ผู้หญิงต้องห้าม
Ep.3 (มะระยั่ว ๆ จ้าาา nc++50%)
ผ่านไป3วัน
เรายังคงใช้ชีวิตด้วยการออกไปแรดเเละตกผู้ชายมาแก้คันเหมือนเดิม ทำยังไงได้ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้อง
เราไปที่ผับเดิมที่เคยเจอทามแทบทุกคืน และหวังว่าจะได้เจอนาง แต่ก็ไม่เคยได้เจออีกเลย ได้ยินมาว่าคืนนั้นที่ผับจะขาดนักร้อง กระทันหันนางเลยต้องขึ้นไปร้องแทน
เรานั่งอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่ม และคอยสอดส่ายสายตามองหาคนที่ถูกใจไปเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่าคืนนี้โชคจะไม่เข้าข้างอีช่อ เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่ผู้ชายที่มีเมียมาคุมทั้งนั้น จนบางทีก็สงสัยว่าที่นี่เป็นสมาคมเมียจ๋าแห่งประเทศไทยรึไงกัน
นั่งอยู่นานจนอีช่อเริ่มถอดใจ และเริ่มคิดถึงผัวเก่าที่ซุกเอาไว้ในตู้เสื้อผ้า (เซ็กส์ทอยด์ไงจะใครล่ะ)
และเมื่อความหง่าวมาเยือนก็ถึงเวลาที่ต้องกลับไปนอนตายรัง เราลุกขึ้นเดินโซเซออกจากผับและด้วยความไม่ระวังพอออกจากผับก็ดันไปชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
"ขอโทษ..."
เราพูดออกไปโดยไม่ได้มองหน้าคนชนและเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่กลับถูกมือหนาคว้าแขนไว้
"มีอะไร? "
เราหันกลับไปถามเสียงห้วน และทำหน้าเหวี่ยงใส่อย่างไม่พอใจ เรื่องของเรื่องคือนางไม่หล่อไง หน้าตาไม่โดนใจ ไม่ใช่เสป็ค อีช่อเลยไม่มอง
"เสี่ยทิมฝากนี่มาให้คุณครับ"
พูดจบก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้เรา จากนั้นนางก็เดินตัวปลิวไปขึ้นรถที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามของผับและขับรถออกไปทันที
ส่วนอีช่อก็ก้มมองตัวอักษรที่อยู่ในกระดาษอย่างงง ๆ
'ถ้าอยากมีเงินใช้ โทรหากู 096-××××××× ลงชื่อ เสี่ยทิม'
นี่คือข้อความที่อยู่ในกระดาษ...
"อะไรของมันวะ!? "
เราพึมพำเบา ๆ ก่อนจะยัดกระดาษใส่กระเป๋าแล้วก็เดินจ้ำ ๆ ไปเรียกแท็กซี่กลับห้อง และก็ลืมเรื่องกระดาษแผ่นนั้นของเสี่ยทิมอะไรนั่นไป
ลองเป็นแบบนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นพวกอาเสี่ยเมียเผลอที่อยากจะมีบ้านเล็กบ้านน้อยเอาไว้คลายเหงานั่นแหล่ะ แต่ขอโทษที่อีช่อต้องเซย์กู๊ดบาย เพราะไม่ชอบเอาตัวเองไปผูกมัดกับใคร อยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว อยากทำอะไรก็ได้ทำไม่มีใครว่า สบายทั้งใจสบายทั้งตัว
พอกลับมาถึงห้อง ด้วยความหงี่หง่านที่ลุกโชนอยู่ในตัว อีช่อแก้ผ้าออกจนตัวล่อนจ้อน จากนั้นก็เดินไปคว้าเพื่อนยาก (เซ็กส์ทอยด์) ที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วขึ้นไปนอนถ่างขาบนเตียงทันที
"อ๊า... " เอานิ้วบี้เม็ดเสียวตัวเองแล้วก็ครางวนไป (จัดจ้านในเรื่องนี้ก็อีช่อม่วงนี่แหล่ะ)
บี้ติ่งได้สักพัก เราก็เอาเซ็กส์ทอยด์ที่มีขนาดเท่าแขนมาจ่อที่ร่องรักและทำการเปิดสวิทช์ทันที
แต่...
อืด... อืด... อืด...
อื่อหืม... คิ้วขวากระตุกเลยกู อีเชี่ย! แบตหมดว้อย! เวรกรรมของอีช่อ มึงมาหมดอะไรกันตอนนี้!?
