เพราะว่ารัก

1063 Words
กริ๊ง... มือถือของไศลทิพย์ดังสนั่น ทำให้เธอตื่นจากภวังค์ “โอ๊ย... ตกใจหมดเลย ใครโทรมาแต่เช้า” เธอรีบหยิบมันขึ้นมาดู   กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง... เสียงมันยังดังอย่างต่อเนื่อง “เบอร์ใครไม่เห็นรู้จักเลย ศูนย์...สอง...” “รับก็ได้วะ” นิ้กกี้อยู่คนเดียวจนชิน เลยชอบพูดคนเดียว “สวัสดีค่ะ” “สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรมาจากฝ่ายบุคคลของบริษัทภูผามอเตอร์ค่ะ วันนี้คุณมิกิไม่มาทำงานค่ะ เลยอยากจะโทรมาถามสอบถามว่า คุณมิกิเธอเป็นอะไรไปหรือเปล่า” “อ๋อ... คงไม่ไปอีกแล้วนะคะ เธอไปแล้วค่ะ เก็บกระเป๋าใบใหญ่มาก...ไปแล้ว” เธอตอบไปตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน แค่นึกถึงคนที่ทำให้มิกิเจ็บช้ำแล้วก็พาลพาโลไปหมด “เหรอคะ” คนถามมาทำเสียงอ่อย ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ใช่... อีกเรื่องนะคะ ฝากบอกเรื่องไปถึงเจ้านายของคุณด้วย ไม่ต้องตามค่ะ ยังไงก็ไม่มีวันเจอ” นิกกี้พูดทิ้งท้าย ก่อนจะกดทิ้งสายไป ใบหน้าของนิกกี้ดูสะใจ แต่ก็สลดลงไปอีก “ยายมิกิเอ๊ย แกจะหนีหัวใจตัวเองไปได้อีกเท่าไหร่” ปากว่าแล้วนึกถึงหัวใจของตัวเองที่เคยเจ็บช้ำ เธอหนีหัวใจตัวเองมาเช่นเดียวกัน แต่คำตอบเดียวที่ได้คือ มันไม่มีวันลบเลือนหรือจางหาย   เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า พนักงานบนเครื่องประกาศให้ข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ นิธานหันหน้าไปมองเสี้ยวหน้าของไศลทิพย์ที่มองออกไปข้างนอกหน้าต่าง เธอเอนเบาะลงไปนิดหนึ่ง โชคดีที่เบาะที่เหลือข้าง ๆ ไม่มีคนนั่ง เขาหันไปมองข้างหลังก็ไม่มีคน รอบข้างก็ไม่มีคน เหมือนโชคเข้าข้าง “นิกกี้ ทำไมเที่ยวบินนี้ไม่ค่อยมีผู้โดยสารเลยนะ” เธอค่อย ๆ หันมามองหน้าของเขาและมองไปรอบ ๆ “จริง...สงสัยใกล้สิ้นเดือนแล้วมั้ง อีกอย่างได้ข่าวไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวแล้วช่วงนี้ เริ่มโลว์ซีซันแล้วล่ะ” เธอหันหน้ากลับไปทางเดิม “นิกกี้...” เขาเรียกชื่อของเธออีกครั้ง เธอรีบหันมาเผชิญหน้า นิกกี้เริ่มประหม่าเมื่อเห็นสายตาของปืนที่จ้องสบ แววตาของเขาดูอาทร มันรู้สึกได้ถึงความพิเศษที่เขาส่งมาให้ นิกกี้ยอมรับว่าปืนทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง และเธอก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มตอนไหน แต่ตอนนี้หญิงสาวยอมรับโดยดุษณีแล้วว่าชอบเขา หรืออาจจะรักเลยก็เป็นได้ ต่างคนต่างพึงใจในกันและกัน ตอนนี้เธอกำลังทำใจให้สงบ หัวใจเต้นแรงกว่าเดิมพิกล หญิงสาวชักทำสีหน้าไม่ค่อยถูก เวลาอยู่ที่โรงเรียนก็มีเพื่อนอยู่ด้วย แต่ตอนนี้มีเพียงเขากับเธอเพียงลำพัง มาเที่ยวกันสองคนในบรรยากาศแบบนี้ แม้ในเครื่องบินลำนี้จะเต็มไปด้วยผู้คน แต่ระยะที่นั่งใกล้ ๆ หัวใจก็สั่นไหว ในใจของเธอมันเต้นเป็นจังหวะบอกว่า...รัก “มีอะไร” หญิงสาวทำหน้าเหลอหลากลบเกลื่อนความเขินอาย สายตาและสีหน้าของปืนซีเรียส ทำให้เธอรู้ว่าเขามีเรื่องในใจจริง ๆ  “ปืนมีเรื่องจะบอก” เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด สีหน้าและแววตามีความหม่นเศร้า “เรื่องอะไรล่ะ ปืน... ก็พูดออกมาสิ” เธอขยับตัวนั่งหลังตรง “พ่อกับแม่จะส่งปืนไปเรียนที่เยอรมันน่ะ” คำตอบของเขาทำให้เธอเงียบเสียงลงไปในทันที ใจหายแวบขึ้นมาดื้อๆ จ้องมองสบตากับคนพูด หัวใจเริ่มแกว่ง ๆ “อือ... แล้วปืนตัดสินใจยังไง” น้ำเสียงเธอก็แผ่วลงไป รู้สึกใจหาย “เฮ้อ...” เสียงเขาถอนลมหายใจเบา ๆ ปืนสีหน้าเศร้าเต็มที “ปืนคงขัดพ่อกับแม่ไม่ได้” “อือ... ก็ดีแล้วไง อนาคตของนาย ไปเรียนที่นู่นมีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสียหรอก คนบางคนยังไม่มีโอกาส เขายังวิ่งเต้นไขว่คว้าหาหนทางที่จะไปเรียนแทบตาย ปืนโชคดีนะที่ได้ไปเรียน โชคดีมาก ๆ” เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ “แต่...” “ไปเหอะปืน มันต้องดีแน่ ๆ อยู่แล้ว” เธอแกล้งทำสีหน้าระรื่น ทั้ง ๆ ที่ในใจเริ่มเจ็บนิด ๆ ใบหน้ามีรอยยิ้มแต่หัวใจเจ็บแปลก ๆ “นิกกี้ไล่ปืนเหรอ” เขาทำหน้าจ๋อย ๆ รู้สึกน้อยใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “เปล่าสักหน่อย” เธอรีบส่ายหน้าพูดปฏิเสธเบา ๆ แววตาที่ทั้งสองจ้องสบกันนั้น มันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ไม่ต้องเอ่ยปาก เธอรู้ว่าปืนก็มีใจให้เธอเช่นเดียวกัน เพียงแต่ยังไม่ได้เอ่ยบอกว่าชอบพอกันเท่านั้น “ปืนขออะไรนิกกี้เรื่องหนึ่งได้ไหม” พูดพลางเอื้อมมือไปจับมือของนิกกี้เอาไว้ แล้วก้มหน้าลงไปหาใกล้ ๆ ไศลทิพย์หัวใจสั่นหวั่นไหว มันเต้นแรงแทบทะลุออกมานอกอก “เรื่องอะไร” น้ำเสียงเริ่มสั่น ใบหน้าเริ่มแดงและร้อนออกมาผ่าว ๆ "นิกกี้รอเราได้ไหม" "หื้อ...รอทำไม” ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่มันตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าปืนจะพูดออกมาตอนนี้ สายตาของเขาทั้งห่วงหาและอาทร เว้าวอนสุด ๆ มันหวานเชื่อมจนคนที่จ้องสบเก้อเขิน และอายที่ถูกเขารบเร้าแบบนี้ “เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ยังไงฉันก็ต้องรอนายอยู่แล้ว" เธอพูดแกมหัวเราะ ในนาทีนั้นปืนฉกใบหน้าลงมาชิดใกล้ พร้อมกับจุ๊บปากของเธอทันที ก่อนจะประกบแนบ ทั้งสองรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นของผิวหน้าและริมฝีปากที่แนบสนิท เพียงแค่เสี้ยววินาทีนั้น หัวใจของเธอเต้นแรงหนักเข้าไปใหญ่ หน้าเริ่มออกสีแดงร้อนออกมายิ่งกว่าเดิม นิธานหัวใจก็เต้นโครมครามเช่นเดียวกัน จุมพิตแรก และสัมผัสผิวเนียนนุ่มนิ่มของหญิงสาวเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน “เพื่อนกัน เขาไม่จุ๊บกันนะ” ปืนพูดขณะที่ยกใบหน้าออกห่าง ใบหน้าของเขาก็ออกสีแดงระเรื่อเช่นเดียวกัน 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD