หญิงสาวในชุดนักศึกษาเลิกเรียนเวลาห้าโมงเย็น ก็ตรงดิ่งมายังร้านสะดวกซื้อใกล้หอพัก แม้ใบหน้าจะชื้นเหงื่อจากการวิ่งเป็นเวลานาน แต่ความสวยก็ยังไม่ลดเลือนหายไป แม้กระทั่งเจ้าของร้านเองยังอดแนะนำไม่ได้
“สวย หุ่นดีแบบนี้ ทำไมไม่ไปเป็นพริตตี้ล่ะน้องอาย จะมาทำงานพาร์ทไทม์วันละร้อยสองร้อยทำไม คนรู้จักของเจ้ไปนั่งดริ้งก็ได้คืนละหลายพันนะ สนใจไหม เดี๋ยวเจ้ติดต่องานให้” เจ้าของร้านเป็นหญิงม่ายวัยกลางคน ไม่ค่อยสบายป่วยออดๆ แอดๆ มานานจึงเปิดรับสมัครคนมาช่วยเฝ้าร้าน แกไอค็อกๆ แค็กๆ กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้ไม้ปรายสายตามองมายังลูกจ้างสาวคนสวย
“หนูดื่มเหล้าไม่ค่อยเก่งค่ะเจ้ รับจ็อบเล็กๆ น้อยๆ พอหาเลี้ยงตัวเองระหว่างเรียนได้ หนูก็ดีใจแล้วค่ะ” อารยาหรือน้องอาย อายุย่างยี่สิบเอ็ดตอบด้วยรอยยิ้ม พลางเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนแบรนด์มินิมาร์ทขนาดเล็กมาสวม
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าอยากได้งานเพิ่มบอกเจ้ได้นะ จะช่วยหาให้” ม่ายสาวเจ้าของร้านยังไม่ละความพยายาม อยากให้เด็กสาวมีรายได้เยอะๆ
“ขอบคุณมากนะคะ ไว้ร้อนเงินวันไหนหนูจะมารบกวนเจ้ค่ะ” ดวงหน้าสวยยิ้มจนตาหยี เข้าไปช่วยประคองเจ้บัวเข้าไปนอนในห้องพักหลังร้าน ก่อนคนตัวเล็กแสนทะมัดทะแมงและคล่องตัวจะกลับมาเฝ้าร้านเพียงลำพัง
ร้านนี้อยู่ปากซอยล้อมรอบไปด้วยหอพักนักศึกษาเกินสิบอาคาร ใครขี้เกียจขับรถไปเซเว่นในมหาลัยก็จะแวะมาซื้อของที่นี่ ช่วงเวลาทำงานของอารยาคือหลังเลิกเรียนยาวไปถึงร้านปิดช่วงเที่ยงคืน จากนั้นเจ้บัวก็จะมาดูเรื่องเงินต่อก็หมดหน้าที่ของหล่อนแล้ว เดินออกจากร้านไปไม่ไกลก็จะถึงห้องพัก
หลังสี่ทุ่มนักศึกษาและคนทั่วไปเข้ามาซื้อของเยอะหน่อย ต้องต่อคิวกันชำระเงิน หนุ่มๆ แจกขนมจีบแม่ค้าสาวเป็นแถวแต่ไม่มีใครได้รับความสนใจเลย ยิ่งช่วงใกล้ร้านปิดคนยิ่งเข้ามาเยอะเป็นพิเศษ อารยาต้องหยิบของมายิงบาร์โค้ดมือเป็นระวิง ทอนเงินให้ลูกค้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
จนกระทั่งถึงคิวคนสุดท้าย เจ้าหล่อนวางกล่องถุงยางอนามัยไซส์ใหญ่กลิ่นผลไม้ลง ยกมือขึ้นกอดอกพลางปรายสายตามามองอย่างข่มๆ อารยาตวัดสายตาขึ้นมองแว็บเดียวเท่านั้นก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อ คิดเงินเพื่อนในสาขา
“ฉันนึกว่าเธอจะไปหางานอื่นที่ดีกว่านี้ทำนานแล้วนะอาย แต่ทำไมยังจมปรักอยู่ที่เดิมล่ะ ค่าจ้างจะได้วันละกี่ร้อยกันเชียว” น้ำส้มยิ้มเย็นยะเยือก แกล้งยกมือขึ้นจับหัวไหล่อวดนาฬิการาคาแพงที่ได้มาจากคนรวย ยัยอายกลอกตาใส่ น้ำส้มแสยะยิ้มมุมปากยังคงอารมณ์ดีที่เหนือกว่ายัยคุณหนูตกอับ
“ฉันเพิ่งได้มาวันนี้เอง นาฬิกาคอเล็กชั่นใหม่ราคาเกือบหมื่นเชียวนะ ฉันซื้อมาใส่ให้เข้ากับชุด อีกสองสามวันจะไปเที่ยวฮ่องกงกับคนรู้ใจน่ะจ้ะ”
“ขายของก็สบายดีนะ อยู่ในห้องแอร์ ไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวอยู่ในโรงแรมแบบใครบางคน” ตอบกลับแรงไม่แพ้กัน ยักคิ้วขึ้นสูงหลายต่อหลายครั้งจ้องน้ำส้มที่มีทีท่าจะกรีดร้องใส่ ทว่ากลับเปลี่ยนใจไม่ทำกิริยานั้น
กลัวชายฐานะดีที่นั่งรอบนรถข้างนอกจะบังเอิญมองเข้ามาเห็น คืนนี้อุตส่าห์แต่งตัวสวยไว้ล่อเขาให้ขึ้นเตียงด้วย ฉะนั้นฝากไว้ก่อนเถอะยัยอาย
“ไม่ต้องทอน!” หยิบแบงค์ร้อยออกมาวางแรง สะบัดบ๊อบใส่อารยากระแทกส้นสูงเดินออกไป รู้งี้แวะเซเว่นซื้อในมอก็ดีจะได้ไม่ต้องอารมณ์เสีย
อารยามองตามกระทั่งเพื่อนในสาขาคนนั้นเดินลับออกจากร้าน จึงนั่งลงเก้าอี้ ทว่านัยน์ตาคู่สวยยังคงมองตามออกไปข้างนอกเผื่อจะเห็นผู้ชายผู้โชคร้ายคนนั้น น้ำส้มอยู่ในชุดเดรสสีแดงเพลิงแสนสวยเดินหน้าหงิกไปยังรถเบนซ์คันหรู เปิดประตูเข้าไปนั่งแล้วรถคันนั้นก็ถอยหลังและขับออกไป แต่จังหวะนั้นเองทำให้หญิงสาวสามารถมองเห็นป้ายทะเบียนได้อย่างชัดเจน
และรู้ได้ทันทีว่านั่น… เป็นรถของใคร!
................................................................................................................
เสน่ห์รัญจวน อาภีม หนูอาย (ภาคแรกฉบับเต็ม)
โดย คณานางค์
ติดตามผลงานนักเขียนได้ที่แฟนเพจ ครานางค์