งือ... ขอร้องไห้ได้ไหม หัวใจมันเกินจะทน... (นาทีนี้พร้ำเพ้อเป็นเพลงไปแล้ว)
เมื่อหมดประโยชน์ก็เหวี่ยงแม่ง! ทิ้ง มันจะไปตกที่ตรงไหนก็ช่างหัวมัน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คืออีช่อเงี่ยน และต้องการปลดปล่อยให้เร็วที่สุด
"ตู้เย็น! "
อยู่ ๆ หัวสมองอันใสแจ๋วของเราก็นึกถึงตู้เย็นขึ้นมา ก่อนจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
"หึ ๆ ๆ"
จากนั้นอีช่อก็กระโดดลงจากเตียงไปเปิดตู้เย็นที่อยู่ตรงปลายเตียงและลงมือค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที
และแน่นอนว่ามันไม่ได้หายากหาเย็นอะไรเลย เพราะนี่มันคือตู้เย็นเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีเนื้อที่กว้างขวางเหมือนกับมหาสมุทธแปรซิฟิกซะเมื่อไหร่
เราหยิบของที่ต้องการทั้งสองอย่างขึ้นมาถือไว้ในมือ และมองมันสลับกันไปมาอย่างตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรดี
ในมือขวาคือมะระ ส่วนมือซ้ายคือมะเขือยาว เลือกมะระแล้วกัน เพราะมันทั้งใหญ่ทั้งยาวแถมผิวก็ขรุขระ แค่คิดก็สั่นสะเทือนไปถึงมดลูก
เมื่อได้ของที่ต้องการอีช่อก็กระโดดกลับขึ้นไปนอนถ่างบนเตียงเหมือนเดิม มือหนึ่งบี้เม็ดเสียว อีกมือจับมะระใส่ปากอมดูดรูดเลีย ส่วนปากก็ครางซี๊ดซ๊าดเบา ๆ
สักพักเราก็เอามะระมาจ่อที่ช่องทางรัก และค่อย ๆ ยัดมันเข้าไปอย่างเบามือที่สุด
"อูย... ซี๊ด... " ถึงกับสะดุ้ง! อีเชี่ย! มะระแม่ง! เย็นยังกับน้ำแข็ง ดันลืมไปว่าเพิ่งจะเอาออกมาจากตู้เย็น
แต่.... มันก็เสียวดีไปอีกแบบว่ะ.... (ฮ่าๆ ๆ ๆ)
เราเริ่มยัดมะระเข้าไปใหม่อีกรอบ มันเข้ายากนิดหน่อยทั้งที่พยายามงัดซ้ายงัดขวาและชักเข้าชักออกเบา ๆ อยู่หลายครั้ง แต่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความมันก็อยู่ที่ันั่น ในที่สุดมะระลูกยาวใหญ่ดุ้นเท่าแขนก็เข้าไปอัดอยู่ในร่องรักอีช่อจนได้
"ซี๊ด...อ๊า..."
เมื่อเข้าไปหมดแล้วจะรออะไร มือข้างหนึ่งจับมะระชักเข้าชักออก ส่วนอีกมือก็บีบเคล้นนมตัวเอง ปากก็ร้องครางด้วยความเสียวซ่าน ถึงมันจะสู้เอ็นอุ่นของจริงไม่ได้แต่มันก็แก้ขัดและแทนกันได้ (ไม่เชื่อลองดู)
กระทำชำเราตัวเองด้วยมะระจนเสร็จไปหนึ่งน้ำ จากนั้นอีช่อก็หลับเป็นตาย มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่มีคนมาทุบประตูห้องโวยวายเสียงดังอยู่ข้างนอก
"ช่อ! อีช่อ! มึงอยู่ใช่ไหม มึงออกมาเดี๋ยวนี้นะ! "
แล้วประตูก็ถูกกระหน่ำทุบอีกชุดใหญ่ สะเทือนเลื่อนลั่นไปหมดทั้งตึกแล้วมั้งเนี่ย และถ้าเราไม่เปิดประตูให้อีคนที่มาทุบห้องเรึยกมันก็คงจะทุบอยู่อย่างนั้นแน่ ๆ สุดท้ายเราเลยต้องจำใจเดินไปเปิดประตูให้อย่างหัวเสีย
"โว้ย! เจ๊หวิน...เป็นบ้าอะไรเนี่ย ผีเข้ารึไงมาเคาะห้องเรียกคนจะนอนแต่เช้าแบบนี้! "
พอเปิดห้องออกไปได้อีกช่อก็ใส่เต็มเลยจ้าา ไม่ได้สนว่าเป็นใครหน้าไหนทั้งนั้น
"หุบปากของมึงซะอีช่อ! แหกตาดูด้วยว่านี่มันปาเข้าไปเที่ยงกว่าแล้ว แบบนี้แถวบ้านกูเขาไม่ได้เรียกว่าเช้า แล้วมึงก็ไม่ต้องมาทำหัวร้อนกลบเกลื่อนเลยนะ ค่าเช่าห้องน่ะจ่ายมาซะดี ๆ "
ว่าแล้วเจ๊หวินมันก็ยื่นมือแบมาที่หน้าเรา พร้อมกับจ้องหน้าเราปานจะแดกหัว
"ค่าเช่าอะไรของเจ๊วะ นี่มันยังไม่สิ้นเดือนเลย!"
เราถามพร้อมกับปัดมือเจ๊หวินมันลงก่อนจะยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
"กูรอถึงสิ้นเดือนไม่ไหวหรอก มึงค้างค่าเช่ากูมาสามเดือนแล้วอีช่อ นี่เข้าเดือนที่สี่แล้วมึง ปากมึงก็บอกว่าสิ้นเดือนจะเคลียร์ให้ จะเคลียร์ให้ แต่พอสิ้นเดือนปุ๊บมึงหายหัวไปอย่างไร้ร่องรอย แม้แต่เงากูยังไม่เจอ ไม่รู้ล่ะถ้ามึงยังอยากจะเช่าต่อก็ไปหาเงินมาจ่ายให้ครบภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นมึงก็ไสทั้งหัวทั้งตัวของมึงออกไปจากห้องเช่าของกูได้เลย! "
พูดจบเจ้หวินมันก็เชิดหน้าใส่เราแล้วก็สะบัดตูดเดินจากไปอย่างไม่คิดจะหันกลับมาเหลียวแลผู้หญิงตาดำ ๆ อย่างอีช่อม่วงคนนี้เลยสักนิดเดีย
ภายในสามวัน!
มึงบ้าไปแล้วอีเจ๊หวิน สามสี่เดือนนี่เป็นเงินไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะเว้ย! และตอนนึ้กูก็มีเงินติดตัวไม่ถึงห้าร้อยเลยด้วย แล้วกูจะไปหาจากไหนทัน!?
โปรดติดตามตอนต่อไป....