ตอนที่ 5 เมื่อถอยทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น

903 Words
ได้ถกเถียงกันพอหอมปากหอมคอโรสิตาก็จำต้องยอมกลับบ้านโดยไร้ทนทางถกเถียงด้วยรู้ว่าทำไปก็ไร้ประโยชน์ เหมันต์ไม่ได้มองเธอด้านลบหรอกแต่มองติดลบไปเลยมากกว่าเวลาเจอกันทีไรถึงได้เหมือนคนบ้าหาเรื่องกันไม่ว่างเว้น หากตลอดเวลาห้าปีมีการถ่ายทอดสดชีวิตคู่รักของเธอกับสามีคงได้ติดอันดับคู่กรรมที่ควรไปหย่าร้างกันมากที่สุด ความเข้าใจกันไม่มีเลยแม้แต่น้อย ถ้าคืนนั้นเธอไม่เมาแล้วเหมันต์ไม่ถูกวางยาปลุกเซ็กบางทีความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาคงไม่ย่ำแย่มากถึงเพียงนี้อาจจะพอเป็นเพื่อนหรือคนรู้จักที่ดีต่อกันได้ หากวันนั้นคนที่เธอดึงเข้ามาในห้องคืออินทัช ลินิลกับเหมันต์คงได้ใช้ชีวิตร่วมกันเป็นไปตามแผนการของลินิลตั้งแต่ต้น อินทัชเพื่อนของเธอคงไม่ต้องมาเจ็บปวดกับผู้หญิงอย่างลินิลจนต้องเป็นม่ายทำได้แค่จ่ายเงินค่าเลี้ยงดูแต่ไม่มีสิทธิ์อยู่กับลูกสาวอย่างมิราเช่นนี้เพราะหากวันนั้นเป็นเธอกับอินทัชอยู่ด้วยกันเรายังพอพูดคุยกันดีๆ ได้ผิดกับเหมันต์ที่เขาเกลียดชังเธอตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตเธอ โรสิตาเดินออกจากช่องชำระเงินของทางโรงพยาบาลด้วยแววตาเศร้าเล็กน้อย เศร้าเพราะโชคชะตาบวกกับความโง่เขลาพาเธอมาอยู่ในจุดไร้ความสุขนี้ บิดาเธอคงรู้ว่าการแต่งงานแบบจำใจนั้นมันต้องทำให้เธอเจ็บปวดถึงได้คัดค้านในคราแรกซึ่งเธอในตอนนั้นโง่งมคิดไปเองว่าบิดาตั้งใจขัดขวางความรัก “เฮ้อ พอถอยออกมาทุกอย่างดูชัดขึ้นเยอะเลยยัยโรสเอ้ย อยู่กับผู้ชายคนนั้นได้ยังไงไม่เห็นน่ารักตรงไหนสักนิด ชิ นึกว่าอยู่กับเครื่องจักร” โรสิตาถอนหายใจก่อนจะบ่นกับตนเองพร้อมกับส่ายหัวให้กับตัวเอง เหมันต์มีดีแค่หล่อเท่านั้นแหละส่วนอย่างอื่นไม่เห็นน่ารักน่าทุ่มเทให้ตรงไหน ผู้ชายหลายคนที่เคยตามจีบเธอยังดีเสียกว่า “โรส” เสียงทุ้มเรียกจากทางด้านหลังทำให้โรสิตาขมวดคิ้วว่าใครกันมาเรียกเธอในตอนนี้ ร่างสวยในชุดเซตสีขาวกางเกงขายาวทรงกระบอกเสื้อเป็นสายคล้องคออวดแผ่นหลังขาวเนียนจนเกือบถึงเอวหันมามองชายหนุ่มดูท่าทางภูมิฐานสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์สีดำใบหน้าหล่อเหลาดูคุ้นๆ จนโรสิตาอ้าปากค้างเมื่อนึกออก “อิน อินทัชใช่ไหม” โรสิตามองเพื่อนอย่างแปลกใจปกติเขาไม่ทักเธอ “หน้าตาไม่น่าจำขนาดนั้นเลยเหรอ” อินทัชมองเพื่อนสาวที่ไม่ได้คุยกันมานานด้วยรอยยิ้ม คราแรกตั้งใจจะมองเลยผ่านเหมือนที่เคยพยายามทำมาตลอดห้าปีแต่พออยู่ใกล้กันแค่เอื้อมจริงๆ เขากลับทนไม่ได้เข้ามาทักเสียนี่ รอโดนด่าได้เลย… อินทัชคิดในใจเพราะโรสิตาเองไม่ได้คบกับเขานักหรอกมันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เขาแต่งงานรับผิดชอบลินิลเมื่อห้าปีก่อน โรสิตาก็มองเขาเป็นศัตรูมาตลอดและยิ่งเขาหย่ากับลินิลโรสิตาก็ยังไม่ยอมรับเขาเป็นเพื่อน “หล่อขึ้นจนจำไม่ได้ต่างหากละ อินไม่สบายเป็นอะไรมากไหม” ความผิดในอดีตส่งผลให้โรสิตาเลือกทำดีกับเพื่อนเพราะอินทัชนั้นไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจแต่ถอยห่างไปนั้นเพราะเธอเป็นคนผลักไสเพื่อนออกไปด้วยอคติคิดว่าอินทัชเป็นพวกลินิล แม้ตอนอีก 10 ปีข้างหน้าก็ยังเป็นอินทัชที่มาให้กำลังใจตอนเธอเสียบิดาไป ตอนนั้นเขาเลิกทำบริษัทขนส่งของครอบครัวผันตัวเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์รายใหญ่จนประสบความสำเร็จ “เออ ผมรู้สึกไม่สบายน่ะแล้วโรสละเป็นอะไรเหรอ” อินทัชรู้สึกดีใจที่เพื่อนสาวยอมคุยด้วยเช่นวันเก่าก่อน เขาคิดเสมอว่าหากเพื่อนยอมกลับมามองเขาแบบเดิมก็คงดี “โอ้ หายไวๆ นะคะ ส่วนโรสลื่นล้มนิดหน่อยกำลังจะกลับแล้วล่ะ โรสไปก่อนนะคะอินป่านนี้คนขับรถคงรอแล้ว” รอยยิ้มสวยส่งไปยังชายหนุ่มอย่างจริงใจ “โรสเดินไหวไหมให้ผมพาไปที่รถรึเปล่า” เขามองท่าเดินไม่ปกติของหญิงสาวอย่างรู้สึกห่วงใย โรสิตาเจ็บตัวแบบนี้ทำไมสามีถึงได้ปล่อยให้มาโรงพยาบาลลำพัง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โรสค่อยๆ เดินเดี๋ยวเดียวก็ถึงขอบคุณมากนะคะ” ขนาดอินทัชไม่ใช่สามียังรู้จักถามแต่ผัวเธอนี่สิหายหัวไปเลย ชิ โรสจะจำให้ขึ้นใจว่าผัวไม่มีประโยชน์อะไรเลย… อินทัชมองตามร่างหญิงสาวนิ่งไม่ยอมละสายตาจนกว่าร่างนั้นจะหายลับไปจากสายตาจึงได้ก้มมองถุงยาในมือที่มีเพียงยาแก้ปวดเท่านั้นและเขาก็ไม่ได้ป่วยแบบที่บอกโรสิตาไป “นับว่ามาไม่เสียเที่ยว” รอยยิ้มมุมปากยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปทางจอดรถของตนเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD