ท่านไม่มีสิทธิ์

1340 Words
ฉีหยางซิ่วได้รับข่าวจากนกพิราบสื่อสารของผู้เฒ่าถานซึ่งเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่แบเบาะ ถึงเส้นทางการหลบหนีจากกรมอาญา ตอนแรกเขายังเห็นเป็นเรื่องตลก แต่เมื่อสถานการณ์คับขัน เขาจึงไม่อาจนิ่งเฉย “ตอนนี้มีประกาศจับคนที่วาดรูป ในข้อหาสมคบกับปีศาจ และลงเวทไว้ให้ผู้คนต้องตายขอรับ” เต่าน้อยแจ้งข่าวให้เขาทราบ และทางการออกหมายจับ มีโทษร้ายแรงคือให้ประหารด้วยการแยกร่างออกเป็นห้าส่วน! ซึ่งนอกจากฉีหยางซิ่วที่วาดรูปเปลือยและสร้างหนังสือ ชุนกง แล้ว ยังมีมือสมัครเล่นอีกหลายสิบชีวิตที่ลอกเลียนรูปวาดเขา และนำมาออกขายอย่างลับๆ ตอนนี้ต่างทยอยถูกจับตัวเพื่อรอรับโทษ ฉีหยางซิ่วรู้ดี การกระทำอันอุกอาจนี้ย่อมมีผลร้ายตามมาไม่วันใดก็ วันหนึ่ง กระนั้น เขากลับสุขล้น เพราะยิ่งเสี่ยง ชื่อเสียงเขายิ่งเป็นที่โจษขาน มันทำให้เขามีตัวตนอยู่ในแผ่นดินนี้ ไม่ถูกกลืนหายไปใต้เงาของฉีเจียนหลิว และถึงจะคอยตั้งมือรับสถานการณ์ ทว่าสุดท้าย เขาก็ไม่อาจรอดพ้นสมุนของฉีเจียนหลิว สมุนของมันบุกเข้ามาในเรือนเก่าหลังเล็ก พร้อมกวาดข้าวของเขาไป “จับตัวไอ้กระจอกหยางซิ่วมาให้ได้” หลี่เปียวสมุนมือหนึ่งของ ฉีเจียนหลิวประกาศเสียงดัง หนุ่มรูปงามได้ยินแล้วก็กระโจนออกทางหน้าต่าง แต่วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็สะดุดขาตนเองล้ม เป็นเหตุให้ถูกลากตัวไปยังหน้าเรือนเล้าหมู “เจ้ากล้าดียังไง ถึงได้พาคนบุกมายังเรือนข้า” ชายหนุ่มตวาดใส่ผู้บุกรุก ยามนั้นเหงื่อเขาแตกพลั่ก และบ่าวรับใช้ก็กลัวตายจนเยี่ยวแตก ยามนี้ที่คอของมันมีดาบเล่มใหญ่จี้ไว้ “โถ...คุณชาย ข้าจะไปไหนมาไหนทำไมต้องรายงานท่าน” หลี่เปียวเยาะเย้ย “สามหาว หากยังไม่หยุดกล่าววาจาล่วงเกินข้า เจ้าจะได้รับเคราะห์ กรรมใหญ่หลวง” “เฮ้อ...ข้าเกรงว่าคุณชายจะไม่มีโอกาสกระทำเช่นนั้น” มันกล่าวจบก็สั่งให้คนจับแขนทั้งสองข้างของฉีหยางซิ่วไปไว้ด้านหลัง ก่อนมัดมือทั้งสองข้างเขาไว้ “ไม่มีรูปวาดที่ท่านเจ้าสำนักต้องการขอรับ” คนของมันรายงาน “หยุดมือเสียเดี๋ยวนี้ สวะอย่างพวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายในเรือนของ ข้า” ฉีหยางซิ่วตวาดใส่กลุ่มคนที่กำลังรื้อค้นข้าวของเขา หลี่เปียวหัวเราะตัวงอ เมื่อได้ยินคำตวาดเสียงดังของฉีหยางซิ่ว “คุณชายยังคิดว่าสิ่งนั้นเป็นเรือนหรือ โถ ข้าเห็นใจท่านนัก ตกระกำลำบากมานาน จนเห็นโรงเลี้ยงหมูเป็นเรือนเทพเซียนอักษร!” หลี่เปียวกล่าวอย่างดูแคลน “ฮึ เจ้ามันก็สุนัขรับใช้เจียนหลิว ยังมีหน้ามาทำโอหัง” ฉีหยางซิ่วเดือดดาล พยายามสลัดให้พ้นจากการจับคุม แต่สมุนเหล่านั้นหัวเราะเสียงดัง และยิ่งขัดขืนมากเท่าไรเขาก็กลายเป็นตัวตลกในสายตาของพวกมันมากเท่านั้น หลี่เปียวยกมือสองข้างประสานกัน พร้อมน้อมรับคำชายหนุ่มอย่างเสแสร้ง “ขอขอบคุณที่คุณชายกล่าวชม ถึงข้าจะเป็นสุนัข แต่ก็มีเบี้ยเลี้ยง และเรือนหรูหรายิ่งกว่าท่าน แม้แต่คนเหล่านี้ก็ยังกินดีอยู่ดีกว่าท่านหลายเท่า ไฉนจะอดอยากปากแห้งจนถึงขั้นต้องทำเรื่องเสื่อมเสียสกุล ด้วยการวาดรูปลามกชายหญิง เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านยังหน้าด้านเรียกตนว่าเป็นทายาทของเจ้าสำนักตะวันไร้พ่าย!” “บัดซบ เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าลบหลู่เกียรติข้า” ฉีหยางซิ่วพ่นน้ำลายออกมาหมายให้ถูกหลี่เปียว แต่มันหลบทัน “ฮ่าๆ นี่คงเป็นวิชายุทธ์ขั้นสุดยอดที่ปรมาจารย์หย่งชางถ่ายทอดให้หลานรัก ก่อนที่จะสิ้นชีพอย่างไร้เกียรติบนผาไร้นาม” มันยังไม่หยุดพล่ามทำลายชื่อเสียงหนุ่มรูปงามและปู่ของเขา ฉีหยางซิ่วแค้นจนแทบกระอักเลือด ดวงตาเขาประหนึ่งมีลูกไฟปะทุออกมา แต่ตอนนี้เขาจะทำสิ่งใดได้ แม้แต่หลุดออกจากพันธนาการของสมุนเจียนหลิวก็มิอาจกระทำ “คุณชาย ถ้ายังอยากมีดวงตาสวยๆ มองดูสาวงาม และโลกใบนี้ต่อไป ก็รีบบอกมาว่า รูปวาดคุณหนูเพ่ยเพ่ยอยู่ที่ใด” คราวนี้ชายหนุ่มแจ้งใจถึงความต้องการของมัน “น้ำหน้าอย่างเจ้าไม่มีวันหาพบ” เขาตอบเสียงเย็น หลี่เปียวกระตุกยิ้มขึ้นคราหนึ่ง ก่อนสั่งคนของมันลากบ่าวรับใช้ของฉีหยางซิ่วไปที่ลานโล่ง “รูปนั้นอยู่ที่ใด” ฉีหยางซิ่วหลับตา เขาไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ เสี้ยววินาทีต่อมา ใบหูข้างหนึ่งของเต่าน้อยก็ถูกฟันฉับ ก่อนร่วงลงสู่พื้นดิน เลือดสดๆ ไหลอาบร่างมัน พร้อมเสียงแผดร้องโหยหวน “ท่านมันเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี บ่าวรับใช้ที่จงรักภักดียังไม่คิดจะยื่นมือเข้าช่วย” หลี่เปียวว่าและส่งสัญญาณให้ลูกสมุนใช้มีดสั้นควักลูกตาเต่าน้อย ฉีหยางซิ่วไม่กล้าลืมตาดูภาพตรงหน้าทั้งที่บ่าวของเขาร้องขอให้ช่วยชีวิต ตอนนี้เขาเป็นเพียงคุณชายผู้ไม่เอาไหน ไร้ซึ่งเกียรติและวรยุทธ์ “ข้าเข้าใจแล้ว ท่านเป็นเยี่ยงนี้ ถึงได้ตกยาก ไม่มีบุญวาสนา” สิ้นเสียงนั้น สมุนอีกคนจ่อมีดเข้าไปยังเบ้าตาเต่าน้อย แต่ไม่ทันได้ลงมือสำเร็จ ฉีเจียนหลิวก็ก้าวเข้ามาเสียก่อน “อย่าเอาแต่เล่นสนุก ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าให้ตาย” เมื่อเอ่ยจบ ฉีเจียนหลิวจึงซัดฝ่ามือใส่ร่างบ่าวรับใช้ และมันไม่ทันได้ร้องสักแอะก็สิ้นใจตาย น้ำตาฉีหยางซิ่วไหลออกมาอย่างสุดจะกลั้นไหว ในใจภาวนาขอให้บ่าวผู้จงรักภักดีไปสู่สุขคติ เขามันเป็นคนอ่อนแอ ใครที่อยู่ใกล้ล้วนจบชีวิตอย่างอนาถ “จับหน้าหยางซิ่วเงยขึ้น มันควรให้เกียรติข้า มิใช่ก้มหน้าร้องไห้เช่นนั้น” นอกจากถูกบังคับให้เงยหน้า กลุ่มคนชั่วยังสาดน้ำเย็นๆ ใส่ดวงหน้างดงาม จนเขาต้องลืมตามองผู้มาใหม่ “เป็นอย่างไรบ้างน้องรัก เจ้าคงคิดว่าข้าไม่รู้สินะว่า เฟิ่งหวงสีแดงเพลิง คือใคร” “ข้าไม่ได้คิดปิดบังตั้งแต่แรก และท่านก็ไม่ใช่คนตาบอด เหตุใดจะไม่ล่วงรู้” “ดี...ตอบได้ดี ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องเสียเวลา ในเมื่อที่นี่ไม่มีรูปวาดเพ่ยเพ่ย ก็เผาเรือนหลังนี้เสียให้สิ้น” เจียนหลิวต้องการภาพวาดของเพ่ยเพ่ย ด้วยล่วงรู้ว่านางในดวงใจเป็นแบบให้อีกฝ่ายวาดรูปเลอโฉม และภาพวาดนั้นไร้อาภรณ์ปกปิดร่างกาย และเมื่อหาไม่พบ เขาจึงคิดทำลายทุกอย่าง “ท่านไม่มีสิทธิ์กระทำเช่นนี้” “ฮ่าๆ ๆ เหตุใดข้าถึงจะไม่มีสิทธ์ ในเมื่อข้าเป็นถึงเจ้าสำนักตะวันไร้พ่าย...” “เจ้าสำนักอย่างนั้นหรือ ท่านยังกล้าอวดอ้างตนเองได้อย่างไร ช่างน่าหัวร่อ คนอย่างท่านยังมีศักดิ์ศรีให้ผู้อื่นเรียกขาน” “เจ้าวอนหาเรื่องใส่ตัวเช่นนี้คงคิดว่าข้าไม่กล้าลากลิ้นเจ้าออกมาสับสินะ” “ข้ารู้ คนอย่างท่านทำได้ทุกอย่าง ยิ่งทำให้ตระกูลฉีย่อยยับได้มากเท่าไร ท่านยิ่งสุขใจ” “วาจาเจ้าถูกใจข้า หากเป็นไปได้ ข้าก็ไม่อยากเป็นคนของตระกูลฉีแม้แต่วันเดียว! “
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD