ตอนที่ 4 สารภาพว่ายังชอบ

2537 Words
ตอนที่ 4 สารภาพว่ายังชอบ ร่างระหงเดินนวยนาดเข้ามาในห้องสี่เหลี่ยมกลิ่นหอมของดอกกุหลาบขาวลอยมาแตะจมูกเหมือนเพื่อนในห้องกำลังทักทายเพื่อนใหม่ในอ้อมกอดของเธอเอง “สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยงเหมทัช” อาหลีเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับเอ่ยทักทายบุคคลบนเตียงใหญ่ “เวลามันคงสุกงอมพร้อมที่จะให้เก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วสินะ” พ่อเลี้ยงเหมทัชแย้มยิ้มสรวลออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่มาเยี่ยมไข้เป็นใคร “อาหลีเอาดอกกุหลาบขาวมาเปลี่ยนให้ค่ะ ขอให้พ่อเลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรงหายป่วยเร็ว ๆ นะคะ” “อือ ขอบใจมาก” มองผู้หญิงตรงหน้าตลอดห้าปีที่ผ่านมาเธอได้ผ่านบททดสอบมหาโหดจากครอบครัวเติมศิริทรัพย์แล้ว เขาขอยอมรับหัวใจของผู้หญิงคนนี้จริง ๆ “ตามที่ได้ตกลงกันไว้ตอนนี้ตาลมกลับมาแล้ว เธอยังรักหลานชายฉันเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า” ใช่! สัญญา 5 ปี ที่เธอต้องอดทนรอเขากลับมาสานต่อธุรกิจที่ไร่เติมรักพร้อมกับพิสูจน์ตัวเองไปด้วยว่าเหมาะจะเป็นภรรยาของเวหาจริง ๆ หรือเปล่า เราต้องจากกันเพราะฐานะที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว ในตอนที่เผลอไปทำร้ายผู้ชายที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเธอ แม้จะรักมากแล้วยังไง ตอนนั้นเธอเป็นแค่เด็กทุนที่พึ่งเรียนจบได้ไม่กี่ปี งานการก็ไม่มีเพราะเครดิตไม่ดีติดหนี้ก้อนใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย สุดท้ายก็ต้องยอมรับฐานะตัวเองแล้วปล่อยผู้ชายที่ตัวเองรักไปในทางที่ดีกว่า และในตอนนั้นที่เกิดสัญญาขึ้นระหว่างเธอและตระกูลเติมศิริทรัพย์ พ่อเลี้ยงเหมทัชยื่นเงินก้อนใหญ่ให้เธอเปิดธุรกิจที่นี่ให้บริหารจัดการเองทุกอย่าง ถ้าเกิดรอได้พอเวหาหวนกลับมาพ่อเลี้ยงจะไม่กีดกันคู่เราอีก แต่ถ้าเกิดเขาแต่งงานไปแล้วหรือมีคนรักเธอก็ต้องยอมรับให้ได้ ทุกอย่างอยู่ในข้อตกลงทั้งหมด “อาหลีรอแค่เวหาค่ะ” อายุก็ปาเข้าไปสามสิบแล้ว นี่คิดว่าถ้าเขาหายไปนานกว่านี้เธออาจจะถอดใจ แล้วไปหาใครสักคนแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน ทั้งที่ไม่มั่นใจว่าจะรักผู้ชายคนอื่นได้เท่าเขาหรือเปล่า “แปลว่ายังรักสินะ” พ่อเลี้ยงพยักหน้าเข้าใจ เมื่อก่อนดูแคลนผู้หญิงคนนี้เขายอมรับ แต่ตอนนี้อาหลีได้พิสูจน์ให้เขาเห็นแล้วว่ามีความอดทนและเสียสละมากพอ มากพอแล้วจริง ๆ “หนูยังรักเขาเหมือนวันแรกที่รักค่ะ” “รู้ไหมอะไรที่ทำให้ฉันเริ่มชอบเธอขึ้นมา ก็ความเป็นคนตรง ๆ ของเธอนี่แหละ ฉันเป็นกำลังใจให้แล้วกันคว้าหัวใจด้านชากลับมาเป็นของเธอให้ได้นะอาหลี” รอยยิ้มกว้างในรอบหลายปีเผยอค้างไว้แบบนั้นน้ำตาจวนจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ เธอไม่คิดว่าจะอดทนรอผู้ชายคนหนึ่งได้นานขนาดนี้มาก่อน เมื่อผู้ใหญ่เปิดทางแล้วเหมือนมีแสงสว่างปรากฏขึ้นตรงหน้า แต่ไม่สามารถรู้เลยจริง ๆ ว่าปลายทางจะไม่จบที่ตรงไหน “ขอบคุณที่ให้โอกาสหนูนะคะพ่อเลี้ยง” “ก็เธอเก่งจริง และฉันยอมรับในความอดทนรอของเธอ แต่ไม่ใช่ว่าผ่านด่านฉันแล้วเธอจะสมหวัง ข้อนี้เธอรู้ตัวใช่ไหมอาหลี?” ชนะหัวใจเขาได้ก็ไม่ใช่ว่าจะได้เวหาคนเดิมกลับมา อยากเตือนสติหญิงสาวให้คิดอย่างรอบคอบก่อนจะทำอะไร “ค่ะ หนูรู้” เธอพร้อมแล้ว พร้อมที่จะตามจีบผู้ชายคนเดิมเหมือนสิบปีก่อน “ขอบคุณนะคะ” “ขอให้เธอได้ตบแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ของเติมศิริทรัพย์” ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา เด็กสาวที่เขาเองก็ไม่มีคิดว่าจะมีน้ำอดน้ำทนในการรอใครสักคนทั้งที่ไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางมันจะไปจบที่ตรงไหน แปลกที่อาหลียังคงรออย่างเสมอต้นเสมอปลาย ความจริงใจของเด็กมันเผื่อแผ่มาถึงเขาอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นตอนเหงา ๆ แค่โทรไปเล่าระบายเธอก็พร้อมจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นให้คนแก่อย่างเขาอารมณ์ดี พาเดินเล่นในตอนที่ลูกชายลูกสะใภ้ออกไปทำงาน ชอบมาอยู่เป็นเพื่อนคนแก่บ่อย ๆ ทั้งที่มันน่าเบื่อจะตาย จะว่าใจอ่อนก็คงใช่สงสารก็คงถูก ทำไมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องมารอทั้งที่อีกคนยังคงไม่รู้ว่ามีคนรอด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเขาเลยนับถือใจของผู้หญิงคนนี้ รักแท้มีจริงเงินทองไม่ควรมากีดขวางพวกเขาตั้งแต่แรก แถมทั้งอาหลีเองและแม่ของเธอยังชอบทำอาหารอร่อย ๆ มาฝาก รู้ว่าชอบดอกกุหลาบขาวก็ลงทุนมาเปลี่ยนให้บ่อย ๆ มิหนำซ้ำยังทำแปลงดอกกุหลาบอยู่ข้าง ๆ ห้องสมุดพอมองออกไปก็ได้เห็น เด็กคนนี้มันรอทั้งที่ไม่รู้ว่าหลานชายของเขาจะกลับมาตอนไหน มันแทบไม่มีหวังเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปีจวบจนสองและสามจนห้าปีผ่านไป แต่เขาก็ยังเห็นว่าอาหลีตั้งใจรอแค่หลานชายเขาคนเดียว แค่หลานชายเขาจริง ๆ แบบนี้คนแก่หัวหงอกใกล้จะลงโลงอย่างเขาจะถือศักดิ์ศรีหมิ่นเงินน้อยไปทำไม ในเมื่อมีคนที่รักและจริงใจต่อหลานชายเขามากขนาดนี้อยู่บนโลก พ่อเลี้ยงเหมทัชไฟเขียวให้ตั้งแต่สองปีแรก แต่หลานชายเขามันกลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย ทั้งที่อาหลีจะหาวิธีไปบอกก็ได้แต่ยังคงทำตามที่ตนเคยบอกไว้ก็คือต้องรอให้เวหากลับมาเอง ก็นั่นแหละอาหลีเลือกที่จะตั้งใจรอแบบเงียบ ๆ ตามที่ให้สัญญาไว้กับเขา ห้าปีจบลงเหมือนความตั้งใจแรกจะยังใจดีกับนางหนูนี่อยู่ หลานชายเขากลับมาแล้วแถมยังไม่มีใครได้เป็นเจ้าของหัวใจเย็นชาดวงนั้น เขาก็ได้แต่เอาใจช่วยให้อาหลีคว้าหัวใจหลานชายตัวเองกลับมาให้ได้ น้ำฝนคลี่ยิ้มให้กับความอารมณ์ดีของเจ้าของร้าน สไตล์เพลงที่ฟังก็แตกต่างออกไปจากทุกวันที่เป็นเพลงแนวสากลคล้ายคนอกหัก วันนี้เปิดเพลงไทยเหมือนคลั่งรัก หรือพี่อาหลีมีแฟน? “วันนี้ได้ออเดอร์ใหญ่แต่เช้าเลยค่ะ” “หืม มีงานอะไรเหรอ” ถ้าออเดอร์สั่งดอกไม้เข้ามาเยอะมักจะมีงานใหญ่ ๆ ของตำบลหรืออำเภอ “หนูได้ยินมาว่าไร่ด้านบนเขามีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของลูกชายคุณอานนท์ค่ะ” รอยยิ้มหวานคลี่ออกมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอจะทำตามเสียงของหัวใจเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่เป็นตามที่หวังก็แค่กลับมาเลียแผลใจตัวเอง ดีกว่ายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่พยายาม อย่างน้อยเธอก็ได้พยายามกับความรักครั้งนี้อีกครั้ง แม้บทสรุปจะไม่สมหวังแต่เธอจะยอมรับมันเอง “ไร่เติมรักใจป้ำจัดดอกไม้จริงทั้งงานเลยค่ะ” “จริงเหรอ” ยกมือขึ้นปิดปากด้วยความดีใจ แบบนี้เดือนนี้เราก็รอดพ้นวิกฤติไปได้แล้ว “งานสัปดาห์หน้าวันจันทร์เราต้องไปจัดเย็นวันพรุ่งนี้แล้วค่ะ” น้ำฝนก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยแต่ไม่ใช่เพราะออเดอร์ใหญ่แต่เป็นเพราะหลานชายของพ่อเลี้ยงเหมทัชต่างหาก “โอเค งั้นลงคิวงานไว้เลยนะ” “ได้ค่า” อาหลีพยักหน้ารับยิ้ม ๆ ก่อนจะไปจัดการกับออเดอร์อื่นต่อ ร้านของเธอแม้จะขนาดกลางแต่ลูกน้องจริง ๆ มีแค่สองรวมกับเธอเป็นสาม เพราะเมื่อก่อนเธอรับมาเยอะกลายเป็นว่าไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะทำงานกับดอกไม้ได้ ใจต้องรักในระดับหนึ่งและมีความใจเย็นพอสมควร แบบนั้นลูกน้องเลยเริ่มหายไปเรื่อย ๆ เหลือแค่น้ำฝนกับต้นหน ช่วงนี้กิจการกำลังคล่องตัวอาจไปจีบนักเรียนจากโรงเรียนจัดดอกไม้มาสักคนสองคนก็ได้ รอให้เธอมีเวลาก่อนเถอะ “พี่ขอลิสต์รายการจากลูกค้าหน่อยจ้ะ จะไปดูว่าคลังเรามีพอไหม” “นี่จ้า” “พี่ฝากหน้าร้านหน่อยนะ” หลังจากนั้นเธอจึงเดินเข้ามาในโดมกระจกแก้วมองดูดอกไม้ตามลิสต์รายชื่อ กุหลาบขาว คาร์เนชั่น ไฮเดรนเยีย ไลเซนทัส กล้วยไม้ เบญจมาศ และ ดอกคาโมมายล์ โชคดีที่เราพึ่งนำเข้ามาจัดงานแต่งให้ลูกค้าเมื่อสัปดาห์ก่อนและมันยังมีมากพอจึงไม่ต้องสั่งเพิ่มอีก แต่ละดอกที่ลิสต์รายการมาความหมายโดยรวมเลยก็คือ ‘งานมงคล’ จัดสต็อกตามจำนวนหลังจากเสร็จก็เดินไปที่โต๊ะทำงานเริ่มวาดแปลนงานคร่าว ๆ ออกมา แต่มันคงไม่สมจริงเท่ากับไปดูสถานที่จริงคิดได้แบบนั้นก็เผลอยิ้มออกมาทันที เธออยากเจอหน้าเขาแล้ว จะมีโอกาสได้เจอไหมนะ “ต้นหนไปช่วยน้ำฝนหน่อยนะ พี่จะออกไปดูสถานที่จัดงานสักหน่อย” ร้องตะโกนบอกคนกำลังตัดดอกไม้ตามออเดอร์เล็ก ๆ ของลูกค้า “โอเคครับ” ต้นหนตอบกลับเสียงดังฟังชัด “น้ำฝนพี่ไปดูสถานที่จริงก่อนนะ” “อยากไปด้วยจัง แต่วันนี้ลูกค้าเยอะมากจัดดอกไม้เพลินเลยค่ะ พี่อาหลีสู้ ๆ น้า” อาหลีพยักหน้าเพราะช่วงนี้ใกล้หน้าหนาวแล้วนักท่องเที่ยวขึ้นมาพักบนดอยเยอะมากจริง ๆ แถวนี้ล้อมรอบไปด้วยรีสอร์ตชื่อดังมากมาย และแลนมาร์กหลายที่ที่ทุกคนต้องได้ไปถ่ายรูป ร้านเธอก็ติดหนึ่งในโพสต์แนะนำเหมือนกัน ‘สาว ๆ มีดอกไม้สวย ๆ ในมือสักกำขึ้นไปถ่ายรูปกับไร่ชาหรือคาเฟ่ด้านบน เหมือนกับภาพสลักไว้โดยธรรมชาติ’ ลูกค้าชอบพูดวลีนี้ให้เธอฟังและเธอก็อดเห็นด้วยไม่ได้ “ติดต่อทีมจัดสถานที่ลงคิวงานด้วยนะ พี่ฝากร้านด้วย” “ได้จ้า” จากนั้นเธอจึงเดินไปคว้าดอกเดซี่สีขาวมากำมือหนึ่งก่อนจะเดินไปที่รถจักรยานคันสีฟ้าของตัวเองแล้วนำดอกเดซี่ไปไว้ในตะกร้าสาน เธอชอบดอกเดซี่เพราะมันมีความหมายว่า ความรักบริสุทธิ์หรือความไร้เดียงสานั่นเอง เนื่องจากสถานที่อยู่ไม่ไกลมากเท่าไหร่ตอนนี้บรรยากาศกำลังดี แสงสีส้มสะท้อนตามผิวน้ำในช่วงกำลังจะพลบค่ำ ข้างทางก็คือบรรยากาศไร่ชาของชาวบ้านมีลำคลองสายยาวไปตามทาง น้ำใสจนมองเห็นด้านล่างมีลูกปลากำลังแหวกว่ายทวนน้ำ ลมเบา ๆ พัดผ่านผิวหน้าทำให้รู้สึกเย็นสบายตลอดเส้นทาง เธอชอบที่นี่ และชื่นชอบคนที่นี่มานานแล้ว จะผิดไหมถ้าต่อจากนี้ไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไปขอเดินหน้าจีบคนคุยเก่าอย่างจริงจัง! “สวัสดีค่ะ อาหลีมาจากร้านรับจัดดอกไม้ของอาหลีค่ะ” เธอปั่นจักรยานมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ มีธรรมชาติล้อมรอบจนต้องยกมือขึ้นป้องปากในความสวยงามของบ้านหลังนี้ ลงตัว ละมุนหวานสุด ๆ สมกับเป็นที่อยู่ของคนในอาณาจักรเติมรัก “เชิญทางนี้เลยค่ะ” คนรับใช้ในบ้านผายมือไปทางสนามหญ้าข้างบ้านซึ่งมีขนาดกว้างบรรจุคนได้เป็นร้อย “ตรงนี้ค่ะ” “ขอบคุณนะคะ” อาหลีค้อมหัวขอบคุณเล็กน้อย ตะลึงความสวยของบ้านในรอบร้อยแปด เถาวัลย์พันเกี่ยวไปตามกำแพงบ้านไม่ได้ให้ความรู้สึกรกเลย แต่มันสวยมากคนหลงใหลในธรรมชาติอย่างเธอคือเทใจให้หมดหน้าตักเลยก็ว่าได้ “ตามสบายเลยนะคะ” หญิงรับใช้ค้อมหัวนอบน้อมก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปให้อิสระกับคนทำงาน อาหลีเดินสำรวจอยู่นานสองนานส่องมุมนู้นชะโงกหน้าดูมุมนั้นไอเดียผุดขึ้นมาในหัวรัว ๆ ก่อนจะเดินไปที่รถจักรยานคันเก่งดึงกระดาษพร้อมกับดินสอร่างภาพออกมาหลายแผ่นมาวาดแปลนงานคร่าว ๆ ก่อนจะส่งให้ทางลูกค้าดูในคืนนี้ ปึก! “ขอโทษค่ะ” เธอรีบหันมาขอโทษโดยอัตโนมัติ เพราะเมื่อกี้เงยหน้าเล็งชั้นวางดอกไม้ก้าวถอยหลังตามระยะ ไม่รู้เลยว่ามีคนอื่นมาจากทางด้านหลัง หมับ! พ่อเลี้ยงเหมราชคว้าเอวเล็กไว้ได้ทันกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสตรีเพศทำให้เขาที่ไม่เคยได้กลิ่นเตะจมูกแบบนี้มาก่อนสักครั้งเผลอสูดดมเข้าเต็มปอด แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ดีดตัวออกไปจากอ้อมกอดเขาในทันทีที่ผิวกายแตะกัน น่าเสียดาย... “ขอโทษอีกครั้งนะคะพ่อเลี้ยงเหมราช” “โอ๊ะ รู้จักผมด้วยเหรอครับ?” “แน่นอนค่ะ มีใครในตำบลนี้ไม่รู้จักพ่อเลี้ยงบ้างคะ” เธอตอบอย่างเจียมตัว พยายามถอยห่างมาตั้งหลักไม่มองหน้าไม่สบตา พ่อเลี้ยงเหมราชขึ้นชื่อว่าเจ้าชู้เป็นนักรักทั้งที่ตบแต่งภรรยาแล้ว เธอเว้นระยะห่างไว้ดีที่สุด “พูดแบบนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากนะครับ เจ้าของร้านจัดดอกไม้ชื่อดังรู้จักผมด้วย” ส่งสายตาเชิญชวนถ้าคนมันเล่นเหมือนกันแค่สายตาก็มองกันออก แต่ผู้หญิงคนนี้เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองเขาให้ความรู้สึกอยากไล่ต้อนไปอีกแบบ น่าสนุกดีแฮะ แถมกลิ่นยังหอมติดจมูกอีกด้วยถ้าได้ดมทั้งคืนคงกระปรี้กระเปร่าไม่น้อย คิดคิดก็เผลอลากสายตาสำรวจรูปร่างของคนตรงหน้า “เป็นเกียรติต่อดิฉันมากกว่าค่ะที่พ่อเลี้ยงเหมราชรู้จักร้านเล็ก ๆ ของเรา” ยิ่งคนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้เธอยิ่งระแวง ถ้าถอยหนีมันคือการเสียมารยาทเธอก็ไม่รู้จะทำยังไงในสถานการณ์นี้ดี ไม่อยากเสียงานเพราะตัวเองเลยได้แต่กลั้นหายใจหลับตาอยู่อย่างนั้น “อย่าถ่อมตัวไปนักเลย ร้านดอกไม้ของคุณโด่งดังจะตาย ว่าไหม?” ก่อนที่มือจะไปถึงปลายคางเล็กกลับโดนมือใครก็ไม่รู้มาปัดออกอย่างแรง “เวหา?” แปลกใจไม่น้อยที่เห็นหลานชายปรากฏขึ้นตรงหน้า แล้วเมื่อกี้มันดันมาเสือกอะไรไม่เข้าท่าเสียด้วยสิ! อาหลีลืมตาเงยหน้าขึ้นมองทันทีชื่อนี้เธอไม่มีวันลืม แม้อยากลืมก็คงทำได้ยาก เขาปรากฏขึ้นตรงหน้าและเมื่อกี้พึ่งช่วยเธอใช่ไหมนะ “ผมมีเรื่องต้องคุยกับอาพอดี ไปคุยกันหน่อยสิครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD