ตอนที่ 6 ก็ชอบไงคะ

2023 Words
ตอนที่ 6 ก็ชอบไงคะ “พ่อเลี้ยงเวหาครับทีมออกแบบสถานที่มากันแล้วนะครับ” ตรีตินเดินเข้ามาในห้องทำงานของพ่อเลี้ยงหนุ่มคนใหม่ มาวันแรกก็ทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่ในไร่ป้องปากกรี๊ดกร๊าดไปตาม ๆ กัน ก็ไม่เห็นจะหล่อกว่าเขาตรงไหน แค่สูงกว่า หุ่นดีกว่านิดหน่อย หน้านิ่ง ๆ สายตาคมกริบ สาว ๆ ชอบแบบนั้นกันใช่ไหมไอ้ทรงอย่างแบดน่ะ “อืม” ขานรับในลำคอมือยังคงเปิดเอกสารดูไปเรื่อย ๆ คล้อยบ่ายมาเขางมอยู่กับสมุดบัญชีของไร่จนพอจะรู้แล้วว่ากำไรมันหายไปไหน “พ่อเลี้ยงจะไปดูไหมครับ” “ค่อยดูตอนเสร็จ เอกสารมีเท่านี้เหรอ?” “ผมเห็นในห้องเก็บเอกสารเท่านี้นะครับ” “โอเค นายเลิกงานเถอะ” “ขอบคุณครับ” ตรีตินค่อมหัวรับก่อนจะหมุนตัวออกไปพร้อมกับแฟ้มงานหนาปึกที่เขาต้องไปศึกษา แต่มีอย่างหนึ่งที่เขารู้สึกว่าเทียบกับพ่อเลี้ยงไม่ติดเลยนั่นก็คือ เวลาทำงานพ่อเลี้ยงดูเอาจริงเอาจังมาก สมาธิจดจ่ออยู่กับงานไม่วอกแวกเลย และเขาเชื่อว่าไร่เติมรักจะกลับมารุ่งเรืองได้เหมือนวันวานในเร็ววันแน่นอนดูจากพ่อเลี้ยงที่ตั้งใจขนาดนี้ หลังจากอยู่เคลียร์งานจนถึงห้าทุ่มและได้เวลากลับแล้วจึง ตรวจเช็กความเรียบร้อยปิดคอมเสร็จออกไปจากห้องทำงาน เป้าหมายก็คือบ้านใหญ่ พอมาถึงเขาจึงได้เห็นความวุ่นวายกำลังเกิดขึ้นที่สนามหญ้าข้างบ้าน แต่ที่เด่นที่สุดในตอนนี้ก็คือผู้หญิงคนหนึ่งยืนนิ่งยกมือนวดคลึงขมับอยู่ไม่ไกลจากหน้างานเท่าไหร่ “เกิดอะไรขึ้น” เขาเอ่ยถามน่าจะทีมงานคนหนึ่งหน้าตาขาวซีดไปหมด “เอ่อ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ คือว่าดอกกุหลาบหลายร้อยดอกแห้งเหี่ยวหมดเลยค่ะ” “เหี่ยวหมด?” “ค่ะ ใช้ไม่ได้หมดเลย” “มันเกิดขึ้นได้ยังไง” “แปลกมากเลยค่ะทางทีมงานจัดเสร็จตอนสองทุ่มครึ่งจึงกลับไปพักผ่อนแต่ตอนห้าทุ่มกว่า ๆ ได้รับโทรศัพท์จากแม่บ้านบอกว่าออกมาดูสถานที่ก็เห็นดอกไม้เหี่ยวแห้งหมดเลย” ทีมงานพูดออกมาอย่างลนลาน เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้เลยด้วยซ้ำกับระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง “อืม ไปเถอะ” จากที่จะเดินเข้าไปในตัวบ้านเลยต้องเปลี่ยนเป้าหมายเดินไปยังสนามหญ้า อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน “พี่อาหลี” เขาหยุดชะงักอยู่ด้านหลังผู้หญิงคนนั้นไม่รู้ว่าความคิดเมื่อครู่คืออะไร ทำให้เขาเกือบเดินจะถึงตัวผู้หญิงคนนั้นแล้ว ดีหน่อยที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตัดหน้าเขาไปก่อน “ว่าไงน้ำฝน มีร้านไหนพอมีดอกกุหลาบเหลือบ้าง” มันจะไม่ดูร้อนใจเลยถ้าไม่ใช่ดอกกุหลาบพันธุ์หายากอย่างสีชมพูอ่อน เธอจึงได้แต่ร้อนใจไม่มีเวลาคิดด้วยซ้ำว่าทำไมหน้างานที่สมบูรณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงพังไม่เป็นท่า ตอนนี้คือต้องหาดอกไม้มาแทนให้ได้ “มีค่ะ แต่อยู่ในตัวเมืองเจ้าของแค่ปลูกเพื่อความสวยงามยอมขายให้เรา แต่เราต้องไปรับเองนะคะ” “พี่ไปเอง เราดูแลตรงนี้ไปก่อนจุดไหนซ่อมได้ซ่อมเลยนะน้ำฝน” “พี่อาหลีมันอันตรายมากนะคะ ให้ต้นหนไปด้วยดีไหมหนูไปเรียกให้” น้ำฝนไม่ไว้ใจให้รุ่นพี่สาวขับรถไปคนเดียวอย่างแน่นอน กลางค่ำกลางคืนถนนเส้นรอบนอกแบบนี้ข่าวโจรเยอะจะตาย อาหลีหันไปมองลูกน้องที่ช่วยทีมงานจัดสถานที่ทำงานก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา เวลาก็กระชั้นเข้ามาแล้วเธอไม่มีเวลาให้คิดมากเสี่ยงอันตรายดีกว่างานใหญ่พรุ่งนี้พัง “พี่ไปคนเดียวได้ ฝากทางนี้ด้วยนะ” ว่าจบก็หมุนตัวหันหลังไปยังรถของตัวเองแต่จังหวะที่หันกลับมาดันเผชิญหน้ากับคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดในเวลาที่ตัวเองอ่อนแอแทบจะร้องไห้ออกมาแบบนี้ “คุณ...” อาหลีเลือกที่จะเบี่ยงตัวหลบไม่สบตา หมับ! มือหนาคว้าข้อมือเล็กไว้ก่อนที่อีกคนจะเดินผ่านเขาไป “ในเวลาแบบนี้เธอควรร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นสิ” เขาหันไปมองเสี้ยวหน้าหวาน “พ่อเลี้ยงคงไม่ใจดีจนอาสาพาฉันไปหรอกนะคะ” แม้จะแย่แต่เธอยังฝืนยิ้มต่อหน้าเขา “...” “ในเมื่อพูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากพ่อเลี้ยงค่ะ” ในเมื่อเขาเงียบเธอจึงเลือกที่จะรุกหนักด้วยการก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด “ไม่ว่าง” “งั้นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างฉันก็คงต้องขับรถฝ่าดงมืดไปในเมืองคนเดียวแล้วสิ ช่วงนี้ข่าวโจรดักปล้นเยอะมากเลยนะคะ” “ไม่สงสาร” “ไม่ต้องไปเป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ งั้นไปเป็นแฟนฉันก็ได้” “กล้าเล่นมุกนี้นะ” “หวั่นไหวเหรอคะ?” เธอเอียงคอมองเล็กน้อยพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างส่งไปให้ “ทางเดียวกันหรอกนะ” “สรุปไปเป็นแฟนใช่ไหมคะ” “ไม่ไปแล้ว!” “แหม อย่าใจร้อนนักสิคะ” เธอแค่แกล้งแหย่เล่นแต่หน้าตาเขาไม่เล่นเลยสักนิดเลยคิดว่าเลิกแหย่ดีกว่า “พ่อเลี้ยงจะเข้าเมืองตอนนี้เหรอคะ?” “อืม” “มีธุระเหรอ?” “ใช่” “พูดน้อยเย็นชาแบบนี้สเปกฉันเลยค่ะ” เธอเดินตามเขามาต้อย ๆ จนเกือบจะถึงรถกระบะอยู่แล้วแต่เขาดันหยุดเดินกะทันหันทำให้เธอที่เดินมาอย่างอารมณ์ดีหน้าทิ่มเข้าที่แผ่นหลังกว้างทันที “ไม่มีตาเหรอ?” “ค่ะ แต่มีใจให้พ่อเลี้ยงนะ” ชะโงกหน้าไปมองพร้อมกับยกนิ้วขึ้นมาประกบกันเป็นรูปหัวใจ ก็ไม่มีอะไรนะ นอกจากโดนผู้ชายที่ชอบกลอกตามองบนให้มาหนึ่งทีอย่างระอา ไม่เป็นไรนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเธอจะใช้คติที่ว่า ‘ด้านได้อายอด’ อยากได้ผัวต้องอดทนค่ะ “ไปทางเดียวกันแต่รถคนละคัน” “รถเสียค่ะ” ไม่รู้อะไรดลใจให้พูดออกไปแบบนั้น ได้แต่ขอโทษต้นหนในใจที่จริงรถก็ไม่ได้เสีย แต่เรื่องอะไรจะพลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ล่ะ “เหรอ เสียยังไง” เหมือนจะจับไต๋ผู้หญิงคนนี้ทัน ดูจากสายตาเลิ่กลั่กนั่นสิต้องทึ่มแค่ไหนถึงจะมองไม่ออกล่ะ “ยางแบน” “เหรอ?” “ต้องเดินไปดูเลยเหรอ” อาหลีได้แต่โอดโอยตามหลังเพราะเขาพยักพเยิดให้เธอเดินนำไปยังรถตัวเอง มันจะเสียได้ยังไงล่ะถ้าไปก็โป๊ะแตกพอดีสิ “นั่นไง!” ตบหน้าขาหนึ่งฉาดหลังจากเดินมาที่รถต้นหนแล้วยางล้อหน้าแบนติดไปกับถนนเลย มองรถสลับกับต้นหนยืนทำงานอยู่ในสนามหญ้าแล้วได้แต่เบ้หน้า ‘ขอโทษด้วยนะต้นหนฉันไม่คิดว่ามันจะแบนจริง ๆ’ เธอต้องวิ่งกลับมาที่รถกระบะโฟร์วิลอีกครั้งเพราะเขาสะบัดหน้าแล้วเดินจ้ำอ้าวไปทางตำแหน่งคนขับ ทำการเปิดประตูปีนขึ้นมานั่งเบาะด้านข้างด้วยความรวดเร็ว “ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยง” เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นคำด่าแทนได้ไหม หลังจากที่รถแล่นออกมาจากเขตพื้นที่ของไร่เติมรัก พ่อประคุณก็เล่นเหยียบแบบไม่ให้ใครแซงได้ทั้งนั้น หัวใจเธอลงไปกองอยู่ที่เท้าของคนขับแทนแล้ว ความเร็วของรถทำให้เธอได้แต่ข่มตาหลับพยายามหายใจให้เป็นจังหวะปกติให้ได้มากที่สุด เธอกลัวความเร็ว กลัวเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น “ไม่ต้องเป็นห่วงชีวิตฉันก็ได้นะคะ แต่พ่อเลี้ยงโปรดเป็นห่วงชีวิตตัวเองด้วย เพราะฉันเป็นห่วงพ่อเลี้ยงค่ะ” พูดออกไปเร็วปรื๋อตามความเร็วของรถนั่นแหละ “หึหึ” ไม่รู้ว่าทำไมต้องผ่อนความเร็วลง เห็นใบหน้านวลขาวซีดแล้วเขาควรสะใจสิ “ยังอยากมากับผมอีกหรือเปล่า” “อยากสิคะ อยากน้อยถ้าตายก็ได้ตายพร้อมคนที่ฉันรัก” “...” “อยู่ที่ไหนก็ได้ค่ะ ขอแค่มีคุณ” “น้ำเน่า” “เตรียมใจไว้เลยค่ะ ตั้งแต่วินาทีนี้ไปฉันจะตั้งใจจีบคุณอย่างดี” “ไม่ต้องพยายามหรอก” “ต้องลองก่อนสิคะ จะได้ไม่เสียดายทีหลัง” “ช้าไปหรือเปล่า” “มาช้าดีกว่าทรยศหัวใจตัวเองนะคะ” “ผู้หญิงอย่างเธอไม่ตรงสเปกฉันสักนิด” “เมื่อก่อนก็บอกอย่างนี้” เธอพ่นคำพูดออกมาเสียงเบาไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไปอีก ถ้าเขายังชมชอบสาวเอเชียอยู่ก็คิดว่าตัวเองมีหวังอยู่พอสมควรนะ เมื่อมาถึงสวนที่ว่าเจ้าของบอกให้อาหลีเป็นคนตัดดอกกุหลาบเองเพราะตอนนี้ดึกแล้ว อาหลีเห็นว่าเป็นคุณยายที่รักในการปลูกดอกกุหลาบมากและตอนนี้มันก็ดึกจริง ๆ เธอก็ไม่กล้ารบกวน แต่ที่เกรงใจก็คือคนเดินตามเธอลงมานี่แหละ “พ่อเลี้ยงกลับก่อนเลยก็ได้ค่ะ” เธอเกรงใจ กว่าจะตัดเสร็จให้เขารอนาน ๆ มันก็คงไม่ดีเท่าไหร่ ยังไม่ทันได้ทำคะแนนก็ติดลบแบบนั้นก็ไม่ไหว “คงอีกนานเลย” เวหามองคนตรงหน้าสลับกับสวนกุหลาบขนาดย่อม ยายนี่ตัดคนเดียวงานคงไม่ต้องเลื่อนไปอีกสามวันเรอะ เขาไม่ได้เห็นใจยายนี่หรอกแต่งานเขาไม่ควรล่มเพราะตัดดอกกุหลาบไม่ทัน “ตัดรอ ไปธุระเดี๋ยวกลับมา” “ค่ะ” ยกมือขึ้นมาโบกหย่อย ๆ แม้เขาจะไม่มองมาที่เธอเลยก็ตาม เย็นชาชะมัดเลย แม้พยายามจะใช้ชีวิตให้ดีเท่าที่ทำได้ สร้างธุรกิจขึ้นมาเป็นของตัวเองแต่ก็ยังรู้สึกว่าเธอไม่เหมาะสมกับเขาอยู่ดี ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะไปหยิบอุปกรณ์ในการตัดดอกกุหลาบตรงไปยังสวนขนาดย่อม เวหามายังร้านตัดชุดเจ้าประจำต้องสนิทกับเจ้าของร้านแค่ไหนถึงมารับชุดในเวลาตีหนึ่งได้ ก็เมื่อตอนกลางวันเขาลืมไปสนิทเพราะมัวแต่ตรวจสอบบัญชี หลังจากรับชุดเสร็จก็ตรงกลับไปที่เดิม พอมาถึงเห็นยายนั่นกำลังหอบดอกกุหลาบมากมายมากองไว้ด้านหน้า ยืนมองอยู่นานเห็นทุกการทำงานอย่างตั้งใจของอีกคนไม่รู้ว่ายายนั่นใช้ชีวิตมาได้ยังไงถึงมีสภาพแบบนี้ ไม่ร้องขอ ไม่อ้อนวอนให้ใครมาช่วย ถ้าเธอมาคนเดียวก็คงต้องตัดดอกกุหลาบจนมือแตกแล้วแบกขึ้นรถเองสินะ คิดว่าตัวเองเป็นวันเดอร์วูแมนเหรอ? “เดี๋ยวผมแบกขึ้นรถเอง” อาหลีเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมา วางดอกไม้ลงบนผ้าที่ปูไว้พร้อมกับยกหลังมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก “แค่เห็นหน้าก็ใจสั่นแล้ว นี่ช่วยงาน ฉันยกให้ทั้งใจแล้วนะคะ” “ยกเองไปเลย” “ทำหน้าแบบไหนก็หล่อว่ะคนอะไรเนี่ย ใจเต้นแรงนะเนี่ย จับดูปะ” เธอยืดอกออกไปตรงหน้าอย่างไม่เหนียมอาย แต่อีกคนกลับถอยหลังแล้วเสมองไปทางอื่นแทน “ที่ช่วยไม่ได้พิศวาสแต่สมเพช” “แรงมาก!!” แสร้งยกมือทาบอกตาถล่นเบิกกว้าง แต่นี่แหละผู้ชายที่เธอหลงแบบหัวปักหัวปำ หัวสักคะมำโงหัวไม่ขึ้นอีกเลย “จะยืนเป็นนางเอกเอ็มวีอีกนานไหม ไปทำงานสิ” “ดุจังเลย หน้าตาตอนดุเหมาะแก่การสั่งสอนลูกของเรามากเลยค่ะ” “อาหลี!” “ไปแล้วค่า แหมหยอกนิดเดียวเองหัวร้อนไปได้” เวหากลอกตามองบนให้อีกรอบ ผู้หญิงอะไรทำไมหน้าหนากว่าปูนซีเมนต์แถวบ้านอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD