ่อนั้นเห็น "น้องซีนหนูโตเป็นสาวแล้วนะลูก...ยังจะออเซาะคุณพ่ออีก" คุณแม่หนูดาที่เดินมาจากห้องครัวพร้อมแก้วนมของลูกสาวและแก้วกาแฟของสามีเอ่ยทัก แม้การกระทำเช่นนี้เธอจะเห็นประจำ แต่ตอนนี้ลูกสาวคนโตนั้นไม่ใช่เด็กเหมือนแต่ก่อนแล้ว "โธ่ คุณแม่ขาก็น้องซีนรักคุณพ่อ รักมาก ๆๆๆๆ เลยค่ะ จุ๊บ ๆๆๆ" เด็กสาวที่ช่างพูดประจบและจุ๊บลงแก้มผู้เป็นพ่อซ้ำๆ "ช่างพูดจริงลูกสาวพ่อ" คุณพ่อแซมลูบหัวและโอบกอดลูกสาวที่แสนรัก หอมลงกลางหัวอย่างรักใคร่ กอดกันกลมท่ามกลางสายตาคุณแม่หนูดาที่ยืนเบะปากและอมยิ้มกับภาพที่เห็น ทั้งหมั่นไส้สามีและลูกสาวที่ช่างออเซาะ "ช่างพูดหรือพูดมากค่ะพี่แซม" คุณแม่หนูดาเอ่ยแซวลูกสาว ((ฮ่าฮ่าฮ่า)) "พูดมากครับแม่" แซนน้องชายที่แสนจะกวนประสาทได้ทุกครั้ง และชอบแกล้งพี่สาวได้ทุกครา เดินลงบันไดมาพร้อมพูดแทรกบทสนทนาที่ได้ยิน ความน่ารัก การหยอกล้อ พูดแซว ที่พี่น้องคู่นี้มีมันคือเสน่ห์ แม้จะขัดแย้งและกัดกัน แต่เมื่ออยู่ข้างนอกแซนจะปกป้องพี่สาวเท่าชีวิต เสมือนผู้ปกป้องพี่สาวให้ปลอดภัยแม้ตัวเองจะต้องเจ็บตัว "หุบปากไปเลยแซน" เมื่อโตขึ้นการเรียกขานและสรรพนามย่อมเปลี่ยนไป พี่สาวที่กำลังกกกอดผู้เป็นพ่อทำหน้ายู่เง้างอนเมื่อน้องชายนั้นแกล้ง "พอแล้วทั้งสองคน ไปเรียนได้แล้วลูกเดี๋ยวสาย" และผู้เป็นแม่ก็มักจะเป็นคนสงบศึกฝีปากพี่กับน้องทุกครา "ค่ะ/ครับ" สองพี่น้องตอบรับพร้อมกัน แล้วยกมือไหว้พ่อแซมและแม่หนูดาก่อนจะเดินออกจากบ้านเพื่อทำหน้าที่ของแต่ละคน ***** ศาลาริมน้ำในสวนดอกไม้ ที่มีบรรยากาศสวยงามเพราะถูกตกแต่งด้วยไม้ดอกนานาพรรณ นิตยสารการศึกษา แหล่งรวมสถาบันการศึกษามากมาย ถูกเปิดทีละหน้า ทีละหน้า อย่างช้า ๆ สายตาคมดุที่ถอดแบบมาจากบิดา แต่เค้าโครงใบหน้านั้นได้มาซึ่งเสมือนมารดายิ่งกว่าฝาแฝด จ้องมองและอ่านประวัติของสถานศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างให้ความสนใจ เพราะตอนนี้ชายหนุ่มวัยสิบเก้าปีต้องเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยแล้ว "ดรูฟ ของแม่กำลังทำอะไรเอ่ย" เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม พร้อมวางมือลงบนไหล่กว้างของบุตรชาย ที่กำลังเติบใหญ่ขึ้นทุกวัน "ท่านแม่" เด็กหนุ่มเงยหน้ามองพร้อมเอ่ยเรียกแผ่วเบา "ลูกกำลังดูว่าจะเรียนต่อที่ไหนดี" เขาบอกถึงสิ่งที่กำลังกระทำให้มารดารับทราบ "แล้วได้หรือยัง" ผู้เป็นแม่เดินมานั่งตรงข้ามแล้วเอ่ยถามขึ้น เพราะเรื่องสถานศึกษาแม้ผู้เป็นพ่อคิดวางแผนไว้แล้ว แต่ก็ย่อมรอบุตรชายนั้นตัดสินใจเพราะเขาจะไม่บังคับ "ลูกมีที่อยากไปแต่ไม่รู้ท่านพ่อจะอนุญาตไหม?" เด็กหนุ่มพูดขึ้นและเอ่ยถึงผู้เป็นบิดา "ที่ไหนล่ะ ที่ลูกชายของแม่อยากไป" "ประเทศไทยครับ" "หืม..." "ลูกอยากไปเรียนต่อที่นี่" เด็กหนุ่มยื่นนิตยสารให้ผู้เป็นแม่ดู ประเทศไทยบ้านเกิดเมืองนอนที่เธอนั้นจากมานาน ตั้งแต่แต่งงานกับ เชคฮ บราฮิม และยังไม่มีโอกาสได้กลับไปสักครั้ง เมื่อครั้งล่าสุดที่ไปก็เมื่อบุตรชายนั้นอายุได้ห้าขวบ เพื่อจัดการต่อเติมและซ่อมแซมกับบ้านเพียงหลังเดียวที่ม่านฟ้านั้นมีเป็นสมบัติชิ้นเดียวของยายที่ทิ้งไว้ให้เธอ "ได้ไหมครับท่านแม่" เด็กหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง "แล้วดรูฟคิดว่าจะไปอยู่ได้ไหมล่ะลูก" "ลูกคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เรื่องภาษาไทยลูกก็พูดได้เพราะท่านแม่ก็สอนประจำ" เด็กหนุ่มเน้นย้ำอย่างมั่นใจ "แต่แม่เป็นห่วงและคงจะคิดถึงดรูฟมากแน่ ๆ" มือของแม่ยื่นจับมือบุตรชายมั่นพร้อมสายตาที่อาทรเมื่อนึกถึงความที่ต้องห่างไกลกัน "ลูกโตแล้ว ท่านแม่อย่าห่วงเลยครับ" บุตรชายเพียงคนเดียวที่ไม่เคยห่างกาย เดินเข้ามากอดผู้เป็นแม่จากทางด้านหลัง นิสัยและพฤติกรรมที่เขานั้นแสดงออกกับคนในครอบครัว แตกต่างคนละขั้วกับการแสดงตัวกับคนนอก....เมื่อหลุดจากพื้นที่อาศัยพฤติกรรมและคำพูดจะเปลี่ยนไปทันทีอย่างกับคนละคน "สองแม่ลูกกำลังคุยอะไรกัน ดูเครียดเชียว" เชคฮ บราฮิม ที่ได้ขึ้นเป็นผู้นำรัฐแห่งชาร์จาห์ เดินมายังศาลาเมื่อเห็นภรรยาและบุตรชายกำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส "ท่านพ่อครับลูกมีอะไรจะขอ" เด็กหนุ่มไม่รีรอหรือแสดงความกระอักกระอ่วนกับการที่จะร้องขอในสิ่งที่ต้องการ "อะไรล่ะ" ผู้เป็นพ่อย้อนถาม และเดินมานั่งขนาบข้างภรรยาที่พ่วงตำแหน่งเชคฮคาแห่งรัฐชาร์จาห์ "ลูกอยากไปเรียนต่อที่ประเทศไทยบ้านเกิดของท่านแม่" เด็กหนุ่มบอกถึงสิ่งที่ต้องการ "....ทำไม" ผู้เป็นพ่อเงียบชั่วครู่และเอ่ยถามเพียงสั้น ๆ "อยากไป" บุตรชายก็เช่นกันไม่รู้จะประหยัดคำพูดไปถึงไหนเมื่อพูดกับผู้เป็นพ่อ "ถ้าแม่ของลูกเห็นควร...พ่อก็ไม่ห้าม" ผู้เป็นพ่อมองหน้าภรรยาก่อนจะตอบบุตรชาย สายตาที่มองลึกเข้าไปในดวงตากลมสีนิลของภรรยา ท่านผู้นำรัฐอย่างเขาที่แสนจะรู้ใจภรรยาเป็นที่สุดมีหรือจะเดาไม่ออกว่าเธอคิดอะไร...เพราะสายตาที่มองเขานั้นมันคือการขอร้องให้ตามใจ "ท่านแม่ครับ" เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกด้วยความดีใจ จากตอนแรกที่คิดไว้ว่าบิดาต้องไม่ยอมเป็นแน่ "จัดการเรื่องบ้านที่เมืองไทยให้ลูกด้วยนะคะท่านผู้นำรัฐ" เชคฮคาม่านฟ้าหันไปพูดกับสามีด้วยรอยยิ้ม "ได้สิ จะให้ราชิตจัดการให้" "ขอบคุณครับท่านพ่อ ท่านแม่" เด็กหนุ่มแทรกกลางระหว่างบิดาและมารดาโอบกอดคนทั้งสองด้วยความดีใจ สิ่งที่หวังนั้นไม่ถูกคัดค้าน เมืองไทยที่เขานั้นอยากไปแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปอีกเลยตั้งแต่อายุห้าขวบ...และตั้งมั่นว่าหากโตขึ้นและวุฒิภาวะตนนั้นมีมากพอเขาจะกลับไปอีกครั้ง

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

กระชากกาวน์

read
7.9K
bc

นางสาวอินทุอรณ์

read
8.0K
bc

FirstLove น้องพี่ที่รัก

read
15.1K
bc

My Buddy เล่นเพื่อน

read
26.0K
bc

ซ่านเสน่หา พี่น้องต่างสายเลือด

read
7.0K
bc

ร้อยสวาททาสหัวใจ

read
6.1K
bc

แคดดี้ที่รัก

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook